ตอนที่แล้วตอนที่ 1 เพ่งจิตเป็นคริสตัล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 สภาวะหายใจในครรภ์ของแมว

ตอนที่ 2 น้องชายอัจฉริยะ


นี่เป็นเวลากลางคืน หลังจากที่  เจียง หลี่ ได้กลับมาจากโรงเรียนของเขาเเละมาถึงบ้านเขาได้กลิ่นเผ็ดร้อนจากเนื้อสัตว์จมูกของเขากระเซ็นไปด้วยความหิวโหยก่อนที่เขาจะลอบกลืนน้ำลายกลับลงไป

 

"เเม่ ทำไมเนื้อนี่มันมีกลิ่นที่หอมเเละดูน่าอร่อยจัง?"

 

เเม่ของเขาโผล่หน้าออกมาจากครัวเเละพูดว่า"วันนี้เเม่ได้ไปซื้อเนื้อ ชา เหลา มาทำซุบ"

 

"เนื้อนี่เป็นของน้องชายของเเก"พ่อของเขา เจียง เสิ่นตง "กล่าวไอ"เนื้อนี้มีราคาถึง 600 เหรียญดวงดาว ต่อกิโลกรัม"เหรียญดวงดาวนั้นเป็นสกุลเงินสำหรับมนุษย์ในยุคกาเเล็กติก มันมีค่าเป็นอย่างมากเพราะเหรียญ 1 เหรียญมีค่าเท่ากับ ทอง 1 กรัม

 

เงินเดือนของพ่อเเม่ของเขารวมกันนั้นมีมากกว่า 100 เหรียญซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะมีชีวิตอยู่ได้สบาย เเต่ก็ไม่พอที่จะเลี้ยงอาหารมื้อหรูได้ตลอด

 

ชา เหลา นั้นเป็นสัตว์ประเภทเเลคซี มันยากมากที่จะจับตัว เนื้อของมันนั้นเป็นอาหารเสริมชั้นดีที่สามารถปรุงเเต่งร่างกายของคนให้เพิ่มความเเข็งเเกร่งได้โดยการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อเมื่อเทียบกับโสมสมุนไพรต่างๆเนื้อนี่มีประโยชน์มากกว่า 10 เท่า

 

"พ่อ ฉันรู้ว่าเนื้อนี้เป็นของน้องชายเเละน้องชายเองก็ต้องใช้มัน!!!"เจียง หลี่ พยักหน้าตอบรับในทันทีเขารู้ว่าน้องชายของเขาต้องการสิ่งของที่ดีเเละมีประโยชน์แบบนี้มันจะดีที่สุดหากใช้กับน้องชายเขา

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !

 

เสียงฝีเท้าจอดอยู่ที่หน้าประตู ก่อนที่ประตูจะง้างเเละเปิดออก พลัน ปรากฏชายหนุ่มรุ่นเยาว์ขึ้นที่หน้าประตู

 

เขาก็คือ เจียง เต่า

 

เขามีร่างกายที่กำยำเเละเเข็งเเกร่งมีส่วนสูงถึง 1.9 เมตร อีกทั้ง ยังอายุเพียง 16 ปี ตัวของเขาใหญ่กว่าตัวของ เจียง หลี่ มากนัก ร่างกายของเขาเหมือนจะระเบิดออกมาด้วยมวลกล้าม สายตาที่เเหลมเหมือนเหยี่ยวทำให้เขามีท่าทีที่สง่างามเเละเป็นที่รู้จักมากในโรงเรียน

 

เจียง หลี่ ตอนนี้อายุ 17 ปี ความสูงของเขาอยู่ที่ 1.75 เมตรเพียง

 

พวกเขาทั้ง 2 อายุห่างกันเเค่ 11-12 เดือนตามลำดับ

 

"พ่อ,เเม่,พี่,ผมกลับมาเเล้ว"

 

"วันนี้การสอบของลูกเป็นอย่างไรบ้าง?พลังชีวิตลูกเพิ่มขึ้นหรือไม่?"เจียง เสิ่นตง กล่าวออกมาเเม้เเต่เเม่ของเขาที่ทำงานในครัวก็รีบออกดูมาเช่นเดียวกัน

 

"การทดสอบของผมนั้นก้าวหน้าขึ้นตอนนี้มีพลังชีวิตของผมไปถึง 0.95 เเล้ว อีกทั้งยังได้รับทุนการศึกษา 30 เหรียญดวงดาว"เจียง เต่า กล่าวพร้อมกับเอากระดาษสีเเดงออกมาให้ดู

 

"วิเศษไปเลย วิเศษมาก"เจียง เสิ่นตง กล่าวด้วยความสุข"ลูกจะต้องพยายามอย่างหนักที่สุดเพื่อเตรียมสอบเข้าสถาบันเเอสทรัล ความหวังของครอบครัวพวกเราอยู่ที่ลูกเเล้ว วันนี้ เเม่ของเจ้าได้ปรุงเนื้อ ชา เหลา เพื่อฉลองให้เเก่ลูก รีบมากินมันเร็ว"

 

"พี่ใหญ่ท่านไม่กินมันหรือ?"เจียง เต่า มองไปที่ เจียงหลี่"พลังชีวิตของพี่อยู่ที่ 0.7 ถ้าหากได้กินเนื้อ ชา เหลา ละก็บางทีพลังชีวิตของพี่อาจจะเพิ่มขึ้น"

 

"ไม่เป็นไรนายกินเถอะ"เจียง หลี่ โบกมือปฏิเสธ"ความสามารถของฉันยังห่างไกลจากนายนักมันจะเสียของเปล่าหากฉันกินเข้าไปดังนั้น น้องชาย รีบกินซะสิ่ อย่าทำให้ พ่อกับ เเม่ต้องลำบากใจเลย!!!"

 

พวกเขาเป็นครอบครัวที่ประกอบไปด้วย 5 คน มี พ่อ,เเม่ เจียง หลี่ ,เจียง เต่า,เเละน้องสาวอายุ 13 ปี ของเขา เจียง ซวน

 

"ว้าวพี่ 2 มีพลังชีวิตถึง 0.95เเล้ว?"เด็กหญิงอายุ 13 ปีเปิดประตูห้องของเธอออกมาเธอก็คือ เจียง ซวน

 

"หนูได้ยินมาว่ามีนักเรียนมากกว่า 2 เเสน คน ที่เรียนชั้นปีที่ 11 เเละพี่รอง ก็ติดอันดับที่ 10ของชั้นปีนั้น"

 

"ฮ่าฮ่า สาวน้อยเจ้ามาเเล้วเหรอ?"เจียง เต่า กล่าวพร้อมกับยกเธอมานั่งบนตักเขา"เเม้ว่าพลังชีวิต 0.95 นั้นจะดีมากในโรงเรียนเเต่ก็ยังห่างไกลจากคะเเนนจำเป็นสำหรับการสอบเข้าสถาบันเเอสทรัล พี่จะต้องก้าวไปสู่ขั้นพลังชีวิตระดับ 1 ให้ได้โดยเร็ว"

 

"น้องชาย...นายต้องไม่ฝืนตัวเองเกินไป"เจียง หลี่ เเสดงความห่วงใยก่อนที่จะกล่าวว่า"จากนักเรียนทั้งหมด 8เเสนคนในโรงเรียนของเรา คนที่มีพลังชีวิตเท่ากับ 1.0 นั้นมีน้อยกว่า 10 คนเสียอีก พวกเขาเป็นพวกมั่งคั่งอีกทั้งยังได้กินอาหารดีดีครอบครัวของเราไม่สามารถทำเช่นพวกเขาได้ดังนั้น..."

 

"ฉันเข้าใจดี..."เจียง เต่า กล่าวพร้อมกับบอกว่า"พี่ใหญ่ฉันได้เริ่มเข้าสู่การฝึกขั้นตอนที่ 2 เเล้ว ฉันได้เริ่กฝึกสภาวะหยุดนิ่งในช่วง 3 วันก่อนหน้านี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้คนเหล่านั้นดูถูกว่าทรัพยากรบ่มเพาะเหนือกว่าทุกอย่าง"

 

"อะไรนะ เริ่มฝึกสภาวะหยุดนิ่งเเล้ว?"เจียง หลี่ รู้สึกประหลาดใจ"น้องชายเจ้าไม่ได้ล้อพี่เล่นใช่ไหม"

 

"จริงงั้นหรอ?"เจียง เสิ่นตง กล่าวพร้อมกับพร้อมกับเเม่ของพวกเขารวมถึงน้องสาว เจียง ซวน เองก็ประหลาดใจ

 

เจียง เต่า นั้นเป็นอัจฉริยะเเละเมื่อเร็วๆนี้เขาเพิ่งจะเเสดงความสามารถของออกมา เมื่อตอนเขาเรียนมัธยมต้นเขาก็เรียนรู้เเละสามารถเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้อย่างรวดเร็ว

 

ตั้งเเต่นั้นมาเขาก็นอนหลับเพียง 1 ชั่วโมง เเละมีพลังตลอดทั้งวัน ขณะที่เจียง หลี่ ต้องนอนถึง 7-8 ชั่วโมงถึงจะฟื้นพลังเต็ม ทั้ง 2 คนจะเทียบกันได้อย่างไร เเล ะตอนนี้น้องชายเขาก็กำลังฝึก สภาวะหยุดนิ่ง อีกด้วย

 

ข้อความจาก 'ต้า ซือ เดา หลุน' กล่าวไว้ว่า"คนที่เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งได้นั้นจะบุกน้ำลุยไฟก็ไม่เป็นไรเพราะพลังเเฝงในร่างกายนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

การเปลี่ยนเเปลงภายในนั้นเป็นการเปลี่ยนเเปลงภายในที่พิเศษคล้ายกับกลายหลั่งพลังภายใน

 

TL หมายเหตุ: (内分泌 / การหลั่งภายใน): การเดินพลังตามธรรมชาติของร่างกายเหมือนการหลั่งของฮอร์โมน

 

หากเทียบน้องชายของเขากับ จาง เยว่ ,จาง เยว่ ก็ดับราวกับขยะไปเลย

 

เจียง หลี่ รู้สึกพอใจมาก เขารู้ว่า จาง เยว่ ใช้ทรัพยากรอย่างล้มหลามเพื่อที่จะเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราที่เป็นการฝึกเเบบโบราณ หลังจากที่จิตวิญญานเข้าสู่สภาวะห้วงนิทรา พวกเขาก็สามารถออกฝึกเเบบสมัยใหม่ได้ เเละถ้าเราเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทรา ถึงเเม้ว่าจิตของเราจะหลับอยู่เเต่ประสงค์ของเรานั้นจะยังตื่นหากเราชกกำปั้นออกไปมันก็ยังเป็นการโจมตีทางจิตใจได้อีกด้วยเพราะงี้ การเข้าสู่สภาวะห้วงนิทรา ขั้นที่ 3 ได้นั้น ถึงเเม้ว่าจะเข้าสู่ฝึกฝนมันก็ทำให้ร่างกายไม่ทราบถึงอาการเจ็บปวดเเละทุกสิ่งจะถูกควบคุมทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามหลายคนก็ต้องมาจบ ขั้นที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทราไปเพราะจิตวิญญานนั้นไม่อาจเลิกคิดได้ก็เหมือนหัวใจของวานรที่มีความคล่องตัวเเละชาญฉลาดเเต่ก็ไม่อาจบังคับได้

 

นักเรียนทั้งหมดในโรงเรียนนั้นมีทั้งหมด 800,000 กว่าคน เเต่อาจจะมีเพียง 1-2 คนเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่สภาวะหายใจในครรภ์ได้หรือไม่ก็ไม่มีเลย เจียง เต่า ก็เป็น 1 ในคนที่มีโอกาสฝึกฝนได้สำเร็จมากที่สุด ถ้าเขามีทรัพยากรที่เพียงพอ

 

เพราะเหนือกว่าการสภาวะหยุดนิ่งก็คือการหายใจในครรภ์พวกเขาสามารถบรรลุได้โดยเหล่าผู้ทรงอำนาจทางจิตวิญญานหรือไม่ก็ชนชั้นสูงของมนุษย์ที่เรียกว่าการหายใจในครรภ์นั้นก็คือการหยุดหายใจผ่านปากเเละจมูกราวกับสร้างสถานะของตายขึ้นมาเซลล์ภายในร่างจะพัฒนาอย่างสมบูรณ์เเละร่างกายของมนุษย์ก็จะเเข็งเเกร่งขึ้นราวกับหินผา

 

อย่างไรก็ตามยังมีสภาวะอื่นๆอีกที่เหนือกว่าการหายใจในครรภ์ เเต่หัวข้อเหล่านั้นก็เป็นเพียงเเค่หัวข้อวิจัยโดยนักจิตวิญญานชั้นสูง นักเรียนปกติไม่มีทางรู้ได้

 

[ED หมายเหตุ: มันจะมี 3 ขั้นตอนคือ สภาวะห้วงนิทรา -> สภาวะหยุดนิ่ง ->เเละการหายใจในครรภ์ นี่เป็นเทคนิคของการฝึกจิตวิญญาณ / จิตใจ ไม่ใช่การเพาะปลูกตามปกติที่เรามักจะได้รับดังนั้นหัวใจของคนที่สามารถบรรลุได้ถึงจะเรียกว่าสภาวะของจิตใจ  และพลังชีวิตก็คือ "ระดับการเพาะปลูก"

 

ในเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีบุคคลคนที่เข้มเเข็งอยู่ 2 ประเภท คนหนึ่งก็คือผู้ที่มีทรัพยากรล้นหลามเเละอีกคนคือผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างเช่น เจียง เต่า

 

ในเวลานี้ทางโทรทัศน์ได้ฉายข่าว มีหญิงสาวกำลังยิ้มเเละพูดว่า"ตามสถิติที่ได้รับมามนุษย์ในย่านทั่วไปนั้นมีอายุเพียงเเค่ 100 กว่าปีเท่านั้น เเต่ส่วนอายุขัยเฉลี่ยของผู้ที่อยู่ในย่านชั้นสูง นั้นกลับสูงถึง 180 ปี"

 

"ว้าว..."น้องสาวคนเล็ก เจียง ซวน กล่าวว่า"180 ปีนี่เป็นเวลาที่นานมากทำอย่างไรเราถึงจะไปอยู่ในย่านชั้นสูงได้"

 

"น้องสาวตัวน้อยอย่ากังวลไปพี่ชายคนนี้จะพยายามเเละยกระดับครอบครัวของเราขึ้นไปอยู่ในย่านชั้นสูงให้ได้ พี่สัญญา"เจียง เต่า ทุบกำปั้นลงบนหน้าอกของเขา ความเชื่อมั่นก็คือพลังที่ขับเคลื่อนเขา

 

"ย่านชั้นสูง"พ่อเเม่ของเขามองด้วยความหวัง

 

สภาพเเวดล้อมนั้นเเบ่งออกเป็น ย่านธรรมดา เเละ ย่านชั้นสูง พวกชั้นสูงก็คือ ชนชั้นสูงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ร่ำรวย

 

ภายใต้สภาพเเวดล้อมเช่นนี้เทคโนโลยีนั้นก้าวหน้ารวดเร็วเป็นอย่างมาก

 

"พี่ชาย หนูได้ยินมาว่าคนที่อยู่ในย่านชั้นสูงนั้นสามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่รกร้างที่เป็นเเหล่งของสัตว์อสูรจักรวาลไม่ใช่หรือเพียงเเค่มือเปล่าของพวกเขาก็เพียงพอเเล้วที่จะจบชีวิตพวกมัน ได้ยินมาว่าบางคนมีพลังชีวิตถึงระดับ  3 นี่จริงหรือเปล่า?"เจียง ซวน กล่าวด้วยความอยากรู้"พวกเขาจะใช่ยอดมนุษย์รึไม่?"

 

เจียง เต่า เขกหัว เจียง ซวน พร้อมกับพูดว่า"เเน่นอนว่าคนในย่านนั้นเป็นคนชั้นนำเเละเป็นฮีโร่ที่เเข็งเเกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ 200 ปีก่อน มนุษย์ยังไม่เคยกล้าออกจากโลกเพราะขาดเเคลนทรัพยากรตอนนี้เราได้สำรวจพื้นที่เเละได้รับสมุนไพรมีค่ามามากมายเป็นผลให้พลังชีวิตของมนุษย์เพิ่มขึ้น"

 

"ใช่เเล้วน้องเล็กเมื่อ 200 ปีก่อนนั้นในหลายประเทศในเผ่าพันธ์มนุษย์มีพลังชีวิตเฉลี่ยเพียงเเค่ 0.5 เพียงเท่านั้น"

 

"เท่าที่พี่รู้มามนุษย์ตอนนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่บริสุทธิ์ พระเจ้าจึงได้อวยพรให้เเก่พวกเขา ในช่วง ปี 2050 นั้นเครื่องบินของต่างชาติก็ได้ชนกันเเม้ว่าโลกนี้จะก่อสงครามโลกครั้งที่  3 ขึ้น เเต่ถึงอย่างนั้นมนุษย์ก็ได้รวมหัวกันเพื่อคิดค้นยานอวกาศด้วยกันนี่คือสิ่งที่พวกเขาได้รับนั่นก็คือเทคโนโลยีมิฉะนั้นหากพวกเขาคงไม่สามารถคิดค้นยานอวกาศขึ้นมาได้ เเละ มนุษย์ก็คงไม่มีวันนี้ในอีก 200 ปีข้างหน้า"เจียง หลี่ เล่าประวัติด้วยความรู้สึกที่ภาคภูมิ

 

"การเข้าสถาบันเเอสทรัล นั้นทำให้เรามีความหวังที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ในย่านชั้นสูงเพราะสถาบันเเอสทรัล เป็นย่านของชนชั้นสูง"เจียง เสิ่นตง กล่าวต่อว่า"เอาล่ะกินได้เเล้วสมุนไพรเเละซุบนี่ทำจากกบหิมะเเละโสมบริสุทธิ์ เเม้ว่ามันจะเป็นอาหารสังเคราะห์ เเต่มันก็ยังมีประโยชน์อยู่ดี"

 

อาหารบนโต๊ะนั้นเยอะมาก มีอาหารหลายชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเช่น โสม,กำมะหยี่,กบหิมะ,เเมลง... พวกเขาสังเคราห์มันขึ้นมาทั้งหมดเเต่โภชนาการที่ได้นั้นสูงมากกว่าอาหารปกติทั่วไป

 

เเน่นอนว่านี่เป็นอาหารสำหรับครอบครัวที่มีฐานะธรรมดา เเละพอมีใช้มีจ่ายเท่านั้นถึงได้กินอาหารเหล่านี้

 

ความสัมพันธ์ระหว่างอายุเฉลี่ยของประชากรที่นี่นั้นคือ 100 ปี เเละการบริโภคอาหารเหล่านี้ก็ช่วยให้ได้รับพลังงานนอกเหนือจาก เนื้อ ชา เหลา ก็ยังมีอีกหลายสิ่งอย่าง ที่สามารถบริการให้เเก่คนรวยได้

 

หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จ เจียง เต่า ก็กล่าวออกมาว่า"พ่อเเม่,เเละพี่ใหญ่ ฉันต้องออกไปอยู่ซ้อมตอนกลางคืนต่อ"

 

"ระวังตัวด้วย"

 

"ผมจะระวัง"

 

ทันทีที่พูดจบ เจียง เต่า ก็ขยับ ออกไปข้างนอกเเละใช้ ท่าเท้า [วานร] พุ่งไปอย่างรวดเร็วพริบตาเดียว เจียง เต่า ก็หายไปในพริบตา นี่เป็นทักษะการตอสู้เมื่อ 200 ปี ก่อน  เจียง หลี่ นั้นไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวได้เเม้เเต่น้อย

 

"เจียง เต่า ออกไปข้างนอกอีกเเล้ว?"

 

"ผมจะไปฝึกที่โรงเรียนกับ ลุง หลี่ เเละ ป้าหวัง..."

 

"ไปดีมาดีนะเห้อครอบครัวเจียงนั้นมีลูกที่ดีจริงๆ ลูกของเรานั้นเทียบไม่ได้เลยเเม้ว่าเราจะหาอาหารที่ให้พลังงานจำนวนมาเเก่เขา เเต่พลังชีวิตของเขาก็ยังติดอยู่ที่ระดับ 0.7 ฉันละโกรธจริงๆ"

 

"เจียง เต่า นั้นเป็นอัจฉริยะ เขาสามารถเข้าสภาวะห้วงนิทราได้ตั้งเเต่อายุยังน้อยลูกชายของเราจะไปสามารถเทียบเขาได้อย่างไร"

 

….

 

เพื่อนบ้านของ เจียง เสิ่นตง กล่าวชื่นชมเขาเพราะ เจียง เสิ่นตง สามารถให้กำเนิดอัจฉริยะได้

 

"เเม่พ่อฉันก็จะออกไปข้างนอกด้วย"เขากินอาหารเสร็จก่อนที่จะไปเตรียมถังอาหารเเมวเเละเดินออกไป

 

"เเกจะไปให้อาหารเเมวจรจัดที่สวนสาธารณะอีกเเล้ว?"เจียง เสิ่นตง ขมวดคิ้วเเน่นก่อนที่เขาจะปล่อยวางเเละกล่าวว่า"อย่ากลับช้าละ"

 

"เสิ่นตง เจียง หลี่ คงจะไม่ได้รู้สึกเเย่ใช่มั้ย?"หลังจากที่เขาเดินออกไปเเม่ของเขาก็กล่าวออกมา"อย่าตำหนิเขาเลย พรสวรรค์ของ เจียง เต่า นั้นดีเกินไป เเละ เราเองก็พยายามทุ่มทรัพยากรทั้งหมด ให้เเก่ เจียง เต่า ตั้งเเต่เเรกเริ่ม"

 

"ปัญหาหลักของ เจียง หลี่ ก็คือพรสวรรค์ ถ้าเขาสามารถเข้าสูสภาวะนิทรา ได้ เขาก็คงไม่เป็นเเบบนี้ ความกังวลหลักก็คือ เราทุ่มทุกอย่างให้กับ เจียง เต่า ทุกอย่างที่เราทำนั้น เป็นเเรงกดดันที่คอยทำลายเขา เเต่ถึงแบบนั้นพวกเราก็ต้องยอมรับความจริง เพราะความหวังของพวกเราทั้งหมด เราได้ฝากไว้กับ เจียง เต่า ฉันเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี หาก เจียง หลี่ ....? เห้อ!!"เจียง เสิ่นตง ถอนหายใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด