เล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (2) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.
วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน
วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป
==========
เล่ม 5 ตอนที่ 2 : ครอบงำชาวแรคคูน (2)
ชายคนที่ขโมยเอาลูกปัดดวงใจวิญญาณไปจากสมาคมเวทมนตร์แห่งกิรัน ย่อมไม่ต้องสงสัยเลยว่าสมควรเป็นผู้ชายสีแดงคนนั้น หรือก็คือ ชายสีแดงคนดังกล่าวมีเป้าหมายที่ต้องการนำมันไป ทว่าไม่ใช่ไคโร้ท แต่กลับเป็นโลกบาดาลต่างหาก
ชานเนนได้กล่าวเตือนเอาไว้แล้วว่าลูกปัดดวงใจวิญญาณมีพลังที่ไม่ธรรมดาจนอาจก่อเกิดหายนะขึ้นมาได้ ในตอนนี้ ความจริงที่ว่าอาร์คพบเจอมอนสเตอร์ที่มีระดับเลเวลไม่ปกติย่อมสมควรเป็นเพราะเรื่องนี้
และอาร์คก็ได้รับการยืนยันว่าความคิดของตนถูกต้องผ่านทางหน้าต่างข้อมูลภารกิจ
=====
ภารกิจมีความคืบหน้า
ค้นหาลูกปัดดวงใจวิญญาณ 2 > ค้นหาลูกปัดดวงใจวิญญาณ 3
ท่านได้รับทราบถึงร่องรอยของชายสีแดงว่ามายังโลกบาดาล อีกทั้งท่านยังได้รับเบาะแสถึงชายสีแดงจากผู้ที่อยู่อาศัยในโลกบาดาล
ไม่ช้าหลังจากชายสีแดงมายังโลกบาดาล ผู้อุปถัมภ์โลกนี้อย่างอิกดราซิลกลับกลายเป็นบ้าคลั่ง โลกบาดาลที่ครั้งหนึ่งเคยสงบสุขกลับต้องมีอันตรายบังเกิดขึ้นและมีพวกมอนสเตอร์อยู่เต็มไปหมด เรื่องราวในครั้งนี้จึงทำให้ประชากรชาวโลกบาดาลทุกคนต่างต้องเจ็บปวด
โดยปราศจากซึ่งความสงสัยใด เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับชายสีแดงที่นำเอาลูกปัดดวงใจวิญญาณมายังที่แห่งนี้ ท่านต้องรวบรวมเบาะแสทั้งหมดและออกค้นหาลูกปัดดวงใจวิญญาณให้ได้
ระดับความยาก : C+
=====
กรามของอาร์คแทบหล่นลงมาหลังได้ตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลดังกล่าว
พอรวบรวมเบาะแสทั้งหมดของลูกปัดดวงใจวิญญาณเข้าไว้ด้วยกันแล้ว ทั้งหมดดูเหมือนจะนำพาไปสู่อิกดราซิล แถมอิกดราซิลยังเป็นผู้ก่อความผิดพลาดจนทำให้โลกบาดาลเกิดความเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบให้ชาวแรคคูนกลับกลายเป็นมอนสเตอร์ แน่นอน พวกมันก็คือพวกคังกิลเลเวล 150 และโกเลมพฤกษาพวกนั้นที่เลเวลสูงถึง 250 พวกมันต่างมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
ด้วยพลังของอาร์คในตอนนี้ เขาไม่มีทางเข้าถึงอิกดราซิลได้หากยังมีพวกมันอยู่
แถมระดับความยากยังเป็น C+! ระดับความยากขนาดนี้ มันทัดเทียมได้กับภารกิจอีเวนท์ที่เป็นระดับ C++ เลยทีเดียว นี่หมายความว่ามันเป็นภารกิจระดับสูงที่สุดเท่าที่อาร์คเคยได้รับมา
กระทั่งว่าเขาสามารถโจมตีพวกมันได้ เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าถ้าระดับความยากเท่านี้เขาจะสามารถทำมันได้หรือไม่
‘แถมนอกจากภารกิจนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องไปหาหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์อีก’
เขาไม่คิดเลย ว่าชาวแรคคูนจะมีพันธสัญญาที่มีต่อผู้กล้ามาบัน ว่าเมื่อใดที่ผู้ค้นหาความจริงมาเยือน พวกเขาจะต้องคุ้มกันอีกฝ่ายไปยังอิกดราซิลเพื่อเข้ารับการทดสอบ
นี่คล้ายกับว่าการทดสอบของอิกดราซิลนั้น มีไว้ก็เพื่อมอบชิ้นส่วนของสามสิ่งมหัศจรรย์ให้กับผู้ค้นหาความจริง ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้ว หนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ที่อยู่ในโลกเบื้องล่างนี้สมควรต้องมาอยู่ในมือของเขาด้วยซ้ำ
‘บ้าจริง นอกจากเราแล้วยังมีชายสีแดงคนนั้นด้วยงั้นเหรอ?’
อาร์คเริ่มมีโทสะขึ้นมาบ้างแล้ว
หากไม่มีไอ้หมอนั่น อาร์คคงได้พบเจอเรื่องราวที่ง่ายดายจนได้รับหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์มาไว้ในมือแล้ว ทว่า เป็นเพราะอีกฝ่ายใช้งานลูกปัดดวงใจวิญญาณ จนส่งผลให้ระดับความยากมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีอีกฝ่ายเขาก็คงยังไม่พบเจอโลกบาดาลเช่นเดียวกัน...
‘จะยังไงก็ตาม ด้วยภารกิจระดับนี้เราไม่อาจทำสำเร็จได้แน่’
อาร์คถอนหายใจก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้ว่ามีอีกเรื่องที่ต้องถาม
“นายบอกว่าเคยค้าขายกับชาวมนุษย์ใช่ไหม? ถ้าแบบนั้น ก็หมายความว่าพวกนายออกไปโลกภายนอกได้? ในเมื่อสถานที่แห่งนี้มันอันตราย ทำไมพวกนายถึงไม่หนีไปยังโลกภายนอกหรือขอร้องให้มนุษย์ช่วยเหลือกันล่ะ?”
“เส้นทางเดียวที่จะออกไปโลกภายนอกได้นั้นอยู่ภายในอิกดราซิล”
คำตอบของโปโป้ยิ่งทำให้อาร์คหมดหวัง
ในตอนแรกเมื่อเขาได้ทราบว่ามันสามารถไปยังโลกบาดาลได้ เขาจึงคาดหวังว่าจะสามารถออกไปยังโลกภายนอกเช่นเดิมได้ อาร์คจึงคิดว่าจะออกไปยังโลกภายนอกก่อนเพื่อยกระดับเลเวลแล้วค่อยกลับมายังสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง
แต่แล้ว ในเมื่อเส้นทางเดียวที่จะใช้ออกไปนั้นอยู่ที่อิกดราซิล นั่นก็หมายความว่าเขาไม่อาจหลีกหนีสถานการณ์นี้พ้นหรอกหรือไร?
“พวกผู้ใหญ่น่ะขี้ขลาด!”
อย่างกะทันหัน โปโป้พลันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“หมู่บ้านแห่งอื่นก็โดนอิกดราซิลกลืนกินไปเช่นเดียวกัน รวมทั้งญาติพี่น้องนับพันของพวกเราด้วย หมู่บ้านชาวแรคคูนที่ข้าอาศัยอยู่แต่เดิมก็โดนทิ้งร้างไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงสถานที่แห่งนี้เพียงที่เดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ นอกจากนี้ พวกผู้ใหญ่ยังหมดแล้วซึ่งความคิดต่อสู้ พวกเขาต่างปิดกั้นหนทางที่จะเข้ามาทุกเส้นทาง แต่ข้าได้ลอบขุดอุโมงค์เส้นทางลับออกไป ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ท้ายที่สุดพวกมันก็ต้องมาถึงที่นี่!”
หมู่บ้านที่โปโป้เคยอาศัยอยู่นั้นนับว่าอยู่ใกล้กับอิกดราซิลมาก เป็นเพราะมันอยู่ห่างจากอิกดราซิลไม่มากเนี่ยแหละ จึงทำให้โปโป้เป็นแรคคูนเพียงตัวเดียวที่รอดมาได้
“แต่ข้าน่ะแตกต่างจากพวกผู้ใหญ่ แม้จะต้องเหลือเพียงตัวคนเดียวข้าก็คิดจะสู้ แล้วพี่ชายล่ะ? เป็นเพราะพี่ชายน่ะดูแล้วแตกต่างจากพวกผู้ใหญ่ซึ่งขาดเขลาในที่แห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นคนต่างแดนผู้หาญกล้า! พี่ชายจะสู้ร่วมกับข้าใช่หรือไม่? เหมือนดังเช่นตอนที่พี่ชายสู้กับพวกคังกิลก่อนหน้านี้น่ะ”
อาร์คเริ่มตระหนักได้ว่าทำไมโปโป้ถึงเผยความประทับใจต่อตัวเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเจอกัน
“แน่นอนว่าฉันต้องต่อสู้ แต่ว่า...”
อาร์คเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายนึกคำตอบ
ความตื่นเต้นของโปโป้เผยขึ้นขณะที่ชาวแรคคูนด้านหลังเริ่มมุงกัน
ชาวแรคคูนคนหนึ่งคล้ายชะงักงันไปขณะกุมหน้าอกตัวเองเอาไว้
“หือ? เกิดอะไรขึ้นกัน? ลุงเป็นอะไรไป?”
“อึก อั่ก อว๊ากกก!”
โปโป้จ้องมองด้วยความตื่นตกใจขณะที่ร่างของชาวแรคคูนคนนั้นเริ่มกระตุก ผ่านไปไม่นาน เถาวัลย์เริ่มปรากฏขึ้นจากร่างดังกล่าวขณะปกคลุมร่างนั้นเอาไว้
“คังกิล!”
โดยทันที ชาวแรคคูนคนนั้นถึงกับแปรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นมอนสเตอร์
ชาวแรคคูนที่รวมตัวกันอยู่ในตลาดแห่งนี้ถึงกับเริ่มกรีดร้องขณะวิ่งหนีไปทั่วทุกทิศทาง โปโป้เองก็เริ่มชักเท้ากลับพร้อมกรีดร้อง ทว่า เถาวัลย์นับสิบของคังกิลกลับพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วพร้อมกับยกร่างของโปโป้ขึ้น
“พี่ชาย!”
“บัดซบ!”
อาร์คชักดาบของตนออก
ตู้ม อาร์คพลันเหวี่ยงดาบด้วยความรวดเร็วเข้ารัดพันเถาวัลย์ จากนั้นอาร์คจึงกลับกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของคังกิลไปเสียแทน
เถาวัลย์เริ่มหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรวดเร็ว อาร์คพลันหมุนร่างขณะเริ่มโรมรันลูกเตะออกไปสร้างความเสียหายให้กับเถาวัลย์เหล่านั้น
“กรร คุกก้า นามุมรู!”
คังกิลติดสถานะมึนงงขณะล่าถอย
คังกิลเป็นมอนสเตอร์เลเวล 150 แต่อย่างไรแล้วมันก็เป็นศัตรูเพียงแค่ตัวเดียว
นอกจากนี้ แถวนี้ยังไม่มีจิ้งหรีดและอาวุธใดให้มันใช้งานเสริมได้ ไม่เหมือนกับเถาวัลย์ที่ออกมาจากโกเลมพฤกษา ความเร็วและพลังการโจมตีของคังกิลตัวนี้ไม่อาจเทียบกับก่อนหน้านี้ได้
‘ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ยากเท่าไหร่!’
อาร์คเริ่มสร้างความเสียหายให้กับเถาวัลย์เหล่านี้ด้วยการใช้งานคมดาบแห่งความมืด จากนั้นจึงค่อยวิ่งพุ่งเข้าไปเตะใส่มัน ผ่านไปห้านาที คังกิลเข้าสู่สภาวะวิกฤตและเริ่มคิดล่าถอย ทว่า การเคลื่อนไหวของอาร์คกลับเร็วเกินกว่ามันจะทันหนีได้พ้น
“อย่าหวัง!”
อาร์ควิ่งและกระโจนตัวเข้าใส่
จากนั้นเขาจึงเตะออกด้วยการเตะสีข้างถึงสองครั้งครา! การโจมตีเข้าใส่ด้านหลังศีรษะของมันด้วยเท้าของเขาจึงทำให้คังกิลล้มลงกับพื้น ขณะเดียวกันนั้นเอง อาร์คเริ่มกวัดแกว่งดาบออกอีกครั้งเพื่อโรมรันดับเบิลคริติคอลเข้าใส่ จนท้ายที่สุด พลังชีวิตของคังกิลจึงหมดสิ้นไป
“วะ-วิเศษ!”
“เขาถึงกับล้มคังกิลได้ด้วยตัวคนเดียว!”
หลังจากที่จัดการคังกิลได้ ชาวแรคคูนจึงเข้ามารวมตัวกันขณะกล่าวชมอาร์คที่เผยฝีมืออันน่าทึ่งออกมาอย่างไม่หยุดปาก ทว่า ชาวแรคคูนกลับต้องถอยกลับอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนก
“คนต่างถิ่น!”
“คนต่างถิ่นเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
ขณะที่เสียงร้องตะโกนดังขึ้น ตัวตนของอาร์คจึงถูกเปิดเผยออกมา
เป็นเพราะการต่อสู้กับคังกิลจึงทำให้เสื้อคลุมของเขาที่โปโป้ให้สวมใส่เอาไว้ฉีกขาดออก
อาร์คที่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงจึงเผยสีหน้าเขินอายออกมาขณะที่โดนกลุ่มชาวแรคคูนที่สวมใส่เกราะหนังรุมล้อมเอาไว้
พวกเขากำลังมองไปมาระหว่างคังกิลและอาร์คด้วยดวงตาที่เผยออกซึ่งความประหลาดใจ
“นั่น...”
โดยไม่พูดกล่าวอันใด ทหารชาวแรคคูนพลันเงื้อหอกของพวกเขาขึ้น
“อย่าขยับ! เจ้าอยู่ภายใต้การจับกุม!”
* * *
“บ้าไปแล้ว เรื่องอะไรมาจับผมกัน!”
“อย่าขยับ!”
“พี่ชายทำเรื่องอะไรผิดกัน?”
โปโป้เริ่มเข้ามาขณะพูดกล่าวขึ้น
ขณะนั้นเอง แรคคูนชราคนหนึ่งที่อยู่อีกด้านพลันตะโกนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว
“เงียบ!”
โปโป้ถึงกับต้องหลบสายตา
‘แรคคูนชรานั่นสมควรเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน’
อาร์คเริ่มมอบรอบด้านอย่างเงียบงัน
อาร์คและโปโป้โดนทหารชาวแรคคูนลากตัวออกจากตลาดไปยังถ้ำขนาดใหญ่
ที่แห่งนี้ดูไปแล้วคล้ายศาลากลาง ภายในถ้ำแห่งนี้มีผู้อาวุโสชาวแรคคูนกว่าสิบคนรวมตัวกันอยู่ ในหมู่พวกเขา แรคคูนที่ชราภาพที่สุดกำลังจับจ้องโปโป้ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
“ข้าเน้นย้ำแล้วว่าเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปภายนอก... ไม่เพียงแค่เจ้าผิดคำสัญญาต่อข้า แต่นี่เจ้าถึงกับพามนุษย์กลับมาด้วย? นี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำอะไรลงไป? เมืองแห่งนี้ถึงกับตกอยู่ในอันตรายเพราะเจ้า!”
“ไม่ใช่!”
“นี่เจ้ายังไม่เข้าใจ? เหตุใดสุบารูทาร์ปถึงเกิดความเปลี่ยนแปลง? มันเป็นเพราะเชื่อใจมนุษย์ยังไงล่ะ มนุษย์คือตัวตนที่นำพาหายนะมาสู่เรา! มนุษย์ผู้นี้เองก็จะเป็นเช่นเดียวกัน!”
“พี่ชายอาร์คไม่เหมือนหมอนั่น เขาจัดการคังกิลได้!”
“โง่งม! เขาย่อมต้องเป็นสหายของผู้ค้นหาความจริงที่ทรยศพวกเราเป็นแน่ เจ้าเชื่อใจทุกสิ่งอย่างที่ชายคนนี้พูดได้อย่างไรกัน? กว่าร้อยปีที่เงียบหาย แต่แล้วพวกเขากลับมายังสถานที่แห่งนี้ แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่ามีจุดประสงค์อื่น ทุกท่าน โปรดกักขังโปโป้และชาวมนุษย์ผู้นี้โดยทันทีเพื่อรอคอยการลงทัณฑ์!”
“ใช่ พวกเขาต้องถูกลงโทษ!”
ชาวแรคคูนคนอื่นถึงกับเริ่มตะโกนออกขณะที่หางเริ่มตวัดใส่พื้นดินอย่างแรง
“ชายคนนั้นไม่ใช่ผู้ค้นหาความจริง!”
เป็นอาร์คที่เอ่ยปากพูดกล่าวออกมา
ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสจึงเริ่มเบิกออกกว้าง
“ว่าอะไร? เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไร?”
“ผมจะพูดอีกครั้ง ชายผมแดงคนนั้นไม่ใช่ผู้ค้นหาความจริง! เขาหลอกพวกท่านทุกคน!”
“เจ้ารู้ได้ยังไง...”
“แล้วพวกท่านรับรู้ถึงผู้ค้นหาความจริงผ่านอะไร?”
อาร์คกล่าวขัดเหล่าผู้อาวุโสขึ้นมา
“เพื่อจะเป็นผู้ค้นหาความจริง สิ่งแรกนั้นคือต้องจัดการหนูหมีสีดำและได้รับรู้เรื่องราวจากชาวเหมียว ผู้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดเผ่าพันธุ์ของผู้กล้ามาบัน ทว่า ในอดีตกว่าร้อยปีที่ผ่านมานี้ มีเพียงคนผู้เดียวที่ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ค้นหาความจริงโดยชาวเหมียว และ แน่นอนว่าผู้ค้นหาความจริงย่อมต้องไม่ใช่ชายผมแดงคนนั้น”
“เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?”
“แน่นอนว่าผมต้องรู้ ในช่วงกว่าร้อยปีมานี้ ผมเป็นผู้ค้นหาความจริงแต่เพียงผู้เดียวที่ชาวเหมียวให้การยอมรับ”
“วะ-ว่าอะไรนะ!”
เหล่าผู้อาวุโสถึงกับโพล่งออกขณะเผยสีหน้าตื่นตะลึง
“พะ-พี่ชาย?”
โปโป้ที่ไม่อาจเชื่อถึงกับมองอาร์คอย่างโง่งม ซึ่งก็ไม่ใช่เขาเพียงผู้เดียว ชาวแรคคูนอื่นที่รวมตัวกันอยู่ในศาลากลางแห่งนี้ต่างก็มองหน้ากันขณะเริ่มพึมพำออกมา ทว่า ดูเหมือนเหล่าผู้อาวุโสจะไม่เชื่อขณะเริ่มส่ายศีรษะ
“นั่นไม่จริง! กระทั่งว่าเขาไม่ใช่ผู้ค้นหาความจริง เจ้าก็ต้องโกหกเช่นเดียวกัน พวกเราจะเชื่อมั่นจากอะไร? ไหนคือหลักฐานที่เจ้าคือผู้ค้นหาความจริงกัน?”
“นี่คือหลักฐาน พวกท่านผู้อาวุโสสมควรรู้จักกระมัง?”
อาร์คนำเอาเศษศิลาชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
เหล่าผู้อาวุโสต่างหรี่ตาเล็กขณะเริ่มนั่งลงจ้องมองศิลาชิ้นดังกล่าว
“ชะ-ชิ้นส่วนดวงดาว!”
ใช่ อาร์คคือผู้ที่ค้นพบหนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์จากโลกใต้สมุทร มันก็คือชิ้นส่วนดวงดาว
นับว่ามันคือวัตถุที่ไม่อาจเป็นไปได้ที่จะตกอยู่ในมือของเขาในสายตาชาวแรคคูน