ตอนที่แล้วChapter 92 - ลั่วเทียน เจ้ากล้า?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 94 -ลั่วเทียนแพ้

Chapter 93 -อ่า ข้าเกือบจะลืมเจ้าไปแล้ว


 

Chapter 93 -อ่า ข้าเกือบจะลืมเจ้าไปแล้ว

ด้วยเท้าข้างหนึ่งที่อยู่บนหัวของเฉินซ่ง ลั่วเทียนกำลังแสดงอารมณ์เพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้ “เจ้าคิดไหมว่า ข้าจะกล้าทำหรือไม่?”

เขามองดูเหมือนว่าเขาจะได้Expเต็มๆ.

เขาร้องเพลงชมเจ้าอ้วนในใจ เพราะว่ามันหมายถึงค่าExpที่เขาได้ฟรีๆ.

นอกจากนี้ร่างกายของเฉินซ่งก็ยังส่องแสงเรืองรองราวกับเป็นบอสขั้นอีลิท ไม่จำเป็นต้องพูดถึงExpหรือค่าพลังปราณที่เขาจะได้รับ แต่มอนเตอร์อิลิทอาจจะดรอปไอเทมดีๆออกมาได้.

หลังจากที่ฟางเล่ยโยนเฉินซ่งออกจากเวที แขนของเขาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็มองไปทางลั่วเทียนและพูดพร้อมกับยิ้มอย่างโง่เขลา“นายท่าน นี่ นี่ ข้าคนนี่ไม่ทำให้ผิดหวังใช่มั๊ย?”

หลังจากนั้นดวงตาของฟางเล่ยก็เหลือกกลับและเขาก็สลบลง.

“ปัง~!”

“เจ้าอ้วน!”

“พี่อ้วน!”

ลั่วเทียนขมวดคิ้วพร้อมกับออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว“เร็วขึ้นไปและพาเจ้าอ้วนลงมารักษา.”

ต่อต้านการโจมตีถึง 4 ครั้ง.

ถ้าคนอื่นยืนอยู่ตรงนั้นพวกเขาจะกลายเป็นผงแล้ว ถึงอย่างนั้นฟางเล่ยก็ขบฟันและทนให้อาวุธผ่านร่างกายและใช้แขนของเขาที่เป็นดั่งอาวุธของสัตว์ประหลาดโจมตีโต้กลับมา ตอนนี้เฉินซ่งอยู่ในสภาวะใกล้ตาย.

ผลลัพธ์นี้ไม่มีใครจะคิดได้ แม่แต่ลั่วเทียนก็ประหลาดใจ.

แต่...

การโจใตีของเฉินซ่งและการดูถูกทุกครั้งที่เขาทำ ลั่วเทียนได้เห็นอย่างชัดเจน เขาเก็บเปลวไฟที่ระอุอยู่ภายใน.

กับพี่ชายของเขาที่มาถึงจุดนี้ เขาจะสามารถไม่ให้บอสจ่ายหนี้ที่ค้างไปได้อย่างไร?

แม้ว่าฟางเล่ยจะชนะการแข่งขัน แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยเฉินซ่งไปได้.

มองไปที่หน้าเฉินซ่งที่ซีดเซียวและกำลังสั่นจากความเจ็บปวด แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงยั่วยุและมีความชิงชังในสายตาของเขาให้เห็นได้อย่างชัดเจน“เจาสุนัขสารเลว ถ้าเจ้ากล้าฆ่า ตระกูลลั่วจะมาอยู่ในหลุมพร้อมกันกับข้า เจ้าควรจะรู้เรื่องลุงของข้าแล้ว…”

ลั่วเทียนไม่ได้ห่วงอะไรสักอย่าง เขาปล่อยให้เฉินซ่งพูดจบและตบหน้าเขาตรงๆ จากนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา“สุนัขจรจัดอย่างเจ้ายังกล้าที่จะหยิ่งอีกงั้นเรอะ แม้กระทั่งอยู่หน้าประตูนรกเจ้ายังกล้าพูดออกมา?!”

“มารดาเจ้าสิ การตายของเจ้ากำลังใกล้เข้ามา แต่เจ้ายังกล้าข่มขู่ข้า ให้ข้าบอกอะไรเจ้าให้ สิ่งที่ข้าเกลียดมากที่สุดคือคนที่มาข่มขู่ข้า.”

“พยายามที่จะทำให้ข้ากล้ว? ข้ากลัวมากกกกเลย.”

ลั่วเทียนตัดสินใจที่จะฆ่าเขาอย่างช้าๆ.

ซูซางเฟยตระลึงและรีบก้าวออกมา.เหมือนดั่งฟ้าร้องที่ระเบิดข้างหูของผู้คน กลิ่นอายของซูซางเฟยก็ระเบิดออกมาจากร่างของเขา มีบางคนที่แม้กระทั่งหายใจไม่ออกเมื่อได้สัมผัสกลิ่นอายของเขา.

ความกดดันอย่างมากได้กระแทกดั่งคลื่นขนาดใหญ่

ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยตรงกับความคิดของลั่วเทียน มันทำให้ดูเหมือนกับคลื่นสึนามิที่กำลังสร้างหายนะอยู่ภายใน.

ซูซางเฟยคำรามอย่างโกรธเกรี๊ยวออกมา“ลั่วเทียน เขาเป็นหลานชายของผู้อาวุโสนิกายเมฆครามของเรา ถ้าเจ้ากล้าที่จะฆ่าเขา ตระกูลลั่วทั้งหมดจะถูกฆ่าตายและกระดูกของพวกเขาจะป่นเป็นผง!”

เสียงของซูซางเฟยราวกับลูกศรพุ่งตรงมาและกระแทกทุกคนที่อยู่รอบเวที.

การบ่มเพราะของใครที่อยู่ปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 ทรงพลังอย่างมาก พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งวิเศษในเมืองภูเขาหยก.

จิตใจของลั่วเทียนกำลังถูกถาโถมด้วยคลื่นสึนามิจากแรงกดดันของซูซางเฟย ความโกรธของเขาเพิ่มมากขึ้น จากนั้นสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็คำราม“สารเลว!”

หลังจากนสั้น...

เขาขยับกำปั้นขวา.

กำปั้นนั้นได้ส่งไปที่หัวของเฉินซ่ง.

ตาของเฉินซ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนปัสสาวะราดตนเอง จากนั้นเขาก็คำรามด้วยความโกรธ “ซางเฟย ช่วยข้า!”

ในตอนนั้น...

พลังปราณของซูซางเฟยก็หดตัวลง จากนั้นเขาก็วิ่งเข้ามาราวกับปีศาจ.

แต่...

ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนเขาก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร กำปั้นของลั่วเทียนอยู่ห่างจากหัวเฉินซ่งถึงไม่ถึงครึ่งเมตร แม้ว่าจะมีความเร็วที่สุดยอดแต่ซูซางเฟยก็ไม่อาจทำกำปั่นของลั่วเทียนได้?

“ปัง~!”

หมัดได้บดขยี้ลงมาและเฉินซ่งตาย!

ด้วยกำปั้นที่เต็มไปด้วยเลือด ลั่วเทียนมองไปที่ซูซางเฟยที่วิ่งเข้าและคำราม “ชาติชั่ว มาด้านหน้าและขู่ให้บิดากลัวสิ ข้าเคยบอกแล้วว่า สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการข่มขู่ แต่เจ้ายังเดินหน้ามาและข่มขู่ข้า เมื่อพิดาคนนี้คลั่ง แม้กระทั่งข้าก็ยังกลัวตัวเอง

!”

ลั่วเทียนลำคาญอย่างมาก.เขายังคงถูกคุกคามโดยคนอื่นไม่ว่าจะเรื่อง บลา บลา บลา คนนี้ไม่อาจสังหารหรือ บลา บลา บลา คนนี้ไม่อาจตายได้

.

เหมือนกับสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เขาต้องการทำคือการโต้ตอบด้วยกำปั้นและฆ่าเหล่าสารเลวพวกนี้ตรงๆ!ร่างกายของซูซางเฟยหยุดทันที ขณะที่เขามองไปที่ลั่วเทียนด้วยสารตาที่อาฆาต จากนั้นเขาก็เดินไปที่เวทีและชี้ไปที่หน้าของลั่วเทียนและพูดว่า“เข้ามา มาหาบิดานี่!”

ลั่วเทียนไม่สนใจซูซางเฟยเพราะเขาปิดตาและมีท่าทางที่ยิ้มแย้มอยู่บนใบหน้าของเขา.

เสียงระบบที่แจ้งเตือนในใจ.

“ติ้ง!”

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการสังหาร เฉินซ่ง คุณจะได้รับExp 1,500 แต้มและพลังปราณ 300 หน่วย…”

ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการได้รับทักษะ ดาบดาวสวรรค์ คุณต้องการบ่มเพาะหรือไม่?”“

ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน สำหรับได้รับ ยามังกรเพลิง.“ติ้ง!”

“แต้มไร้พ่าย +1,เกราะเลือดปีซาจได้ดูดซับโลหิต 100 แต้มและมีการป้องกันเพิ่มขึ้น 1%.”

“ยอดเยี่ยม!”

“มันดรอปสกิลดาบดาวสวรรค์”ลั่วเทียนมีความสุขและบ่มเพาะมันทันที.

หลังจากนั้นเขาก็เปิดตาขึ้น เขายังไม่ได้สนใจซูซางเฟยที่เหลือบมองเขาอยู่บนเวที แต่เดินตรงไปที่ซูเหยาซงด้วยรอยยิ้ม.

“เจ้าพยายามทำอะไร?”

“ปกป้องผู้นำตระกูล!”

“ถ้าเจ้ากล้าที่จะเข้ามาใกล้ผู้นำตระกูล เจ้าก็อย่างโทษตาเฒ่าคนนี้!”

ตระกูลซูเริ่มตื่นตระหนกและเหล่าสาวกก็เริ่มที่จะก้าวมาด้านหน้า พวกเขาชักอาวุธออกมาและมองเตือนไปยังลั่วเทียนว่าอย่าเคลื่อนไหวใดๆ.

ลั่วเทียนไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเดินตรงไปที่ซูเหยาซงจานนั้นเขาก็นั่งลงอย่างดังและเอามือข้างหนึ่งโอบไหล่ซูเหยาซงไว้และหัวเราะ “เฒ่าซู ข้ามาที่นี่อย่างเป็นมิตร ไม่มีเจตนาอื่นใด.”

ซูเหยาซงมีท่าทีน่าเกียจบนใบหน้า แต่เขาก็พูดอย่างใจเย็น“ตอนนี้เจ้าได้มาทักทายแล้ว เจ้าจะกลับไปได้หรือยัง?”

“ไม่ต้องหงุดหงิดน่า มีบางอย่างที่ข้าจะบอกกับเจ้า.”ลั่วเทียยิ้ม.

ซูเหยาซงตอบ“เพียงบอกมา มีลมอะไรก็รีบผาย.”

จากนั้นลั่วเทียนก็พูด “สุสานบรรพบุรุษของเจ้าเป็นของข้าแล้วตอนนี้ เจ้าคิดว่าข้าควรจะเอามันไปสร้างห้องน้ำหรือเอามาทำปุ๋ยดี?”

“นี่เป็นทางเลือกที่ยากมากสำหรับข้า เฒ่าซูเจ้าสามารถแนะนำข้าได้หรือไม่?”

ใบหน้าของซูเหยาซงเปลี่ยนสีไปมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมองไปที่ดวงตาของเขาราวกับจะกินลั่วเทียนตรงนั้น.

โดยไม่ต้องรอคำตอบลั่วเทียนก็ตอบ“ตอนนี้สำหนับกระดูกของบรรพบุรุษเจ้า ข้าควรจะโยนมันออกไป หรือว่าเอาไปให้สุนัขกินดี?”

ลั่วเทียน!

ตาของซูเหยาซงเบิกกว้างราวกับโคมไฟเนื่องจากความโกรธของเขาราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ พลังปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 ระเบิดออกมาขณะที่เขาพูดผ่านไรฟัน“ถ้าเจ้ากล้าที่จะสัมผัสกับหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับพระมหากษัตริย์ยามะทันที!”

ลั่วเทียนเบิกตาอย่างตกใจ ขณะที่เขาเริ่มตบหน้าอกและแสดงความกลัว จากนั้นเขาก็เปิดเผยท่าทีดูถูกและพูดว่า“อ่า ข้าถูกขู่อีกแล้ว ข้ากลัวจัง~”

หลังจากนั้น...

เขาก็ใช้ย่างก้าวเงาวายุและรีบหนีไป เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็กลับไปนั่งที่นั่งของเขาที่ตระกูลลั่ว จากนั้นเขาก็ตะโกนดังๆ“ตระกูลลั่วจงฟัง!”

“ซูเหยาซงได้เสียหลุมฝังศพของตระกูลซูให้กับข้าแล้วและทุกคนในที่นี่สามารถเป็นพยานกับข้าได้”

“บอกให้ทุกคนของสาวกตระกูลลั่วฟังไปที่หลุมฝังศพของตระกูลซู ถ้าต้องการที่จะปลดทุกข์ ภายในสามวันข้าต้องการให้ที่นั่นเป็นพื้นที่เพาะปลูก!”

เหล่าสาวกหัวเราะเสียงดัง.

ซูเหยาซงแทบจะเป็นลมจากความโกรธ หนวดยาวๆของเขากระพือตามลมหายใจและพูด“ลั่วเทียน เจ้ากล้า?!”

ลั่วเทียนเริ่มยิ้มและพูด“เพียงแค่รอดูว่าข้าจะกล้าหรือไม่.”

ซูซางเฟยไม่สนใจเรื่องหลุมฝังของตระกูลอย่างแท้จริง สิ่งที่เขาต้องกังวลคือการอธิบายกับเฉินเทียนเหยา.

ลูกชายและหลานชายของเขาตายแล้ว

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่เฉินซ่งได้รับเลือกให้เป็นสาวกชั้นแนวหน้าจากผู้อาวุโสภายใน!

นั้นไม่ได้หมายความว่าไม่เพียงแต่เขาได้กระทำผิดต่อผู้อาวุโสฝ่ายนอกเท่านั้น เขาได้ทำความไม่พอใจกับผู้สาวุโสภายในด้วยเช่นกัน เขาจะสามารถอยู่รอดในนิกายเมฆครามได้อย่างไร?

ลั่วเทียน!

ความผิดทั้งหมดเป็นของลั่วเทียน.

ฆ่าเข้า ข้าต้องฆ่าเขา!

ซูซางเฟยแผ่ความโหดร้ายออกมา ดวงตาของเขาราวกับจะกินเลือกกินเนื้อ ความกดดันทำให้ผู้คนได้เงียบงัน จากนั้นเขาก็ตะโกน“ลั่วเทียน รีบขึ้นมาเพื่อที่เจ้าตะได้ตายซะที!”

ลั่วเทียนหันกลับมามองที่กลางเวทีและตบหน้าขาของเขาจากนั้นก็พูดว่า“อ่า ข้าเกือบลืมเจ้าเสียแล้ว.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด