เล่ม 4 ตอนที่ 6 : เมืองไร้กฎเกณฑ์ ไคโร้ท (3) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 4 ตอนที่ 6 : เมืองไร้กฎเกณฑ์ ไคโร้ท (3)
‘นี่ก็เพิ่มเลเวลได้ด้วย?’
“ที่นั่นเหรอไคโร้ท?”
อาร์คกำลังมองไปยังภาพเงาสีดำของเมืองที่กำลังเผยขึ้นอยู่บริเวณเหนือสันเขา
ที่ด้านข้าง ซิดกำลังพึมพำเสียงเบาออกมา
“พอจะพักกันก่อนได้ไหมครับ?”
“ได้สิ นี่ก็ได้เวลาฉันต้องไปอาบน้ำพอดี”
อาร์คกำลังมองสำรวจแผนที่ก่อนจะพยักหน้าให้
“ดีเลยครับ”
พร้อมกันนั้นซิดจึงล้มตัวลงนั่ง
พวกเขามาถึงไคโร้ทได้ภายในสี่วันหลังออกเดินทางจากกิรัน
ที่จริง การเดินทางอย่างต่อเนื่องสี่วันขนาดนี้ออกจะเกินแรงไปบ้าง
และมันก็เป็นเพราะคำพูดหนึ่งของอาร์คนั่นแหละ
“เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลาก็มุ่งตรงไปยังไคโร้ทเลย”
แม้ว่าแฮนสันที่เป็นนักวาดแผนที่จะบอกตำแหน่งของไค้โร้ทอย่างชัดเจนมาแล้ว แต่แผนที่รอบบริเวณของมันกลับยังไม่เด่นชัดอะไร การที่จะหาเส้นทางที่เหมาะสมจากกิรันไปยังเป้าหมายปลายทางออกจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้นแล้ว อาร์คจึงตัดสินใจเลือกใช้เส้นทางที่เร็วที่สุดที่จะสามารถไปยังไคโร้ทได้โดยการตัดตรงแผนที่มา
...นับว่ามันคือความผิดพลาด
พื้นที่ระหว่างกิรันและไคโร้ทมันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยกระจ่างชัดเพราะพวกเขายังไม่เคยไปสำรวจ
มันเป็นป่าหนาทึบที่แทบมองไม่เห็นทางออกเลยด้วยซ้ำ
เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นพื้นที่การล่าเลเวลสูงที่มีมอนสเตอร์ประหลาดเลเวล 100 อยู่เต็มไปหมด
ด้วยโบนัสจากความมืดที่ทำงานตอนกลางคืน ทำให้เขาสามารถรับมือกับพวกมอนสเตอร์ได้ แต่ระหว่างช่วงเวลากลางวันนั้นไม่อาจ นอกจากนี้ มันยังมีส่วนที่ต้องข้ามช่องเขามาซึ่งมันเป็นสถานที่คล้ายวงกตอะไรทำนองนั้น มันยากที่จะผ่านแถมยังง่ายที่จะหลงทาง นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่พวกเขาสามารถหลุดพ้นป่าแห่งนั้นมาอย่างมีชีวิตรอดได้
ซิดถึงกับมองอาร์คด้วยดวงตาไร้แววตา
‘โชคยังดีที่พวกเราพบเจอโบราณสถานลับภายในป่านั่น แถมยังได้เพิ่มค่าความสัมพันธ์กับเอ็นพีซีเผ่ามิกุมิกุอีก... หากไม่ได้เรื่องนี้ช่วยล่ะก็ เราคงตายอยู่ในนั้นแหง’
ที่สถานการณ์มันยากขึ้นมาก็เพราะอาร์ค นับได้ว่าเป็นการปลุกกระตุ้นความหวาดกลัวในตัวซิดได้เป็นอย่างดี
ยิ่งสถานการณ์ยากลำบาก นั่นก็หมายถึงในหนึ่งวันอาร์คจะได้นอนน้อยกว่าสองชั่วโมง ด้วยเหตุนั้น กระทั่งซิดจึงต้องโดนลากถ่วงเวลาไปด้วย นอกจากนี้ พวกสัตว์ในป่ายังไม่คิดหยุดพักไล่ล่าพวกเขาจนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าทั้งความเหนื่อยล้าอีกทั้งยังไม่ได้นอน มันยิ่งบั่นทอนสุขภาพของพวกเขาจนย่ำแย่เลยทีเดียว
เกือบตายไปแล้ว ความคิดพวกนี้ผุดขึ้นในหัวพวกเขากี่ครั้งกัน?
พอออกจากกิรันก็มุ่งหน้าตรงมายังป่าแห่งนี้ แน่นอนว่าสถานที่สุดท้ายสำหรับการฟื้นคืนชีพย่อมต้องเป็นที่กิรัน... ซิดแทบคิดอยากตายในป่าแห่งนี้เสียจะได้กลับไปพักที่กิรันด้วยซ้ำไป แต่ทว่า...
เขาได้พบว่ายามที่อาร์คต่อสู้ อีกฝ่ายมักจะปกป้องซิดอยู่เสมอ แน่นอน กระทั่งซิดยังรู้ว่านี่ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ที่มีต่อกันอันใด แต่มันเป็นเพราะสิ่งของทั้งหลายที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหกใบของเขาต่างหาก
หลังจากนั้น ทั้งสองจึงสามารถผ่านนรกอันโหดร้ายมาจนกระทั่งถึงไคโร้ทได้
เพียงแค่มองเห็นไคโร้ทที่อยู่ไกลออกไปก็แทบทำเอาน้ำตาไหลได้แล้ว
‘นายทำได้ซิด! นายทำได้! ทำได้ดีมากซิด! นี่มันวิเศษยิ่งนัก!’
“เป็นอะไรไปน่ะ?”
“เอ่อ เปล่าหรอกครับ ฝุ่นมันเข้าตาน่ะครับ...”
ซิดปาดน้ำตาที่ทำให้ดวงตาพร่ามัวออกด้วยแขนเสื้อ
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ พวกเราต้องจัดสิ่งของแถมยังต้องพักผ่อนกันอีก”
“ครับ!”
พอเขาพูดจบคำเท่านั้น ซิดก็เผยรอยยิ้มกว้างขณะพยักหน้ารับอย่างเร็วแรง
ผ่านไปไม่นานทั้งสองจึงค่อยขึ้นไปยังด้านบนสันเขา
ตำแหน่งของไคโร้ทนั้นตั้งอยู่ที่บนสุดของสันเขา คล้ายกับพวกมาชูปิกชูอะไรพวกนั้นที่เคยเห็นตามสารคดี ด้วยขนาดของเงาที่ปรากฏผ่านทางแสงจันทร์ที่หมองหม่น ขนาดของมันดูแล้วสมควรทัดเทียมได้กับปราสาทแจ๊คสันเลยทีเดียว
เถาวัลย์ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นก็ค่อนข้างหนาอีกทั้งยังไต่ไปทั่วเมืองคล้ายกับเป็นปราการธรรมชาติ
หากไม่มีตำแหน่งที่แสดงบนแผนที่ ไคโร้ทนับได้ว่ายากต่อการพบเจอเพราะเถาวัลย์หนาเตอะจนทำให้มันดูคล้ายป่าไป
ทางหน้าของไคโร้ทมีทหารยามเอ็นพีซีคุ้มกันอยู่
ไม่เหมือนกับเมืองอื่น ทหารยามเมืองนี้สวมใส่ชุดราวกับเป็นโจรก็ไม่ปาน
อาร์คและซิดจ้องมองเถาวัลย์เหล่านั้นด้วยสายตาเหลือเชื่อก่อนที่จะเข้าไปใกล้ทางเข้า ทหารยามที่ขมวดคิ้วรออยู่ก่อนแล้วจึงกล่าวขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าไปได้
“เดี๋ยว! พวกเจ้ามีธุระอะไร?”
“ครับ? ก็แค่เข้าไปในเมือง?”
“เหอะ! ไปให้พ้น! นี่ไม่ใช่สถานที่ให้เด็กน้อยเข้าไปได้!”
“หมายความว่าอะไร?”
“ไม่ได้ยินที่ข้าบอกให้ไสหัวไปหรือไง?”
“หากให้ข้าต้องพูดอีกครั้ง ข้าก็คงต้องทำให้เจ้าเดินกลับไปทั้งน้ำตาแล้ว!”
ทหารยามเอ็นพีซีที่หยาบกระด้างหลายคนกำลังเข้ามารุมล้อม
สภาพแวดล้อมกลับกลายเป็นตึงเครียด พวกเขาไม่อาจสร้างปัญหากับเอ็นพีซีได้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงไคโร้ท นั่นทำให้ทั้งอาร์คและซิดต้องจากไปด้วยความสับสนมึนงง
“ทำไมพวกเขาทำแบบนั้นล่ะ? เอ็นพีซีห้ามไม่ให้ผู้เล่นเข้าเมืองเนี่ยนะ?”
แน่นอนว่า บางครั้งทหารยามก็มีหน้าที่คัดกรองผู้เล่นที่จะเข้าเมือง ทว่า นั่นก็เป็นการคัดกรองผู้เล่นฆาตกร ขณะที่ครุ่นคิดเรื่องราวความเป็นไปได้ อาร์คจึงนึกถึงเรื่องหนึ่งที่เขาลืมไปเสียได้
“อ๋า นี่มันเมืองสำหรับผู้เล่นฆาตกร!”
“โอ๊ะ จริงด้วยครับ ผมได้ยินว่ามีเพียงผู้เล่นฆาตกรที่จะเข้าไปยังไคโร้ทได้”
ซิดก็ดูเหมือนจะคิดเช่นเดียวกันจนถึงกับร้องเสียงแปลกออกมา
“งั้นแล้วพวกเราจะทำไง? นี่พวกเราเดินทางมาไกลมากแล้วนะ...”
“ไม่หรอก ยังมีทางอยู่”
รอยยิ้มชั่วร้ายพลันกระจายบนใบหน้าของอาร์ค
‘หึหึหึ ดีนะที่เก็บเจ้าสิ่งนี้มา นี่เกือบลืมไปเลยนะเนี่ย... ไม่คิดว่าจะได้เอามาใช้งานตอนนี้ แน่นอนว่าที่เก็บมาก็เพราะคิดว่ามันต้องมีประโยชน์ในสักวัน เพราะเราไม่มีทางรู้ได้ว่าเราจะต้องการมันตอนไหนและที่ไหน’
“เจ้างู เอาม้วนคัมถีร์ [ลวง] ออกมา!”
เจ้างูคายเอาม้วนคัมภีร์สีแดงออกมา
หลังจากที่ซิดตรวจสอบม้วนคัมภีร์แล้ว ดวงตาของเขาถึงกับเบิกกว้างขณะส่งเสียงดังขึ้น
“ครับ? นี่มัน!”
“ไอ้นี่ฉันได้มาจากตอนที่ฆ่าลีโอไปน่ะ”
อาร์คพูดกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ที่จริง มันเป็นไอเทมที่เขาคิดจะขายมันทุกครั้งที่พื้นที่ในกระเป๋าไม่พอเสียด้วยซ้ำ ทว่า การพยายามขายไอเทมพิเศษที่เขาลำบากลำบนกว่าจะได้มาเช่นนี้กลับทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจนัก... นับได้ว่าโล่งอกไปทีที่ยังมีมันอยู่
“เอาล่ะ ไหนดูสิใช้ยังไงกัน?”
อาร์คใช้งานม้วนคัมภีร์เพื่อแก้ไขข้อมูลตัวละคร
=====
ชื่อตัวละคร : อาร์ค
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
แนวโน้ม : ความดี +200
ชื่อเสียง : 1635
เลเวล : 90
อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด
ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยาสรรพสิ่ง, วีรบุรุษแห่งแจ๊คสัน
พลังชีวิต : 1,745
พลังมานา : 1,355 (+100)
พลังจิตวิญญาณ : 100
พละกำลัง : 234 (+5)
ความคล่องตัว : 264 (+17)
ความอดทน : 334
สติปัญญา : 33
ความฉลาด : 262
โชค : 45
ความยืดหยุ่น : 26
ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 23
เสน่หา : 55 (+10)
ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 63
ผลจากอุปกรณ์สวมใส่
ชุดเกราะหนังหนูหมีสีดำ : ความคล่องตัว 2, ภูมิต้านทานความหนาว +20
อุ้งตีนแมว : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%
หมวกโกเลมคริสตัล : +100
รองเท้านอแรต : ความเร็วเคลื่อนที่ 10%, หลบหลีก +5%
สร้อยคอของอเดเลียน : พลังป้องกัน +40, เสน่หา +10
ปลุกวิญญาณ : พละกำลัง +5, ฟื้นฟูพลังมานา +5%
*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 30% ในความมืด
*ท่านได้รับความสามารถหลบซ่อนตัวตนในความมืด ระยะเวลาส่งผล 15 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสภาวะต่อสู้
*ภูมิต้านทานความกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%
*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงออกมาได้จากอุปกรณ์ทุกชนิด
=====
ม้วนคัมภีร์ [ลวง] เป็นม้วนคัมภีร์ที่เอาไว้ใช้แก้ไขเลเวลและแนวโน้มของผู้เล่น รวมถึงค่าสถานะที่สามารถสุ่มขึ้นมาใหม่ได้ ทว่า เลเวลและค่าสถานะทั้งหลายจะต้องไม่มากหรือน้อยเกินกว่า 10 ระดับที่เป็นอยู่ ระยะเวลาส่งผลก็จะคงอยู่ถึงหนึ่งชั่วโมง
“เพิ่มเลเวลสัก 10 ระดับแล้วกัน ส่วนแนวโน้มก็เปลี่ยนเป็นฆาตกร”
เลเวลของอาร์คในตอนนี้เพิ่มขึ้นมาถึง 90 ได้แล้วเพราะเหตุการณ์ในป่าทั้งสามวันที่ผ่านมา ม้วนคัมภีร์ลวงสามารถเพิ่มเลเวลของเขาให้เป็น 100 ได้ และทำให้เขาได้กลายเป็นผู้เล่นฆาตกรและมีชื่อที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดง ในขณะที่ผู้เล่นอื่นใช้มันเพื่อลดทอนเลเวลของตนเอง เขากลับเพิ่มเลเวลขึ้นเสียแทน
เหตุผลก็เพราะเขาในเวลากลางคืนก็มีเลเวลทัดเทียมนี้ไม่ต่างออกไป
“แต่ม้วนคัมภีร์นี่มันม้วนเดียวเสียด้วยสิ”
“เอ่อ แล้วผมล่ะครับ...?”
“เดี๋ยวฉันเข้าไคโร้ทไปซื้อม้วนคัมภีร์มาก่อน แถมฉันต้องไปรวบรวมข้อมูลเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย ซิดนายไปหาสถานที่รอก่อนแล้วกัน พยายามอย่าทำอะไรให้เป็นที่สนใจเพราะแถวนี้เป็นถิ่นพวกผู้เล่นฆาตกร นายอาจตกอยู่ในอันตรายได้”
“ครับ เอาตามนั้นก็ได้ครับ”
ซิดพยักหน้ารับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
อาร์คจึงยิ้มอ่อนตอบกลับไป
“มูลค่าของคัมภีร์ที่ต้องให้นายใช้ก็หักจากกำไรที่นายขายของได้นะ”
เขาเกือบเผลอใจคิดว่าอาร์คจะใจดีไปเสียแล้ว ที่ซิดยังอยู่รอดปลอดภัยตลอดทางมาจนถึงไค้โร้ทได้ก็เพราะเขามีประโยชน์ด้านขนของ แต่อีกฝ่ายเป็นใคร อาร์คยังไงล่ะ เป็นตัวตนที่เสมอต้นเสมอปลายอยู่วันยังค่ำ
ซิดถึงกับเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดให้ขณะพยักหน้ารับ
“ครับ ฮ่ะฮ่ะ! ตามนั้นแหละครับ”
“งั้นฉันไปก่อนนะ หาที่หลบซ่อนตัวดี ๆ แล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วย”
แทนที่อาร์คจะมองหน้าซิด เขากลับมองไปยังกระเป๋าทั้งหกใบแทน เรื่องราวเป็นไปอย่างที่คาดคิดเอาไว้ หลังจากมาถึงประตูทางเข้าอีกครั้ง พอชื่อของเขาที่แสดงเป็นสีแดงท่าทีของเอ็นพีซีถึงกับเปลี่ยนแปลงไป
“อ้าว? นี่นายคนเมื่อกี้นี้นี่นา?”
“ครับ ใช่...”
หลังจากพิจารณาอาร์คไปมาพักหนึ่ง เอ็นพีซีตรงหน้าจึงค่อยหัวเราะออกมาเสียงดัง
“คึคึคึ กลิ่นเลือดของเจ้าช่างหอมหวนยิ่งนัก มันฟุ้งกระจายจากร่างเจ้าเลยทีเดียว ว่าไป แล้วสหายตัวน้อยเจ้าล่ะ?”
“แถวนี้แหละครับ เจ้าฮอบบิทนั่นเป็นอาหารสัตว์ป่าอยู่แถวนี้แหละ ว่าแต่นี่เสร็จเรื่องหรือยังครับ?”
“หึหึหึ เจ้าช่างเลวร้ายขนาดทรยศเพื่อนที่ร่วมทางมาจนถึงที่แห่งนี้ได้ แต่ข้าชอบการกระทำของเจ้านะ ทำได้ดีเลยทีเดียว แล้วก็สถานที่นี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับพวกอ่อนแอ ในเมื่อเจ้าละทิ้งหน้ากากดั้งเดิมไปแล้วพวกเราก็ยินดีต้อนรับ”
ค่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและทหารยามพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อาร์คคิดใช้โอกาสนี้รวบรวมข้อมูล
“ว่าไป เคยเห็นผู้ชายที่มีผมสีแดงมาที่นี่บ้างหรือเปล่าครับ?”
“ชายผมสีแดงรึ? อืม น่าจะเห็นมั้ง? มันเป็นคำถามที่ตอบได้ยากนะ สถานที่แห่งนี้วันหนึ่งมีผู้คนนับร้อยเข้าออกตลอด แล้วส่วนใหญ่ก็จะใส่หมวกเสียด้วย”
“งั้น ช่วงไม่กี่วันมานี้มีเรื่องประหลาดอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่าครับ...”
“เรื่องแปลกเนี่ยนะ? นี่มันเมืองไร้กฎเกณฑ์ ปัญหาเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้านั่นแหละ มันไม่มีเรื่องอะไรน่าแปลกเลยสักนิด แม้ว่าช่วงหลายวันมานี้เถาวัลย์ที่คุ้มกันเมืองดูจะเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง แต่ก็มีแค่นั้น เจ้าอยากรู้เรื่องอะไรพวกนี้ด้วยงั้นรึ?”
“ครับ ก็สนใจอยู่บ้าง”
“แล้วก็ ถ้าตอนไหนมีปัญหาขึ้นมาก็เรียกได้นะครับ ผมพร้อมช่วยเหลือเสมอ”
“ขอคืนมันให้เจ้าแล้วกัน คนต่างถิ่นน่ะต้องปกป้องตัวเองยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”
เอ็นพีซีทหารยามหัวเราะคิกคักออกมา
อาร์คทำเมินเฉยพวกเขาและเข้าไปยังไคโร้ท
เขาไม่อาจรู้สึกถึงความปลอดภัยใดในเมืองแห่งนี้ได้เลย ไคโร้ทสมแล้วที่เป็นเมืองไร้กฎเกณฑ์ มีทหารยามเอ็นพีซีก็จริง แต่พวกเขามีเอาไว้คัดแยกไม่ให้ผู้เล่นธรรมดาเข้ามาต่างหาก เรื่องอื่นใดพวกเขาล้วนไม่สนใจ
หน้าที่ของพวกเขายังมีอีกอย่าง นั่นก็คือปกป้องไคโร้ทหากโดนบุกโจมตี
สถานที่แห่งนี้มันส่งเสริมอาชญากรรมอย่างชัดเจน
แน่นอนว่า หากพวกเขาเอาแต่สู้กับผู้เล่นฆาตกรทุกวันคงต้องเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา ดังนั้นแล้วจึงมีกฎเกณฑ์อยู่บ้างเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่อาร์คต้องไปสนใจเพราะเขาเพิ่งเข้ามายังไคโร้ท
อีกทั้ง มันยังมีแสงวูบวาบปรากฏขึ้นทุกครั้งที่เขาเดินผ่านทางถนนไป
เหล่าผู้เล่นฆาตกรต่างหลบซ่อนอยู่ในหลืบขณะใช้ [สอดส่อง] เพื่อตรวจสอบเลเวลของอาร์ค นอกจากนี้ ผู้เล่นบางคนยังยื่นคำขอปาร์ตี้มาอีก จุดประสงค์ของพวกเขาไม่ใช่เพื่อตั้งปาร์ตี้ แต่มันเป็นเพราะต้องการหยั่งเชิงว่าอาร์คมีแนวร่วมในปาร์ตี้อยู่ก่อนหน้าหรือไม่
“ชิ เลเวลสูงเสียจริง”
“แถมยังมีปาร์ตี้เสียด้วย เผลอไปมีเรื่องด้วยคงไม่จบง่ายแน่”
“หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอย่างน้อยพวกเราก็ควรสอนบทเรียนอะไรให้มันบ้าง”
ตอนนี้ พวกผู้เล่นที่หลบอยู่ตามซอกซอยต่างกำลังถอนตัวไป