ตอนที่ 95 สามอันดับแรก (FREE)

เขาคือคนที่พึ่งถูกคนอื่นรุมต่อว่าไปได้ม่นาน หลังจากลุกขึ้นยืนเขาได้จ้องมองไปที่หินประกาศแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขราวกับเป็นคนบ้า

เหล่านักปราชญ์ต่างก็เริ่มตระหนักแล้วว่าชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่สอง

"อย่าบอกข้านะว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำพลาดในรอบนี้?"

"เขาน่าจะทำพลาดในรอบนี้! แค่จำนวนเหล่าผู้ที่ชนะในการทดด้านปัญญาระดับมณฆลที่มาเข้าร่วมในการทดสอบระดับเมืองหลวงก็มีมากกว่าสิบคนแล้ว นอกจากนี้บางคนยังมีชื่อติดบนทำเนียบมังกรซ่อน มีเพียงยี่สิบชื่อเท่านั้นที่จะปรากฎในกลุ่มแรก ไม่ว่ายังไงก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ ฟาง เจิ้งจือ จะเป็นหนึ่งในนั้น! "

"เห้อ.อ ... ใครที่เอาแต่พึ่งพาดวงอย่างเดียวคงจะไม่รอดแล้วในครานี้!"

"โถ่...เงินของข้า!"

 

เมื่อพวกเขาคิดถึงความยากลำบากที่จะติดกลุ่มแรกได้ และจำนวนผู้ที่มีความสามารถที่มาเข้าร่วมการทดสอบระดับเมืองหลวงที่เมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ในครั้งนี้แล้ว พวกเขาก็มั่นใจได้ในทันทีแล้วว่า ฟาง เจิ้งจือ จะต้องไม่ผ่านการทดสอบรอบนี้แน่

นักปราชญ์จากทั้ง 5 เมืองที่มารวมตัวกันที่เมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ คงได้ทำการสยบความเย่อหยิ่งของ ฟาง เจิ้งจือ ลงได้ในที่สุด

ในตอนที่พวกเขาได้เห็นหินสีดำที่ประทับลงไปยังหินประกาศผลของกลุ่มสองถูกดึงออกมาและเดินไปอยู่ที่ตรงหน้าหินประกาศชื่อกลุ่มแรกและวางมันลง  ทันใดนั้นเองแสงสีทองได้ส่องออกมา รายชื่อค่อยๆปรากฎขึ้นมาบนหินประกาศ

"ฮั่ว คังกัน!"

"นอกจากนี้ยังมี ถัง ยู่หลง, จาง หยงเฟิง, คัง ซิ่งปิง ... "

"การแข่งขันในกลุ่มแรกช่างดูเข้มข้นยิ่งนัก!"

"รายชื่อนับ 20 เผยออกมาแล้ว แต่ทว่าชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ กลับไม่ได้ปรากฎออกมา เจ้าคิดว่าเขาจะติดหนึ่งในสามอันดับแรกหรือไม่?"

"ข้าได้ยินมาว่าเขาไม่เคยได้เข้าไปในหอแห่งเต๋ามาก่อนเลยนี่ แต่กลับเป็นผู้ชนะของการแข่งขันทั้งสองได้ มันช่างน่าประหลาดใจเสียจริง  เขาจะเป็นสามอันดับแรกของการทดสอบปัญญาระดับเมืองหลวงอีกรึ? มันช่างน่าขัน ...ฮ่าฮ่า ... "

"จาง เจ๋อปิง ก็ไม่มีชื่ออยู่ในกลุ่มแรกเหมือนกันนี่! เขาคงจะได้เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกเป็นแน่! รอเดี๋ยวก่อนนะ ดูเหมือนว่าชื่อของ เหยียน ซิว ก็ไม่มีนี่หรือว่าจะ. ... "

ในขณะที่เหล่านักปราชญ์เริ่มถกเถียงกัน บางคนก็เริ่มตระหนักว่าไม่ใช่แค่ชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้นที่ไม่อยู่ในกลุ่มแรก ชื่อของ เหยียน ซิว เองก็ไม่ปรากฎด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าการที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำพลาดในการทดสอบด้านปัญญาระดับเมืองหลวงหลังจากที่ได้เป็นผู้ชนะของการแข่งขันทั้งสองในการทดสอบระดับมณฆลจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่กับ เหยียน ซิว เขาจะพลาดได้อย่างไรกัน?

ถ้างั้น ...

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

ในขณะที่พวกเขากำลังครุ่นคิด ต่างก็พากันหันมองไปที่ เหยียน ซิว ใครบางคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่านักปราชญ์ด้วยกลิ่นอายแห่งความหนาวเหน็บ พวกเขาต่างคาดเดาคิดกันว่า เด็กผู้ที่มากจากเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์จะได้อันดับที่เท่าไหร่กันแน่?

 

"ก้องง!" เสียงระฆังลั่นมาจากทางผู้ที่ประกาศผลการทดสอบ

"สามอันดับแรกของการทดสอบจะถูกประกาศโดยหัวหน้าผู้คุมสอบ! หัวหน้าของการทดสอบของเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์คือ หัวหน้าขุนนาง ฮัน ฉางเฟิง ! "

หลังจากการประกาศผลการทดสอบ ก็มีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเดินออกจากที่ทำการเมืองหลวง ผู้ที่เดินนำมาคือชายผู้ที่มีผมบางๆสีเงินอยู่บนหัว สวมชุดสีขาวประดับลายนกสีเงินที่ดูมีชีวิตชีวา

ผู้อาวุโสท่านนี้คือ หัวหน้าขุนนางของโรงเรียนหลวง ฮัน ฉางเฟิง

และมีขุนนางอีกสองสามคนเดินตามมาด้านหลัง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รับคำว่า "ขุนนาง" ปักลงบนชุดของพวกเขา  ขุนนางฉิง ผู้ประกาศผลของการทดสอบระดับมณฑลที่เมืองฮวายอันก็เป็นหนึ่งในพวกเขา

"จริงๆแล้วผู้อาวุโสฮันคือหัวหน้าผู้คุมสอบ!"

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้อาวุโสฮันเป็นเพียงแค่หัวหน้าผู้ตรวจข้อสอบ แต่ตอนเขาได้เป็นหัวหน้าผู้คุมการทดสอบทั้งหมด!"

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมคำถามในการทดสอบถึงได้ยากมากนัก ... "

"แม้ว่าคำถามจะยาก แต่ถ้าสามารถผ่านการทดสอบระดับเมืองหลวงละก็ มันจะบ่งบอกถึงความเก่งกาจของเจ้าได้เลยทีเดียว! "

เมื่อเหล่านักปราชญ์ต่างรู้ว่าหัวหน้าผู้คุมการทดสอบทั้งหมดคือขุนนางฮันก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ภายในอณาจักรเซี่ย อันยิ่งใหญ่นั้นมีความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์และอาจารย์อยู่

อย่างเช่นในครั้งนี้ การทดสอบระดับเมืองหลวงได้รับการดูแลโดย ฮัน ฉางเฟิง เหล่านักปราชญ์ที่เคยสอบระดับเมืองหลวงครั้งก่อนๆมาแล้ว จึงรู้ถึงชื่อเสียงของ ฮัน ฉางเฟิง เป็นอย่างดีและนับถือเขาเป็นอาจารย์

นี่ถือเป็นกฎของอาณาจักรและเป็นการเคารพต่ออาจารย์

...

เมื่อ ฮัน ฉางเฟิง เดินไปอยู่ที่ด้านหน้าของหินประกาศ ทุก ๆ คนต่างก็หยุดการสนทนากัน ทั่วทั้งพื้นที่เงียบสงัดราวกับยามวิกาล  เพราะทุกคนนั้นรู้ถึงความสามารถและชื่อเสียงของ ฮัน ฉางเฟิง เป็นอย่างดี

"การทดสอบระดับเมืองหลวง ได้รวบรวมเหล่านักปราชญ์มาจากทั่วสารทิศ กระทั่งคนที่มาจากทะเลทรายเหนือก็เดินทางมาเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ข้าที่ได้รับเกียรติเป็นผู้คุมสอบในครั้งนี้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก "

น้ำเสียงของ ฮัน ฉางเฟิง ช่างดูเป็นมิตรและอบอุ่น ทำให้เหล่านักปราชญ์ที่อยู่ด้านล่างรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดสนิทสนม

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จักชื่อเสียงของ ฮาน ฉังเฟิง เลยนอกจากนี้เขายังมองไปที่ เหยียน ซิว เพราะอยากจะรู้ว่าเขาจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไรต่อ ฮัน ฉางเฟิง

อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ก็ยังคงมีท่าทีเงียบสงบราวกับสายน้ำแข็งเหมือนเช่นเคย

"รายชื่อสามอันดับแรกของการทดสอบอยู่ที่ผู้คุมแล้ว จะถูกส่งมอบให้กับขุนนางแต่ละคนเพื่อตรวจสอบและข้าจะเป็นผู้คัดเลือก หากใครไม่เห็นด้วยกับการตัดสินสามารถร้องเรียนได้ที่ โรงเรียนหลวงได้!"

"ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะประกาศรายชื่อผู้ที่เป็นสามอันดับแรกของการทดสอบ!"

"เมืองหลินเจียง, สำหนักเทียนเหอ, จาง เจ๋อตง!"

เมื่อ ฮัน ฉางเฟิง พูดจบเขาก็หยุดไปชั่วครู่ เจ้าหน้าที่นำรายละเอียดที่เกี่ยวกับ จาง เจ๋อตง ผู้ที่ได้อันดับที่สามของกลุ่มแรก

"จาง เจ๋อตง ได้อันดับสาม?!"

"ข้าไม่คิดเลยว่า เหยียน ซิว จะมีความสามารถด้านปัญญามากกว่าเขา!"

"เขาออกจากบ้านมาตอนอายุได้สิบหก ดูเหมือนตระกูลเหยียนจะมีบุคคลากรชั้นยอดอีกแล้ว!"

เมื่อพวกเขาได้ยินว่า จาง เจ๋อตง ได้อันดับที่สามต่างก็พากันตกใจแล้วเริ่มถกเถียงกันอย่างเอะอะ หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักปราชญ์ที่สวมชุดผ้าปักสีเขียว ถูกจ้องมองด้วยความยินดี

แต่ชายผู้สวมชุดสีเขียวกลับไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไรนัก

"อันดับที่สอง จากดินแดนเหลียงทางตะวันตก ตระกูลเหยียน เหยียน ซิว !"

หลังจากที่กล่าวชื่อ จาง เจ๋อตง ได้เป็นอันดับที่สาม ขุนนางฮันก็ไม่รีรอและประกาศต่อไปซึ่งเป็นชื่อของผู้ที่ได้อันดับที่สอง

"เหยียน ซิว ได้อันดับสอง?"

"แล้วใครกันที่เป็นผู้ชนะของการทดสอบด้านปัญญา?"

ฝูงคนจ้องมองอย่างกระวนกระวายไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว

ในขณะเดียวกัน ท่าทีของ เหยียน ซิว ก็สงบเยือกเย็นเช่นเดิมราวกับว่ามันเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ และมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาที่แปลกประหลาด

ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมองไปที่ เหยียน ซิว เขาอยากที่จะพูดแสดงความยินดีสักสองสามคำ แต่เขารู้ดีว่า เหยียน ซิว คงจะไม่เต็มใจยินดีรับฟังเท่าไร

เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว เพราะว่า เหยียน ซิว แพ้ในการทดสอบด้านปัญญา

 

"จะเลี้ยงข้าวข้าสักมื้อหนึ่งไหม?" เหยียน ซิว พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน

"ที่ภัตราคารชมจันทร์อย่างนั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ

"เอาสิ" เหยียว ซิว พยักหน้าตอบรับ

เมื่อเหล่านักปราชญ์ได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกัน พวกเขาก็เริ่มสับสน เหยียน ซิว ได้อันดับที่สอง แต่กลับให้ ฟาง เจิ้งจือ เลี้ยงอาหารรึ ทำไมกัน?

หรือว่า เหยียน ซิว เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเป็นผู้ชนะของการทดสอบ?

จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!

หากผู้ที่ไม่ได้เข้าไปในหอแห่งเต๋าเลยแม้แต่ครั้งเดียวจะได้เป็นผู้ชนะการทดสอบระดับเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ มันคงจะเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วอณาจักรแน่

อย่าบอกนะว่าศิษย์ที่ศึกษาอยู่ในหอแห่งเต๋าทั้งหมดจะพ่ายแพ้?!

 

เพจหลัก : Double gate TH