ตอนที่แล้วตอนที่ 74 ร่ำลา (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 ดวงตาปีศาจ (FREE)

ตอนที่ 75 ประทับศักดิสิทธิ์ (FREE)


"หืม..แล้วยังไง? " ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา

"ทำไมเจ้าถึงดูไม่ตกใจเลยละ?” หลี่ โปเหว่ย คิดว่า ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ จะเปลี่ยนไปเมื่อรู้เรื่องนี้ แต่ดูเหมือว่ามันจะล้มเหลว

"ข้าควรจะตกใจ?"

"เจ้าเข้าใจประเด็นที่ข้าพูดหรือไม่!" หลี่ โปเหว่ย เน้นย้ำ

"ยังไง? "

".... " หลี่ โปเหว่ย จ้องเขม็งไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่แสดงท่าทีไร้เดียงสาออกมา เขารู้สึกเหมือนตนเองพ่ายแพ้ แต่ทันใดนั้นเสียงของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น

 

"ตาย! "

เพียงพริบตา หลี่ โปเหว่ย พุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ ดาบในมือของเขาเล็งไปที่ลำคอของ ฟาง เจิ้งจือ ความรวดเร็วของเขานั้นราวกับสายฟ้า บนใบดาบมีแสงประกายจางๆส่องออกมา

"นี่คือความสามารถที่ หลี่ โปเหว่ย เก็บซ่อนเอาไว้!" เจ้าเมืองฮวายอัน ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

"มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!"ขุนนางฉิน สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

"หลี่ โปเหว่ย และข้าเป็นคนของสำนักฉิงเฟิง เขาใกล้จะเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้ว...เดี๋ยวนะ! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาไม่น่าจะมีพลังมากขนาดนี้" นักปราชญ์วัยกลางคนต้องการจะปกป้อง หลี่ โปเหว่ย แต่หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของ หลี่ โปเหว่ย เขาพลันตกใจไปในทันที

เพราะว่า...

พลังที่ หลี่ โปเหว่ย แสดงออกมาในตอนนี้ เหนือกว่าพลังของ เมิ่ง อวี้ชู ที่เข้าสู่วิถีแห่งเต๋าไปในปีที่แล้ว

ที่สำนักทุคนรู้กันดีว่า หลี่ โปเหว่ย ต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยถึงเข้าสู่วิถีแห่งเต๋าได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีพลังขนาดนี้!

 

ในพริบตา ดาบของ หลี่ โปเหว่ย ห่างจากคอของ ฟาง เจิ้งจือ เพียงไม่กี่นิ้ว

แรงของดาบที่พุ่งไปนั้นดูไม่เหมือนว่ายั้งมือแม้แต่น้อย ความเย็นยะเยือกแผ่ไปทั่วลานประลอง ถ้าการแทงในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ต้องมีคนตายแน่นอน!

มันน่ากลัวและอันตรายเกินไป!

ผู้เข้าสอบคนอื่นๆ ที่จองเขม็งไปที่ หลี่ โปเหว่ย ต่างอ้าปากค้าง มันเร็วเกินไปที่ใครจะตามได้ทัน

การแข่งขันก่อนหน้าของ หลี่ โปเหว่ย แสดงให้เห็นว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ตอนนี้....

มันเป็นความสยดสยองชัดๆ!

"ฟุบ! " ร่างทั้งสองร่างนั้นอยู่เกือบจะติดกัน

ทันใดนั้น เสียงอันดังสนั่นเกิดขึ้นบนลานประลอง ก่อนที่ร่างทั้งสองร่างจะแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว

"ฮ่าฮ่าฮ่า....ใครจะคิด! แค่เด็กอายุ 15 ปี จะมีความสามารถขนาดนี้ มีพรสวรค์ขนาดนี้! มากกว่าทีข้าเคยคิดไว้”หลี่ โปเหว่ย เหยียดแขนออก ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

"เจ้าก็ถือว่าใช้ได้! " ฟาง เจิ้งจือ กล่าวออกไป พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เศษน้ำแข็งที่ติดอยู่ที่มือค่อยๆหลุดร่วงลงไป

"วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีสำหรับเฉลิมฉลองให้กับการตายของเจ้า! " เมื่อ หลี่ โปเหว่ย พูดจบ อากาศบนลานประลองเริ่มเยือกเย็นลง

บนใบดาบของเขา มีผลึกน้ำแข็งก่อตัวขึ้น ในเวลาเดียวกันก็มีหมอกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขา

"ระดับประทับศักดิสิทธิ์ หลี่ โปเหว่ย ไปถึงขั้นประทับศักดิสิทธิ์แล้ว! " ตาของ เจ้าเมืองฮวายอันเบิกขึ้นทันที เขาไม่เชื่อว่าแค่การทดสอบระดับมณฑลจะมีคนที่อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์มาเข้าร่วม

หลังจากเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้ว ทุกคนต้องศึกษาทำความเข้าใจถึงการสร้างสิ่งต่างๆ ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน

ตัวอย่างเช่น เมิ่ง อวี้ชู ที่เข้าถึงวิถีแห่งเต๋ามาแล้วหนึ่งปี แต่ก็ยังไม่สามารถมาถึงระดับประทับศักดิสิทธิ์ได้ เขาทำได้แค่เพียงฝืนใช้พลังในขั้นประทับแห่งเต๋าอย่างเกิดขีดจำกัดเพื่อใช้พลังในระดับประทับศักดิสิทธิ์ขั้นต้น

มันเป็นเรื่องของพลัง ถ้าต้องเจอกับคนที่อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์แล้วละก็ แน่นอนวาไม่มีทางเลยที่จะเอาชนะได้

เพราะเมื่อไปถึงระดับนั้นพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในระดับประทับแห่งเต๋า ก่อนที่จะใช้มันออกมาทุกครั้ง ต้องจินตนาการมันออกมาให้ได้เสียก่อน

แต่ขั้นประทับศักดิสิทธิ์นั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ประทับศักดิสิทธิ์แสดงถึงผู้ที่สามารถขุถึงการสรรค์สร้างทุกสิ่งอย่างได้ และประทับทุกรูปแบบไว้ในร่างกายของตนเอง เมื่อจะใช้งาน จึงจำเป็นแค่เรียกมันออกมาเท่านั้น

การจะมาถึงระดับนี้มากต้องอาสัยโชคและความเข้าใจเป็นอย่างมาก

เพราะการที่จะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาได้ในทันทีนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจเต๋าแห่งการสรรค์สร้างในระดับที่สูงมาก ตัวอย่างเช่น มันเกิดขึ้นได้ยังไง มันเปลี่ยนแปลงยังไง..ทุกอย่างต้องอาศัยความเข้าใจ

 

"นี่มันอาจจะไม่ใช่ระดับประทับศักดิสิทธิ์ทั่วๆไป! " ขุนนางฉิน เปิดปากพูด

สิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลองคือ หลี่ โปเหว่ย ยืนความเยือกเย็นจากอากาศรอบๆ ควบแน่นกลายเป็นผลึกน้ำแข็งและสร้างหมอกขึ้นมา จากจุดนี้ทำให้บอกได้ว่า เขาไม่ได้อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์ทั่วๆไป

"ทำไม หลี่ โปเหว่ย ถึงปิดบังความสามารถของตัวเองได้มิดชิดขนาดนี้? " นักปราชญ์วัยกลางคนถอนหายใจออกมา

ผู้ตัดสินต่างตะลึง หลี่ โปเหว่ย มาถึงระดับนี้จริงๆหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น พลังนีดูเหมือนสูงกว่าระดับประทับศักสิทธิ์ขั้นปลายเสียอีก...

มันจะไม่น่าตกใจได้อย่างไร?

“ตาย!” หลี่ โปเหว่ยไม่สนใจผู้คนรอบๆ  ราวกับเขาต้องการให้ผู้คนนั้นตกใจอยู่แล้ว เขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างกายของเขาอยู่ท่ามกลางหมอกที่มองไม่เห็นข้างใน ก่อนจะพุ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ

 

"ดูเหมือนวันนี้อากาศหนาวจังนะ? " ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาเป็นเชิงดูถูก

จากนั้น...รอบร่างๆกยของเขาก็เริ่มเกิดหมอกสีขาว เปรียบเทียบกับ หลี่ โปเหว่ยแล้ว มันดูหนาแน่นกว่าด้วยซ้ำ

"ประทับศักดิสิทธิ์?! "

"ฟาง เจิ้งจือ เองก็อยู่ในระดับนี้แล้วงั้นหรือ?! "

ทั่วทั้งที่นั่งผู้ชม ทุกคนรู้สึกราวกับสติลอยหลุดออกไปจากร่าง ถ้าหลี่ โปเหว่ย อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์น่าตกใจแล้วละก็ การที่ ฟาง เจิ้งจือ เองก็อยู่ในระดับเดียวกันนั้นราวกับอยู่เหนือจินตนาการของพวกเขา

นี่เป็นเพียงการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับมณฑลเท่านั้น

ผู้คนที่เข้าสู่วิถีแห่งเต๋าแล้วมักจะข้ามการสอบนี้และไปเข้าร่วมกรสอบระดับเมืองหลวงเลย สองคนที่อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์ แต่มาเข้าร่วมการแข่งขันระดับมณฑล มันไม่เหมือนเป็นการกลั่นแกล้งคนอื่นๆมากไปหน่อยหรือ?

 

ในตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้นเอง หมอกสองก้อนพุ่งเข้าหากัน

จากนั้น ร่างของหลี่ โปเหว่ย ก็กระเด็นออกมาจากหมอกสีขาว ราวกับอุกาบาตที่ตกลงมาจากฟากฟ้า กระแทกกับพื้นดินเสียงดังสนั่น

หมอกขาวค่อยๆจางหายไป ปรากฎร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ยืนนิ่งมอง หลี่ โปเหว่ย ที่นอนอยู่บนลานประลอง

 

"ว้าว! "

ทันใดนั้นผู้เข้าสอบทุกคนราวกับถูกปลุกเร้า ในที่สุดความสงสัยของพวกเขาก็ถูกเฉลย ฟาง เจิ้งจือ จะแพ้ เมิ่ง อวี้ชู ได้ยังไง ขนาด หลี่ โปเหว่ยที่อยู่ในระดับ ประทับศักดิสิทธิ์ ยังแพ้

นั่นหมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง!

 

"แข็งแกร่งยิ่งนัก! "

"ข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะอยู๋ในระดับประทับศักดิสิทธิ์แล้ว!"

"คนที่ไม่เคยเข้าเรียนในหอแห่งเต๋ามาก่อน อาศัยการศึกษาด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว สอบได้เป็นอันดับหนึ่งด้านปัญญาและมีพลังอยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์? มันเป็นเรื่องที่ใครก็คาดไม่ถึง"

ผู้เข้าสอบต่างถกเถียงกันอย่างกระตือรือร้น

บนที่นั่งผู้ชม หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน มองกันไปมา บนใบหน้าของเขานั้นมีแต่ความตกใจ

"ฟาง เจิ้งจือ...อยู่ในระดับประทับศักดิสิทธิ์?!"

 

ขณะเดียวกัน ขุนนางฉิน ก็ลุกขึ้นยืน มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่บนลานประลอง ราวกับเห็นเพชรเม็ดงามที่ยังไม่ได้รับการเจียรไน

เช่นเดียวกัน ทุกคนต่างจ้องมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ

บนที่นั่งอีกด้าน เหยียน ซิว ลุกขึ้นอย่างฉับพลัน ท่าทีอันเยือกเย็นตามปกติของเขาเปลี่ยนเป็นร้อนรน ราวกับกังวลอะไรบางอย่าง

 

"ระวัง!"

 

"ตูม!" เมื่อ เหยียน ซิว พูดจบ ได้เกิดเสียงคำรามอันดังก้องมาจากลานประลอง พละกำลังอันเหลือล้นทำให้พื้นของลานประลองสั่นสะเทือน

"ตูม ตูม ตูม ..." เศษหินและกรวดกระเด็นออกไปจากลานประลองราวกับมีดที่แหลมคม มันพุ่งเข้าเจาะร่างกายของผู้เข้าสอบคนอื่นที่นั่งอยู่รอบๆ

"อ๊ากก! " เสียงผู้เข้าสอบที่นั่งอยูรอบๆลานประลองร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

บนลานประลองตแนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะบนลานเต็มไปด้วยฝุ่นควัน มีเพียงแค่แสงสีฟ้าที่เกิดขึ้นวูบวาบอยู่ภายในหมอกควันเท่านั้นที่พอมองเห็นได้จากข้างนอก

 

 

เพจหลัก : Gate of god TH

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด