ตอนที่แล้วตอนที่53 สลายไขมันและนวด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่55 นักกีฬามากประสบการณ์

ตอนที่54 โค้ชฟิตเนสของทีมยกน้ำหนัก


ศูนย์ฝึกยกน้ำหนักของเขต หัวหน้าโค้ชยกน้ำหนัก โค้ชซุงกั้วหมิงรับสายโทรศัพท์

"ฮัลโหล ซุง ฉันมีข่าวดีจะมาบอกนาย นายบอกว่าอยากได้โค้ชฟิตเนสมาเข้าทีมยกน้ำหนักเพิ่มใช่ไหม? ตอนนี้ฉันได้มาเเล้วคนหนึ่ง อนุมัติอย่างเป็นทางการเเล้วด้วย!" เสียงในสายดูสุขีดี

"ทำไมได้ไวจังอะ? อนุมัติเเล้วด้วยหรอ?"โค้ชซุงประหลาดใจถึงขั้นเปลี่ยนโทนเสียงพูดโดยไม่รู้ตัว

"ตกใจใช่ไหมละ ฮะ? มันไม่ง่ายเลยนะที่จะอนุมัติใครซักคนเข้ามาได้อะ นายรายงานมาว่าทีมของนายกำลังมีโค้ชไม่พอเมื่อหลายวันก่อนนี้ ท่าผู้นำของเราก็เลย ส่งคนมาให้อย่างงี้เลย อย่าทำให้พวกท่านผิดหวังละ!"เสียงในสายพูด

โค้ชซุงใจสั่นหน้าของเขาซีดขึ้นมา เขาพยายามกลบเกลื่อนมันไว้เเล้วพูด "ได้..เลยครับ! ผมจะไม่ทำให้ผิดหวัง ผมจะฝึกให้หนักเลย โค้ชใหม่จะเข้ามาถึงเมื่อไรละ?"

"เขาจะมาลงทะเบียนที่เเผนกกีฬาของเขต เเล้วหลังจากที่เขาเสร็จขั้นตอนทุกอย่างเเล้วผมจะส่งเขาไปนะ"

โค้ชซุงวางสาย เเล้วดูเหมือนไม่สบายเท่าไร เขาคิดซักพักก่อนที่จะโทรหาอีกหลายสายเขากระตุกคิ้วอย่างมีสมาธิ 10นาทีต่อมา รองหัวหน้าโค้ชของทีมยกน้ำหนัก หม่า กวงหยี พุ่งทะละประตูออฟฟิศของซุงอย่างเร่งรีบ

"ว่าไงโค้ชซุง เกิดอะไรขึ้น" โค้ชหม่าถาม

"หม่า นั่งลงเเล้วดื่มน้ำดื่มท่าก่อนซิ"ซุงเอาเเก้วน้ำชาให้หม่า เเล้วรอหม่าหายใจหายคอปรกติก่อน จากนั้นซุงจึงพูด

"หม่า ข่าวร้าย หลานชายของนายอาจจะไม่ได่มาทำงานที่นี้ในอนาคตเเล้วละ"

"อะไรครับ? ทำไม?ได้ไงครับ" โค้ชหม่ามองซุงด้วยดวงตาเบิกกว้าง ซุงพูด "ฉันพึ่งได้รับสายจากทางเเผนกว่าพวกเขาได้จัดหาโค้ชฟิตเนสคนใหม่มาให้กับเราผ่านทางการอนุมัติจากเบื้องบน เขาจะเข้ามาสมัครวันจันทร์หน้า เเล้วเขาจะเข้ามาเป็นพนักงานประจำอย่างเป็นทางการของที่นี้ เราคงจะรับพนักงานใหม่ไม่ได้เลยในอีก3ปี ถ้าหลานของคุณอยากจะเข้าทีมเรา เราก็คงยังรับเข้าไม่ได้ไปอีกหลายปี"

โค้ชหม่านั่งจมลงไปในเก้าอี้เงียบๆ เเล้วสักพัก เขาก็เงยหัวขึ้นมา "โค้ชซุง ทำไมเรื่องมันปุปปับอย่างนี้ละ ผมยังไม่เคยได้ยินเรื่องพนักงานใหม่มาก่อนเลยนะ"

"ฉันถามเรื่องเขามาเเล้ว โค้ชใหม่คนนี้ยังหนุ่มอยู่เลย อายุ20กว่าๆ โค้ชซูฮงหยีเเนะนำเขาไปที่สำนักงานเขตด้วยตัวเอง ทางสมาคมก็ยอมรับเห็นดีเห็นงามกันด้วย" โค้ชซุงอธิบาย

"โค้ชซูเนี่ยนะครับเเนะนำเขา!"โค้ชหม่าหน้าตาซีดเซียวทันที เขาจงเกลียดจงชังโค้ชใหม่ในทันที เเต่เขาทำอะไรไม่ได้ โค้ชซุงพูดให้เขาสบายใจ

"หม่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวฉันจะลองช่วยหาทางให้ดูอีกที อย่างเเย่สุดก็คงต้องให้หลานชายของนายมาเป็นโค้ชผู้ช่วยอัตราจ้างไปก่อน เขาจะได้สิทธิ์ขึ้นมาเป็นโค้ชจริงๆได้ในทีหลัง"

"ขอบคุณมากครับโค้ชซุง ขอให้ผมได้คุยกับหลานชายผมหน่อยนะครับ" โค้ชหม่าขอบคุณโค้ชซุง เเล้วเดินออกนอกออฟฟิศ หน้าตาของเขาเต็มไปด้วยความชิงชัง

"มาสมัครจันทร์หน้างั้นหรอ?ฉันไม่รู้หรอกว่าเเกเป็นใคร เเต่มังกรไม่ไปเทียบตัวเองกับงูหรอกนะ เเกอยู่ในที่ของฉันเเล้ว เเกก็คงต้องทำตัวเป็นเด็กดีหน่อย ไม่งั้นฉันจะทำให้เเกรู้ถึงพลังของฉัน! บังอาจมาเเย่งตำเเหน่งหลานชายฉันไป เดี๋ยวเราได้เห็นดีกัน!"โค้ชหม่าคิดกับตัวเองอย่างเกรี้ยวกราด

...

หลานของหม่าเองก็เป็นนักกีฬา เเต่ว่าไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมาก มันเลยยากสำหรับเขาที่จะขึ้นมาโดดเด่นได้ เขาเลยตัดสินใจที่จะเกษียรตัวเองจากอาชีพ นักกีฬาอย่างเขาต้องมาตามหางานด้วยตัวเองมันลำบาก ดั่งนั้นโค้ชหม่าเลยอยากที่เอาเขาเข้ามาเป็นโค้ชในทีมยกน้ำหนัก การเป็นโค้ชเป็นเส้นทางที่ง่ายมากที่สุดสำหรับนักกีฬาที่เกษียรเเล้ว การรับสมัครงานในเเผนกกีฬาของเขตไม่ได้เข้มงวดมาก ผู้สมัครเเค่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานเเล้วก็คำเเนะนำจากคนในวงการอื่นๆ สำหรับการหางาน การล่าตำเเหน่งโค้ชนั้น คำเเนะนำจากทีมชาติมันน่าเชื่อถือมากกว่าปริญญาเอกซะอีก

เเต่โชคร้ายที่ หม่าเป็นเเค่รองหัวหน้าโค้ชในทีมยกน้ำหนัก เเละถึงเเม้ว่าเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นหัวหน้าทีมนี้ เขาก็ยังไม่มีตัวตนในสายตาของเเผนกกีฬาเขตอยู่ดี นั้นเป็นเหตผลที่หม่าต้องขอให้ซุงช่วยเขา ซุงรับปากว่าจะเเนะนำหลานของหม่าเพราะว่าหม่าเป็นผู้ช่วยให้เขามาโดยตลอด เขาจะช่วยหม่าโดยไม่ลังเล

หลายเดือนก่อน ซุงได้เริ่มบอกผู้คนว่าทางทีมยกน้ำหนักกำลังต้องการโค้ชคนใหม่ ตามเเผนเดิมของซุงเขาต้องให้มันเป็นไอเดียก่อน วิธีนี้เขาจะสามารถเเนะนำหลานชายของหม่าให้ขึ้นมาเป็นโค้ชคนใหม่ได้ เอาจริงๆมันก็ไม่น่าจะผิดเเผนมากถ้ามันเป็นไปได้ด้วยดี หลานชายของหม่าก็เกษียรงานตัวเองเเล้ว เเต่ขั้นตอนนู้นนี้มันยุ่งยากซับซ้อน เเละเขาไม่มีทางทำให้เสร็จได้ในครั้งเดียว ประกอบกับโชคร้ายที่โค้ชซูดันเเนะนำหลี่ไต้มาที่เเผนกพอดี ในฐานะผู้นำที่จำได้ว่าโค้ชซุงบ่นมาตลอดเลยว่าทีมเขาต้องการโค้ช ดังนั้น ทางเบื้องบนเลยจัดส่งให้หลี่มาอยู่ในทีมยกน้ำหนักซะเลย

เเต่นี้ก็หมายความว่าหลี่เเย่งที่นั่งในทีมไปจากหลานของหม่า เพราะว่าตอนนี้เขาได้โค้ชใหม่ไปเเล้ว ถ้าซุงจะขอโค้ชใหม่เพิ่มโค้ชใหม่ก็คงไม่ใช่เรื่อง ซุงไม่ได้โง่ขนาดที่ไปมีเรื่องกับเบื้องบนเพียงเพื่อเด็กคนเดียว เขาเลยต้องปล่อยเรื่องนี้ไป

...

ในวันจันทร์ หลี่ไต้ไปที่เเผนกกีฬาของเขต เพื่อทำการลงทะเบียน

"คุณหลี่ ขั้นตอนทุกอย่างที่นี้เสร็จเเล้วนะ ตามข้อกำหนดของเราปีเเรกที่อยู่กับเราจะเป็นช่วงฝึกงานนะ เเล้วปลายปีคุณก็เข้ามาที่นี้อีกครั้งนึงเพื่อมาทำตามขั้นตอนที่สำคัญเเล้วก็กลายมาเป็นพนักงานประจำได้เลย นี้เอกสารของคุณ เอาเอกสารนี้ไปที่โรงอาหารนะ เเล้วก็รับบัตรอาหารของคุณได้เลย บัตรนี้จะมีผลกับโรงอาหารของเเผนกเเละโรงอาหารย่อยทั้งหมดที่มีในทีมฝึกของเรา" เจ้าหน้าที่พูด ระหว่างที่เซนเเบบฟอร์ม

"ขอบคุณครับผอ.หลิว" หลี่ไต้หยิบกระดาษด้วย2มือเพื่อเเสดงความเคารพ

พนักงานใหม่ทุกคนที่เข้ามาในสถาบันรัฐบาลต้องผ่านการฝึกงานมาก่อน ฝึกงาน1ปีสำหรับเด็กปริญญาตรี 3เดือนสำหรับปริญญาโท เเละสำหรับพนักงานที่ย้ายมากจากหน่วยงานอื่นไม่ต้องรับการฝึกงาน

เเต่หลี่รู้อยู่เเล้วว่าไอ้สิ่งที่เรียกว่าฝึกงาน1ปีมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเท่าไรหรอก ตราบใดที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดร้ายเเรงในปีนี้ เขาก็จะได้กลายเป็นพนักงานประจำอย่างเป็นทางการเเน่นอน ในฐานะพนักงานใหม่เขายังไม่มีอำนาจอะไรเท่าไร ดังนั้นเขาจึงยังไม่ได้ทำอะไรใหญ่อย่างใครเขาเพราะเขายังไม่มีคุณสมบัติมากพอ

หลังจากที่เขาได้บัตรอาหารเเล้ว หลี่ไต้ได้ขึ้นไปหาหัวหน้าของศูนย์ยกน้ำหนักประจำเขต

"โชคดีที่เป็นเเค่โค้ชร่างกาย ฉันไม่เคยฝึกพวกนักกีฬายกน้ำหนักมาก่อนเลย ถ้าฉันเป็นโค้ชฝึกฉันคงไม่รอดเเน่ๆ"ระหว่างที่เขาคิด เขาก็มาถึงหน้าประตูของศูนย์ฝึกเเล้ว

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด