ตอนที่แล้วตอนที่ 81 ประกาศจับ?! (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 83 คำทำนายจากสวรรค์ (FREE)

ตอนที่ 82 ชาที่หอมหวาน (FREE)


ฟาง เจิ้งจือ คิดเล่น ๆ ว่าเขาเคยไปฆ่าล้างโคตรตระกูลเจ้าเมืองหรือไงกัน ถึงมีภาพขนาดใหญ่ของเขาแปะอยูที่ทางเข้าเมือง

"ฮึ่ม...ช่างน่าสนใจ"

เดินผ่านทางเข้าเมืองไม่ใช่เรื่องที่ดีเป็นแน่!

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกอยากจะไปเคาะประตูบ้านเจ้าเมืองถามให้แน่ใจเสียเหลือเกินว่าเขาทำอะไรผิด แต่มันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ที่จะรนหาที่ตายให้ตัวเอง

ข้าจะทำยังไงดี!? แล้วข้าจะได้ลงทะเบียนเขาร่วมการทดสอบอย่างสงบไหมเนี่ย?

 

"นายน้อยฟาง! ข้ารอท่านมานานแล้ว! " ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังครุ่นคิดอย่างหดหู่ เสียงที่ตื้นเต้นก็ดังลอยมาจากทางประตูเมือง

เด็กน้อยที่สวมชุดสีดำรีบวิ่งเข้าไปในทางที่ ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่

"ไม่จริง.. ข้าถูกพบเข้าแล้ว!" สัญชาตญาณของ ฟาง เจิ้งจือ เตือนว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา แต่ชั่วครู่นึงเขาก็ตระหนักขึ้นว่าใบหน้าของเด็กน้อยคนนี้มันช่างคุ้นเคยเสียจริง หลังจากมองดูดี ๆ  ฟาง เจิ้งจือ ก็จำได้ว่าเขาคือเด็กรับใช้ที่คอยจัดการเรื่องการเดิมพันที่เมืองฮวายอันในตอนนั้น

 

"เพราะนายน้อยแท้ ๆ ข้าถึงถูกเลื่อนขั้นเข้ามาทำงานที่เมืองหลวงแห่งนี้ นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ข้าเตรียมไว้ ข้าอยากให้นายน้อยเก็บเอาไว้! " ในขณะที่พูดเด็กรับใช้หยิบซองสีแดงออกมาจากย่ามของเขา แล้วส่งให้กับ ฟาง เจิ้งจือ

"อะไรหรือ?  ให้เงินข้าอีกแล้วรึ? " ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ในบางครั้งสิ่งดีก็ๆมาถึงเร็วเกินคาด มันยากที่จะปรับตัวได้ทัน

 

เขารับซองนั้นมาอย่างไม่ลังเล เปิดดูเห็นเงินกระดาษ 50 ตำลึงเงินอยู่ภายใน

เด็กรับใช้มีเงินถึงห้าสิบตำลึงเงินเชียวหรือ? หากมานั่งนับดีๆแล้ว เงินนี่สามารถใช้เลี้ยงครอบครัวได้ถึงครึ้งปี

ถึงแม้ ฟาง เจิ้งจือ จะตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา

ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มรับ คนบ้าที่ไหนจะรับของมาและทำหน้าบูดบึ้งกันเล่า?

"ข้าขอบบคุณเจ้ามาก แล้วบัตรเชิญนี่คืออะไรกัน? "

" จดหมายเชิญฉบับนี้เป็นของเจ้านายข้าเอง เมื่อเขาได้ยินว่านายน้อยฟางได้เป็นผู้ชนะของการแข่งขันทั้งสองด้าน เขาเลยอยากจะขอโทษ ที่กล่าวดูถูกท่านไป"

ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจในทันที ดูแล้วนายน้อยของเด็กรับใช้จะรู้สึกผิดที่เคยสมประมาทเขาเอาไว้

 

แต่ทว่า...!

ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ นั้นกลายเป็นที่ต้องการตัวของผู้คน? เขาสามารถเข้าไปในเมืองหลวงแม่น้ำแห่งความสัตย์ได้หรือไม่? นอกจากนี้บัตรเชิญนี้เป็นการล่อเขาไปติดหับดักหรือไม่?

ความเป็นไปได้มีหลากหลายเหลือเกิน ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าควรจะลองตามน้ำไปก่อน

"เจ้า...เจ้ารู้หรือไม่ว่านี้หมายถึงอะไรกัน?" ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปทางประตูเมืองที่มีภาพของเขาแขวนอยู่

"สิ่งนั้น? นายน้อยฟางไม่รู้งั้นรึ? " เด็กรับใช้แปลกใจ แต่เมื่อเห็นท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เด็กรับใช้รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นสงบเสงี่ยมทันที "นายน้อยฟางกำลังเข้าใจผิด นั่นไม่ใช่การประกาศจับ!"

"ไม่ใช่ประกาศจับ ?!" ฟาง เจิ้งจือ ให้เขาพูดความจริง ถ้านี่ไม่ใช้ประกาศจับข้าแล้วมันถูกติดไว้ที่ประตูเมืองหลวงแห่งนี้ได้ยังไงกัน? ถ้าไม่ได้คิดจะจับข้าจะติดภาพของข้าไว้ทำไมกัน?

"มันไม่ใช่ประกาศจับ แต่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งกว่านั้นอีก ข้าก็เป็นแค่เด็กรับใช้ ไม่ค่อยรู้รายละเอียดนักหรอก แต่นายน้อยของข้าต้องรู้แน่นอน " แววตาของเขาส่องประกายความไร้เดียงสาออกมา เพื่อโน้มน้าว ฟาง เจิ้งจือ ให้ไปกับเขาตามที่ได้รับสั่งมา

"หมายความว่าถ้าข้าไปพบกับนายของเจ้า ข้าจะได้รู้งั้นรึ?" ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจในทันทีว่าทำไมถึงได้พบกับเด็กรับใช้คนนี้

"ขอรับ!" เด็กรับใช้พยักหน้าอย่างกระตือรือร้นทันที

"ถ้าเขาเป็นผู้ชาย ข้าจะเอาไม้ฟาดเขาซะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ข้าจะป้าบป้าบป้าบ ซะเลย!"

 

ฟาง เจิ้งจือ มองต่างออกไปเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรน่าสงสัยแน่ ๆ  หลังจากคิดดีแล้ว ดวงตาของเขาสว่างขึ้นแล้วตรงไปที่รูปกภาพนั้นและดึงมันลงมา

การกระทำนี้ดึงดูดความสนใจคนรอบข้างไม่น้อยเลยทีเดียว

"น..นั่น  นั่นมัน ฟาง เจิ้งจือ! "

"เร็วเข้า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ตรงนั้น!"

"ในที่สุดเจ้าโรคจิตก็มาที่เมืองหลวงแล้ว ต้องมีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นแน่นอน!"

ทันใดนั้นเองเหล่านักเดินทางเริ่มเอะอะ ท่าทีของแต่ละคนนั้นแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ ฟาง เจิ้งจือ อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับเขา

เมื่อทหารยามที่ประตูเมืองได้ยินเสียง

หลังจากนั้นพวกเขาก็กวาดสายตามองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ในแววตาของพวกเขาปรากฎความสงสารขึ้นมาวูบหนึ่ง

 

"ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ประกาศจับสินะ ... " ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกเบาใจขึ้นมาทันที

เพราะถ้ามันเป็นประกาศจับจริง ๆ เหล่าทหารยามตามประตูเมืองต้องรีบเข้ามาจับเขาไปสอบปากคำแล้ว

 

ถ้าอย่างนั้น...

มันต้องเป็นปัญหาแน่

ใครกันที่กล้าเอาภาพของข้ามาติดไว้ที่ประตูเมือง นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้ทหารยามจะเห็นกลับไม่ได้ห้ามเลยแม้แต่น้อย?

มันไม่ใช่สถานที่สาธรณะที่ไม่ใช่ว่าใครจะมาแปะอะไรตามใจได้ไม่ใช่หรือไงกัน!

มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?

 

"นายน้อยฟาง จะเข้าเมืองเลยหรือไม่ขอรับ?" เด็กรับใช้ไม่เข้าใจในสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือพึ่งกระทำลงไป แต่ก็เข้าใจได้ว่าใครที่ได้เห็นภาพใบหน้าของตัวเองแปะหราอยู่หน้าเมือง คงไม่สบายใจแน่นอน

"พวกเราไม่ต้องไปหานายของเจ้าก่อนรึ?" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้ารับคำ แล้วถามเผิน ๆ

"นายน้อยฟางไม่ต้องเป็นห่วงไป จะมีคนไปแจ้งเรื่องนี้เองขอรับ!" เมื่อเด็กรับใช้พูดออกมาเช่นนี้ เขารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก

"งั้น...ไปกันเถอะ" ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าถึงเวลาที่จะกินอาหารได้แล้ว ได้รับเงินมาทั้งทีจะปฏิเสธก็เกรงว่าจะเสียมารยาท

"นายน้อยฟาง ได้โปรด นายน้อยฟางเรียกข้าว่า ซู จิว นะขอรับ เรียกข้า อาจิว ก็ได้! ครั้งหน้าถ้าท่านต้องการจ้างฆ่าใคร ลอบวางเพลิงบ้านไหน สามารถเรียกใช้ข้าได้ " ซู่ เจียว เดินไปด้วยแนะนำตัวเองไปด้วย

เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ ถึงกับหมดคำพูด ซู จิว งั้นรึ...เ่อ่อ เขาค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว?

 

"ถ้าข้าต้องการหญิงสาวสักนางละ?"

"โถ่. . . นายน้อย คิดว่าข้าเป็นใคร? ข้าจะฉุดให้นายน้อยประเดี๋ยวนี้! " เมื่อ ซู จิว ได้ยินเขาแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาทันที

"งั้นในกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนเรียกหญิงคนหนึ่งว่า ฉือ กูเหยียน เจ้ารู้จักหรือไม่?"

"..."

 

การฉุด ฉือ กูเหยียน นั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่นอน ฟาง เจิ้งจือ ก็แค่แกล้งถามไปอย่างนั้น เขาตาม ซู จิว ไปที่ "ภัตตาคารชมจันทร์

เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน หญิงสาวสวมชุดสีแดงคนหนึ่งเดินนำพวกเขาขึ้นไปข้างบน

ผ่านไปอย่างรวดเร็วพวกเขาขึ้นไปยังชั้นห้าและเข้าไปยังห้องที่ตกแต่งตาไสตล์โบราณ

จากนั้นสาวรับใช้นางนั้นก็จากไป

มีอีกคนเข้ามาแทน นางรินชาลงในถ้วยเบาๆ

"นายน้อยฟาง โปรดคอยสักครู่ นายท่านของข้ากำลังจะมาถึง!" สาวรับใช้ ค่อย ๆ ถอยห่าง

ทุกอย่างดูราวกับชนชั้นสูง ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มรับด้วยท่าทีสง่างาม นานๆทีเขาจะได้มีโอกาสใช้มารยาทชั้นสูงอย่างนี้ เขายิ้มให้สาวใช้ ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นสูดดมเล็กน้อย ก่อนจะจิบชาเข้าไป

กลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว น้ำชาที่อยู่ในปากให้สัมผัสที่นุ่มนวล

"ไม่เลวเลยทีเดียว" ฟาง เจิ้งจือ ถูกใจในรสชาติอย่างมาก ก่อนที่จะยกซดจนหมดถ้วย

 

"ข้าขอโทษที่ได้สบประมาทนายน้อยไปในคราที่แล้ว ข้าเคยได้ยินนายน้อยฟางบอกกับ อาจิว ว่า ถ้าข้าเป็นผู้ชาย ท่านจะเอาไม้ฟาดข้าซะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ท่านบอกจะ ป้าบป้าบป้าบข้า ความหมายของมันคืออะไรกันงั้นรึ ?" ในขณะเดียวกันนี้มีเสียงใสหวานดังมาจากนอกประตู

สาวงามคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นอย่างช้าๆ

นางสวมชุดฤดูร้อนสีดำบาง ปลายกระโปรงเป็นจีบสีดำเงาประดับคู่ด้วยดอกโบตั๋นที่ร่วงหล่นมาจากต้นไม้ทองคำและที่ไหล่ของนางคลุมด้วยผ้าบางที่เปล่งแสงเป็นประกาย รูปร่าง โฉมหน้าของนางนั้นช่างงดงามและผิวสีขาวของเธอราวกับหิมะต้นฤดู ระหว่างคิ้วทั้งสองมีปานแดงที่สดใสราวกับเดอกไม้สีแดงฉ่ำที่บานอยู่ท่ามกลางทุ่งหิมะขาว

เมื่อมองไปที่นางมันทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความหวานนุ่มและหลงในเสน่ห์ที่เอ่อล้นของนาง

"อุ้ก!" ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังซดชาอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงงามนางนี้ เขาถึงกับสำลักและพ่นชาที่หอมหวานทั้งหมดออกมา และทิศทางที่พุ่งไปนั้น....คือใบหน้าของสาวงามนั่นเอง

 

เพจหลัก : Double gate TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด