เล่ม 5 ตอนที่ 3 : กลับตัวกลับใจ (1) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.
วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน
วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป
==========
เล่ม 5 ตอนที่ 3 : กลับตัวกลับใจ (1)
“ฮยอนอู?”
เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากปลายสาย
“ครับ? ลุงจีวอนฮวารังเหรอครับ?”
“ใช่ ฉันเอง”
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ? ทำไมถึงโทรมาตอนนี้กันล่ะครับ?”
“ฉันใกล้ถึงไคโร้ทแล้ว...”
“ครับ?”
ผ่านไปพักหนึ่ง ฮยอนอูยังคงไม่เข้าใจคำพูดของจีวอนฮวารัง
เป็นเพราะตอนที่เขาโดนโทรมาหานี้ มันเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มที่เขากำลังจะออกนำทัพชาวแรคคูนออกไปต่อสู้นั่นเอง
ดังนั้นแล้วเขาจึงลืมเลือนเรื่องราวที่เคยบอกกล่าวกับจีวอนฮวารังเมื่อหลายวันก่อนจนสนิทใจ
“พวกเรามีนัดเจอกันที่ไคโร้ทไง”
“ครับ? อ๋อ เอ่อ... นั่นสินะ ผมหมายถึง ผมอยู่ที่นั่นมาพักหนึ่งแล้วครับ”
“ชิ นี่เจ้าหนู หมายความว่ายังไง”
“พอคุณเงียบหายผมก็เลยลืมไปเลยน่ะครับ”
นี่ก็ผ่านไปห้าวันแล้วตั้งแต่ที่ฮยอนอูไปพบเจอกับเหล่าอดีตนักโทษ ห้าวันมานี้เขาเล่นเกมทั้งวันและคืน กระทั่งว่าพวกเขามุ่งตรงออกจากแจ๊คสันมายังไคโร้ท อย่างไรแล้วมันก็ควรต้องใช้เวลามากกว่านี้สิ
“อย่าบอกนะว่า...”
จีวอนฮวารังถอนหายใจออกขณะเริ่มอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง
ที่จริง ตอนที่ฮยอนอูไปบ้านของจีวอนฮวารังในวันนั้น
ทั้งจีวอนฮวารังและกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างก็มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กล่าวไปแล้ว มีพวกเขาเพียงแค่สี่คนที่ต้องการไปพบฮยอนอูที่ไคโร้ท
ทว่า มันกลับมีปัญหาที่พวกเขาไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ในตอนนั้น เลเวลเฉลี่ยของพวกเขานั้นส่วนใหญ่แล้วก็อยู่ที่ 35 เท่านั้นเอง แต่ป่าที่จะต้องผ่านก่อนไปถึงไคโร้ทมันกลับเต็มไปด้วยมอนสเตอร์เลเวลสูงถึง 100
พวกเขาที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรจึงตัดผ่านป่านั้นไปจนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น
“เอ่อ ใช่ครับ ผมลืมคิดไปว่าต้องเตือนเรื่องนั้นด้วย”
แน่นอนว่าถ้าหากเดินอ้อมมาสักหน่อย แม้จะเลเวล 35 แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางที่จะผ่านมาได้ยากหรืออะไร
เป็นเพราะไคโร้ทก็มีผู้เล่นเลเวลต่ำเดินทางมาพอสมควรเช่นกัน ทว่า กลุ่มอดีตนักโทษนั้นกลับได้รับตำแหน่งของไคโร้ทมาจากอาร์ค พวกเขาจึงตัดสินใจมุ่งตรงมาโดยไม่คิดอะไร
“แล้วพวกเราจะทำยังไง? พวกพี่ชายนายเสียใจนะเนี่ย”
“ผมขอโทษครับ... แล้วได้ตายไปกันหรือเปล่าครับ?”
จีวอนฮวารังหัวเราะคิกคักออกมา กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนนั้นไม่ได้คิดใช้ชีวิตในเกมอย่างเช่นอาร์คอยู่แล้ว
ผู้คนเหล่านี้ต่างเล่นเกมโดยบริสุทธิ์ใจคิดอยากสนุกกับเกมก็เท่านั้น ทางด้านจีวอนฮวารังนั้นก็ชื่นชอบเกมนี้ขึ้นมาเพราะมันทำให้เขารู้สึกได้ถึงอิสระจากความผิดหวังที่อยู่เต็มเปี่ยมภายในใจของเขา
พวกมอนสเตอร์ที่โผล่ขึ้นในป่าแห่งนั้นค่อนข้างมีมาก มันแทบเปิดโลกทัศน์ใบใหม่ให้กับพวกเขาได้เลยทีเดียว
พวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวลสูง แต่สำหรับกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนแล้ว พวกเขากลับตื่นเต้นสนุกสนานยิ่งกว่า
‘นี่ฉันเพิ่งเคยได้เห็นป่าอเมซอนของจริงกับตานะเนี่ย นี่มันความฝันชัด ๆ’
‘ไม่ใช่แล้ว นี่มันจูราสสิคปาร์คต่างหาก’
‘ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นไดโนเสาร์กับตาตัวเองแบบนี้ นี่มันสนุกกว่าก่อนหน้าเป็นร้อยเท่า!’
แต่ แม้ว่าพวกเขาจะชอบใจ ทว่าความสามารถของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะผ่านป่าแห่งนี้ไปได้
ท้ายที่สุด จีวอนฮวารังจึงเรียกตัวอดีตนักโทษที่เหลือตามมาร่วมทางด้วย พวกเขาเริ่มรุกคืบบุกเข้าป่าราวคนบ้าก็ไม่ปาน
ถ้าหากเป็นปาร์ตี้กลุ่มอื่น พวกเขาคงคิดยอมแพ้การล่าในป่าแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
ทว่ากลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนหาได้สนใจอะไรไม่ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่สิ เพราะมันเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งต่างหาก พวกเขาจึงเกิดความคิดอยากโค่นล้มจัดการพวกมันให้จงได้
โรโค่ก็เข้าร่วมการบุกจู่โจมนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อโรโค่เสร็จงานพาร์ทไทม์ พวกเขาจึงรวมกลุ่มกันตั้งแคมป์รอคอยจนกระทั่งเธอกลับมาเข้าร่วมการล่าได้ หลังจากทำเช่นนี้วนซ้ำไปมากว่าสี่วัน ในที่สุดพวกเขาก็ใกล้ถึงไคโร้ทแล้ว
“หึหึหึ ตอนนี้ฉันน่ะนะ... เพิ่งฆ่าอัลโลซอรัสไปได้ ได้รับค่าประสบการณ์โบนัสมาเพียบ เพราะแบบนี้แหละ ช่วงหลายวันมานี้ก็เลยยุ่งนิดหน่อย นอกจากนั้น หลังจากที่ช่วยเผ่ามิกุมิกุแล้ว ฉันก็ได้รับไอเทมประหลาดอีกหลายอย่างพอสมควรเลย”
จีวอนฮวารังเล่าเรื่องราวออกมาด้วยน้ำเสียงภูมิอกภูมิใจ
ซึ่งตรงนี้ก็คล้ายกับคนส่วนใหญ่ที่ได้เล่นเกมผ่านด่านมาได้แหละนะ
จีวอนฮวารังดูไปแล้วคล้ายจะติดอกติดใจเกมนี้เอาเรื่องเลย
กระทั่งว่าเขาผ่านป่าดังกล่าวเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้มาเช่นเดียวกัน แต่ประสบการณ์ที่ได้รับกลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าอาร์คจะเลเวลสูงกว่าพวกเขา อีกทั้งยังเดินทางมากับซิดเพียงแค่สองคน พวกเขาจึงไม่คิดกล้าแหยมบอสระดับกลางอย่างอัลโลซอรัส
แต่กลุ่มคนเหล่านี้กล้า เป็นเพราะพวกเขามีมากถึงสิบสองคนนั่นเอง
อีกทั้งยังมีหน่วยฟื้นฟูอย่างโรโค่ที่พร้อมจะเล่นบทเพลงสนับสนุนทุกการต่อสู้ของพวกเขาอีกต่างหาก
อัลโลซอรัสเป็นมอนสเตอร์ที่ขวางเส้นทางการเข้าสู่พื้นที่รกร้างอย่างทุ่งข้าวสาลีของป่า
แม้ว่าฮยอนอูจะเคยพบกับชาวมิกุมิกุมาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้ภารกิจอะไรกับเขาเลยแม้สักนิด
‘มันน่าจะเป็นภารกิจที่มอบให้เฉพาะกลุ่มปาร์ตี้ที่มีจำนวนครบกำหนดสินะ?’
ในนิวเวิลด์ เนื้อหาของภารกิจมักมีความเปลี่ยนแปลงได้เสมอโดยขึ้นอยู่กับเวลาและสถานการณ์ ดังนั้นแล้ว เขาจึงได้รับฟังเรื่องราวน่าสนใจอื่นจากปากคำของจีวอนฮวารัง ทั้งที่เขาก็ข้ามผ่านพื้นที่เดียวกันนั้นมาเช่นกัน
“ว่าแต่ว่า...”
ฮยอนอูที่รับฟังอยู่จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรวดร้าว
“ที่จริงแล้ว ผมไม่อาจไปพบพวกคุณได้ในตอนนี้น่ะครับ”
“หือ? ยังไงกัน? นี่นายไปพื้นที่อื่นแล้วงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ... มันเกิดเรื่องขึ้นในสถานที่นั้นทำให้ผมไม่อาจออกไปพบได้น่ะครับ”
“อืม ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ดูเหมือนจะลำบากอยู่สินะ เจ้าพวกนี้ต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้พบเจอนายอยู่นะ ดูไปแล้วไม่ต่างกับเด็กน้อยได้ของเล่นเลย... ในเกมก็นับว่านานแล้วตั้งแต่ที่เจอกันครั้งสุดท้าย เอาเถอะ ถ้าหากสถานการณ์เป็นแบบนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้แหละ แล้วพวกเราต้องรอนานแค่ไหนกันล่ะ?”
“แต่มันเป็นไปได้ที่ผมจะส่งมอบอาหารให้ได้โดยทันทีนะครับ”
“หือ? ยังไงกัน?”
“ไปรอที่ด้านนอกของไคโร้ทสักพักนะครับ”
“ด้านนอก?”
“ครับ ไว้พอไปถึงไคโร้ทจะเข้าใจเองครับ ไคโร้ทเป็นสถานที่สำหรับผู้เล่นฆาตกร ดังนั้น ถ้าหากพวกคุณลุงยังต้องการอยู่ต่อก็ให้รอที่ด้านนอก ผมจะส่งอาหารไปให้ผ่านทางคนรู้จักน่ะครับ เขาเป็นพ่อค้าชาวฮอบบิทชื่อว่าซิด ว่าไปพวกคุณลุงก็น่าจะเก็บสิ่งของในป่านั้นมามากเลยสินะครับ? เขาจะรับหน้าที่ขายสิ่งของพวกนั้นแทนให้ด้วยครับ”
“เอาล่ะ เข้าใจแล้ว งั้นบอกเขาให้ไปพบกับพวกเราที่หินรูปหมีใกล้ไคโร้ทแล้วกัน”
“ได้ครับ”
ฮยอนอูจึงวางสายขณะเชื่อมต่อเข้าเกมนิวเวิลด์อีกครั้งหนึ่ง
* * *
ปัง!
“ว่าอะไรนะ?”
ไฟแทบถูกพ่นออกจากปากของใครคนหนึ่งที่ตบโต๊ะเสียงดัง เขากำลังนั่งอยู่ตรงข้ามฮอบบิทน้อยขณะเผยโทสะออกพร้อมไหล่ที่กระเพื่อม
ภาพฉากตรงหน้านี้มันออกจะน่าสงสัยอยู่บ้างว่า นี่มันการสืบสวนของนักสืบในห้องสอบสวนหรืออย่างไรกัน นับว่าคล้ายคลึงเลยทีเดียว
บุคคลที่กำลังตะโกนอยู่ตรงนี้คืออดีตสารวัตร จัสติสแมนนั่นเอง
และฮอบบิทที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซิด
“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอาร์คถึงไม่สามารถมาพบพวกเราได้?”
“คะ-ครับ เป็นแบบนั้น...”
ซิดตอบกลับมาเสียงเบา จากนั้น กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งกันขึ้นมา
“แล้วปัญหาแท้จริงมันคืออะไรกันแน่?”
“นี่ก็นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่เคยโมโหขนาดนี้”
“กล้าดียังไงกล้ามาแตะต้องเจ้าหนูนั่น?”
“พวกมันต้องได้ลิ้มรสความขื่นขมเสียบ้างแล้ว”
‘ฮือ นี่มันอะไรกัน? อาร์คนิมเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้จักกับคนพวกนี้ได้กัน?’
ซิดแทบหน้าซีดเผือดขณะความตื่นตระหนกเพิ่มมากขึ้น
ผู้คนที่เล่นเกมนี้ต่างก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของจริงที่เผยออกมา
นับเป็นเรื่องน่าสนใจ หากสังเกตตัวละครให้ดี ไม่ว่าจะสีหน้าท่าทาง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นธรรมชาติและเหมือนความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่งในทุกการแสดงออก
นี่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้? แต่บทสนทนาที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้มันก็แทบพรากเอาบรรยากาศไปทั้งหมดแล้ว
หากตัดสินจากประสบการณ์ของซิด กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนเหล่านี้ย่อมไม่ใช่ ‘คนธรรมดา’ อย่างแน่นอน อีกทั้ง เขายังสามารถบอกได้เลยว่าแรงคุกคามจากคนเหล่านี้มันมาจากสีหน้าของพวกเขานั่นเอง
ขณะเดียวกันนั้น ความประทับใจที่พวกเขาเผยให้ซิดเห็นกลับเป็นความระทึกใจที่หัวใจต้องเต้นรัวเร็วราวกับจะกระดอนออกจากอก
ซิดเริ่มเผยสีหน้าเป็นกังวลออกมา
กระทั่งลอเร็นโซ่ยังต้องคิดหลบเลี่ยงสายตาอดีตนักโทษเหล่านี้ขณะปล่อยความโอหังที่เคยมีทิ้งไป บรรยากาศอันรุนแรงตรงหน้าของกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนเหล่านี้ถึงขนาดทำให้เอ็นพีซียังรับรู้ได้
เรื่องนี้... ต้นเหตุคืออาร์ค เรื่องราวที่เล่าไปทำให้ทั้งจัสติสแมนและกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ที่หินรูปหมีบรรยากาศยังนับว่าดี จัสติสแมนและอดีตนักโทษต่างมีสีหน้าท่าทีเป็นมิตรกับซิดเพราะรูปร่างที่น่ารักของเขา อีกทั้งยังทำให้ซิดเกิดความโล่งอกโล่งใจได้บ้างที่ได้พบเจอผู้เล่นจริงขณะหลบซ่อนตัวมานาน
ทว่า หลังเขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับอาร์คและอันเดลออกไป บรรยากาศรอบด้านถึงกับพลิกกลับอย่างตารปัด
ความโกรธเกรี้ยวพลันสุมอยู่ภายในกายของจัสติสแมนและเหล่าอดีตนักโทษ จนกระทั่งพวกเขาเริ่มพ่นคำก่นด่าออกมา
“เหมือนจะรู้จักอันเดลนะ น่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มของอลัน”
จัสติสแมนเอ่ยเสียงเบาออกมา
“ก็พอรู้มาบ้างว่าไม่ค่อยถูกกับอาร์ค...”
“แต่ถึงกับไปเฝ้าที่ฝ่ายพลาธิการจนทำให้อาร์คไม่อาจฟื้นคืนชีพนี่ก็เกินไป เพราะเรื่องอะไรกันถึงต้องทำขนาดนั้น?”
โรโค่เองก็กล่าวเสียงเบาออกมา กระทั่งคนที่อาร์คคิดว่าใจเย็นที่สุดอย่างหมายเลข 1405 ยังต้องเผยความรุนแรงออกมาในฐานะผู้นำกลุ่ม... เขาถึงกับกำหมัดแน่นขณะพูดกล่าวขึ้น
“นั่นไม่ใช่เรื่องต้องใส่ใจ จะยังไงมันทำแบบนี้ก็เพราะมันเป็นคนเลว”
กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนนั้นเรียบง่าย พวกเขาไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวอะไรมามากมายนัก กุญแจสำคัญของเรื่องราวคือพวกเขาเติบโตในโลกที่เปี่ยมไปด้วยความรุนแรง พวกเขาอาศัยอยู่ตรงระหว่างพื้นที่ของความดีและความชั่วในโลกแห่งความจริง ภายในของพวกเขาไม่คิดอะไรมาก หากมีคนมาตอแยพวกเขา พวกมันย่อมต้องเป็นคนเลว
นับว่าเป็นวิธีการคิดที่ตรงไปตรงมาและง่ายดายยิ่ง จัสติสแมนและกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนนั้นความจริงแล้วแม้จะร้ายแต่พวกเขาก็เป็นคนใจกว้าง
ทว่า ถึงกับกล้าแตะต้องคนของพวกเขา เรื่องนี้ไม่อาจยอมให้อภัย
“พี่น้องทั้งหลายคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง?”
หมายเลข 1401 มองคนอื่นด้วยสายตาจริงจัง หมายเลข 1401 เป็นอดีตนักโทษช่างฝีมือในกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บน เขาชื่อว่า จักตู
“ไม่ใช่ปัญหาอะไร แค่จัดการพวกมันให้พ้นทางก็ไป”
“อืม...”
จัสติสแมนพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จัสติสแมน โรโค่ และกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างรู้สถานการณ์ของอาร์คเป็นอย่างดี อาร์คไม่ได้เล่นเกมนี้เพียงผิวเผินและคิดสนุกไปกับมัน เขาเข้าร่วมการทดสอบของทางโกลบอลเอ็กซอร์ทเพื่อต้องการได้รับมาซึ่งตำแหน่งงาน
สำหรับอาร์คที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอันสูงลิ่วแล้ว ทั้งหมดที่เขาสามารถหามาจ่ายจนถึงตอนนี้ได้ก็เพราะนิวเวิลด์
ใช่ สำหรับพวกเขาแล้วที่นี่มันก็เป็นแค่เกม แต่สำหรับอาร์ค นิวเวิลด์คือความเป็นจริง
ที่จริงแล้ว ทั้งจัสติสแมน โรโค่ และคนอื่นในกลุ่ม ก่อนหน้านี้ต่างก็เคยต้องการเล่นเกมร่วมกับอาร์ค ทว่า อาร์คนั้นมีเป้าหมายการเล่นที่แตกต่าง นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องมาพูดอีก แต่แล้วตอนนี้ถึงกับมีคนกล้ามายุ่มย่ามกับอาร์ค?
“อาร์ค ตอนที่ฉันโทรไปไม่เห็นเขาจะพูดอะไรเลย...”
“บางทีเขาอาจไม่ต้องการให้เราเป็นกังวลอะไรมากก็ได้”
“หรือเขาอาจจะไม่ต้องการให้พวกเรารู้”
พวกเขาล้วนคิดผิด ที่จริงแล้ว อาร์คถึงกับลืมเลือนอันเดลไปหมดสิ้นแล้วต่างหาก
ความทรงจำของอาร์คในตอนนี้มีเพียงแต่ภารกิจ ☆ ☆ ☆ และภารกิจ C+ ที่ได้รับจากโลกบาดาลเพียงเท่านั้น
เขาถึงกับทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดฝึกฝนชาวแรคคูน
ด้วยการฝึกฝนที่ดำเนินไปกว่าห้าวัน ด้วยสิ่งนี้จึงทำเอาเขาลืมเลือนเรื่องอันเดลที่กำลังเฝ้ารอเขาที่ฝ่ายพลาธิการจนหมดสิ้น เรื่องนี้... หากมองอีกด้านหนึ่งแล้ว อันเดลสมควรเป็นฝ่ายที่น่าสงสารมากกว่าเสียอีก
ทว่า กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนไม่ได้รับรู้ถึงความเป็นจริงเบื้องหลัง
“หึ อาร์คเองก็เป็นคนเหมือนพวกเรานะ”
“พอเขาทำแบบนั้นแล้ว ฉันยิ่งอยากช่วยเขามากกว่าเดิมอีก”
“นั่นสิ พอเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราจะช่วยยังไงได้บ้าง?”
“พี่ชาย หนูก็จะช่วยด้วยนะคะ”
“หึ เจ้าชายอยู่ในวิกฤตถึงกับต้องให้เจ้าหญิงออกโรงช่วยเลยทีเดียว”
“ไป ไปกัน!”
กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนถึงกับเข้าไปคว้าคอโรโค่เอาไว้ขณะที่เธอเตะเข้าให้
“เรื่องราวไม่น่าง่ายแบบนั้น รู้ไหมทำไมอาร์คถึงไม่ยอมบอกพวกเรา?”
“เป็นเพราะเขาไม่อยากสร้างปัญหาให้พวกเรา...”
“เพราะแบบนั้น มันจะต้องมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้พวกเรากังวล”
“หือ?”
พวกเขาเริ่มปรึกษากันอีกครั้ง ตอนนั้นเอง จัสติสแมนได้กอดอกขณะพูดกล่าวออกมา
“จักตูพูดถูกแล้ว เฮ้ นายอดีตอันธพาลนั่นน่ะ”
“หือ? หา? ข้าเหรอ?”
ลอเร็นโซ่ถึงกับตอบรับด้วยอาการตื่นตกใจ
“ใช่นายบอกหรือไม่ว่า ตอนที่อาร์คสู้กับพวกมันยังนับเป็นเรื่องยากลำบาก?”
“ใช่ สมาคมแห่งความมืดเป็นผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหารคนต่างถิ่น กระทั่งว่าหนึ่งในพวกเขา ลูกพี่ยังรับมือได้อย่างยากลำบาก”
จัสติสแมนพยักหน้ารับและกล่าวต่อไป
“น่าจะเป็นแบบนั้น จักตู นายเคยเห็นอาร์คสู้ตอนภารกิจอีเวนท์แล้ว เพราะงั้นนายน่าจะเข้าใจว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ เลเวลของพวกเรายิ่งไม่อาจนำไปเทียบ และถ้าหากทำให้เขาตกอยู่ในปัญหาได้ มือสังหารพวกนั้นย่อมต้องมีเลเวลใกล้เคียงเขาแน่ กระทั่งว่าผู้เล่นจะเข้าปิดล้อมก็คงไม่ได้ผล นายเข้าใจใช่ไหม?”
“อาร์คคงคาดการณ์แล้วว่าพวกเราเอาชนะไม่ได้ แต่พอได้ฟังคำของลอเร็นโซ่แล้ว คิดว่าพวกเราน่าจะพอมีโอกาสอยู่บ้าง”