ตอนที่แล้วเล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (4) [อ่านฟรี]

เล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.

วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน

วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป

==========

เล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (3)

 

“พวกท่านรู้แล้วใช่หรือไม่?”

อาร์คถามยืนยันขณะเหล่าผู้อาวุโสพยักหน้ารับ

โปโป้เริ่มผลักพวกทหารออกขณะตะโกนขึ้น

“พี่ชาย! พี่ชายอาร์คถึงกับเป็นผู้ค้นหาความจริง! ท่านตาผู้อาวุโสเห็นหรือยัง? พี่ชายคือผู้ค้นหาความจริง! เป็นสหายของชาวสัตว์อสูร เขาเป็นวีรบุรุษที่สืบทอดเจตนารมณ์ของผู้กล้ามาบัน!”

“เป็นเช่นนั้น?”

เหล่าผู้อาวุโสต่างสัมผัสหน้าผากของตนขณะใช้มือเช็ดเหงื่อพร้อมผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอก พวกเขาต่างมองอาร์คด้วยสายตาเหนื่อยล้าขณะพึมพำ

“พวกเรายอมรับว่าเจ้านั้นคือผู้ค้นหาความจริง แต่นั่นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ที่จริงแล้ว ครั้งอดีตพวกเราเคยสัญญากับผู้กล้ามาบันเอาไว้ ทว่า มันสายเกินไป อิกดราซิลได้ปนเปื้อนและพวกเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจะสามารถรอดพ้นไปได้หรือไม่ อย่าได้พูดถึงการเติมเต็มพันธะสัญญาอันใด ดังนั้นแล้วพวกเราจะไม่เอาความเจ้าเรื่องที่เข้ามายังหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ทว่า อิกดราซิลนั้นแปดเปื้อนไปแล้ว เจ้าไม่อาจออกไปไหน นั่นจึงไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนไปแม้สักนิด”

“พวกท่านกล่าวอะไร? พวกท่านไม่เข้าใจหรือ? พี่ชายคือผู้ค้นหาความจริง! ตอนนี้คือเวลาที่พวกเราต้องยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อนำความสงบสุขแห่งสุบารูทาร์ปกลับคืนมา!”

“เงียบ! พวกเราไม่ใช่เด็กน้อยให้เจ้าว่ากล่าว!”

เหล่าผู้อาวุโสตะโกนขึ้นจนทำโปโป้แตกตื่นก้าวเท้าถอย

นี่ไม่ใช่เพราะเขาหวาดกลัว

เป็นโปโป้ไม่อาจเชื่อว่าเหล่าผู้อาวุโสจะยังคงมีความคิดเช่นนี้ต่อ

“หมู่บ้านแห่งอื่นล้วนจบสิ้นแล้ว ไม่ว่าพวกเราจะซ่อนตัวถึงเพียงใด สุดท้ายพวกเราก็ต้องโดนพบ! ผู้เฒ่าอาวุโสย่อมต้องทราบดี! คังกิลเพิ่งเผยตัวขึ้นในตลาดเมื่อครู่นี้ นั่นหมายความว่าพวกมันรู้วิธีการมายังที่แห่งนี้!”

“อืม...”

เสียงที่หนักอึ้งนี้พลันดังขึ้นทั่วทั้งศาลากลางเพราะคำพูดของโปโป้

ไม่ช้า ชาวแรคคูนในที่แห่งนี้ต่างพึมพำกันเสียงเบา

“ทว่า... สถานการณ์นี้มันเริ่มขึ้นเพราะอิกดราซิล อิกดราซิลคือผู้อุปถัมภ์แห่งพวกเรา ถ้าหากพวกเราต่อกรกับอิกดราซิล นั่นก็ย่อมหมายถึงไม่อาจเอาชนะ”

“นอกจากนี้ คังกิลและโกเลมพฤกษาก็เป็นคนของพวกเราเช่นเดียวกัน... พวกเราจำเป็นต้องสังหารพวกเขาด้วย...”

“นั่นไม่จริง!”

โปโป้ตะโกนเสียงดัง

“บอกข้ามาตามตรง พวกท่านก็แค่หวาดกลัวที่จะต่อสู้ ขี้ขลาด! งั้นก็ตามใจ! พวกท่านก็หลบซ่อนอยู่ที่นี่จนกว่าพวกคังกิลกับโกเลมพฤกษาจะหาที่นี่เจอก็แล้วกัน! แต่ข้าไม่ใช่! ข้าคิดต่อสู้จนตัวตาย!”

โปโป้ผลักทหารชาวแรคคูนออกและเดินจากศาลากลางไป

“พวกเจ้ายืนบื้อทำอะไร? ไม่เห็นหรือไง? ไปจับตัวไว้!”

นายทหารชาวแรคคูนสองนายพลันเร่งร้อนตามโปโป้ไป

อาร์คยังคงมองเงียบกับสภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาคิดอยากยื่นมือเข้าแทรกแซง แต่แล้วเพราะคิดอันใดไม่ออก แต่ต้องขอบคุณโปโป้ที่เข้าใจสถานการณ์โดยรวมเป็นอย่างดี ในตอนนั้นเขาจึงได้รับรู้ว่าตนควรทำอะไร

‘ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาแค่ของเราคนเดียว!’

อาร์คตระหนักได้ว่าเขามีสิ่งที่ต้องแบกรับ

มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาหากภารกิจจะมีโครงสร้างเพียงเพื่อเพราะผู้เล่น

ทว่า มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะต้องคิดแบบนั้นเสียทีเดียว

‘นิวเวิลด์แตกต่างจากเกมสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง!’

เมื่อพิจารณาเกมที่เคยเล่นสมัยก่อน มันก็ยิ่งทำเอาเขาเกิดความอัศจรรย์ใจ

เกมเหล่านั้นบ่อยครั้งที่จะมีเนื้อหาอย่างจอมปีศาจคืนชีพขึ้นมาในช่วงท้าย หากปีศาจคืนชีพขึ้นมาได้โลกก็จะถึงจุดจบ กระนั้นแล้ว เขายังได้พบเจอเอ็นพีซีมากมายภายในเกม กระทั่งว่าเอ็นพีซีพวกนั้นเคยเป็นผู้กล้าครั้งอดีต พวกเขาก็หาได้เข้าร่วมในการศึกทางตรงแต่อย่างใด

‘แล้วไง?’

‘ร้องขอความช่วยเหลือเท่านั้นหรือ?’

พวกเขาไม่ทำอะไรเลย ที่ทำก็เพียงแต่พูดคุยร้องขอเท่านั้นเอง

มันเป็นเรื่องปกติของพวกเขาไป ว่าการจะฝากชะตากรรมของโลกนั้นควรตกอยู่ในมือของผู้กล้า

เอ็นพีซีจะเคลื่อนไหวได้เท่าที่จำกัด พวกมันไม่ใช่ปัญญาประดิษฐ์ แทนที่มันจะเป็นความปรารถนาของตัวเอ็นพีซีเอง แต่ที่จริงมันคือสูตรที่มีการใช้ระบบประมวลผลคำนวนออกมาจนแสดงผลอย่างตายตัว

ทว่า นิวเวิลด์เป็นเกมอันสมบูรณ์แบบแห่งอนาคต เป็นเกมที่มีทางเลือกอันหลากหลายและมอบอิสระภาพให้ผู้เล่นอย่างถึงที่สุด เช่นกัน มันยังมอบอิสระภาพและทางเลือกอันไร้ขีดจำกัดให้กับเอ็นพีซีด้วย

แน่นอน แม้ว่าจะไม่มีผู้เล่น เอ็นพีซีก็ยังคงมีความคิดเพื่อตนเองและสามารถกระทำอันใดก็ได้อย่างอิสระ มันก็เหมือนตอนที่ท่านลอร์ดแห่งแจ็คสันมอบสิทธิพิเศษให้กับเหล่าอดีตนักโทษเพราะคำแนะนำของอาร์คนั่นแหละ

‘นี่ก็เป็นกุญแจที่จะไขภารกิจนี้ให้ออก!’

ถ้าหากโลกบาดาลถูกทำลายไป งั้นมันก็จะเป็นผลแย่กับอาร์คด้วยเช่นกัน เขาจะต้องสูญเสียหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ในที่แห่งนี้ไป อีกทั้งยังต้องเสียหนทางในการแก้ภารกิจไปด้วยเช่นเดียวกัน

ทว่าอย่างไรแล้ว อาร์คก็คือผู้เล่น

มันมีความเป็นไปได้ที่จะมีทางรอดอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับชาวแรคคูน ชาวแรคคูนต่างมองเกมนี้คือโลกความเป็นจริง ความเป็นและความตายของพวกเขาล้วนขึ้นอยู่กับโลกบาดาล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาต้องคิดสู้ขึ้นมา

‘ถ้าหากเราเพียงลำพัง คงไม่อาจรับมืออิกดราซิลได้ แต่ถ้าหากมันเป็นไปได้ นั่นก็คือเราต้องร่วมมือกับชาวแรคคูนต่อสู้ไปด้วยกัน’

อาร์คจึงคิดข้อสรุปเช่นนี้ออกมา

เขาได้รับการยืนยันเรื่องพวกนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ที่พวกผู้เล่นร่วมต่อสู้กับเอ็นพีซีครั้งศึกแห่งแจ๊คสัน

‘ใช่ เพราะงั้นแล้ว นี่ย่อมเป็นหนทางเดียว’

อาร์คเริ่มสำรวจสภาพบรรยากาศขณะเริ่มเปิดปากเอ่ยขึ้นมา

“กล่าวตามตรง ผมเห็นด้วยกับโปโป้”

“ว่าอะไร?”

“ผมได้รับฟังสิ่งที่โปโป้พูดแล้ว หมู่บ้านแห่งอื่นในโลกบาดาลต่างได้รับการโจมตีและถูกกวาดล้างไป อีกทั้งกระทั่งว่าโลกเบื้องล่างนี้จะกว้างใหญ่ แต่มันก็มีขีดจำกัด ไม่ว่าพวกท่านจะซ่อนตัวได้ดีเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วการถูกพบตัวย่อมต้องเกิดขึ้นในสักวัน และพวกท่านก็จะพบเจอกับเรื่องราวดังเช่นที่โปโป้พูดไว้”

“พวกเรารู้ แต่พวกเราก็รู้ด้วยว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”

เหล่าผู้อาวุโสต่างเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ตั้งแต่ที่พวกเราถือกำเนิดขึ้นมา พวกเราก็ไม่ใช่สายพันธุ์ที่กระทำการต่อสู้ได้ดีนัก เจ้ารู้หรือไม่เหตุใดพวกเราจึงอาศัยอยู่ในโลกใต้พิภพ? นั่นก็เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง พวกเราเป็นเพียงแค่เผ่าพันธุ์ที่รู้แต่การสร้างวัตถุเท่านั้น”

“แต่ว่า...”

“พอแล้ว ข้าไม่คิดพูดถึงปัญหานี้อีก”

ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่อาร์คพยายามพูดกล่าว แต่แล้วพวกผู้อาวุโสเหล่านี้ต่างก็ไม่คิดรับฟัง

อย่างไรแล้วอาร์คก็เพียงเพิ่งเข้ามาเยือนหมู่บ้านชาวแรคคูน นอกจากนี้ ระหว่างพวกเขายังคงมีความขัดแย้งกันจนกระทั่งถึงเมื่อครู่ โชคยังดีที่ความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขจนความสัมพันธ์ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไปแล้ว ทว่า ค่าความสัมพันธ์ก็ยังนับได้ว่าน้อยนิด

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกลี้ยกล่อมให้ชาวแรคคูนลุกขึ้นสู้โดยใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำ อีกทั้งมันยังเสี่ยงที่จะทำให้ค่าความสัมพันธ์ลดต่ำลงอีก

‘ถอนตัวก่อนแล้วค่อยหาวิธีอื่นแล้วกัน’

“พี่ชาย...”

โปโป้เข้ามาหาขณะที่เขาออกมาจากศาลากลาง

อีกฝ่ายจึงเผยท่าทีเป็นการสื่อให้ออกไปจากตรงนี้ก่อน

“เห็นแล้วใช่ไหม? เหมือนที่ข้าพูดหรือไม่? พวกผู้ใหญ่ล้วนขลาดเขลา พวกเขาเอาแต่หาข้อแก้ตัว ท้ายที่สุดแล้วก็ไร้ซึ่งความหาญกล้าที่จะสู้ต่อมอนสเตอร์ ไม่เหมือนกับพวกคนต่างถิ่น แต่พี่ชายอาร์คย่อมแตกต่างจริงไหม? ผู้ค้นหาความจริงคือหนึ่งในผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งผู้กล้ามาบัน พี่ชายจะต่อกรกับพวกมอนสเตอร์ใช่หรือไม่?”

น้ำตาเริ่มหลั่งออกขณะที่โปโป้พูดกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทิ้ม

อาร์คมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจขณะที่โปโป้ปาดเช็ดน้ำตาออกด้วยแขนเสื้อและกล่าวขึ้น

“พวกเขาล้วนจากไปแล้ว ทั้งพ่อและแม่ของข้า... ทุกสิ่งอย่าง... ข้า... ไม่อาจจดจำอะไรพวกเขาได้อีก... ข้ารู้ หมู่บ้านแห่งนั้นที่ข้าเคยอาศัยคือที่แรกที่โดนเข้าโจมตี ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าทั้งพ่อและแม่ของข้าต้องเสียชีวิตกันไปแล้ว หรือไม่ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นคังกิล แต่ข้าจะไม่ขอตายเช่นนั้น ข้าจะหาทางจัดการกับสิ่งที่ปนเปื้อนเข้ามาและฟื้นฟูหมู่บ้านของข้ากลับคืน พี่ชาย... จะช่วยข้าใช่ไหม?”

ความเจ็บปวดพลันเริ่มสุมอยู่ภายในอกของอาร์ค

เขาถึงกับลืมเลือนไป

โปโป้เพิ่งเสียครอบครัวไปเมื่อสิบวันก่อน

เหตุใดเขาจึงไม่ตระหนักถึง? เอ็นพีซีต่างก็มีชีวิตเหมือนกัน

อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่อาร์คคิด ไม่ใช่ว่าเขาก็เป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของการที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปหรือไร?

อาร์คก็เคยเป็นเช่นนี้ ตอนที่เขาสูญเสียพ่อไป อีกทั้งแม่ยังต้องเข้ารับการรักษาตัว อาร์คไม่ได้ร้องไห้ออกมา เขาถึงกับบิดเบือนความเศร้าโศกและไปลงกับการเที่ยวเตร่กลางค่ำกลางคืน เขาโศกเศร้า เขารู้สึกเสียใจ มันเป็นความเศร้าโศกที่เกินกว่าจะแสดงความเศร้าโศกออกมา

อาร์คคุกเข่าลงเคียงข้างโปโป้ขณะเริ่มลูบหัวอีกฝ่าย

“ใช่ ฉันจะช่วย ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม แต่มันไม่อาจเป็นไปได้ด้วยกำลังของฉันเพียงคนเดียว นายก็คงรู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”

โปโป้กล้ำกลืนน้ำตาขณะพยักหน้าให้

“เพราะงั้น ฉันต้องเกลี้ยกล่อมชาวแรคคูนก่อน พวกผู้ใหญ่จะได้เข้าใจหากฉันได้พูดคุยด้วยทีละน้อย ถ้าหากมันไม่อาจเป็นไปได้... งั้นนายกับฉันก็คงต้องร่วมมือกันหาหนทาง เพราะงั้นตอนนี้ขอให้เชื่อใจฉันเข้าไว้นะ”

“ขอบคุณครับพี่ชาย”

อาร์คหัวเราะเสียงเบาขณะตบไหล่โปโป้

เขารู้สึกคล้ายได้น้องชายมาคนหนึ่ง

* * *

 

‘ถึงจะพูดแบบนั้นไปก็จริง...’

เมื่ออาร์คช่วยให้โปโป้สงบใจลงได้ พวกเขาจึงเริ่มคิดหาหนทางเพื่อเพิ่มแนวร่วม

เขาพูดกับโปโป้คล้ายง่ายก็จริง แต่ที่จริงแล้วเขาคิดว่านี่มันไร้ความหวังสิ้นดี

ชาวแรคคูนแตกต่างจากสัตว์อสูรสายพันธุ์อื่นที่เขาเคยพบเจอมา อย่างโดยพื้นฐานแล้ว ทั้งชาวเหมียวและชาวเงือกต่างก็เป็นนักรบโดยกำเนิด

หากเป็นสถานการณ์เดียวกันนี้ กระทั่งว่าอาร์คพยายามคิดหยุดชาวเหมียวหรือชาวเงือก พวกเขาก็คงเตรียมชักธงสู้รบอยู่ดี

แต่ว่า ชาวแรคคูนเป็นผู้สร้างที่หวาดกลัวการต่อสู้

‘สิ่งสำคัญที่สุดที่จะเกลี้ยกล่อมพวกเขาคือต้องยกระดับค่าความสัมพันธ์...’

ปัญหาอยู่ที่จะยกระดับค่าความสัมพันธ์อย่างไร

ครั้งก่อนนั้น ชาวเงือกเป็นอะไรที่สุดขั้วเพราะพวกเขาตัดขาดจากโลกภายนอก และหนทางที่เขาใช้คือการขายไอเทมจากภายนอกให้พวกเขาเหล่านั้น นั่นจึงทำให้ค่าความสัมพันธ์ของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่า กระทั่งว่าชาวแรคคูนจะตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นกัน แต่พวกเขาก็ยังคงมีเส้นทางลับออกไปแลกเปลี่ยนกับมนุษย์ที่โลกภายนอก นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่สนใจพวกสิ่งของไร้ค่า

เขายังเคยใช้การทำอาหารเพื่ออยู่รอดกับชาวเงือกเช่นเดียวกัน

รสชาติของอาหารน่าจะเป็นอะไรที่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่เหมือนกับชาวเงือกเสียทีเดียว ชาวแรคคูนรู้วิธีการใช้ไฟและคงไม่ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องพวกนี้

เมื่อพวกเขาได้ลองกินสักครั้งหรือสองครั้ง ท้ายที่สุดพวกเขาย่อมต้องเบื่อหน่าย

อีกทางที่จะยกระดับความสัมพันธ์ได้คือต้องทำภารกิจเล็กน้อยสะสมไป แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับภารกิจจำนวนมากจากชาวแรคคูนเพราะสถานการณ์ในตอนนี้

‘แล้วยังมีวิธีอะไรอีกกันที่จะช่วยเพิ่มระดับความสัมพันธ์ให้เราได้...’

ฉับพลันนั้นเอง ความคิดอันปราดเปรื่องอย่างหนึ่งพลันผุดขึ้นในหัวของเขา

‘มีแค่นั้น? อาหารล่ะ? อาหาร... บางที... ไม่สิ นี่คงเป็นทางเดียว เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลองแล้ว ไม่ว่ามันจะออกหัวหรือก้อยก็ตาม’

อย่างรวดเร็ว อาร์คนำเอาหม้อและวัตถุดิบออกมา

เขาเริ่มผสมผสานวัตถุดิบทำอาหารจานใหม่ขึ้นมา ก็เหมือนทุกครั้ง อาหารจานใหม่กว่าจะสำเร็จได้ก็ต้องผ่านการล้มเหลวนับสิบครั้ง เมื่อทำสำเร็จออกมาจานหนึ่ง อาร์คจึงเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋าโดยทันทีและเริ่มทำจานใหม่ขึ้น

เขาใช้เวลาทั้งวันง่วนอยู่กับการทำอาหาร

แม้ว่าจะผิดพลาดมาหลายสิบครั้ง มือของเขาก็ยังคงผสมผสานวัตถุดิบใหม่อยู่เรื่อยไป ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นภายในแก้วหูของเขา

ครึง ครืน!

อาร์คที่แทบหลับไปพลันผงกหัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในหม้อตอนนี้ มันมีของเหลวสีดำที่กำลังผุดฟองออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“อะไร? อะไรกัน? ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”

ซื่อ ซื่อ ซื่อ!

ลิ้นของเจ้างูเริ่มพลิกไปมาขณะเลียที่พื้น

“หือ? อย่าบอกนะว่าเราเพิ่งเผลอใส่อะไรลงหม้อไป...?”

อย่างรวดเร็ว อาร์คพลันตื่นตัวขณะหันศีรษะไปมอง

ด้านข้างเขาที่เคยมีกองวัตถุดิบและสิ่งของอยู่อย่างยุ่งเหยิง เขาเพิ่งใช้วัตถุดิบไปมากเพื่อทำอาหาร แต่แล้ว... เขาที่คิดว่ามีเพียงแต่วัตถุดิบ มันกลับมีสิ่งของจำนวนหนึ่งกองรวมอยู่ด้วย อีกทั้งเขายังเผลอหลับใน ในช่วงที่คล้ายฝันไปนั้นเอง เขาถึงกับเผลอนำเอาสิ่งของจำนวนหนึ่งใส่เข้าไปในหม้อ

“อะไรเนี่ย? นี่เราใส่บ้าอะไรลงไป?”

อาร์คเร่งร้อนและแตกตื่นขณะตรวจสอบรายการสิ่งของ

อาวุธทั้งห้าชิ้นยังอยู่... ชุดเกราะก็อยู่... สิ่งของอื่นก็อยู่ตามจำนวนที่คาดคิดเอาไว้... แล้วเขาใส่อะไรลงไป? ‘หือ? เหมือนจะนึกขึ้นมาได้... อย่าบอกนะว่า...?’

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด