ตอนที่แล้วตอนที่ 82 ชาที่หอมหวาน (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 84 ความจริง (FREE)

ตอนที่ 83 คำทำนายจากสวรรค์ (FREE)


เหมือนสิ่งที่ผู้ชายที่ดีควรทำ คือการให้เกียรติผู้หญิง

ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นแน่นอน ถึงแม้น้ำชาที่กระเด็นออกมาไม่มีทางกลับไปอยู่ในถ้วยเหมือนเดิม แต่สามารถบังไม่ได้

ฟาง เจิ้งจือ รีบพุ่งไปอย่างรวดเร็วเพื่อบังใบหน้าของหญิงสาวจากน้ำชา

...

วู่ จวี้เอ๋อ เพียงรู้สึกตกใจเล็กน้อย เล็กน้อยจริงๆถึงแม้นางจะเป็นเพียงหญิงสาวอายุ 18 ปีเท่านั้น

แต่ใครที่รู้จักนางดี ต่างรู้กันว่านางนั้นมีความสามารถขนาดไหน

แค่ชาเพียงหนึ่งถ้วย

จะทำอะไร วู่ จวี้เอ๋อ ได้?

เพียงแค่นางโบกมือเบาๆ น้ำชาแม้แต่น้อยก็มิอาจสัมผัสโดนใบหน้านางได้

แต่นางคำนวณผิด

นางแค่ยื่นมือออกไปข้างหน้า ก่อนที่นางจะได้ทำอะไร ได้มีมือหนึ่งมาแตะบนใบหน้านาง...

ราวกับฉากทั้งหมดถูกหยุดไปนานราว 3 วินาที

...

 

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนนุ่มในมือ ความอุ่นบางเบาจากผิวอันเนียนนุ่ม เขาคิดว่าบางอย่างในโลกเขาก็ไม่สามารถควบคุมได้

ตัวอย่างเช่น เขาต้องการที่จะป้องกันน้ำชาที่กำลังกระเด็นออกมา

แต่เขาไม่คิดว่าจะมีพลังงานแปลกๆดันมือเขาออกไปจากทิศทางเดิม สุดท้ายก็หยุดอยู่บนหน้าหญิงสาว

เอ่อ...

ฟาง เจิ้งจือ ยอมรับ มันช่างรู้สึกดีเสียจริง!

 

เขากระแอมเล็กน้อยและรีบดึงมือออกทันที

ท่าทางของเขายังคงดูปกติ โดยไม่พูดอะไร เขากลับไปยังที่นั่ง ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆเทชาลงถ้วยช้าๆ เขาค่อยๆควบคุมารมณ์ตัวเอง

วู่ จวี้เอ๋อ กระพริบตา นางมิอยากจะเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ กล้าเดินกลับที่นั่งตัวเองหน้าตาเฉย ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และนั่งดื่มชาอย่างสง่างามต่อไป?

ทำไม...

เขาถึงไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้? อย่างน้อยเขาก็ควรจะขอโทษ หรือแสดงความสำนึกผิดออกมา

 

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงบ

ในที่สุด วู่ จวี้เอ๋อ ก็เปิดปาก

“อืม..ดูเหมือนนี่คือความหมาบของคำว่า ป้าบ ป้าบ ป้าบ สินะ…”

...

 

ตลอดเวลาที่ วู่ จวี้เอ๋อ นั่งอยู่ หน้าของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ขึ้นสีแม้แต่น้อย หัวใจก็ไม่ได้หลุดออกมาจากหน้าอก เขายังคงนั่งอย่างสุขุม

“ข้าได้ยินว่า นายน้อย ฟาง นั้นสนใจภาพวาดที่หน้าประตูเมืองงั้นหรือ?” วู่ จวี้เอ๋อ ถามออกมาอีกครั้ง

“ใช่แล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าเบาๆ ไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก เขาคิดว่าควรปล่อยเรื่องที่น่าอึดอัดใจนี้ไปกับสายลม

เขาไม่หน้าหนาขนาดที่จะบอกนางว่าแค่ข้าแตะหน้าเจ้า ต้องกล่าวโทษกันเลยหรือ? ออกไป

“นายน้อยฟาง เคยได้ยินเรื่องทำเนียบสามมังกร หรือไม่?” เมื่อ วู่ จวี้เอ๋อ เห็นท่าทีที่นิ่งสงบของ ฟาง เจิ้งจือ นางคิดว่าตัวเองคงกังวลเป็นเด็กมากเกินไปเอง

มันทำให้นางรู้สึกแปลกใจ

ฟาง เจิ้งจือ ทำสิ่งที่เหมือนเป็นการดูหมิ่นนาง แต่นางกลับรู้สิกผิดเอง เป็นเรื่องน่าแปลก

 

ฟาง เจิ้งจือ เห็นว่า วู่ จวี้เอ๋อ ไม่ได้โกรธและถามเรื่องอื่นออกมาแทน เขาคิดว่าควรจะจบเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้แล้ว

แต่เขาไม่เข้าใจ ทำเนียบสามมังกร เกี่ยวของอะไรกับที่มีรูปวาดหน้าประตูเมือง?

แต่ตอนนี้เขาเป็นแขก การเอ่ยามอะไรออกไปเองดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่

“ทำเนียบมังกรซ่อน ทำเนียบมังกรดาวรุ่ง ทำเนียบมังกรทอง!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ

“แล้วท่านรู้หรือไม่ ว่าความหมายของทั้งสามมังกรนั้นคืออะไร?” เมื่อ วู่ จวี้เอ๋อ ผ่อนคลายลง นางเทชาลงในถ้วยตัวเอง และไม่วกกลับไปยังเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก

ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า อณษจักรเซี่ย ได้สร้างทำเนียบมังกรทั้งสามขึ้นมา แต่สำหรับความหมายของพวกมันแล้ว เขาไม่รู้จริงๆ เขารู้เพียงว่ามังกรทั้งสามแทนการจัดอันดับฝีมือที่แตกต่างกัน

“ทำเนียบมังกรซ่อนจัดอันดับผู้มีความสามารที่อายุต่ำกว่า 18 ปีเท่านั้น มังกรดาวรุ่งอายุไม่เกิน 28 ปี ส่วนทำเนียบมังกรทองนั้นไม่จำกัดอายุ แต่มันแสดงถึงความแข็งแกร่งมากที่สุด” วู่ จวี้เอ๋อ ค่อยๆอธิบายอย่างช้าๆ

ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า เขาเองก็รู้เรื่องพวกนี้เช่นกัน แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไม วู่ จวี้เอ๋อ ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

 

“นายน้อยฟางรู้ถึงวิถีการจัดอันดับของทำเนียบทั้งสามแล้ว นายน้อยรู้ถึงเรื่องคำทำนายเมื่อ 8 ปีก่อนหรือไม่?” วู่ จวี้เอ๋อ กล่าวต่อ

"คำทำนายอะไร?"

“8ปีที่ผ่านมา ปรมาจารย์แห่งเมืองหลวงได้รับข้อความศักดิสิทธิ์จากสวรรค์ บนกระดานทำนายเต๋าแห่งการสรรค์สร้าง บอกไว้ว่าผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งบนทำเนียบมังกรสองทำเนียบ จะเป็นผู้ทำให้โลกตื่นตะลึง และนำความสงบมาสู่โลก!”

“จะเป็นผู้ทำให้โลกตื่นตะลึง และนำความสงบมาสู่โลก?” เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยิน ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจทันที

อันดับหนึ่งบนสองทำเนียบมังกร ฉือ กูเหยียน!

“ข้าเชื่อว่านายน้อยคงเดาออก ว่าคนในคำทำนายนั้นหมายถึงใคร?” นางถาม ขณะที่ดวงตามองตรงไปยังข้างหน้า

มองไปยังทิศทางที่ศาลาเต๋าแห่งสวรรค์ตั้งอยู่

 

“อันดับหนึ่งบนสองทำเนียบมังกร ธิดาแห่งกองตรวจการศักดิสิทธิ์ ฉือ กูเหยียน!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า

“ถูกต้อง ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าสันติภาพที่พูดถึงเป็นยังไง แต่ในข้อความศักดิสิทธิ์นั้นมีการพูดถึงการสู้รบระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์ปีศาจ ดังนั้นจักรพรรดิแห่งอณาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่จึงมีการประกาศมานานแล้วว่า ผู้ใดที่เป็นอันดับหนึ่งบนสองทำเนียบมังกรได้ จะได้เป็นผู้ควบคุมกองพลและได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพกองกำลังสวรรค์!” วู่ จวี้จวี้เอ๋อ

“น่าเสียดายที่ ฉือ กูเหยียน ยังไม่ได้รับกองทัพ!” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวความจริงออกมา ถึงแม้ ฉือ กูเหยียน จะเป็นอันดับหนึ่งบนสองทำเนียบมังกร แต่นางไม่ได้เป็นแม่ทัพสวรรค์

“เมื่อปีที่ผ่านมานางเป็นอันดับหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นผู้ชนะในสองทำเนียบมังกร จักพรรดิทรงเห็นความสามารถในตัวนาง จะมอบตำแหน่งให้แล้ว แต่นางได้ปฏิเสธไป และไปอยู่ที่ศาลาสวรรค์ที่ห่างไกลจากการแก่งแยกชิงดีกัน” วู่ จวี้เอ๋อกล่าวออกมาด้วยความเคารพในตัว ฉือ กูเหยียน

“นางฉลาดมาก!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า เขาเชื่อว่าที่ วู่ จวี้เอ๋อ กล่าวออกมาเป็นเรื่องจริง

"ทุกคนมองว่าการกระทำของ ฉือ กูเหยียน นั้นช่างน่านับถือและมีเกียรติ แต่นายน้อยฟาง กลับมองเป็นการกระทำที่ฉลาด ดูเหมือนว่าท่านก็เป็นคนฉลาดเช่นเดียวกัน!” ร่องรอยแห่งความตกใจปรากฎขึ้นบนใบหน้า วู่ จวี้เอ๋อ

“เจ้ากำลังชมข้างั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเบาๆ

“ฮ่าฮ่า..ข้าแค่เห็นด้วยกับมุมมองของนายน้อยเท่านั้น” วู๋ จวี้เอ๋อ ยิ้มบางๆและพูดต่อ “แม้ว่าการที่ ฉือ กูเหยียน จะปลีกตัวจากทางโลกออกไปเป็นเรื่องที่ฉลาด แต่อีกสองปีข้างหน้าจะครบสิบปี ฉือ กูเหยียน ไม่มีทางหลีกหนีโชคชะตาได้อีก กลายเป็นแม่ทัพสวรรค์และเป็นตำนานที่งดงาม!”

 

“เอ่อ...แต่ข้าไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับรูปวาดที่แขวนอยู๋หน้าเมือง?” ไม่ว่า ฉือ กูเหยียน จะยิ่งใหญ่ เพียงไหน แต่เขาก็ไม่คิดว่าเด็กหญิงที่เขาถีบตกน้ำไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วจะเกี่ยวข้องอะไรกับเขา

 

เพจหลัก : Double gate TH

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด