เล่ม 4 ตอนที่ 6 : เมืองไร้กฎเกณฑ์ ไคโร้ท (1) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 4 ตอนที่ 6 : เมืองไร้กฎเกณฑ์ ไคโร้ท (1)
“เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน?”
ชานเนนจากสมาคมเวทมนตร์ถึงกับเอ่ยถามออกด้วยความประหลาดใจหลังได้ยินรายงาน
“ครับ มันดูเหมือนจะเป็นสายพันธุ์ที่คล้ายกิ้งก่า”
“ไม่คิดเลยว่าเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนจะเกี่ยวข้องกับลูกปัดดวงใจวิญญาณ ทว่า หากสามารถใช้มิมิคไคล์ได้แล้ว นั่นก็สมควรเป็นไปได้ที่จะขโมยลูกปัดดวงใจวิญญาณไปได้”
“แล้วดราโกเนี่ยนนี่เป็นสายพันธุ์อะไรกันเหรอครับ?”
“พวกเขานั้น... ไม่สิ ไม่หรอก ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเช่นนั้นในเมื่อเจ้าเองก็ยังไม่มั่นใจนัก ข้าต้องขออภัยด้วย แต่ในช่วงเวลานี้ขอให้เจ้าช่วยปิดเรื่องที่เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกดราโกเนี่ยนด้วย”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ แต่ว่า...”
ที่จริง เขาไม่สนใจพวกกิ้งก่านั่นอยู่แล้ว
“ปัญหายังคงอยู่ที่ลูกปัดดวงใจวิญญาณ”
ชานเนนเริ่มพูดกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ข้าไม่ทราบว่าพวกที่ขโมยลูกปัดดวงใจวิญญาณไปรู้เรื่องได้อย่างไรกัน แต่หากว่าตามเรื่องที่เจ้าเล่ามาแล้ว พวกมันย่อมต้องมีจุดประสงค์เพื่อขโมยลูกปัดดวงใจวิญญาณอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็เกรงว่าปัญหามันจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้”
“วิธีการนำมันไปใช้ในทางที่ผิดนั้นมีมากมายยิ่งนัก”
มือของชานเนนถึงกับชุ่มเหงื่อขณะที่ยื่นมาคว้ามือของอาร์คเอาไว้
“ได้โปรด เจ้าคือคนเดียวที่ข้าพึ่งพาได้ ทางด้านกิลด์พ่อค้าและกิลด์นักรบต่างก็เริ่มสงสัยต่อสถานการณ์ครั้งนี้แล้ว พวกเราไม่มีทางไล่ตามชายสีแดงคนนั้นได้ เพราะถ้าหากเป็นสมาคมเวทมนตร์จับตัวเขา เช่นนั้นตำแหน่งทางสังคมของพวกเราก็ได้รับความเสียหายแล้ว นอกจากนี้ เกราะป้องกันรอบวัตถุนั่นก็ได้รับความเสียหาย ดังนั้นแล้วสถานการณ์ในตอนนี้จึงไม่อาจทราบได้เลย”
“ผมเข้าใจที่พูดนะครับ”
อาร์คพยักหน้ารับขณะตอบกลับไป
“อย่างไรแล้วผมก็ไม่ใช่คนที่จะละทิ้งงานที่ผมเริ่มด้วยตัวเอง โชคยังดี นักวาดแผนที่คนดังกล่าวได้มอบเบาะแสของสถานที่ที่ชายสีแดงคนนั้นไปมาให้ ดังนั้นแล้วก่อนที่จะสายเกินแก้ ผมต้องหาลูกปัดดวงใจวิญญาณให้พบครับ”
เหตุผลแท้จริงสำหรับอาร์คแล้วมันคือรางวัลต่างหาก
จากปฏิกิริยาตอบสนองของชานเนนที่มีต่อภารกิจนี้ มันทำเอาเขาได้กลิ่นเงินมหาศาลกำลังรอคอยอยู่
มันอาจเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ถ้าหากปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไป? งั้นถ้าแก้ไขปัญหานี้ได้นั่นก็ต้องหมายถึงผลกำไรมหาศาลแล้ว
มีเพียงเท่านั้น? แค่ภารกิจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ทำเอาเขาได้รับค่าประสบการณ์มากมายมหาศาลพร้อมกับปาร์ตี้ไปแล้ว อีกทั้งยังมีใบนูรุนม่าพวกนั้นที่พร้อมจะนำไปขายอีกต่างหาก!
ใช่แล้ว ภารกิจนี้มันไข่ทองคำชัด ๆ!
อีกทั้งชานเนนก็ดูจะไม่ทันได้ตระหนักถึงเลยว่าเหตุผลแท้จริงคืออะไรที่ทำให้เขารับภารกิจครั้งนี้
“หลังเหตุการณ์แจ๊คสัน ข้าจะไม่เชื่อเจ้าได้เช่นไรกัน?”
เมื่อชานเนนกล่าวจบ หน้าต่างข้อความใหม่จึงเด้งขึ้น
=====
ภารกิจได้รับความคืบหน้า
ค้นหาลูกปัดดวงใจวิญญาณ > ค้นหาลูกปัดดวงใจวิญญาณ 2
ท่านได้พบเบาะแสที่จะนำไปสู่ลูกปัดดวงใจวิญญาณภายในโบราณสถานที่ซึ่งกลุ่มโจรไร้นามได้ขโมยไปและซุกซ่อนเอาไว้ ชายสีแดงปริศนาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรดังกล่าวและนำเอาลูกปัดดวงใจวิญญาณไปยังไคโร้ท
เบาะแสสำคัญของภารกิจครั้งนี้คือชายสีแดง เมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากอีกฝ่ายแล้ว จงนำเอาลูกปัดดวงใจวิญญาณกลับคืนมา
ระดับความยาก : C
=====
‘ดูเหมือนจะผ่านด่านแรกมาได้แล้ว หมายความว่าภารกิจล่าเงินรางวัลก็จบสิ้นลงด้วยสินะเนี่ย?
เพราะมันค่อนข้างสร้างผลกำไรให้เขาได้มากพอตัวเลยทีเดียว
แต่อย่างไรแล้ว เขาก็จำเป็นต้องปล่อยมันไปเพราะมีหน้าที่อื่นต้องรับผิดชอบ
เมื่ออาร์คออกมาจากสมาคมเวทมนตร์และจัดการธุระอื่นในกิรันจนเสร็จสิ้นแล้ว สถานที่แห่งแรกที่เขาต้องการไปคือกองกำลังทหารรักษาการณ์
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาได้จัดการกลุ่มโจรไปทั้งสิ้นถึงสิบแปดกลุ่มด้วยกัน ทว่า ด้วยความที่เขาไม่มีเวลาพอจะกลับมากิรันจึงยังไม่ได้นำหลักฐานมาขึ้นเป็นเงินรางวัล
“มีเหตุอันใด?”
“ผมมารับเงินรางวัลน่ะครับ”
“เช่นนั้นก็สมควรมีหลักฐานใช่หรือไม่?”
“ครับ แน่นอนอยู่แล้ว”
ครึก ครึก ครึก ครึก...
อาร์คนำเอาสิ่งของที่เป็นหลักฐานออกมาอย่างต่อเนื่องจากกระเป๋า ไม่ช้ามันจึงกองสูงขึ้นอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้า
เพียงแค่ผ่านไปได้สามหรือสี่ชิ้น เอ็นพีซีของทางการก็เริ่มจ้องมอง จนกระทั่งถึงชิ้นที่สิบพวกเขาถึงกับอ้าปากเหวอแล้ว ท้ายที่สุดเมื่อเขานำเอาหลักฐานทั้งสิบแปดชิ้นออกมา พวกเขาถึงกับจ้องมองออกด้วยความตกตะลึง
“นี่มัน ทั้งหมดนี่เลย...?”
“ครับ ทั้งหมดนี่เป็นหลักฐาน ลองยืนยันก่อนก็ได้ครับ”
อาร์คฉีกยิ้มขณะหัวเราะเบาออกมาและพูดกล่าวตอบกลับเอ็นพีซีของทางการไป
“วิเศษยิ่งนัก ในช่วงเวลาไม่ถึงเดือนที่แปะประกาศการล่าเงินรางวัลไป... โจรทั้งหมดนั่นถึงกับถูกกวาดล้างในระยะเวลาไม่ถึงเดือนดีเนี่ยนะ?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ?”
“อา ไม่ หาได้มีปัญหาอันใด”
หลังอีกฝ่ายทำการตรวจสอบหลักฐานทุกชิ้นเรียบร้อยแล้ว เอ็นพีซีจึงส่งมอบถุงใส่เงินที่หนาเตอะมาให้ถุงหนึ่ง
ถุงนี้มันบรรจุเหรียญทองเอาไว้มากถึง 254 เหรียญ!
ทั้งหมดนี่เขาเพียงแค่ออกล่ากลุ่มโจรโดยไม่กลับหมู่บ้านเป็นระยะเวลาเพียงแค่เก้าวันเท่านั้น
แน่นอน เขาได้ใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนไปกว่าห้าวันก่อนที่การล่าของจริงจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นแล้วระยะเวลาที่เขาลงแรงไปกับสิ่งเหล่านี้นับได้ว่าสั้นกว่านั้น แต่แล้ว นอกจากผลกำไรจากการขายสิ่งของจิปาถะ เขาถึงกับได้รับรายได้เพิ่มขึ้นอีก 254 เหรียญทองจากเงินรางวัล
นอกจากนี้ ระดับนักล่าของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับ C เรียบร้อยแล้ว
ทว่า ตอนนี้มันก็ถึงขีดจำกัดของการที่จะออกล่าเงินรางวัลเพียงลำพังแล้วเช่นเดียวกัน
อาร์คกวาดล้างกลุ่มโจรไปมาก ที่เป็นไปได้เช่นนี้ก็เพราะผู้เล่นอื่นไม่คิดสนใจมาทำ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะพวกมันเป็นโจรที่ยึดติดอยู่กับพื้นที่จึงทำให้ค่อนข้างมีความยากลำบาก
เมื่อกลุ่มโจรพวกนี้โดนกวาดล้าง และเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง โจรกลุ่มอื่นก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทว่า ช่วงเวลาที่จะเกิดโจรกลุ่มใหม่ขึ้นมันแตกต่างจากมอนสเตอร์ธรรมดาเป็นอย่างมาก
นี่ก็เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของเกมเอาไว้
ทั้งสิบแปดงานนี้ที่อาร์คสามารถกระทำให้สำเร็จได้ ก็เพราะจำนวนของกลุ่มโจรที่ค่อนข้างมีมากเนื่องจากเป็นเมืองการค้า อีกทั้งผู้เล่นอื่นยังหลบเลี่ยงไม่คิดไปล่าโจรที่อยู่กันเป็นกลุ่ม แน่นอน เมื่ออาร์คเข้าไปสำรวจที่กระดานข่าวสารอีกครั้งหนึ่ง เขาก็พบงานล่าเงินรางวัลใหม่เพิ่มขึ้นมาเพียงแค่สามงานเท่านั้น สองในนั้นเป็นอาร์คยกเลิกไปเพราะไม่ได้รับหลักฐานเพื่อนำกลับมาส่ง
เมื่ออาร์คได้รับเงินรางวัลเสร็จสิ้น เขาจึงเริ่มมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสแห่งกิรัน ซิดกำลังรออยู่ที่จัตุรัสดังกล่าวหลังนำเอาสิ่งของอื่นไปขายจนหมดสิ้นแล้ว เมื่อคำนวณภายในหัวคร่าว ๆ อาร์คจึงคิดสงวนเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ประมาณ 1,000 เหรียญทอง
‘เหรียญทองที่เก็บออมเอาไว้นี้สามารถเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ในกรณีฉุกเฉิน ตอนนี้เราไม่ต้องกังวลว่าเงินจะขาดมือแล้ว!’
เมื่อคิดคำนวณเสร็จสิ้น อาร์คเอ่ยถามซิดขึ้นมา
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ฉันคิดจะหยุดล่าเงินรางวัลแล้วล่ะ ซิด แล้วนายจะเอายังไงต่อกัน?”
“อาร์คนิม จะไปที่ไคโร้ทเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว”
“งั้นให้ผมไปด้วยนะ”
ซิดพูดกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย
นี่โดนใช้งานไปมากมายขนาดนั้น อีกฝ่ายถึงกับยังไม่รู้ธาตุแท้ของอาร์คอีกหรือ?
ทว่า ซิดกลับมีเหตุผลเป็นของตนเองมาสนับสนุน
“ไปด้วยกัน? แต่นั่นมันสถานที่อันตรายสำหรับพ่อค้าเลยนะ”
“จะยังไงผมก็ไม่มีอะไรให้เสียแล้วละครับ”
ซิดพูดกล่าวออกขณะเผยรอยยิ้มอบอุ่นหัวใจให้
“และผมก็อยากไปอยู่แล้วด้วย”
“เรื่องอะไรกัน?”
“หุหุหุ นับได้ว่าเป็นโชคลาภ ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่ผมไปร้านค้าเพื่อขายของ ผมได้รับภารกิจจากพ่อค้าที่ทุ่มเทคนหนึ่งมา พ่อค้าคนนั้นเขาต้องการศึกษาเกี่ยวกับไอเทมที่มีขายเพียงแต่ในไคโร้ท หากนำส่งไอเทมพิเศษเหล่านั้นตามความต้องการของพ่อค้าคนดังกล่าวเพื่อให้เขานำไปค้นคว้าวิจัยได้ ผมจะได้รับค่าจ้างถึง 150 เหรียญทองเพื่อนำไปปลดหนี้ครับ ดูเหมือนภารกิจนี้จะถูกส่งมอบให้กับเฉพาะพ่อค้าที่รับรู้ถึงตำแหน่งที่ตั้งของไคโร้ทบนแผนที่น่ะครับ”
“แต่นี่นายถึงกับต้องยอมเป็นผู้เล่นฆาตกรเพื่อไปซื้อไอเทมเฉพาะจากไคโร้ทเนี่ยนะ...?”
ค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าไปมันอาจจะมากกว่า 150 เหรียญทองด้วยซ้ำ
แต่แล้วซิดกลับยกยิ้มขณะถือกระดาษแผ่นหนึ่งชูขึ้นมาให้ดู
“นี่เป็นตั๋วแลกเงินโดยสมาคมพ่อค้าครับ แต่มันจะใช้ที่อื่นนอกจากไคโร้ทไม่ได้”
นี่หมายความว่าเป้าหมายของซิดคือการนำเอาของกลับมา
“ไอเทมที่มีขายเฉพาะในไคโร้ทนับได้ว่าเป็นสิ่งหายากในหมู่บ้านทั่วไป อีกทั้งมันยังสร้างกำไรได้หลายเหรียญทอง จนกระทั่งถึงตอนนี้ เงินทุกเหรียญที่ผมได้รับมาล้วนจ่ายออกเป็นหนี้สิน แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ครับ ถ้าหากผมซื้อหาไอเทมที่ถูกต้องมาได้ก็จะสามารถขายมันอีกต่อจนได้รับราคาที่สูงเอาเรื่องเลยทีเดียว”
“ก็นะ ถ้านายมั่นใจก็ว่ากันตามนั้น...”
“ครับ เพราะงั้นได้โปรดพาผมไปด้วยนะครับ”
ซิดพูดกล่าวออกด้วยความตื่นเต้น
ที่จริง อาร์คเองก็คิดอยากให้ซิดร่วมทางไปด้วยเช่นเดียวกัน
การเดินสายออกล่าอย่างหน้ามืดตามัวกว่ายี่สิบชั่วโมงต่อวันได้ก็นับว่าเป็นเพราะซิด อีกทั้งเขายังใจเย็นและพร้อมจะเซ็นสัญญาที่จะส่งมอบส่วนแบ่งกำไรให้กับอาร์คหากขายสิ่งของไปได้โดยไม่อิดออด อย่างไรแล้ว อาร์คก็ยังคงมีเหตุผลสำคัญอื่นที่ชอบซิดยิ่งไปกว่านั้น
ด้วยความที่เป็นฮอบบิท อีกทั้งยังมีกระเป๋ามากถึงหกใบ... ด้วยกระเป๋าที่ได้รับเพิ่มจากแฮนสันอีก นับว่าเขามีกระเป๋าจึงเจ็ดใบด้วยกัน! ซิดในตอนนี้และก่อนหน้าล้วนเป็นกระเป๋าสำหรับอาร์คมาโดยเสมอมา
‘ไคโร้ทเป็นเมืองไร้กฎเกณฑ์ เราจึงต้องทำให้เจ้างูพร้อมใช้งานพิษได้ตลอดเวลา ดังนั้นแล้ว เมื่อมีซิดไปด้วยย่อมนับว่าช่วยได้มากมายเลยทีเดียว ช่างเป็นกระเป๋าที่น่ารักเสียจริง’
“ได้เลย” ถ้าหากเป็นซิดแล้วเขายินดีตกปากรับคำเสมอ
“งั้นก็ออกเดินทางกันเลย!”
ซิดกวัดแกว่งแขนทั้งสองข้างขณะออกเดินนำไป
ดังนั้นแล้ว การเดินทางอีกครั้งระหว่างเขากับพ่อค้าชาวฮอบบิทจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
* * *
‘เงินขนาดนี้นี่มัน...!’
ฮยอนอูกำลังจ้องมองบัญชีธนาคารของตนด้วยสายตาหวาดหวั่น
ในตอนที่ภารกิจอีเวนท์จบสิ้นลง เขาได้นำเอา ‘อัคคีสังหาร’ ลงขายในงานประมูล และเงินโอนเข้าจากผู้ชนะการประมูลก็เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่
ที่จริง การประมูลจบลงสักพักหนึ่งแล้ว ทว่า บุคคลที่เป็นคนรับเงินอย่างเขานั้นไม่อาจเชื่อคอมพิวเตอร์เพราะมันอาจมีเรื่องอะไรผิดพลาดได้ เขาที่เป็นกังวลจึงนำเอาสมุดเงินฝากไปปรับยอดเพื่อยืนยันถึงความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง
มันเป็นเงินฝากเข้าจำนวนมากถึงสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหกหมื่นวอน!
ด้วยการเสนอราคาสูงที่สุดมากถึงสิบสองล้านวอน แต่แล้วมันก็ยังมีค่าธรรมเนียมการประมูลอยู่ถึง 7% นั่นทำให้เงินจำนวนแปดแสนสี่หมื่นวอนถูกหักออกไปเป็นค่าธรรมเนียม ทว่า อย่างไรแล้วมันก็ยังคงคุ้มค่าอยู่ดี
การแลกเปลี่ยนโดยตรงกับผู้เล่นมันมีการโกงเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ฮยอนอูเองก็รู้สึกได้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้การโกงมันเกิดขึ้นเยอะมากหากเป็นสินค้าที่มูลค่าเกินกว่าหนึ่งแสนวอน
ดังนั้นแล้วเงินจำนวนมากถึงสิบสองล้านวอนนี้ ก็นับได้ว่าคุ้มค่าหากจำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม เพราะหากมีการโกงหรือฉ้อฉลเกิดขึ้นเขาคงกระอักเลือดจนตายเป็นแน่แท้
‘ก็นะ ระบบการคิดแบบนี้คล้ายกับภาษีเลย ยิ่งราคาประมูลสูงมันก็จะยิ่งมีค่าธรรมเนียมสูงตาม ยังไงเราก็ได้มาแล้วสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหกหมื่นวอน อีกทั้งชุดคลุมความมืดที่เพิ่งได้มาเมื่อวานก็ขายออกไปได้ในราคาเก้าแสนวอน เพราะงั้นพรุ่งนี้ก็น่าจะได้รับอีกแปดแสนเจ็ดหมื่นวอน’
เมื่อนำมารวมกันแล้ว หมายความว่าในบัญชีของเขาจะมีเงินมากถึงสิบสี่ล้านวอน
ยิ่งผ่านไปราคาของในเกมก็ยิ่งดีขึ้น นี่มันนับได้ว่าเพียงพอต่อการจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ถึงสองหรือสามเดือนเลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลว่าเงินจะขาดมือระหว่างเดือนด้วย
ฮยอนอูรู้สึกอบอุ่นหัวใจขณะยิ้มให้สมุดบัญชีธนาคารของตนเอง
‘จริงด้วย วันนี้เราต้องไปโรงพยาบาลพร้อมกับลุงจีวอนฮวารังสินะ?’
ฮยอนอูจำได้ว่ามีสายเรียกเข้ามาเมื่อเช้า
‘พูดถึงลุงจีวอนฮวารัง นี่ก็ผ่านมาพักนึงแล้วสินะตั้งแต่ที่ไปหาเขาที่บ้าน จริงด้วยสิ วันนี้ไม่ใช่ว่าตามปกติแล้วเขาจะมีนัดพวกคนที่โดนเขาคุมความประพฤติหรือไงกันนะ? เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่พวกเขาได้พบเจอกันจนสนิทกันได้...’
จีวอนฮวารังซื้อบ้านหลังหนึ่งให้เหล่าผู้โดนคุมความประพฤติอาศัยอยู่ร่วมกันในช่วงปีมานี้
ฮยอนอูจึงนำเอาอาหารพร้อมกับธนบัตรจำนวนหนึ่งยัดใส่กระเป๋าไปขณะกัดฟันไปด้วย เขาต้องจ่ายค่าไก่ถึงสามตัวรวมทั้งค่าเครื่องดื่ม
ทั้งหมดนี่เป็นเงินถึงห้าหมื่นห้าพันวอน นับได้ว่ามันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับฮยอนอูที่มักจะกินโรลสาหร่ายที่มีราคาสองพันวอนสามมื้อต่อวัน
ทว่า เรื่องนี้นับเป็นข้อยกเว้นที่เขามีให้จีวอนฮวารังและพวกที่โดนคุมความประพฤติ เขาจึงยอมใช้จ่าย... เพราะพวกเขาอยู่กันหลายคน นั่นทำให้เขายากที่จะตระหนี่ถี่เหนียวได้
บ้านของจีวอนฮวารังอยู่ห่างออกไปแค่สามสิบนาทีหากโดยสารรถประจำทาง
“ใครกันน่ะ?”
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นหลังจากที่เขากดกระดิ่งไป
จากนั้นไม่นานจึงมีชายคนหนึ่งโผล่หน้าออกมา
ฮยอนอูเคยทำตัวเป็นเด็กเหลวไหลมาก่อน เขาจึงคิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเช่นเดียวกัน ทว่า เขากลับแทบต้องกลั้นลมหายใจเพราะสายตาของชายคนดังกล่าวที่มองมา