ตอนที่แล้วตอนที่ 223 มอนสเตอร์เมล็ดพันธ์ชีวิตระดับทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 225 ท่าเท้าอัสนีบาต

ตอนที่ 224 อสูรแสงดาว


อสูรแสงดาว เป็นมอนสเตอร์ที่หาได้ยากมากซึ่งสามารถพบได้ในทะเลทรายอุกกาบาตเท่านั้น มันดูเหมือนหุ่นยนต์ เดินด้วยสองขาร่างกายส่วนใหญ่มีสีส้ม ซึ่งทำให้เกิดเงาสะท้อนเหมือนโลหะเมื่อโดนแสง มันมีหน้าสีเขียวขุ่นที่ดูเหมือนใส่หน้ากาก นอกจากนั้นแล้วบนหน้ามันก็ไม่มีอะไรเลย มันมีหนวดยาวสี่ข้างที่คล้ายมือซึ่งมีสีฟ้าและเขียว และใต้คอของมันมีคริสตัลสีม่วงขนาดเท่ากำปั้น

คริสตัลสีม่วงคือเศษอุกกาบาตที่สามารถดูดซับพลังงานได้ในตอนกลางคืน มันเป็นแหล่งพลังงานเดียวของอสูรแสงดาว เนื่องจากลักษณะของพวกมัน มอนสเตอร์ตัวนี้จึงเป็นอสูรดวงดาว อสูรแสงดาวมีทักษะสามทักษะที่สำคัญ ทักษะแรกช่วยเปลี่ยนหนวดมันเป็นอาวุธซึ่งคล้ายกับพลังโลหิตของแวมไพร์ ทักษะที่สองคือการเพิ่มความเร็วและความเร็วการโจมตีขณะที่ ทักษะสุดท้ายคือแสงประกายที่จะทำให้มันเทเลพอร์ตภายในขอบเขตเล็กๆได้

สองทักษะสุดท้ายทำให้มอนสเตอร์ตัวนี้ยากจะฆ่า  นอกจากนี้มันยังมีสติปัญญาสูงซึ่งช่วยให้มันสามารถหลีกเลี่ยงมนุษย์ได้ง่ายๆ  ไม่เหมือนมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ พวกมันจะไม่เดินออกจากเขตของพวกมัน และรอที่จะถูกมนุษย์ฆ่า อสูรแสงดาวมักจะเลี่ยงความขัดแย้งกับมนุษย์ด้วยการหลบซ่อน นักล่าที่สามารถฆ่าอสูรแสงดาวได้จะได้รับเมล็ดพันธุ์ชีวิต ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มีทักษะเคลื่อนไหวและความเร็วโจมตีที่ทรงพลัง เมื่อเลื่อนขั้นเป็นระดับหลุดพ้น รางวัลที่ได้รับจะเป้นทักษะลับที่เรียกว่าประกายแสงซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเทเลพอร์ตระยะสั้นได้

 

“มอนสเตอร์เมล็ดพันธ์นี้ดูสุดยอดมาก พรสวรรค์ของมันจะช่วยกลบข้อบกพร่องของฉัน ทำให้ฉันมีความเร็วที่เหนือใคร หลังจากที่ฉันไปถึงระดับหลุดพ้น ทักษะลับประเภทความเร็วนี้ดูเหมือนจะทรงพลังเช่นกัน เนื่องจากอาจารย์แนะนำสิ่งนี้ให้ฉัน เขาก็ต้องพิจารณาถึงผลของทักษะลับไว้แล้วหลังจากที่ฉันกลายเป็นผู้หลุดพ้น ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเมล็ดพันธ์ชีวิตที่เหมาะกับฉันที่สุด”หลังจากที่อ่านเอกสารเกี่ยวกับอสูรแสงดาว หลิน ฮวงก็ตัดสินใจที่จะเลือกมันเป็นเมล็ดพันธ์ชีวิตเขา เขาล็อกอินเข้าสู่เครือข่ายทันทีและค้นหาที่อยู่ของมัน

“ทะเลทรายอุกกาบาต...”

 

แผนที่ได้ถูกฉายตรงหน้าเขา หลิน ฮวงขมวดคิ้วขณะที่มองตำแหน่งของทะเลทรายอุกกาบาตที่เป็นเครื่องหมายสีเหลือง มันตั้งอยู่ไกลออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขต7 จากเมืองหิมะที่หลิน ฮวงอยู่ เขาต้องข้ามกว่าครึ่งเขต7เพื่อไปยังทะเลทรายนั่น มันไกลกว่าการเดินทางจากค่ายฝึกอีกาม่วงมายังเมืองวูหลินถึง50%

 

“มันไกลมาก!”ระยะทางไกลเกินคาด

 

เขาต้องจองตั๋วประตูมิติระยะไกลล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน ด้วยการโอนระหว่างนั้น มันจะใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือนเพื่อเดินทางกลับ หลิน ฮวงรู้สึกท้อแท้เมื่อคิดถึงการเดินทาง โลกนี้ใหญ่เกินไป โดยไม่มีพาหะนะมิติ การเดินทางจะไม่มีทางสะดวก

 

“มันคงจะดีมากหากอาจารย์สามารถส่งฉันไปยังที่นั่นได้ด้วยอุปกรณ์มิติ แม้ว่าฉันอาจจะต้องคิดถึงเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยมันก็จะช่วยฉันประหยัดเวลาได้เป็นเดือน”หลิน ฮวงวางแผนที่จะขอร้องคุณฟู่หากเขามีสมบัติเช่นประตูมิติ

 

หลังจากที่ตัดสินใจเลือกมอนสเตอร์เมล็ดพันธ์ชีวิตแล้ว หลิน ฮวงก็เริ่มอ่านข้อความอีกสองข้อความ เอกสารเกี่ยวกับปรสิตที่คุณฟู่ส่งมาสมบูรณ์กว่าในสารานุกรมมอนสเตอร์ที่หลิน ฮวงเคยอ่านเสียอีก  มันไม่เพียงแต่จะมีมอนสเตอร์ที่หลากหลายแต่ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติม เห็นได้ชัดว่าเอกสารจะต้องอยู่ในระดับสูงกว่าที่เขาได้รับจากหยี่ เสิ่น

เขาใช้เวลาตลอดทั้งเช้าไปกับการอ่านมันและเขาก็เลือกปรสิตบางประเภทที่มีทักษะการเอาตัวรอดและทักษะพิเศษอื่นๆ แต่เขาก็หาได้แค่ครึ่งๆกลางๆ เขาสั่งอาหารกลางวันก่อนที่จะทำเนื้อย่างให้หลิน ซวน หลังจากนั้น เขาก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูเอกสารอีกครั้ง เมื่ออาหารมาถึง หลิน ซินและหลิน ซวนก็เพิ่งจะออกจากเกมส์จ้าวแห่งปืน ผลงานของหลิน ฮวงในจ้าวแห่งปืนเมื่อวันก่อนได้กระตุ้นให้หลิน ซินพัฒนาทักษะเธอ หลังจากมื้อเช้า เธอก็ขอหลิน ซวนให้เข้าไปในเกมส์เพื่อฝึกเทคนิคปืนให้เธอจนถึงบ่าย

“พี่คะ พี่กำลังจะฝึกทักษะปืนในบ่ายนี้?”หลิน ซินถามหลังจากที่ตักข้าวใส่ปาก

“ไม่ใช่วันนี้ พี่มีเรื่องอื่นที่ต้องทำ”หลิน ฮวงส่ายหัว เขาวางแผนที่จะอ่านเอกสราทั้งหมดในวันีน้เพื่อหาทักษะที่เหมาะสมกับปีศาจเถาวัลย์

“พวกน้องเข้าไปและทำอะไรไปก่อนเลย ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพี่”

“โอ้”หลิน ซินแอบมีความสุขที่หลิน ฮวงหยุดการฝึกทักษะปืนเขา มันหมายความว่าเธออาจจะสามารถไล่ตามเขาได้ทัน

 

หลังจากมื้อกลางวัน หลิน ซินก็ลากหลิน ซวนกลับไปในเกมส์เพราเธอไม่ต้องการที่จะเสียเวลาแม้แต่นิด หลิน ฮวงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เมื่อเขาเห็นเธอรีบวิ่งขึ้นบันไดไป เขายิ้มและส่ายหัว หลังจากที่ทำความสะอาดโต๊ะกินข้าว เขาก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นและอ่านเอกสารต่อบนโซฟา

ภายใต้สถานการณ์ปกติ มอนสเตอร์จะต้องฆ่ามอนสเตอร์ประเภทเดียวกันเพื่อให้ได้รับทักษะของมอนสเตอร์ตัวนั้น ดังนั้น ปรสิตก็สามารถฆ่าได้เพียงปรสิต มันเป็นไปไม่ได้สำหรับปรสิตที่จะฆ่ามอนสเตอร์ประเภทอื่นเพื่อสืบทอดทักษะของพวกมัน มันจะถูกตัดสินโดยเมล็ดพันธ์ชีวิตในร่างมอนสเตอร์ แต่ก็มีข้อยกเว้นที่หาได้ยาก ตัวอย่างเช่น มอนสเตอร์บางชนิดที่สามารถได้รับทักษะมอนสเตอร์ส่วนใหญ่และแม้กระทั่งฆ่ามนุษย์เพื่อชิงทักษะ...อย่างไรก็ตาม มันหาได้ยาก

หลิน ฮวงพิจารณาปีศาจเถาวัลย์ให้เป็นมอนสเตอร์ทั่วไป เขาต้องหามอนสเตอร์ปรสิตตัวอื่น

 

“ผิวเหล็กกล้าสามารถเสริมสร้างพลังป้องกันมันได้ แต่ก็ธรรมดาเดินไป...”

“การเสริมพลังฟื้นตัวก็ไม่เลวเลย มันเหมาะกับลักษณะของปีศาจเถาวัลย์เนื่องด้วยที่มันเป็นพืช...”

“การอำพรางตัวพืชก็จะช่วยให้มันปลอมเป็นพืชชนิดอื่นได้ นี่ก็ดูเหมาะสมเช่นกัน...”

หลิน ฮวงดูเอกสารทั้งหมดอย่างละเอียด เมื่อมันเป็นตอน4โมงเย็น ในที่สุดเขาก็พบทักษะที่ทำให้เขาประทับใจ

 

“การเสริมสติปัญญา....นี่เป็นทักษะที่ดีมาก...”สิ่งที่หลิน ฮวงเห็นคือปรสิตที่ถูกเรียกว่าจอมกินสมอง เมื่อปรสิตเข้าไปในร่างของโฮสต์ มันจะกลืนกินสมองของโฮสต์และควบคุมสมองเพื่อสั่งการร่างกาย สารอาหารในร่างกายจะเพียงพอสำหรับการเติบโตของปรสิต สติปัญญามันก็จะเติมโตด้วยการเสริมสติปัญญาและเรียนรู้ทุกสิ่งจากโฮสต์

 

ทักษะนี้จะทำให้ปรสิตสามารถเรียนรู้ได้ด้วยความเร็วเท่ากับมนุษย์อัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้มันสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ระดับทองได้ภายในไม่กี่วัน ความเร็วเช่นนี้จะเทียบได้กับนิ้วทองคำของหลิน ฮวง แต่ทว่า ปรสิตนี้จะมีข้อบกพร่องอยู่หนึ่งข้อ-มันจะต้องกินสมองสดๆทุกเดือน หากมันไม่ได้กิน มันจะตายด้วยความอ่อนล้าภายใน48ชั่วโมง

 

“ฉันไม่รู้ว่าจะไปหาปรสิตชนิดนี้ได้จากไหน หากมันมีการเสริมสติปัญญา ก็จะไม่มีใครสามารถหาพบได้ว่ามันกำลังควบคุมคนอยู่”หลิน ฮวงนึกถึงคนที่ติดเชื้อในเมืองเสี่ยวเซี่ย เขาสังเกตว่าเหล่าโฮสต์จะสูญเสียความคิดของพวกเขา หากปีศาจเถาวัลย์มีสติปัญญาที่สูงกว่านั้น เหตุการณ์ในเมืองเสี่ยวเซี่ยก็จะไม่เกิดขึ้น

 

หลังจากที่เลือกการเสริมสติปัญญาเป็นทักษะที่เขาต้องการ หลิน ฮวงก็เลือกทักษะอีกสองอันซึ่งก็คือการเสริมพลังฟื้นตัวและการอำพรางพืช เขาไม่พบทักษะใดที่มีการป้องกันที่ดี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเลือดทักษะอำพรางตัว มันเป็นเวลา4ทุ่มเมื่อเขาเลือกเสร็จ หลิน ซินและหลิน ซวนได้สั่งอาหารมาตอน6โมงเย็น ทั้งคู่ทิ้งอาหารไว้ในเตาอบและเขาก็กินอาหารเสร็จตอน5ทุ่มก่อนที่จะขึ้นบันไดไปและบอกให้เด็กทั้งสองเข้านอนก่อนที่จะเข้าไปในห้องนอนตัวเอง.....

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด