ตอนที่แล้วเล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (3) [อ่านฟรี]

เล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (2) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (2)

 

ห้องที่คราเค่นอยู่นี้มีด้านหนึ่งซึ่งมีประตูโลหะขนาดใหญ่ขวางกั้นเอาไว้

ประชากรชาวโลกบาดาลต่างสลักถ้อยคำของตนเอาไว้บนประตูโลหะนั่น

ทว่า คันโยกที่ใช้สำหรับเปิดประตูกลับผุพังไป แต่แล้ว เมื่ออาร์คล้มคราเค่นได้ เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าจะเปิดประตูอย่างไรดี

“เจ้างู ขอกาวข้นเหนียวหน่อย!”

เมื่ออาร์คออกคำสั่ง เจ้างูพึงเปิดปากพ่นเอาบางสิ่งออกมา

มันเป็นถังแก๊สที่มีสไลม์สีเขียวกำลังสั่นไหวอยู่ภายในสายยางที่โปร่งใส หลังคราเค่นหายไปแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้างูพบจากกองกระดูกและไอเทม

 

=====

กาวเชื่อมร่างวิญญาณ (พิเศษ)

มันเป็นกาวที่ถูกสร้างขึ้นจากสารข้นเหนียวที่เหมาะจะยึดติดวิญญาณให้อยู่กับร่างได้

นานมาแล้ว ร่างศพจำนวนมากได้ถูกทิ้งลงมาในหลุมนรก วิญญาณของผู้ตายส่วนใหญ่ต่างเข้ามายังวงกตและถูกจับเอาไว้โดยวิญญาณชั่วร้าย เมื่อมันผสมรวมเข้าด้วยกันจึงเกิดขึ้นเป็นสารข้นเหนียวนี้ออกมา อำนาจการยึดติดของมันนับได้ว่าทรงพลังยิ่ง เช่นกัน เมื่อกาวข้นเหนียวนี้สัมผัสกับร่างกายเข้า ท่านจะไม่อาจหนีจากมันได้พ้น

สารข้นเหนียวนี้มีความเหนียวขนาดที่ว่าสามารถยึดวัตถุขนาดใหญ่เอาไว้ได้ และหากมันกระจายออกอาจทำให้สภาพแวดล้อมเสียหาย และมันเป็นผลผลิตจากการที่คราเค่นเน่าเปื่อยไป ทว่า ตอนนี้นิวเคลียสของคราเค่นยังคงไม่หายไป จิตวิญญาณของผู้คนยังคงอยู่ในสภาพกาวข้นเหนียวนี้

เมื่อใช้งานกาวเหนียวข้น วัตถุใดก็ตามจะกลับกลายเป็นเหนียวยิ่ง มันสามารถยึดติดได้อย่างไม่มีขีดจำกัดทั้งขนาดและความยาว รวมถึงยึดติดวิญญาณกับร่างด้วย นอกจากนี้ เมื่อวัตถุติดเข้าด้วยกันแล้ว มันจะไม่มีวันร่วงหล่นลงมาจนกว่าจะถูกทำลายทิ้งไป หากใช้มันในเรื่องล้อเล่นคงไม่ขำ! บางคนอาจต้องมีมือหรือเท้าติดกันไปชั่วชีวิตเลยก็เป็นได้

จำนวนครั้งที่ใช้งานได้ : 5 ครั้ง

=====

 

นี่คือส่วนผสมผสานของดวงวิญญาณที่ร่วงหล่นลงมาได้รวมตัวกันจนเกิดขึ้นเป็นกาวเช่นนี้

[ข้าเหงาและเปล่าเปลี่ยวยิ่ง ไม่มีอะไรให้ข้าเข้าไปยึดติดเลยหรือ?]

[มองหาอะไร? อยากเจอความเหนียวหรือไง?]

[ฮ่าฮ่า ข้าคือกาว ใส่ข้าลงไปในอะไรสักอย่างดูสิ!]

หลังลองเขย่าสายยางดู เสียงพวกนี้พลันดังขึ้นให้ได้ยิน

อาร์คมองไปยังสายยางดังกล่าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาด กระทั่งว่านี่มันเกมแฟนตาซี แต่ไอ้ของสิ่งนี้มันดูน่ากลัวราวหนังสยองขวัญก็ไม่ปาน...

นอกจากนี้ ถ้าหากเขย่าโดนมันแม้สักนิด มันจะพล่ามบ่นออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน นี่เป็นไอเทมที่สารบบความคิดตามปกติไม่อาจทำความเข้าใจ บางทีอาจต้องสับสนด้วยซ้ำว่าหัวเราะหรือกลัวมันดีด้วยซ้ำ

‘จะมีที่ไหนให้ใช้ไอ้ของประหลาดแบบนี้ได้กัน?’

ในตอนที่เขาตรวจสอบไอเทมในคราแรก เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเอามันออกมาใช้งาน แต่ก็อย่างว่า มันคือกาว ย่อมต้องมีที่ให้ได้ใช้งาน ทำไมครั้งนี้เขาถึงต้องได้ไอเทมประหลาดแบบนี้มาด้วยกันนะ

ผ่านไปพักหนึ่ง อาร์คจึงรีบร้อนมองหาสิ่งของ

ในกองกระดูกห้องนี้ต้องมีคันโยกที่หลุดออกมาแน่

‘อืม ถ้าหากเรายังไม่จัดการคราเค่น เราก็คงไม่มีเวลามาสบายใจหาของเพื่อเปิดประตูแบบนี้แน่’

อาร์คเดินไปคว้ากระดูกชิ้นหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเหมาะสมเอามาเป็นคันโยก มือเขาเริ่มคิดใช้สายยางก็พลันได้ยินเสียงพึมพำลอยออกมา

[อู้ว ข้างนอกแหละ ข้างนอก!]

[วิเศษ เหนียวเหนอะ! มาทำให้เหนียวเหนอะกัน!]

หลังใช้กระดูกต่างคันโยกแล้ว เขาจึงใช้กาวเหลวดังกล่าวเพื่อยึดติดพวกมันเข้าไว้ด้วยกัน

นับว่าดูมีประสิทธิภาพเอาเรื่อง เมื่อพวกมันติดเข้าด้วยกันแล้ว ทั้งกะโหลกและคันโยกต่างก็ดูเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างที่ควรจะเป็น กาวข้นเหนียวนี้นับว่าใช้งานได้ดี และมันจะดียิ่งขึ้นหากมันไม่ได้พล่ามบ่นอะไรออกมาอีก

‘เอาล่ะ ในที่สุด...’

อาร์คกำลังมองไปยังประตูโลหะอย่างว้าวุ่นใจ

ตอนนี้เหลือสิ่งที่ต้องทำเพียงแค่อย่างเดียวแล้ว!

เพียงแค่เปิดประตูโลหะบานนี้ออกก็จะสามารถไปยังโลกบาดาล มันเป็นโลกใบใหม่ที่ยังไม่มีผู้ใดเคยพบเห็น เช่นเดียวกับโลกใต้สมุทร!

เขากำลังวาดฝันว่าเบื้องหลังประตูบานนี้จะมีกองภูเขาสมบัติสุมกันอยู่ หรือไม่ก็เป็นมอนสเตอร์ในตำนาน อาร์คกำลังตรวจสอบสภาพอุปกรณ์สวมใส่ก่อนที่จะเริ่มใช้งานคันโยก

เขาเริ่มจัดแจงไอเทมในกระเป๋าตัวเองขณะซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่ที่ค่าความทนทานลดต่ำลง แต่สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เขาได้ตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลตัวละครของตนเอง

“หน้าต่างสถานะ”

 

=====

ชื่อตัวละคร : อาร์ค

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

แนวโน้ม : ความดี +200

ชื่อเสียง : 1695

เลเวล : 95

อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด

ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยาสรรพสิ่ง, วีรบุรุษแห่งแจ๊คสัน

พลังชีวิต : 1,925

พลังมานา : 1,520 (+100)

พลังจิตวิญญาณ : 100

พละกำลัง : 234 (+5)

ความคล่องตัว : 282 (+17)

ความอดทน : 362

สติปัญญา : 33

ความฉลาด : 272

โชค : 45

ความยืดหยุ่น : 27

ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 23

เสน่หา : 55 (+10)

ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 83

ผลจากอุปกรณ์สวมใส่

ชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก : ภูมิต้านทานธาตุน้ำ +100%, ข้อเสียของน้ำไร้ผล

อุ้งตีนแมว : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%

หมวกโกเลมคริสตัล : +100

รองเท้านอแรต : ความเร็วเคลื่อนที่ 10%, หลบหลีก +5%

สร้อยคอของอเดเลียน : พลังป้องกัน +40, เสน่หา +10

ปลุกวิญญาณ : พละกำลัง +5, ฟื้นฟูพลังมานา +5%

*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 30% ในความมืด

*ท่านได้รับความสามารถหลบซ่อนตัวตนในความมืด ระยะเวลาส่งผล 15 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสภาวะต่อสู้

*ภูมิต้านทานความกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%

*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงออกมาได้จากอุปกรณ์ทุกชนิด

=====

 

หลังจัดการคราเค่นไปได้ เลเวลจึงเพิ่มมาอีก 2 ระดับจนเป็น 95 แล้ว!

“ดีล่ะ!”

อาร์คสูดลมหายใจเข้าลึกขณะเริ่มดึงคันโยก

ครืนนนนน เสียงกลไกเริ่มดังขึ้นขณะประตูโลหะกำลังถูกดึงขึ้นไป

ขณะเดียวกันนั้น อาร์คถึงกับต้องอ้าปากเหวอ

“อะไรกัน? นี่มันโลกเบื้องล่างแน่เหรอเนี่ย?”

ภาพฉากอันแสนน่าทึ่งได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

* * *

 

สถานที่ที่อาร์คได้เข้ามาและพบเจอในตอนนี้คือบนยอดของภูเขาที่สูงอย่างถึงที่สุด

ภูเขา ใช่ มันคือภูเขา

ที่ไคโร้ท เขาได้ร่วงหล่นมากว่าพันเมตรก่อนที่จะกระทบถูกพื้น จากตรงนั้น เขาได้ลงมาใต้พื้นดินกว่าสิบเมตรเพื่อเข้าไปยังวงกตใต้ดิน จนกระทั่งได้พบกับประตูโลหะ... ไม่เพียงเท่านั้น มันกลับมีภูเขาที่สูงใหญ่อย่างมหาศาลขนาดนี้อยู่เบื้องล่างด้วย

“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”

อาร์คเริ่มมองสภาพรอบด้านด้วยความงงงัน

ที่เชิงเขา มันเป็นป่าที่หนาทึบและมีหุบเขาที่ทอดยาวออกไปไกลจนถึงสุดขอบฟ้า ในมุมมองเชิงกว้างแล้ว มันไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเทือกเขาแบรนท์เลยสักนิดเดียว

“หืม นี่เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า? กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า... หือ? ดวงดาวมันอยู่ใกล้ขนาดนี้เลย...?”

อาร์คมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความงงงันอีกครั้ง

ท้องฟ้ายามค่ำคืนค่อนข้างกระจ่างชัด แถมยังมีดวงดาวลอยล่องอยู่พร่างพราวกระจ่างฟ้าราวอัญมณี แต่มันมีสิ่งที่แปลกอยู่ เขารู้สึกราวกับมือของตนนั้นจะสามารถยื่นเข้าไปคว้าเอาดวงดาวเหล่านั้นมาได้ ไม่สิ มันไม่ใช่ความรู้สึกอย่างเดียว แต่ดวงดาวพวกนั้นมันอยู่ไม่ไกลออกไปต่างหาก

“แปลกจริง? เดดริค ลองไปตรวจสอบดูหน่อย”

“ขอรับ”

เดดริคสะบัดปีกขณะบินขึ้นไป ไม่กี่นาทีถัดมา มันก็คว้าดวงดาวเอาไว้ได้

“นี่... ไม่ใช่ดวงดาว? หิน นี่มันหินเรืองแสง!”

“หินเรืองแสง? งั้นที่ด้านบนมันส่องแสงออกมาได้ก็เพราะแร่พวกนี้งั้นเหรอ?”

“ขอรับ ทุกแห่งหนบนนี้ต่างเต็มไปด้วยหินพวกนี้”

ปากของอาร์คแทบอ้าเหวอ ข้อสงสัยของเขากระจ่างชัดแล้ว

ด้วยเพดานที่หนาเตอะพร้อมกับแร่ที่เผยออกมาเช่นนี้ เป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่าอาร์คได้พบกับโลกบาดาลเข้าจริง แต่นี่มันก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้อาร์คประหลาดใจ อาร์คถึงกับเข้าใจผิดว่าแร่จำนวนมหาศาลเหล่านี้เป็นดวงดาว!

แร่ระดับต่ำสามารถถูกนำไปใช้งานเป็นเครื่องประดับได้

เพียงขนาดเท่านิ้วมือก็สามารถทำเงินได้ 20~40 เหรียญเงินแล้ว

‘แต่แร่พวกนี้ทั้งใหญ่แถมยังจำนวนนั่น...!’

อาร์คต้องกลืนน้ำลายลงดัง ‘อึก!’

“ดะ-เดดริค พอจะเอามันออกมาได้ไหม?”

“เอ่อ ไม่ขอรับ มันแข็งเกินไป ข้าไม่อาจดึงมันออกได้”

แน่นอนว่ามันจะไร้ซึ่งความสำคัญทันทีหากพื้นที่ที่มันอยู่เป็นเขาไม่อาจนำมันออกมาได้ กระทั่งว่าอาร์คสามารถบินขึ้นไปได้ เขาก็ไม่อาจนำเอาแร่พวกนี้ออกมาได้อยู่ดี มันเป็นอัญมณีที่ทำได้เพียงแค่ประดับภูมิทัศให้งดงามเท่านั้นเอง

‘นี่เราต้องเดินจากไปโดยปล่อยมันทิ้งเอาไว้เหรอเนี่ย เงินก้อนโตเลยเนี่ยนะ...’

อาร์คจ้องมองแร่พวกนั้นด้วยดวงตาหิวกระหายก่อนที่จะต้องจำใจหันจากไป เขาเดินผ่านไปขณะมองท้องฟ้าพวกนี้ด้วยดวงตาที่คาดหวังว่าจะได้รับพวกมันมา แต่ความเป็นจริงนั้นไม่อาจ

‘ยังไงก็ตามแต่ ที่แห่งนี้ย่อมต้องเป็นโลกบาดาล ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว หนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ย่อมต้องซุกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง อีกทั้งยังต้องมีประชากรชาวโลกบาดาลด้วย พวกเขาย่อมต้องเป็นชาวสัตว์อสูร อย่างไรแล้วเราต้องไปพบเจอพวกเขาก่อน’

อาร์คเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่อีกครั้งก่อนจะเริ่มมุ่งหน้าไปทางที่ลาดชันลง พื้นที่แห่งนี้มันคือใต้ดินที่มืดมิด แต่ด้วยแร่เหล่านั้นที่ฝังแน่นอยู่บนเพดาน มันจึงทำให้สภาพรอบด้านสว่างขึ้นมาได้คล้ายพวกดันเจี้ยนทั่วไป เขาเริ่มเดินทางมุ่งลงด้านล่างจนกระทั่งเริ่มมองเห็นป่าหนาทึบเหล่านั้นแล้ว เมื่อเข้าใกล้ อาร์คเริ่มจ้องมองป่าแห่งนี้โดยทันที ภายในป่า ทั้งต้นไม้และต้นพืชมันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยพบเจอที่ด้านนอกมาก่อน มันอาจเป็นเพราะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน จึงทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอดจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผลไม้ที่มีสภาพเกินจินตนาการถึงกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งสองฟากธารน้ำเช่นนี้

“ว้าว! ดูสิเจ้านาย! ผลไม้พวกนี้มันเด้งไปมาด้วยแหละ!”

เดดริคเริ่มเผยความอยากรู้อยากเห็นต่อผลไม้รูปร่างแปลกประหลาดเหล่านี้

หลังเสร็จสิ้นการสำรวจวงกตใต้ดินไปแล้ว วัตถุดิบที่เก็บตุนเอาไว้จึงเริ่มร่อยหรอ นั่นทำให้พอได้เห็นวัตถุดิบพวกนี้เป็นครั้งแรก มันจึงผุดความคิดที่ทำให้เขาอยากลองทำอาหารจานใหม่ขึ้นมาดู

อาร์คเร่งร้อนรวบรวมผลไม้เหล่านี้มา ทว่า เมื่อพวกมันร่วงหล่นจากต้นไม้ ผลไม้พวกนี้ถึงกับแตกกระจายส่งเสียงให้ได้ยิน

 

=====

การเก็บเกี่ยวล้มเหลว

=====

 

หลังทำพลาดไปหลายครั้ง เขาจึงค่อยได้รับผลไม้มาผลหนึ่ง หลังจากนั้น การวินิจฉัยพวกมันก็เกิดล้มเหลวตามไปอีกถึงสองครั้งด้วยกัน ท้ายที่สุดเขาจึงได้รับข้อมูลของพวกมันมา

 

=====

ผลเปา

ผลเปาเป็นพืชพิเศษที่เติบโตเพียงแค่ในโลกบาดาลเท่านั้น เป็นเพราะขนาดมันแตกต่างกันแถมยังเป็นพืชที่อ่อนไหวง่าย จึงจำเป็นต้องใช้ทักษะหาอาหารขั้นสูง เมื่อเก็บขึ้นมาได้ ท่านจะสามารถนำมันไปทำเป็นอาหารหรือวัตถุดิบเวทมนตร์ และกระทั่งการตากแห้งแล้วป่นเป็นผงก็สามารถใช้เป็นเครื่องเทศได้

=====

 

ทักษะหาอาหารและตรวจสอบวัตถุดิบของเขาตอนนี้ระดับเพียงแค่ขั้นกลางเท่านั้นเอง

กระนั้นแล้ว ด้วยความจริงที่ว่ามันเป็นเรื่องยากต่อการเก็บเกี่ยวมา นั่นย่อมหมายถึงมันคือวัตถุดิบระดับสูง ที่จริงแล้ว หลังจากที่เขาได้รับมาหนึ่งผลแล้ว ค่าประสบการณ์ทักษะของเขาถึงกับเพิ่มขึ้นอีก 1 แน่นอนว่าวัตถุดิบที่เขามีบางอย่างนั้นมันก็ไม่อาจใช้งานได้อีกเพราะเก็บเอาไว้นาน ตอนนี้เขาจึงเริ่มตัดสินใจทิ้งวัตถุดิบที่เริ่มเน่าเสียแล้ว

‘เลเวลของวัตถุดิบหมายถึงจะทำให้อาหารมีระดับของผลลัพธ์ที่สูงขึ้น? ด้วยวัตถุดิบมากมายที่กระจายตัวอยู่รอบบริเวณขนาดนี้ นับได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับการทำอาหารเพื่ออยู่รอดชัด ๆ!’

ผลไม้ก็ยังเป็นผลไม้ สมุนไพรก็ยังคงเป็นสมุนไพร และพืชมีพิษก็คือสิ่งของเป็นพิษ...

กระทั่งว่าเป็นพิษ ด้วยสไตล์การทำอาหารของอาร์คแล้ว เขาย่อมไม่คิดทิ้งขว้างพวกมันไปอย่างแน่นอน ในตอนนี้อาร์คเริ่มจับตามองหาวัตถุดิบอย่างบ้าคลั่งขณะรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน จนกระทั่งถึงขนาดที่ว่าเขาแทบลืมเลือนวัตถุประสงค์หลักที่มายังโลกบาดาลแห่งนี้ไปแล้ว นี่เขาเดินมาไกลถึงขนาดไหนแล้วกันเนี่ย?

กระเป๋าที่ก่อนหน้านี้ว่างเปล่า ตอนนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยวัตถุดิบ...

พุ่มไม้ด้านข้างในตอนนี้คล้ายสั่นไหวขณะได้ยินเสียงของอะไรสักอย่างดังขึ้นมา

อาร์คจึงตอบสนองด้วยการกลั้นหายใจโดยทันที

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด