ตอนที่แล้วตอนที่18 การฝึกงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่20 สมุนไพรที่อันตราย หญ้ามังกร

ตอนที่19 การคัดเลือก


“เจ้าบอกว่าพี่เขยของเจ้าเป็นทหารเก่าและได้ฝึกการควบคุมพลังแก้นแท้แห่งชี่กงเป็นการฝึกขั้นพื้นฐาน อันนี้ข้าเข้าใจแต่เจ้าสามารถใช้พลังภายในอัคคีได้อย่างไร?”

คำพูดสุดท้ายนั้นถูกพูดด้วยความเยือกเย็น

“พลังแก่นแท้แห่งชี่กงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของข้า แต่พี่เขยข้าได้สอนวรยุทธอัคคีหลังจากที่ข้าควบคุมพลังแก่นแท้แห่งชี่กงได้”

“วรยุทธอัคคี?”เฒ่าฉินกล่าวออกมาด้วยท่าทีตกใจเขาเขาได้ยิน

“เขาเข้าใจวิธีการควบคุมมันได้อย่างไร?”

“พี่เขยข้ากล่าวว่าเขาได้มาตอนที่เขาสังหารศัตรูได้”

“มันสุดยอดมาก!”ทักษะวรยุทธอัคคีนั้นฝึกโดยเหล่าสาวกของคนทางตอนใต้เป็นวิธีเพาะปลูกจิตขั้นพื้นฐานของนิกายเพลิงอัคคีและเหล่าสาวกนั้นได้มีความขัดแย้งกับคนของเราดังนั้นมันไม่แปลกเลยที่เขาได้มันมาหลังจากที่ฆ่าสาวกเหล่านั้นได้ แปลกที่เจ้าหนูนี่สามารถเรียนรู้มันได้ แต่คงเป็นเพราะพี่ชายคนนั้นอนุญาตให้เจ้าหนูคนนี้ฝึกสินะ เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่ดูดซับพลังธรรมชาติและเปลี่ยนให้มันเป็นพลังภายในธาตุนั้นหาได้ยาก เขาคงไม่ถูกครอบงำด้วยปีศาจและถูกไฟของตนย้อนกลับมาทำร้ายก็คงดี?

หลังจากได้ยินคำพูดของเฒ่าฉิน สิงห์น้อก็ยิ้มให้แต่ทั้งๆที่ในใจกลับขมขื่น มันไม่ได้สอนโดยหวังเทียนเหล่ย แต่เขาขโมยสิ่งๆนี้มาจากเขาต่างหาก แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้แต่เก็บไว้ในใจเท่านั้น เจาจึงนั่งเงียบต่อไป

“เป็นที่เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ดีที่สุดของเจ้าคือการฝึกฝนทักษะศิลปะการต่อสู้ และเจ้าได้สร้างรากฐานของตนเองอย่างมั่นคง มันคงช่วยข้าจากความเจ็บปวดได้อย่างมาก!”

สิงห์น้อยรู้สึกถึงความสุขจากเสียงของเฒ่าฉิน คำพูดของเขานั้นไม่ใช่คำพูดที่ช่างตีเหล็กพูดออกมาสิงห์น้อยได้แต่เงยหน้าด้วยความตะลึง

“อย่าแปลกใจเลย ตอนนี้พี่เขยของเจ้าก็สอนศิลปะการต่อสู้ให้เจ้าแล้ว แล้วเขาได้บอกอะไรเกี่ยวกับเจียงฮุนบ้าง?”

“ใช่ แต่ไม่มากบางทีเขาอาจจะไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ”

“น่าแปลกจริงๆ เจียนฮุนนั้นมีความซับซ้อนอย่างมากเรียกได้ว่าคงมีเพียงเขาคนเดียวในพวกเราที่น่าจะรู้จักนะ” เฒ่าฉินเชื่ออย่างนั้น

“ท่านอาจารย์ ท่านไม่ใช่ปรมาจารย์ระดับสูงรึ?”สิงห์น้อยถามด้วยโทนเสียงต่ำๆ ด้วยอาการกลัวเล็กๆ

“ข้าน่ะรึ? เปล่าเลยเขาเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาของท่านวู่น่ะ”

“ท่านวู่?”

“ใช่ เขาเป็นนายใหญ่เจ้าของร้านเครื่องเหล็ก วู่แห่งยูนโจว!” เมื่อเขากล่าวถึงชื่อของผู้นั้น เขาก็พูดด้วยความภาคภูมิใจ “ข้าจะเล่าให้ฟังเรื่องของท่านวู่น่ะ”

“วู่แห่งยูนโจว เขาเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในด้านการตีอาวุธและเครื่องเหล็กที่กระจายไปทั่วทุกมุมของแผ่นดิน ตระกูลนี้นั้นมั่นคั่งมาก และเพื่อปกป้องความมั่นคั่งเหล่านั้นพวกเขาจะเป็นจะต้องมีผู้สนับสนุนที่เข้มแข็ง”

พวกเขาทั้งสอง

มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงประวัติของตระกูลวู่เมื่อ500ปีก่อน บรรพบุรุษของวู่นั้นเป็นช่างตีเหล็กและด้วยเนื่องจากฝีมือการตีที่ไร้เทียมทานนั้นทำให้ได้รับการคัดเลือกจากหัวหน้าลัทธิเต๋าให้เป็นศิษย์ของเขาในเวลานั้น

เต๋านั้นเป็นหนึ่งในสามสำนักที่ใหญ่ที่สุดแห่งจักรวรรดิจิน มันเป็นหนึ่งในสำนักที่ดีที่สุดและมีการฝึกการต่อสู้อีกด้วยในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้หนุนหลังให้กับตระกูลวู่อีกด้วย

หลังจากที่บรรพบุรุษของตระกูลวู่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักมาหลายปีแล้วเขาก็ได้ประสบความสำเร็จและได้สร้างผลงานมากมายและในที่สุดเขาก็ได้ก้าวเป็นจอมยุทธระดับ9และก็ก่อตั้งตระกูลวู่ขึ้นมา

ถ้าพูดถึงศิลปะการต่อสู้นั้น ตระกูลวู่นั้นมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้บรรลุและได้กลายเป็นจอมยุทธระดับ9 ในขณะเดียวกันก็ยังมีหนุนหลังอย่างสำนักเต๋า

และลูกหลานของเขานั้น หากบางคนมีความสามารถที่โดดเด่นตระกูลวู่ก็จะส่งตัวไปยังสำนักเต๋า ดังนั้นใครจะกล้าที่จะรุกรานเขาได้ล่ะ?

ดังนั้นในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมานี่ธุรกิจของตระกูลวู่นั้นเติบโตขึ้นและค่อยๆเจริญขึ้นมาและได้มั่งคั่งอย่างทุกวันนี้

บางคนอาจสงสัยว่าทำไมสำนักเต๋า ยังคงหนุนหลังให้กับตระกูลวู่ ในปัจจุบัน เนื่องจากทั้งตระกูลวู่และสำนักเต๋านั้นเป็นพันธมิตรกันตั้งแต่500ปีก่อน

ซึ้งเหตุผลหลักๆก็คือเงินนั้นแหละ

สำนักเต๋าปัจจุบันยังเป็นสำนักระดับแนวหน้าและยังมีผู้คนมากมายแม้ว่าสำนักเต๋าจะมีฝีมือมากขนาดไหนแต่พวกเขาเหล่านั้นยังต้องการเงินซึ้งเป็นปัจจัยหลักของการอยู่รอด เพื่อซื้อสิ่งต่างๆ เช่น อาหาร ยา และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น

ดังนั้นนิกายอันทรงเกียรติและสำนักที่อยู่ระดับแนวหน้าอย่างเต๋า นั้นมีอิทธิพลและพันธมิตรของตนเองมากมาย

ผู้นำตระกูลนั้นมีที่ดินเป็นจำนวนมากและปล่อยให้เช่ากับคนอื่นๆ อย่างไรตามในช่วงท้ายของทุกปีนั้นพวกเขาจะได้เก็บเกี่ยวเงินค่าเช่าจำนวนมาก และนี่เป็นแบบเดียวกันกับลัทธิเต๋า

ตระกูลวู่นั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธืพลที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน ธุรกิจเหล่านั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมากและสิ่งเหล่านั้นมันน่าประทับใจอย่างมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งธุรกิจเหล่านั้นให้กับลัทธิเต๋า กล่าวได้อีกในหนึ่งว่าเป็นเพียงการป้องกันจากลิทธิเต๋าปลอมๆเท่านั้น

จริงๆแล้วลัทธิเต๋านั้นเป็นเพียงผู้สนับสนุนตระกูลวู่เท่านั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับลัทธิเต๋าอย่างเดีบวมิ้ช่นนั้นลัทธิเต๋าจะยุ่งมาก ดังนั้นตระกลวู่จึงพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งขึ้น

บรรพบุรุษของตระกูลวู่นั้นมาจากลัทธิเต๋าและได้ฝึกฝนวิทยายุทธ เก้ามังกรสวรรค์  ซึ่งเป็นวิยายุทธที่เกิดจากพลังธรรมชาติอย่าง หมัดอัคคี เป็นต้น นอกเหนือจาก ธาตุเพลิงอัคคีแล้วตระกูลวู่ยังมีทักษะการเคลื่อนไหวอย่าง วรยุทธสะบั้นวายุ อีก 81กระบวนท่าที่ถูกคิดค้นโดยบรรพบุรุษของพวกเขาหลังจากที่บรรลุและเข้าใจอย่างถ่องแท้ และตอนนี้ทั้งวิทยายุทธ เก้ามังกรสวรรค์  และ วรยุทธสะบั้นวายุ นั้นได้กลายเป็นสมบัติของตระกูลวู่ไปแล้ว

แม้ว่าอิทธิพลของตระกูลวู่นั้นใหญ่มาก แต่มีจำนวนน้อยมาก ที่เป็นลูกหลานที่แท้จริงและสายเลือดผสม บางคงไม่มีพรสวรรค์ และที่ผ่านๆมานั้นจะมีความขัดแย้งและปัญหาภายในกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างลูกหลานที่แท้จริงและผู้มีสายเลือดผสม มันมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดสงครามกันภายใน และพวกแตกแยกกันได้ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการนองเลือดเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์

ไม่มีใครสามารถเจะรับเด็กฝึกงานได้ตลอดเวลา ด้วยความมั่นคงและอิทธิพลของตระกูลวู่นั้น พวกเขาได้รับการเด็กฝึดหัดมานับไม่ถ้วนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา  ในหมู่เด็กฝึกงานเหล่านั้นตระกูลวู่จะเลือกเด็กที่มีพรสวรรค์และมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ พวกเด็กฝึดหัดที่ถูกรับเลือกนั้นจะได้เขารับการสอนจากตระกูลวู่อีกด้วย และหากผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่งพวกเขาจะเลือกคนที่มีพรสวรรค์ซึ่งมีศักยภาพในการฝึกฝนทักษะขั้นสูงต่อไป

“ช่างฝีมือพวกนี้นั้นเป็นเพียงเด็กฝึกงานระดับต้น ที่ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้อีก”

หลังจากฝึกวรยุทธ เก้ามังกรสวรรค์ พวกเขาจะมีความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับ พลังอัคคี และได้ฝึกทักษะการต่อยน้ำ9ชนิด บรรพบุรุษของตระกูลวู่นั้นได้สร้างโรงถลุงเหล็กดังนั้นทักษะในการทุบจึงมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับการหลอม ตราบเท่าที่จะมีคนสามารถรวมเทคนิคทั้งสองได้แต่ถ้าหากไม่สามารถทำได้ อย่างน้อยเขาก็จะดีกว่าช่างตีเหล็กธรรมดาๆเล็กน้อย

คนเหล่านี้จะเป็นกระดูกสันหลังให้แก่ตระกูลวู่ หลังจากเกษียณอายุพวกเขาได้รับตำแหน่งเป็นอาจารย์ และอาจารย์เหล่านี้ก็จะมีหน้าที่หาผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างเช่น เฒ่าฉิน เป็นต้น

สิงห์น้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่หายาก

เด็กวัยเพียงแปดขวบแต่สามารถควบคุมพลังแก่นแท้แห่งชี่กง ยิ่งกว่านั้นเขายังสามารถดูดซับพลังธรรมชาติและเปลี่ยนเป็นพลังภายในอัคคี ได้! ซึ่งเหมือนกับ วรยุทธเก้ามักรสวรรค์ ที่ใช้พลังภายในอัคคีเป็นพื้นฐาน

จากคำพูดของเฒ่าฉิน ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้ข้าเข้าร่วมกับตระกูลฉิน มันเป็นทางเลือกที่ดี เช่นเดียวกับคำพูดที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “ต้นไม้ที่ใหญ่กว่าย่อมเป็นผู้สนับสนุนที่ดีกว่า” โดยเฉพาะอย่างยิ่งนั้นจะเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับข้าในการฝึกวิทยายุทธได้อย่างอิสระ เยี่ยม!

“เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดรึป่าว?”

. “ในขณะที่ขคิดอยู่นั้นเอง เฒ่าฉินก็ได้พูดขึ้น”

“แน่นอนท่าน!”สิงห์น้อยพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

“เรื่องนั้นมันขึ้นอยู่กับท่าอาจารย์เลยครับ!” สิงห์น้อยตอบอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้แม้ว่าเขาจะมีความคิดอื่นเข้ามามากมายจนไม่สามารถหยุดคิดมันได้

 

“เยี่ยมมาก!”เฒ่าฉินพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง

“เจ้าในตอนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องฝึกทุบแบบเดียวกับพวกเขาอีกแล้ว ในตอนนี้เจ้าควรไปฝึกวรยุทธอัคคี และสำเร็จวิชานี้ให้ได้ ข้าจะสอน วรยุทธเก้ามังกรสวรรค์ในขั้นต้นให้! และ 9กระบวนท่าสะบั้นค้อน  โดยวิธีนั้นเป็นวรยุทธการแบบเดียวกับพี่เขยเจ้าฝึกในตอนที่อยู่กองทัพ เจ้าเองควรเรียนรู้ทักษะการฆ่าจากเขาด้วย มันเป็นทักษะที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ แต่มันจะกินพลังภายในอย่างรวดเร็วเลยล่ะในการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง”

เมื่อพูดถึงเรื่องนั้ เฒ่าฉินได้กล่าวต่อว่า “เจ้าก็ควรฝึกเพลงหมัดหมีดำอย่างต่อเนื่องและในอีกสองปีหากเจ้าผ่านการคัดเลือกของตระกูลวู่ละก็ เจ้าจะมีโอกาสที่จะได้ฝึกทักษะการปลดขีดจำกัดของพลังลึกลับระดับ ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูก”

“การปลดขีดจำกัดของพลังลึกลับระดับ ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูก?” ดวงตาของสิงห์น้อยเปล่งประกาย เพลงหมัดหมีดำนั้นเป็นวรยุทธที่ทำให้ผิวหน้าแข็งแกร่งขึ้น แต่เขาก็มาถึงขีดจำกัดร่างกายของเขาที่สามารถแบกรับไว้ได้ เขาอยากรู้เกี่ยวกับทักษะการปลดขีดจำกัดของพลังลึกลับระดับ ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูก เพราะเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แม้ว่าเพลงหมัดไทเก๊กจะช่วยให้กระดูกแข็งแกร่งขึ้นก็จริงแต่มันมีผลที่ช้ามาก

“อาจารย์ ตราบที่ผมสามารถผ่านการคัดเลือกได้ ข้าจะได้เรียนรู้ทักษะการปลดขีดจำกัดของพลังลึกลับระดับ ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูกสินะครับ?”

“การคัดเลือกที่ว่า...คืออะไรงั้นรึครับ?”

“การคัดเลือกเด็กฝึกงานขอวู่ที่ทุกคนจะต้องมีอายุสิบปีเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าร่วมได้ โดยในทุกปีจะมีจุดประสงค์ในการเลือกเด็กฝึกหัดที่ดีที่สุดเข้าไปฝึกฝนต่อไป แต่ในตอนนี้เจ้าไม่สามารถเข้าร่วมได้ อีกประมาณสองปีข้างหน้าเจ้าจะต้องฝึกฝนอย่างหนัก เข้าใจไหม?”

“ครับท่านอาจารย์!” สิงห์น้อยตอบกลับด้วยความเคารพ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด