ตอนที่แล้วเล่ม 4 ตอนที่ 8 : ก้นบึ้งของนรก (3) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 4 ตอนที่ 9 : ปริศนาแห่งวงกต (2) [อ่านฟรี]

เล่ม 4 ตอนที่ 9 : ปริศนาแห่งวงกต (1) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 4 ตอนที่ 9 : ปริศนาแห่งวงกต (1)

 

หลังจากที่อาร์คร่วงหล่นลงไปในหลุมนรก วันและคืนได้ผันเปลี่ยนไปถึงสี่ครั้งแล้ว ในโลกความเป็นจริง เวลาได้ผ่านไปแล้วนานถึงสามสิบสองชั่วโมง

ในช่วงเวลาเหล่านั้น ทั้งอันเดลและเหล่ามือสังหารต่างไม่คิดผละจากตำแหน่งเกิดใหม่

ในบางครั้งที่ผู้เล่นฆาตกรซึ่งฟื้นคืนชีพมาที่นี่ต่างก็เผยท่าทีแปลกประหลาดมองพวกเขา ทว่า อันเดลหาได้สนใจเรื่องราวเหล่านี้ไม่

แม้กระนั้นอันเดลก็ยังคงเผยท่าทีสุขใจออกมา

“ไอ้บัดซบอาร์คนั่นท้ายที่สุดก็แสดงตัวออกมาว่าขี้ขลาดสิ้นดี เหอะ ตอนนี้คงโมโหแทบบ้าอยู่แล้วละมั้ง? ถ้าหากผู้สมัครทดสอบไม่เชื่อมต่อเข้ามาเป็นเวลานับวันล่ะก็... อย่างน้อยก็สมควรต้องเข้ามาดูสถานการณ์บ้าง แต่นั่นไม่อาจเป็นไปได้ หากแกเผยตัวขึ้นเมื่อไหร่นั่นคือเวลาตายอีกครั้ง!”

ทว่า อันเดลจะอย่างไรก็เป็นมนุษย์ เขาไม่อาจเสี่ยงเอาชีวิตของตนทุ่มไปกับการแก้แค้นได้ เขาต้องมีทั้งเวลาที่ไปกินข้าวและนอนหลับรวมถึงธุระอื่น

หลังผ่านไปได้สี่สิบชั่วโมง ในที่สุดอันเดลจึงคิดล็อคเอาท์ออกจากเกม แต่ก่อนไปเขาได้หันไปพูดกล่าว

“ฉันจะไม่อยู่สักวัน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“แน่นอน”

มือสังหารที่อยู่ข้างกายเขาพยักหน้ารับ

มือสังหารเหล่านี้ได้ตั้งแคมป์อยู่เบื้องหน้าฝ่ายพลาธิการพร้อมจับจ้องอยู่ตลอดโดยผลัดเวรยามกันนอนและเฝ้าระวัง โดยจะต้องมีสองคนซึ่งตื่นอยู่คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอด ด้วยการทำเช่นนี้จึงสมควรไม่มีรอยต่ออันใดแม้ว่าอาร์คจะปุบปับคืนชีพกลับมาก็ตาม

“ตามปกติแล้วงานนี้มันจะใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือน แต่หากเจ้าจ่ายเพิ่ม พวกเราจะสามารถเฝ้าอยู่ที่นี่ได้เป็นปีจนกว่างานจะสำเร็จลุล่วง!”

“ได้ ขอเชื่อใจพวกนายแล้วกัน”

อันเดลเผยท่าทีพึงพอใจออกขณะตัดการเชื่อมต่อไป

“พอได้เห็นเทคโนโลยีของพวกคนต่างถิ่นเหล่านี้แล้วก็อดที่จะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้”

มือสังหารเริ่มพึมพำขณะมองร่างของอันเดลหายเป็นแสงไป

อย่างไรแล้ว เอ็นพีซีก็ไม่ได้นำพวกมันเก็บมาคิดจริงจัง เป็นเพราะระบบไม่อนุญาตให้เอ็นพีซีเกิดข้อสงสัยในสิ่งนี้

หลังจากอันเดลหายไป มือสังหารจึงกลับไปจ้องมองจุดเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

แคร่ก แคร่ก

ขณะเดียวกันนั้น มีใครคนหนึ่งกำลังจับจ้องออกมาจากดงไม้

เขามองพวกมือสังหารเหล่านี้ด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าป่าไป

ด้วยเท้าที่เล็กจ้อยพร้อมกับร่างที่สูงเพียงครึ่งหนึ่งของดงไม้ เขากำลังหันกลับไปมองซ้ำอยู่หลายครั้ง

ภาพฉากเช่นนี้คล้ายกับในหนังสายลับที่ต้องวิ่งหนีไปพร้อมมองหลังด้วยความกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ช้าเขาจึงขึ้นมายังกระท่อมบนเนินเขา

“โอย เหงื่อชุ่มไปหมดเลย”

หลังเข้ามาในกระท่อม ร่างเล็กจ้อยได้ถอดฮู้ดของตนออก

ร่างที่เล็กจ้อยนี้ย่อมเป็นฮอบบิทนามว่า ซิด นั่นเอง

ในช่วงเวลาที่อาร์คร่วงหล่นลงไปในหลุมนรก ลอเร็นโซ่ได้หนีกลับมายังกระท่อมอย่างปลอดภัย

หลังจากอธิบายเรื่องราวให้ซิดฟัง พวกเขาจึงรอการติดต่อจากอาร์คอยู่ที่กระท่อมไม่จากไปไหน

ลอเร็นโซ่ที่เป็นกังวลจึงเร่งร้อนเข้ามาถามไถ่

“เป็นไง? ได้ข่าวคราวพี่ใหญ่บ้างหรือไม่?”

อาร์คได้ออกไปพร้อมลอเร็นโซ่เพื่อที่จะไปสังหารพวกโจร จากนั้นอาร์คได้ปกป้องอีกฝ่ายจากมือสังหารที่ปามีดเข้าใส่ลอเร็นโซ่ แน่นอน ว่ามันเป็นเพราะเงื่อนไขของภารกิจ

ทว่า กับเอ็นพีซีอย่างลอเร็นโซ่แล้ว เขากลับรู้สึกติดหนี้อาร์คครั้งใหญ่หลวงเลยทีเดียว

นับจากวันนั้น ลอเร็นโซ่จึงได้เรียกหาอาร์คเป็นพี่ใหญ่ของตนเอง

ซิดส่ายศีรษะขณะเผยสีหน้ามืดมน

“ยังครับ ไม่มีใครในไคโร้ทที่ได้พบเจออาร์คเลย”

“หลังล่าถอยกลับมา เขาโดนคนพวกนั้นจัดการไปหรือ?”

“ครับ ผมคิดแบบนั้นนะ”

“บ้าจริง! เป็นเพราะข้า...!”

ลอเร็นโซ่โพล่งความโกรธออกมาขณะทุบเข้าใส่โต๊ะ แต่แล้วฉับพลันเขาจึงถามออกมาว่า

“แต่ข้าจำได้ว่าพวกเจ้านั้นมีเทคนิคที่แปลกประหลาด หลังได้รับบาดเจ็บสาหัสพวกเจ้าจะเทเลพอร์ตไปยังฝ่ายพลาธิการ ในเมื่อพี่ใหญ่ก็เป็นคนต่างถิ่นเช่นเดียวกัน เขาก็ควรที่จะไปโผล่ที่นั่นหรือไม่ใช่?”

“นั่นก็เป็นปัญหาเหมือนกันครับ...”

ซิดตอบกลับด้วยสีหน้าลำบากใจ

ทั้งอันเดลและพวกมือสังหารต่างกำลังเฝ้ารออาร์คอยู่ที่จุดเกิดใหม่

นั่นหมายความว่าอาร์คน่าจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน

มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไปรอคนซึ่งยังไม่ตายที่ฝ่ายพลาธิการ บางที อาร์คอาจยังไม่คืนชีพกลับมาเพราะเขาน่าจะคาดเดาสถานการณ์ได้

‘รู้สึกจะชื่ออันเดลรึเปล่านะ? ไม่รู้เลยว่าระหว่างเขากับอาร์คนิมมีความสัมพันธ์เลวร้ายอะไรต่อกัน มันถึงกับขนาดไปเฝ้ารออยู่ที่จุดเกิดใหม่เลยทีเดียว ดูแล้วอีกฝ่ายคิดอยากให้อาร์คเลิกเล่นเกมไปเลย?’

ซิดไม่ทันได้คิดว่าอาร์คก็เคยทำเช่นนี้กับอันเดลมาก่อน

อย่างไรแล้ว ปฏิสัมพันธ์ที่พวกเขามีต่อกัน ดูยังไงก็เลวร้าย

ทั้งอันเดลและพวกมือสังหารต่างเฝ้ารออยู่ที่ฝ่ายพลาธิการ อาร์คก็ไม่เข้าเกมมาเสียที อีกทั้งซิดยังไม่รู้อีกว่าต้องรอไปอีกนานแค่ไหน

‘ถ้าเรามีเบอร์มือถืออาร์ค มันน่าจะดีกว่านี้นะ...’

ซิดถอนหายใจออกมา

ตึง ตึง ตึง!

ฉับพลัน เสียงเคาะได้ดังขึ้นจากประตู

เรื่องนี้ทำเอาทั้งซิดและลอเร็นโซ่ต่างแตกตื่นจนต้องสบตากันด้วยความหวั่นวิตก

‘หรือจะเป็นพวกมัน? นี่พวกมันไล่ตามเรามาถึงนี่เลยเหรอ?’

ลอเร็นโซ่ที่คาดการณ์ถึงกรณีเลวร้ายที่สุดเริ่มเข้าไปใกล้ประตูพร้อมเงื้อดาบของตนขึ้น

“ข้าคงถ่วงไว้ได้ไม่นาน ซิด เจ้าจงหนีไปทางประตูด้านหลังระหว่างที่ข้าสกัดพวกมันเอาไว้เถอะ”

“ครับ แต่ว่านั่น...”

“นี่ไม่ใช่เวลาให้โต้เถียง ฟังแล้วทำตามตกลงไหม? ข้าติดหนี้ชีวิตพี่ใหญ่เอาไว้ครั้งหนึ่ง เขาขอร้องให้ข้าช่วยดูแลเจ้าและข้าก็ไม่คิดที่จะผิดคำสาบานนั่น เพราะงั้นแล้วให้ข้าจัดการพวกมันเอง เจ้ารีบไประหว่างที่ข้าซื้อเวลาให้ซะ”

ลอเร็นโซ่กล่าวเสียงเบาขณะเริ่มเดินเข้าไปใกล้

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันมีวัตถุชิ้นหนึ่งที่ถูกแทรกเข้ามาทางด้านล่างของประตู มันเป็นเงาที่กำลังคืบคลานมา ลอเร็นโซ่เร่งร้อนเงื้อดาบของตนขึ้นขณะที่ซิดนั้นเอื้อมมือออกไปและตะโกนขึ้น

“เดี๋ยวก่อน!”

ซื่อ ซื่อ ซื่อ!

สุดปลายสายตามันเริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้น ซิดถึงกับเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เผยความยินดีออก มันที่แลบลิ้นยาวออก ครั้งหนึ่งเคยเป็นเข็มขัดของอาร์ค... ไม่สิ มันเป็นงูต่างหากล่ะ

ลอเร็นโซ่มองไปทางซิดด้วยความมึนงง

“ว่าอะไร? เจ้างูนี่มันอะไร?”

“มันไม่ใช่แค่งูครับ แต่มันเป็นงูของอาร์ค!”

“ว่าอะไร? พี่ใหญ่หรือ? ไม่ใช่ว่ามีแค่ค้างคาวกับกะโหลกรึ?”

“ครับ! และถ้าหากเจ้างูนี่กลับมาได้... ก็แปลว่าอาร์คต้องอยู่แถวนี้!”

ซิดเข้าไปกอดเจ้างูน้อยเอาไว้

เจ้างูเผยความสุขสันต์ออกมาขณะเริ่มรัดพันรอบร่างของซิด ทว่า ร่างของฮอบบิทมันสั้น มันจึงเลื้อยต่อขึ้นไปยังบนโต๊ะ จากนั้น มันจึงเริ่มคายเอาไอเทมออกมาจากปาก

ผ่านไปนาน ไอเทมเริ่มกองสุมกันอยู่บนโต๊ะ

เจ้างูเริ่มพลิกร่างให้เกิดรูปร่างประหลาดไปมา

นี่มันทำอะไรกัน? ซิดเริ่มเหม่อมองก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้

“เป็นจดหมาย! นี่ต้องเป็นข้อความจากอาร์คนิม!”

ซิดจึงนำเอากระดาษและปากกาออกมาพร้อมเริ่มเขียนตัวหนังสือที่เจ้างูทำท่าทางออกมา

 

=====

ถึง ซิด

ซิด ฉันยังมีชีวิตรอดอยู่

เพราะสถานการณ์ตอนนี้ ฉันเลยยังกลับไปไม่ได้ เพราะงั้นเลยส่งเจ้างูกลับมาทำธุระและแจ้งให้รู้ไว้

เจ้างูจะให้ไอเทมกับนาย และนายก็นำเอาไอเทมที่ฉันต้องการให้เจ้างูมา

ฉันต้องการอาหารและโพชั่นจากร้านค้า รวมถึงกล่องเครื่องมือด้วย

แล้วก็ ส่งกระดาษกับปากกามาด้วย

=====

 

“...ให้ผมไปทำหน้าที่ขายและจัดหาสิ่งของให้... เป็นอาร์คนิมแน่นอน!”

ซิดกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า

และนี่จึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาของอาร์คที่กำลังกังวลว่าจะมีของจนล้นตัว

ในที่สุดอาร์คก็สามารถหาทางออกมาจากรูระบายน้ำขนาดเล็กที่ออกมายังด้านนอกได้

เป็นเพราะมันกว้างเพียงแค่สิบเซนติเมตร กระทั่งว่าเป็นเจ้างูยังอาจจะยากผ่านไปได้ แต่นับว่าความคิดบ้าบิ่นของอาร์คได้ผล ดังนั้นแล้ว เขาจึงนำเอาไอเทมทั้งหมดที่ต้องการขายฝากเจ้างูและให้มันนำไปยังกระท่อมที่ซิดและลอเร็นโซ่หลบซ่อนตัวอยู่

“แล้วก็ เรื่องราวเรียบร้อยดีครับ ถ้าหากอาร์คนิมยังอยู่ งั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องมือสังหารพวกนั้นแล้วครับ เฮ้อ ให้รอซะนานเอาเรื่องเลยทีเดียว...”

ซิดรวบรวมไอเทมจากเจ้างูขณะที่ใช้มือปาดเช็ดน้ำตาออก

จากนั้นเขาจึงสวมฮู้ดอีกครั้งและมุ่งไปยังไคโร้ทพร้อมกับเจ้างูโดยใช้ม้วนคัมภีร์ [ลวง] เขาทำการขายไอเทมทั้งหลายและซื้อหาสิ่งที่อาร์คต้องการมา จากนั้นจึงค่อยให้เจ้างูกลืนเข้าไป

“เจ้างู ระวังตัวด้วย!”

ซื่อ ซื่อ ซื่อ!

เจ้างูน้อยผงกหัวรับขณะที่ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความมาดมั่น จากนั้นมันจึงเลื้อยคลานกับพื้นจากไป

* * *

 

“คุณปาร์คโซมีนะคะ”

“ใช่ครับ”

ฮยอนอูมาที่โถงรับรองเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ทางการเงินของโรงพยาบาล

“ทั้งหมด ห้าล้านสองแสนหนึ่งหมื่นวอนค่ะ จะจ่ายด้วยบัตรเครดิตไหมคะ?”

“ครับ? ห้าล้านสองแสนหนึ่งหมื่นวอนเลยเหรอครับ?”

ฮยอนอูถามย้ำอีกครั้งด้วยความตื่นตกใจ

“ไม่ใช่ว่าจนกระทั่งถึงเดือนที่แล้วค่าใช้จ่ายมันอยู่ที่สี่ล้านห้าแสนวอนหรอกเหรอครับ?”

“เดือนนี้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเล็กน้อยค่ะ ไม่ได้รับจดหมายแจ้งข้อมูลหรือคะ?”

เจ้าหน้าที่จึงนำเอาจดหมายออกมาให้

เขาจึงเริ่มอ่านรายการที่ทางโรงพยาบาลชี้แจงถึงขั้นตอนการรักษาของผู้ป่วย

และที่บรรทัดล่างสุด มันคือค่าใช้จ่ายที่ทางโรงพยาบาลเรียกเก็บเพิ่มขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อ ท้ายที่สุดแล้ว ทางโรงพยาบาลจึงต้องนำภาระของอัตราเงินเฟ้อนี้มาลงที่ผู้ใช้บริการ

ที่จริง ก็มีการพูดคุยกันบ้างแล้วว่าค่าใช้จ่ายของทางโรงพยาบาลจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน

ทว่า เรื่องนี้กลับถูกปิดกั้นไม่ให้สาธารณชนได้รับรู้

‘อันตรายจากการปฏิรูปวงการแพทย์เริ่มเผยออกมาแล้ว’

‘เรื่องนี้จะทำให้ผู้ป่วยนั่งติดเก้าอี้ได้ยังไงกัน’

ตอนนี้ตามช่องรายการโทรทัศน์ก็เริ่มออกรายงานทุกวันแล้ว ผู้คนทั้งหลายต่างก็ออกมาประท้วงต่อการปฏิรูปวงการแพทย์และโรงพยาบาลที่เกิดขึ้นกันอย่างมากล้น

แต่ท้ายที่สุด มันก็ยังจบลงด้วยการที่โรงพยาบาลเรียกเก็บเงินเพิ่ม

แม้ว่าฮยอนอูจะไม่ได้คาดหวังว่าค่ารักษาพยาบาลมันจะคงสภาพไปตลอดได้ก็เถอะ เพราะไม่ว่าในเกมหรือความเป็นจริง ทุกสิ่งต่างต้องพึ่งพาพลังอำนาจที่ใหญ่กว่า

ทางโรงพยาบาลจำต้องรับภาระอย่างหนักเพราะผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการต่างค้างค่าใช้จ่ายอย่างน่าเวทนา

หากคนทั้งสองกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยต่ออีกฝ่ายปะทะกันจะเกิดอะไรขึ้น? ทางรัฐบาลได้มีเป้าประสงค์ที่จะทำให้ประชากรยืนหยัดโดยการรักษาสุขภาพตนเองให้ดีขึ้นและทำเมินเฉยต่อผู้คนทั่วไป

...มันเป็นถึงขนาดนี้ได้ยังไง?

เรื่องที่คล้ายกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ

ผู้คนที่เป็นประชากรชาวเกาหลีไม่ได้โง่เขลาถึงเพียงนั้น

แน่นอนว่ามีการระดมรายชื่อเพื่อทักท้วงกันอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังมีคนกว่าแสนคนเข้าไปจุดเทียนแสดงจุดยืน

แม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมการประท้วงครั้งนั้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักคิดสนับสนุนการประท้วง ซึ่งมันแสดงออกได้เป็นอย่างดีว่าสาธารณชนรู้สึกเช่นไรต่อเรื่องดังกล่าว ทว่า ทางรัฐบาลกลับเมินเฉยหาได้ใส่ใจเสียงของมวลชนไม่

กลับกัน พวกเขาถึงกับตอบโต้ผู้ที่จุดเทียนแสดงจุดยืนออกด้วยความรุนแรงและเริ่มผลักดันพวกเขาเหล่านั้นกลับ

แน่นอนว่า ทางรัฐบาลที่กระทำเช่นนี้ย่อมทำให้ปัญหาเกิดขึ้น จะอย่างไรแล้วรัฐบาลก็มาจากเสียงของประชาชน... หรือไม่ใช่?

เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงทำเอาความเห็นของสาธารณชนพลิกกลับไปอย่างรวดเร็ว

แต่ความพอดีไม่เคยมีอยู่ สาธารณชนยังไม่อาจเปรียบได้กับเสียงของผู้มีอันจะกินและพลังอำนาจ สำหรับคนจนแล้วมันไร้ซึ่งความสนใจจากพวกเขา นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้านักสำหรับผู้คนที่ไม่เห็นด้วยและไม่ชอบใจ

สำหรับคนอย่างฮยอนอูแล้ว พวกเขาไม่มีพลังอำนาจ ดังนั้นแล้วจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปพร้อมภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้น

“ราคาเท่าไหร่นะครับ?”

ฮยอนอูถอนหายใจออกขณะที่เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

“ห้าล้านสองแสนหนึ่งหมื่นวอน”

‘บ้าจริง ขายอัคคีสังหารไปยังพอแค่ใช้จ่ายสำหรับเดือนนี้เองเหรอเนี่ย’

ในตอนแรกที่เขาตรวจสอบยอดเงินในบัญชี มันรู้สึกเหมือนตนกำลังเดินเล่นบนปุยเมฆ

ทว่า หลังจ่ายค่าใช้จ่ายจิปาถะทั้งหลายไปรวมทั้งค่าเช่าห้อง ค่าอาหาร และค่ายา จากเดิมที่เขามีเงินถึงสิบสี่ล้านวอน ตอนนี้มันลดน้อยลงมาเหลือแค่ห้าล้านวอนแล้ว เงินที่เขาเคยมีเกินกว่าสิบล้านวอนหายวับไปอย่างรวดเร็ว

‘อืม เดือนนี้คงต้องบะหมี่สำเร็จรูปอีกแล้ว’

ฮยอนอูพยายามดึงแรงกายแรงใจออกมาขณะมุ่งหน้าไปยังชั้นที่สอง

เมื่อเขามาถึงชั้นสองบริเวณศูนย์กายภาพบำบัด เขาจึงได้เห็นแม่ของตนเองผ่านทางกระจกหน้าต่าง เมื่อเขาเห็นแม่ที่กำลังก้าวเดินไปพร้อมคำแนะนำของผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดทีละก้าว อารมณ์ที่เคยขุ่นมัวของเขากลับดีขึ้นทันตาเห็น

‘แม่เริ่มฝึกเดินแล้ว!’

หรือก็คือ แรงใจที่จะช่วยให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อได้รับเงินมากขึ้นนั้นถึงกับเอ่อล้นขึ้นมา

“ใช่ ใช่แล้ว ยังไงเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ...”

เหตุผลที่ทางรัฐบาลได้ปฏิรูปวงการแพทย์ก็เพราะหวังพัฒนาคุณภาพการรักษาให้ดียิ่งขึ้น

นับว่าโชคดีที่สัญญาข้อนี้ไม่จางหายไปไหน

ภายใต้การบริหารจัดการที่อิสระมากขึ้นของภาคเอกชน การรักษาย่อมต้องเป็นไปได้ด้วยดีมากขึ้น และที่นี่ ตอนนี้ ที่ศูนย์กายภาพบำบัด แม่ของเขากำลังได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญที่รับหน้าที่ดูแลตรงนี้ ตั้งแต่การออกกำลังกายไปจนถึงอาหารการกิน

ด้วยสิ่งเหล่านี้จึงทำให้อาการป่วยของแม่ของเขาเริ่มดีมากขึ้นอีกทั้งยังรวดเร็ว

ฮยอนอูจึงโยนความคิดเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้นทิ้งไป ตอนนี้เขามีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น

มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ยังคงติดตาฮยอนอูมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาพักหนึ่งแล้ว

เป็นเพราะไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล ชายชราคนหนึ่งถึงกับเชิญออกไปจากโรงพยาบาลโดยไม่ทำการรักษาต่อแต่อย่างใด...

‘เราจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับแม่เด็ดขาด’

ฮยอนอูคิดถึงเรื่องนี้ขณะกัดฟันแน่น

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด