เล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (2) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 5 ตอนที่ 1 : โลกบาดาล (2)
ห้องที่คราเค่นอยู่นี้มีด้านหนึ่งซึ่งมีประตูโลหะขนาดใหญ่ขวางกั้นเอาไว้
ประชากรชาวโลกบาดาลต่างสลักถ้อยคำของตนเอาไว้บนประตูโลหะนั่น
ทว่า คันโยกที่ใช้สำหรับเปิดประตูกลับผุพังไป แต่แล้ว เมื่ออาร์คล้มคราเค่นได้ เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่าจะเปิดประตูอย่างไรดี
“เจ้างู ขอกาวข้นเหนียวหน่อย!”
เมื่ออาร์คออกคำสั่ง เจ้างูพึงเปิดปากพ่นเอาบางสิ่งออกมา
มันเป็นถังแก๊สที่มีสไลม์สีเขียวกำลังสั่นไหวอยู่ภายในสายยางที่โปร่งใส หลังคราเค่นหายไปแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้างูพบจากกองกระดูกและไอเทม
=====
กาวเชื่อมร่างวิญญาณ (พิเศษ)
มันเป็นกาวที่ถูกสร้างขึ้นจากสารข้นเหนียวที่เหมาะจะยึดติดวิญญาณให้อยู่กับร่างได้
นานมาแล้ว ร่างศพจำนวนมากได้ถูกทิ้งลงมาในหลุมนรก วิญญาณของผู้ตายส่วนใหญ่ต่างเข้ามายังวงกตและถูกจับเอาไว้โดยวิญญาณชั่วร้าย เมื่อมันผสมรวมเข้าด้วยกันจึงเกิดขึ้นเป็นสารข้นเหนียวนี้ออกมา อำนาจการยึดติดของมันนับได้ว่าทรงพลังยิ่ง เช่นกัน เมื่อกาวข้นเหนียวนี้สัมผัสกับร่างกายเข้า ท่านจะไม่อาจหนีจากมันได้พ้น
สารข้นเหนียวนี้มีความเหนียวขนาดที่ว่าสามารถยึดวัตถุขนาดใหญ่เอาไว้ได้ และหากมันกระจายออกอาจทำให้สภาพแวดล้อมเสียหาย และมันเป็นผลผลิตจากการที่คราเค่นเน่าเปื่อยไป ทว่า ตอนนี้นิวเคลียสของคราเค่นยังคงไม่หายไป จิตวิญญาณของผู้คนยังคงอยู่ในสภาพกาวข้นเหนียวนี้
เมื่อใช้งานกาวเหนียวข้น วัตถุใดก็ตามจะกลับกลายเป็นเหนียวยิ่ง มันสามารถยึดติดได้อย่างไม่มีขีดจำกัดทั้งขนาดและความยาว รวมถึงยึดติดวิญญาณกับร่างด้วย นอกจากนี้ เมื่อวัตถุติดเข้าด้วยกันแล้ว มันจะไม่มีวันร่วงหล่นลงมาจนกว่าจะถูกทำลายทิ้งไป หากใช้มันในเรื่องล้อเล่นคงไม่ขำ! บางคนอาจต้องมีมือหรือเท้าติดกันไปชั่วชีวิตเลยก็เป็นได้
จำนวนครั้งที่ใช้งานได้ : 5 ครั้ง
=====
นี่คือส่วนผสมผสานของดวงวิญญาณที่ร่วงหล่นลงมาได้รวมตัวกันจนเกิดขึ้นเป็นกาวเช่นนี้
[ข้าเหงาและเปล่าเปลี่ยวยิ่ง ไม่มีอะไรให้ข้าเข้าไปยึดติดเลยหรือ?]
[มองหาอะไร? อยากเจอความเหนียวหรือไง?]
[ฮ่าฮ่า ข้าคือกาว ใส่ข้าลงไปในอะไรสักอย่างดูสิ!]
หลังลองเขย่าสายยางดู เสียงพวกนี้พลันดังขึ้นให้ได้ยิน
อาร์คมองไปยังสายยางดังกล่าวด้วยสีหน้าแปลกประหลาด กระทั่งว่านี่มันเกมแฟนตาซี แต่ไอ้ของสิ่งนี้มันดูน่ากลัวราวหนังสยองขวัญก็ไม่ปาน...
นอกจากนี้ ถ้าหากเขย่าโดนมันแม้สักนิด มันจะพล่ามบ่นออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน นี่เป็นไอเทมที่สารบบความคิดตามปกติไม่อาจทำความเข้าใจ บางทีอาจต้องสับสนด้วยซ้ำว่าหัวเราะหรือกลัวมันดีด้วยซ้ำ
‘จะมีที่ไหนให้ใช้ไอ้ของประหลาดแบบนี้ได้กัน?’
ในตอนที่เขาตรวจสอบไอเทมในคราแรก เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเอามันออกมาใช้งาน แต่ก็อย่างว่า มันคือกาว ย่อมต้องมีที่ให้ได้ใช้งาน ทำไมครั้งนี้เขาถึงต้องได้ไอเทมประหลาดแบบนี้มาด้วยกันนะ
ผ่านไปพักหนึ่ง อาร์คจึงรีบร้อนมองหาสิ่งของ
ในกองกระดูกห้องนี้ต้องมีคันโยกที่หลุดออกมาแน่
‘อืม ถ้าหากเรายังไม่จัดการคราเค่น เราก็คงไม่มีเวลามาสบายใจหาของเพื่อเปิดประตูแบบนี้แน่’
อาร์คเดินไปคว้ากระดูกชิ้นหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเหมาะสมเอามาเป็นคันโยก มือเขาเริ่มคิดใช้สายยางก็พลันได้ยินเสียงพึมพำลอยออกมา
[อู้ว ข้างนอกแหละ ข้างนอก!]
[วิเศษ เหนียวเหนอะ! มาทำให้เหนียวเหนอะกัน!]
หลังใช้กระดูกต่างคันโยกแล้ว เขาจึงใช้กาวเหลวดังกล่าวเพื่อยึดติดพวกมันเข้าไว้ด้วยกัน
นับว่าดูมีประสิทธิภาพเอาเรื่อง เมื่อพวกมันติดเข้าด้วยกันแล้ว ทั้งกะโหลกและคันโยกต่างก็ดูเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างที่ควรจะเป็น กาวข้นเหนียวนี้นับว่าใช้งานได้ดี และมันจะดียิ่งขึ้นหากมันไม่ได้พล่ามบ่นอะไรออกมาอีก
‘เอาล่ะ ในที่สุด...’
อาร์คกำลังมองไปยังประตูโลหะอย่างว้าวุ่นใจ
ตอนนี้เหลือสิ่งที่ต้องทำเพียงแค่อย่างเดียวแล้ว!
เพียงแค่เปิดประตูโลหะบานนี้ออกก็จะสามารถไปยังโลกบาดาล มันเป็นโลกใบใหม่ที่ยังไม่มีผู้ใดเคยพบเห็น เช่นเดียวกับโลกใต้สมุทร!
เขากำลังวาดฝันว่าเบื้องหลังประตูบานนี้จะมีกองภูเขาสมบัติสุมกันอยู่ หรือไม่ก็เป็นมอนสเตอร์ในตำนาน อาร์คกำลังตรวจสอบสภาพอุปกรณ์สวมใส่ก่อนที่จะเริ่มใช้งานคันโยก
เขาเริ่มจัดแจงไอเทมในกระเป๋าตัวเองขณะซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่ที่ค่าความทนทานลดต่ำลง แต่สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เขาได้ตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลตัวละครของตนเอง
“หน้าต่างสถานะ”
=====
ชื่อตัวละคร : อาร์ค
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
แนวโน้ม : ความดี +200
ชื่อเสียง : 1695
เลเวล : 95
อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด
ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยาสรรพสิ่ง, วีรบุรุษแห่งแจ๊คสัน
พลังชีวิต : 1,925
พลังมานา : 1,520 (+100)
พลังจิตวิญญาณ : 100
พละกำลัง : 234 (+5)
ความคล่องตัว : 282 (+17)
ความอดทน : 362
สติปัญญา : 33
ความฉลาด : 272
โชค : 45
ความยืดหยุ่น : 27
ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 23
เสน่หา : 55 (+10)
ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 83
ผลจากอุปกรณ์สวมใส่
ชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก : ภูมิต้านทานธาตุน้ำ +100%, ข้อเสียของน้ำไร้ผล
อุ้งตีนแมว : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%
หมวกโกเลมคริสตัล : +100
รองเท้านอแรต : ความเร็วเคลื่อนที่ 10%, หลบหลีก +5%
สร้อยคอของอเดเลียน : พลังป้องกัน +40, เสน่หา +10
ปลุกวิญญาณ : พละกำลัง +5, ฟื้นฟูพลังมานา +5%
*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 30% ในความมืด
*ท่านได้รับความสามารถหลบซ่อนตัวตนในความมืด ระยะเวลาส่งผล 15 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสภาวะต่อสู้
*ภูมิต้านทานความกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%
*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงออกมาได้จากอุปกรณ์ทุกชนิด
=====
หลังจัดการคราเค่นไปได้ เลเวลจึงเพิ่มมาอีก 2 ระดับจนเป็น 95 แล้ว!
“ดีล่ะ!”
อาร์คสูดลมหายใจเข้าลึกขณะเริ่มดึงคันโยก
ครืนนนนน เสียงกลไกเริ่มดังขึ้นขณะประตูโลหะกำลังถูกดึงขึ้นไป
ขณะเดียวกันนั้น อาร์คถึงกับต้องอ้าปากเหวอ
“อะไรกัน? นี่มันโลกเบื้องล่างแน่เหรอเนี่ย?”
ภาพฉากอันแสนน่าทึ่งได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
* * *
สถานที่ที่อาร์คได้เข้ามาและพบเจอในตอนนี้คือบนยอดของภูเขาที่สูงอย่างถึงที่สุด
ภูเขา ใช่ มันคือภูเขา
ที่ไคโร้ท เขาได้ร่วงหล่นมากว่าพันเมตรก่อนที่จะกระทบถูกพื้น จากตรงนั้น เขาได้ลงมาใต้พื้นดินกว่าสิบเมตรเพื่อเข้าไปยังวงกตใต้ดิน จนกระทั่งได้พบกับประตูโลหะ... ไม่เพียงเท่านั้น มันกลับมีภูเขาที่สูงใหญ่อย่างมหาศาลขนาดนี้อยู่เบื้องล่างด้วย
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”
อาร์คเริ่มมองสภาพรอบด้านด้วยความงงงัน
ที่เชิงเขา มันเป็นป่าที่หนาทึบและมีหุบเขาที่ทอดยาวออกไปไกลจนถึงสุดขอบฟ้า ในมุมมองเชิงกว้างแล้ว มันไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเทือกเขาแบรนท์เลยสักนิดเดียว
“หืม นี่เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า? กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า... หือ? ดวงดาวมันอยู่ใกล้ขนาดนี้เลย...?”
อาร์คมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความงงงันอีกครั้ง
ท้องฟ้ายามค่ำคืนค่อนข้างกระจ่างชัด แถมยังมีดวงดาวลอยล่องอยู่พร่างพราวกระจ่างฟ้าราวอัญมณี แต่มันมีสิ่งที่แปลกอยู่ เขารู้สึกราวกับมือของตนนั้นจะสามารถยื่นเข้าไปคว้าเอาดวงดาวเหล่านั้นมาได้ ไม่สิ มันไม่ใช่ความรู้สึกอย่างเดียว แต่ดวงดาวพวกนั้นมันอยู่ไม่ไกลออกไปต่างหาก
“แปลกจริง? เดดริค ลองไปตรวจสอบดูหน่อย”
“ขอรับ”
เดดริคสะบัดปีกขณะบินขึ้นไป ไม่กี่นาทีถัดมา มันก็คว้าดวงดาวเอาไว้ได้
“นี่... ไม่ใช่ดวงดาว? หิน นี่มันหินเรืองแสง!”
“หินเรืองแสง? งั้นที่ด้านบนมันส่องแสงออกมาได้ก็เพราะแร่พวกนี้งั้นเหรอ?”
“ขอรับ ทุกแห่งหนบนนี้ต่างเต็มไปด้วยหินพวกนี้”
ปากของอาร์คแทบอ้าเหวอ ข้อสงสัยของเขากระจ่างชัดแล้ว
ด้วยเพดานที่หนาเตอะพร้อมกับแร่ที่เผยออกมาเช่นนี้ เป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่าอาร์คได้พบกับโลกบาดาลเข้าจริง แต่นี่มันก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้อาร์คประหลาดใจ อาร์คถึงกับเข้าใจผิดว่าแร่จำนวนมหาศาลเหล่านี้เป็นดวงดาว!
แร่ระดับต่ำสามารถถูกนำไปใช้งานเป็นเครื่องประดับได้
เพียงขนาดเท่านิ้วมือก็สามารถทำเงินได้ 20~40 เหรียญเงินแล้ว
‘แต่แร่พวกนี้ทั้งใหญ่แถมยังจำนวนนั่น...!’
อาร์คต้องกลืนน้ำลายลงดัง ‘อึก!’
“ดะ-เดดริค พอจะเอามันออกมาได้ไหม?”
“เอ่อ ไม่ขอรับ มันแข็งเกินไป ข้าไม่อาจดึงมันออกได้”
แน่นอนว่ามันจะไร้ซึ่งความสำคัญทันทีหากพื้นที่ที่มันอยู่เป็นเขาไม่อาจนำมันออกมาได้ กระทั่งว่าอาร์คสามารถบินขึ้นไปได้ เขาก็ไม่อาจนำเอาแร่พวกนี้ออกมาได้อยู่ดี มันเป็นอัญมณีที่ทำได้เพียงแค่ประดับภูมิทัศให้งดงามเท่านั้นเอง
‘นี่เราต้องเดินจากไปโดยปล่อยมันทิ้งเอาไว้เหรอเนี่ย เงินก้อนโตเลยเนี่ยนะ...’
อาร์คจ้องมองแร่พวกนั้นด้วยดวงตาหิวกระหายก่อนที่จะต้องจำใจหันจากไป เขาเดินผ่านไปขณะมองท้องฟ้าพวกนี้ด้วยดวงตาที่คาดหวังว่าจะได้รับพวกมันมา แต่ความเป็นจริงนั้นไม่อาจ
‘ยังไงก็ตามแต่ ที่แห่งนี้ย่อมต้องเป็นโลกบาดาล ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว หนึ่งในสามสิ่งมหัศจรรย์ย่อมต้องซุกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง อีกทั้งยังต้องมีประชากรชาวโลกบาดาลด้วย พวกเขาย่อมต้องเป็นชาวสัตว์อสูร อย่างไรแล้วเราต้องไปพบเจอพวกเขาก่อน’
อาร์คเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์สวมใส่อีกครั้งก่อนจะเริ่มมุ่งหน้าไปทางที่ลาดชันลง พื้นที่แห่งนี้มันคือใต้ดินที่มืดมิด แต่ด้วยแร่เหล่านั้นที่ฝังแน่นอยู่บนเพดาน มันจึงทำให้สภาพรอบด้านสว่างขึ้นมาได้คล้ายพวกดันเจี้ยนทั่วไป เขาเริ่มเดินทางมุ่งลงด้านล่างจนกระทั่งเริ่มมองเห็นป่าหนาทึบเหล่านั้นแล้ว เมื่อเข้าใกล้ อาร์คเริ่มจ้องมองป่าแห่งนี้โดยทันที ภายในป่า ทั้งต้นไม้และต้นพืชมันเป็นอะไรที่เขาไม่เคยพบเจอที่ด้านนอกมาก่อน มันอาจเป็นเพราะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลานาน จึงทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอดจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผลไม้ที่มีสภาพเกินจินตนาการถึงกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งสองฟากธารน้ำเช่นนี้
“ว้าว! ดูสิเจ้านาย! ผลไม้พวกนี้มันเด้งไปมาด้วยแหละ!”
เดดริคเริ่มเผยความอยากรู้อยากเห็นต่อผลไม้รูปร่างแปลกประหลาดเหล่านี้
หลังเสร็จสิ้นการสำรวจวงกตใต้ดินไปแล้ว วัตถุดิบที่เก็บตุนเอาไว้จึงเริ่มร่อยหรอ นั่นทำให้พอได้เห็นวัตถุดิบพวกนี้เป็นครั้งแรก มันจึงผุดความคิดที่ทำให้เขาอยากลองทำอาหารจานใหม่ขึ้นมาดู
อาร์คเร่งร้อนรวบรวมผลไม้เหล่านี้มา ทว่า เมื่อพวกมันร่วงหล่นจากต้นไม้ ผลไม้พวกนี้ถึงกับแตกกระจายส่งเสียงให้ได้ยิน
=====
การเก็บเกี่ยวล้มเหลว
=====
หลังทำพลาดไปหลายครั้ง เขาจึงค่อยได้รับผลไม้มาผลหนึ่ง หลังจากนั้น การวินิจฉัยพวกมันก็เกิดล้มเหลวตามไปอีกถึงสองครั้งด้วยกัน ท้ายที่สุดเขาจึงได้รับข้อมูลของพวกมันมา
=====
ผลเปา
ผลเปาเป็นพืชพิเศษที่เติบโตเพียงแค่ในโลกบาดาลเท่านั้น เป็นเพราะขนาดมันแตกต่างกันแถมยังเป็นพืชที่อ่อนไหวง่าย จึงจำเป็นต้องใช้ทักษะหาอาหารขั้นสูง เมื่อเก็บขึ้นมาได้ ท่านจะสามารถนำมันไปทำเป็นอาหารหรือวัตถุดิบเวทมนตร์ และกระทั่งการตากแห้งแล้วป่นเป็นผงก็สามารถใช้เป็นเครื่องเทศได้
=====
ทักษะหาอาหารและตรวจสอบวัตถุดิบของเขาตอนนี้ระดับเพียงแค่ขั้นกลางเท่านั้นเอง
กระนั้นแล้ว ด้วยความจริงที่ว่ามันเป็นเรื่องยากต่อการเก็บเกี่ยวมา นั่นย่อมหมายถึงมันคือวัตถุดิบระดับสูง ที่จริงแล้ว หลังจากที่เขาได้รับมาหนึ่งผลแล้ว ค่าประสบการณ์ทักษะของเขาถึงกับเพิ่มขึ้นอีก 1 แน่นอนว่าวัตถุดิบที่เขามีบางอย่างนั้นมันก็ไม่อาจใช้งานได้อีกเพราะเก็บเอาไว้นาน ตอนนี้เขาจึงเริ่มตัดสินใจทิ้งวัตถุดิบที่เริ่มเน่าเสียแล้ว
‘เลเวลของวัตถุดิบหมายถึงจะทำให้อาหารมีระดับของผลลัพธ์ที่สูงขึ้น? ด้วยวัตถุดิบมากมายที่กระจายตัวอยู่รอบบริเวณขนาดนี้ นับได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับการทำอาหารเพื่ออยู่รอดชัด ๆ!’
ผลไม้ก็ยังเป็นผลไม้ สมุนไพรก็ยังคงเป็นสมุนไพร และพืชมีพิษก็คือสิ่งของเป็นพิษ...
กระทั่งว่าเป็นพิษ ด้วยสไตล์การทำอาหารของอาร์คแล้ว เขาย่อมไม่คิดทิ้งขว้างพวกมันไปอย่างแน่นอน ในตอนนี้อาร์คเริ่มจับตามองหาวัตถุดิบอย่างบ้าคลั่งขณะรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน จนกระทั่งถึงขนาดที่ว่าเขาแทบลืมเลือนวัตถุประสงค์หลักที่มายังโลกบาดาลแห่งนี้ไปแล้ว นี่เขาเดินมาไกลถึงขนาดไหนแล้วกันเนี่ย?
กระเป๋าที่ก่อนหน้านี้ว่างเปล่า ตอนนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยวัตถุดิบ...
พุ่มไม้ด้านข้างในตอนนี้คล้ายสั่นไหวขณะได้ยินเสียงของอะไรสักอย่างดังขึ้นมา
อาร์คจึงตอบสนองด้วยการกลั้นหายใจโดยทันที