ตอนที่แล้วChapter 126: ไม่ต้องกังวลไป การช่วยเหลือกำลังไปถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 128: หลบหนี

Chapter 127: หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความบาดหมาง


Chapter 127: หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความบาดหมาง

คริมสันเฮล์ม*(แก้ครับ)นั้นเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งอันดับที่ห้าในตารางจัดอันดับจีนและมันก็เป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งอันดับสิบเจ็ดในตารางจัดอันดับทั่วโลก

ในยุคที่ทุกคนนั้นผู้คนนั้นนับถือผู้ที่มีความสามารถเหนือกว่าพวกเขานั้น มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้เล่นที่แข็งแกร่งนั้นจะเพลิดเพลินไปกับสถานะทางสังคมที่ไม่น้อยไปกว่าดาราหรือนักแสดง

ผู้นำของกิลด์คริมสันเฮล์มนั้นถูกเรียกว่าหยู่หวันทิง ข่าวลือนั้นเล่าไว้ว่าเขานั้นใช้ชื่อพาวิลเลียนที่ไร้สิ้นสุดมาตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่นเกม วิธีการจัดการอันโดดเด่นในการจัดการสถานการณ์อันยากลำบากนั้นทำให้ได้รับชื่อเสียงจำนวนมากและกิลด์คริมสันเฮล์มก็เป็นที่ดึงดูดของผู้คน

ในตอนเริ่มต้น คริมสันเฮล์มและนิกายซวนเฉินนั้นมีขนาดเท่ากัน มีเพียงเหตุผลเดียวที่กิลด์คริมสันเฮล์มนั้นเติบโตจนแป็นกิลด์ใหญ่เนื่องมาจากความขยันขันแข็งของพาวิลเลียนอันไร้ขีดจำกัด

แต่ในการทำให้กิลด์สำเร็จนั้นไม่ใช่เพียงแค่มีผู้เชี่ยวชาญมากมายมารวมตัวกันอยู่ภายใต้ธงผืนเดียวกัน แต่มันยังเป็นเพราะความแข็งแกร่งของพาวิลเลียนไร้ขีดจำกัดอีกด้วย แม้ว่าเขานั้นจะไม่ใช่เทพเจ้าสงคราม เขาก็ยังเป็นหนึ่งในสามสิบผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกมของโลกนี้

แต่ความรุ่งโรจน์และสถานะอันโดดเด่นของกิลด์คริมสันเฮล์มนั้นเป็นบางสิ่งในอดีต ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นเริ่มที่จะเข้ามาเล่นใน {REBIRTH} พวกเขานั้นพยายามที่จะตามคนที่จ่ายเงินมากมายอย่างยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็จะจางหายไปเมื่อเวลาผ่านไป...

ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นเริ่มต้นที่เมืองวาติกัน พวกเขานั้นก็ถูกกดดันโดยกิล์ไร้ชื่ออย่างรากจักรพรรดิ....ไม่สำคัญว่ามีผู้เล่นที่มีความสามารถมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะชนะคนที่ใช้เงินอย่างเลือดเย็นแบบนี้ได้....พวกเขาจะสามารถเทียบกับนายน้อยที่ร่ำรวยพวกนั้นได้ยังไงกัน...

แต่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขามีความมั่นใจในสเน่ห์ของตัวเองว่าสามารถเปลี่ยนสถานการณ์นี้ได้!

นี่คือเหตุผลว่าทำไมพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดจึงกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางทะเลของผู้เล่นและพยายามที่จะให้ทุกคนนั้นมีความคิดเป็นเอกฉันท์

“ดังนั้น บอสหยู่จะแนะนำอะไรครับ?”เพียงแค่พื้นหลังของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนมาเข้าข้างเขาได้แล้ว

“ผมจะซื้อเควสนี้จากพวกนาย!”พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดหัวเราะ

การซื้อเควสนั้นไม่ใช่เรื่องที่หาได้ทั่วไปในโลกของเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเควสสองฝั่ง มันเป็นทางที่ง่ายที่สุดในการแก้ไขปัญหาของเควสประเภทนี้คือการให้ข้อเสนอกับฝั่งตรงข้ามที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้

“ฮ่าๆๆ ฉันสงสัยว่านายจะให้ข้อเสนอกับพวกเราได้มากเท่าไหร่กัน? คนละหนึ่งเหรียญทองงั้นเหรอ?”

เสียงเยาะเย้ยอันเยือกเย็นก็ดังขึ้นมาจากถนน... ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ได้ยินเสียงนี้กันหมด

สิ่งที่ผู้เล่นคนนี้ใช้นั้นเป็นไอเทมพิเศษ อุปกรณ์ระบบ : เครื่องขยายเสียง...

เครื่องขยายเสียงนั้นมีราคาสิบเหรียญเงินต่อชิ้น มันไม่ใช่บางสิ่งที่ผู้เล่นธรรมดานั้นคิดจะซื้อมัน

ในช่วงเวลานี้ของเกม ราคาแลกเปลี่ยนเงินกับชีวิตจริงนั้นลดลง ราคาตลอดตอนนี้คือ 900ดอลลาร์ต่อ1เหรียญทอง ไม่มีใครปฏิเสธที่จะสนใจข้อเสนอของกิลด์คริมสันเฮล์ม ถ้าพวกเขาเสนอให้ผู้เล่นคนละหนึ่งเหรียญทองจริง..

“1เหรียญทอง? นายโลภมากไปหรือเปล่า?”พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดตอบกลับอย่างเย็นชาซึ่งเขาก็ใช้เครื่องขยายเสียงด้วย

มันมีผู้เล่นหลายพันคนอยู่ในตอนนี้ ดังนั้นมันจะต้องจ่ายทองมากเท่าไหร่กันถ้าเขาต้องการซื้อแต้มคุณธรรมสองร้อยแต้มนี้? พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดไม่ใช่คนโง่...

“ถ้างั้นเลิกแสร้งทำได้แล้ว ถ้านายไม่มีเงิน!”ผู้เล่นคนนั้นตะโกนผ่านเครื่องขยายเสียงอีกรอบก่อนที่จะก้าวออกมาจากฝูงชนและเผชิญหน้ากับพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด

ทุกคนนั้นตัวแข็งทื่อ...มันมีคนเพียงสี่คนในเมืองวาติกันที่กล้ายั่วยุพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด....ในตอนนี้มันมีสองคนในนั้นยืนอยู่ต่อหน้าพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด นักรบและนักเวทย์ พวกเขานั้นเป็นนายน้อยที่เหลือสองคนจากกิลด์รากจักรพรรดิ มาสเตอร์สง่างามและมาสเตอร์ร่าเริง

มาสเตอร์ร่าเริงและมาสเตอร์สง่างามนั้นกำลังมีความสุขกับการเดทของพวกเขา เมื่อพวกเขาโดนขัดจังหวะด้วยเรื่องทั้งหมด และถูกแจ้งว่ากิลด์รากจักรพรรดินั้นถูกกักติดอยู่ในจุดเกิด พวกเขาก็ยกเลิกเดทของพวกเขาลงและกลับมาที่บ้านเข้าเกมอย่างเร่งรีบ

หลังจากที่ความสนุกของพวกเขานั้นถูกทำลายลง นายน้อยทั้งสองก็มีอารมณ์ที่เลวร้าย แล้วพวกเขาจะไว้หน้าพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดนี้ได้ยังไง?

การแสดงออกของพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดก็ตะกุกตะกักอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะฟื้นสติ เขานั้นก็ยังคงเป็นผู้นำของกิลด์ใหญ่อยู่ดี และไม่ยอมที่จะเสียหน้าต่อฝูงคนจำนวนมาก และก็ท้าทายนายน้อยทั้งสอง “ถ้างั้นพวกนายทั้งคู่ยอมที่จะจ่ายได้มากเท่าไหร่กัน?”

พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดนั้นไม่ใช่ไก่อ่อน เขานั้นได้จัดการพลิกกระดานด้วยคำพูดเพียงแค่หนึ่งคำพูด...

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนายน้อยที่ร่ำรวยที่จ่ายเงินเพื่อพัฒนากิลด์รากจักรพรรดิได้โดยไม่กังวลรายจ่าย พวกเขาก็ไม่ได้โง่เพียงพอที่จะยอมทิ้งเงินหลายแสนดอลลาร์เพื่อทำเควสนี้ให้สำเร็จ!

“ฮ่าๆ!”มาสเตอร์ร่าเริงจ้องไปที่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด “พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำเควส พวกเรามาเพื่อล้างแค้น!”

“เฮ้ มึง มึงเป็นคนที่ขโมยกระบองของนายน้อยปักกิ่งไปใช่ไหมวะ?”มาสเตอร์สง่างามชี้ไปอย่างหยิ่งยโสใส่หวังหยู่แล้วเขาก็ถาม

ถ้ามันเป็นวันอื่น หวังหยู่ก็คงจะกระทืบเขาจนตายแล้ว แต่ว่า ไร้ความกลัวได้บอกหวังหยู่ให้อดทนรอคอยความช่วยเหลือที่กำลังไปถึง หวังหยู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดทนเก็บความต้องการฆ่าไว้

“ถูกแล้ว!’หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่แยแส แล้วเขาก็เพิ่มมาสเตอร์สง่างามเข้าในบัญชีดำของเขา

“นายเห็นนั่นไหม!”มาสเตอร์สง่างามหัวเราะแล้วเขาก็หันกลับไปหาและพูดกับพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด “เขายอมรับว่าเขาทำ....นั่นหมายความว่าพวกเราควรที่จะเป็นคนฆ่าคนสองคนนั้น!”

ใบหน้าของพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดมืดคล้ำลง “มาสเตอร์สง่างาม นั่นไม่ถูกละ! มันโอเคถ้านายต้องการที่จะล้างแค้นสองคนนี้ แต่ทำไมนายต้องทำมันในตอนนี้กัน?”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กิลด์รากจักรพรรดิต้องตอบคำถามคนแบบนายกัน?”

“ก็ได้ ถ้างั้น! ทำไมนายไม่ถามผู้เล่นนับหมื่นคนในเมืองวาติกันว่าพวกเขาคิดยังไงกันละ?”พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดตอบอย่างเย็นชา “อย่าคิดว่าเมืองทั้งเมืองวาติกันนั้นเป็นของนายนะ!”

พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดนั้นใช้เครื่องขยายเสียงเมื่อเขาพูด พร้อมกับประโยคธรรมดาๆไม่กี่ประโยค เขาก็ทำให้ประชากรของเมืองวาติกันนั้นเผชิญหน้ากับกิลด์รากจักรพรรดิแล้ว

“นายคิดเหรอว่านายจะขโมยเควสไปอย่างง่ายดายแบบนั้นกัน? ฝันไปเถอะ!”พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดรีบพูดตาม

พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดนั้นรู้ว่ากิลด์รากจักรพรรดินั้นไม่ได้ขาดแคลนเงิน แม้ว่าเขาจะไม่ผลักดันพวกเขาออกไปในวันนี้ได้ เขาก็ต้องการให้พวกเขาสูญเสียให้มากเท่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทุกวัน ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นไม่มีความสุขกับการกระทำของกิลด์รากจักรพรรดิ มันจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจเลยที่ผู้เล่นมากมายจ้องไปอย่างแค้นเคืองหลังจากที่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดได้จุดไฟแห่งความกราดเกรี้ยวของเขา

“ถูกแล้ว เควสนี้มันเป็นเควสของประชากรเมืองวาติกันทั้งหมด! ถ้างั้นพวกเราก็จะฆ่าใครก็ตามทีแม่งกล้ามาหยุดพวกเรา!”

มาสเตอร์สง่างามและมาสเตอร์ร่าเริงนั้นก็เต็มไปด้วยความเร่าร้อน....แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดอย่างหวังหยู่ก็ไม่กล้าที่จะจัดการกองทัพผู้เล่นนับหมื่น พวกเขานั้นมีความกล้ามากแค่ไหนกัน..

เพียงแค่พวกเขากำลังสั่นด้วยความหวาดกลัว หวังหยู่ก็พูดขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“เฮ้ ไม่ใช่ว่าพวกนายทั้งคู่โง่หรือปัญญาอ่อนงั้นเหรอ?”

“???”

นายน้อยทั้งสองก็จ้องไปที่หวังหยู่แล้วเขาก็เถียงกลับ “ใครให้สิทธิ์นายพูดกัน?”

หวังหยู่ก็เมินเฉยความกล้าของเด็กน้อยสองคนนี่ เขาก็หัวเราะแล้วเขาก็จ้องไปที่พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัด

“ตั้งแต่ที่นายทั้งคู่นั้นร่ำรวย ทำไมนายไม่ยอมจ่ายเหรียญทองไม่กี่เหรียญเพื่อล่อให้ผู้เล่นฆ่าเขาละ?”

“หื้มม? นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนี่นา!”นายน้อยทั้งสองคนก็อุทานด้วยความตื่นเต้น

“มาสเตอร์สง่างาม มาสเตอร์ร่าเริง พวกนายไม่ควรฟังคำโกหกของเขา พวกเราควรที่จะร่วมมือกันฆ่าเขาก่อนเป็นอย่างแรก…”พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดพูดกลับแล้วเขาก็ก้าวถอยห่างไปจากพวกเขา

พาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดนั้นเปลี่ยนให้ฝูงชนนั้นเผชิญหน้ากับพวกเขาซึ่งทำให้นายน้อยทั้งสองคนโกรธเคืองอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงลืมเรื่องที่จะต้องฆ่าหวังหยู่ไปแล้ว

มาสเตอร์สง่างามแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่มีนายมันก็ไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไหร่นี่?”

มาสเตอร์สง่างามก็รีบหยิบเครื่องขยายเสียงออกมาจากช่องเก็บของแล้วก็พูดกับฝูงชน “ทุกคน พวกเราจะให้รางวัลหนึ่งเหรียญทองกับใครก็ตามที่ฆ่าสมาชิกของกิลด์คริมสันเฮล์มได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ฆ่าพาวิลเลียนที่ไร้ขีดจำกัดจะได้รับรางวัล 10เหรียญทอง!

“ดังนั้นมันเป็นเควสล่าค่าหัว...10เหรียญทอง...”รอยยิ้มอันละโมภโลภมากก็ปรากฏขึ้นในสายตาของฝูงชน เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งของมาสเตอร์ร่าเริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด