ตอนที่แล้วChapter 109: มหาวิหารน็อตร์-ดาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 111: คริสตัลลึกลับ

Chapter 110: ร่องรอยแห่งเทพเจ้านักต่อสู้


Chapter 110: ร่องรอยแห่งเทพเจ้านักต่อสู้

ถ้ามีใครคนหนึ่งกำลังโกหก หลังจากนั้นพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องโกหกมันให้ไปถึงที่สุด! มิฉะนั้นพวกเขาจะทำให้ตัวของพวกเขาเองอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด

“ไอ้เด็กจอมซน! คุณไปเรียนมันมาจากที่ไหนกัน!”มู่จี่เซียนแกล้งแล้วเธอก็จับไปที่ดึงแก้มหวังหยู่

“ชู่วววว…มากินกันเถอะ”หวังหยู่หัวเราะ

นิสัยที่ดีนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเป็นได้แต่เรื่องที่เลวร้ายนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายที่จะเรียนรู้ เมื่อเผชิญหน้ากับ NPC ที่ไม่ซื่อสัตย์มากมายในเกม หวังหยู่นั้นก็ได้เรียนรู้กับคนประเภทนั้น ยิ่งไปกว่านี้ สมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นก็สามารถทำให้สังคมนั้นเกิดหายนะได้ ดังนั้นหวังหยู่ที่ทำไปนั้นเป็นแค่เรื่องผิวเผินที่เขาได้ยิน ถ้ามันเป็นไร้ความกลัวและรัศมีฤดูใบไม้ผลิแทนที่เขาละก็ ไอ้ชายโง่เขลาที่ยากจนนี้ก็จะร้องไห้ไปแล้ว...

ถึงแม้ว่า มู่จี่เซียนและซงหยานหยานนั้นจะสนิทกันมาก เธอก็ไม่รู้สึกว่าหวังหยู่นั้นก้าวข้ามเส้นนี้

มู่จี่เซียนนั้นก็ค้นพบว่าเหล่ยเจียงนั้นกำลังโอ้อวดอยู่ โอหังและไม่สื่อสัตย์กับซงหยานหยาน เมื่อใครคนหนึ่งมองมายังเขามันก็เพียงพอท จะรับรู้ได้ว่าเขานั้นไม่ใช่ชายที่ดี ใครจะไปรู้ว่าเขานั้นทำธุรกิจที่เลวร้ายขนาดไหนกันด้วย!

มู่จี่เซียนนั้นไม่มีเจตนาที่จะมองเพื่อนรักของเธอนั้นโดนหลอกลวงไอ้พวกขี้อวดแบบนี้ แน่นอนว่าเธอก็ไม่สามารถที่จะยืนดูอย่างอดทนกับหวังหยู่ที่รักของเธอนั้นจะโดนเขาดุด่าแบบนี้

สำหรับมู่จี่เซียน หวังหยู่นั้นเป็นทั่วทั้งชีวิตของเขา เมื่อเห็นว่าเขานั้นโดนว่าร้ายนั้นก็เป็นเรื่องยากมากเกินไปที่จะอดทน

“ฮ่า….ฮ่า…”เหล่ยเจียนหัวเราะอย่างอึดอัด

หลังจากที่โดนเล่นอย่างเลวร้ายโดยหวังหยู่ เหล่ยเจียนนั้นก็ใช้เวลาทั่วทั้งเย็นนั่งกินมื้อเย็นอย่างเงียบๆ

หลังจากกินมื้ออาหารเสร็จแล้ว หวังหยู่นั้นก็จ่ายบิลและทั้งสี่คนก็ออกมาจากโรงแรมพร้อมๆกัน ทันใดนั้น มันก็เหมือนกับมีเริ่มการต่อสู้ขึ้น เหล่ยเจียนชี้ไปที่รถเวสป้าและพูด “พี่ชายหยู่ คุณควรที่จะคิดเกี่ยวกับการหารถได้แล้ว! เมือง L นั้นแออัดอยู่แล้ว!”

“มันไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าสำหรับสิ่งแวดล้อม…”หวังหยู่ตอบกลับเบาๆ

“มันเป็นเรื่องที่อันตรายในตอนกลางคืน คุณก็รู้ ทำไมไม่ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านแทนกันละ? รถของผม…”

“บี้บบบบบบ!!!”

ก่อนที่เหล่ยเจียนจะมีโอกาสได้พูดจบ รถเฟอรารี่สีแดงนั้นก็หยุดอยู่อย่างฉับพลันด้านหน้าของโรงแรมและก็บีบแต่ใส่พวกเขา

รถเฟอรารี่สีแดงที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันนั้นทำให้พวกเขาทั้งสี่คนตกตะลึง

โรงแรมที่พวกเขาอยู่นั้นตั้งอยู่ด้านบนของหุบเขา ดังนั้นมีเพียงใครบางคนที่กล้าอย่างไม่น่าเชื่อที่จะขับรถที่มีฐานต่ำอย่างเฟอรารี่มาที่นี่

หลังจากบีบแตรเสร็จ รถเฟอรารี่ก็ขับมาทางพวกเขาและลดหน้าต่างลง และเก็เปิดเผยหน้าตาของหยางนัว

“ดังนั้นคุณก็อยู่ที่นี่เอง นายน้อย!”หยางนัวยิ้มให้กับหวังหยู่แล้วเธอก็ถอดแว่นกันแดดออก

“นัวน้อย!”มู่จี่เซียนแนะนำ

“อื้ม…”หวังหยู่พยักหน้า

“ทำไมคุณถึงเอาเวสป้าและออกมาเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนแบบนี้กัน! รีบขึ้นรถพร้อมกับนายหญิงเถอะ และฉันจะส่งคุณทั้งสองกลับบ้านเอง ฉันไม่ต้องการให้เจ้านายดุด่าใส่ฉัน…”

“นายน้อย…นายหญิง…”เหล่ยเจียนพึมพำกับตัวเอง แล้วก็จ้องไปข้างหน้าระหว่างหวังหยู่และมู่จี่เซียน เขาเริ่มที่จะรู้สึกสะอิดสะเอียน นายน้อย…ทำไมเขาถึงขับรถเวสป้ากันละนั่น!!!

ถึงแม้ว่ามู่จี่เซียนนั้นจะไม่คุ้นเคยกับนายหญิง หวังหยู่นั้นก็คุ้นเคยอย่างมากกับวิธีการเรียกแบบนี้

“แล้วผมจะทิ้งมันไว้ที่นี่ได้ไง? มันมีค่าตั้งแปดร้อยเลยนะ เธอก็รู้!”หวังหยู่ตอบกลับ มันเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับชายที่จะให้คุณค่ากับอะไรบางอย่างที่เขาเคยนั่งมันมาก่อน

หวังหยู่นั้นหันกลับไปและพูด “เอาอย่างงี้เป็นไง พี่ชายเจียนสามารถส่งพวกเราไปที่บ้านได้และเธอก็สามารถพวกเราแบกรถเวสป้ากลับ!”

เมือเขาพูดเสร็จ หวังหยู่ก็ยกเวสป้าขึ้นซึ่งน้ำหนักมันก็หลายร้อยกิโลกรัมด้วยมือเพียงข้างเดียวและวางมันไว้ที่นั่งด้านหน้าของรถผู้โดยสาร

“…”

เมื่อมองไปยังหวังหยู่ หยางนัวนั้นก็กลั้นน้ำตาอย่างยากลำบาก รอยขูดขีดเล็กๆบนรถของเธอนั้นมีค่ามากพอที่จะซื้อเวสป้าสองคันซะอีก..

เมื่อมองไปที่รถเวสป้า หวังหยู่ก็จ้อง “คุณต้องการที่จะทำให้ฉันแข็งทื่อจนตายเลยงั้นเหรอ?”อุปกรณืภายในของรถสปอร์ตนั้นเล็กมาก ดังนั้นรถเวสป้านั้นจึงแทบจะทำให้เกิดทำลายเป็นรูด้านบนเพดาน

“ขับช้าๆเข้าใจไหม? ถนนเส้นนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”หวังหยู่ยิ้มแล้วเขาและมู่จี่เซียนก็เข้าไปในรถของเหล่ยเจียน

ไม่สำคัญหรอกว่าหวังหยู่นั้นเกลียดเหล่ยเจียนมากแค่ไหน เขานั้นก็ชื่นชมเมื่อนั่งอยู่บนรถนั้นสบายกว่านั่งในรถเวสป้า

หลังจากที่ส่งพวกเขาเสร็จแล้ว เหล่ยเจียนและซงหยานหยานนั้นก็ยังคงเงียบงันตลอดทางขากลับ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูการแสดงออกของซงหยานหยาน หวังหยู่ก็สามารถที่จะบอกกับพวกเขาว่าจะไม่ได้อยู่กันนานสักเท่าไหร่

ทางเข้าของอพาร์ทเมนท์นั้นซับซ้อน หยางนัวนั้นนั่งอย่างโกรธเคืองในรถของเธอ ในขณะที่รถเวสป้านั้นถูกโยนไว้ตรงมุมบ้าน

มู่จี่เซียนนั้นก็เหยียบไปที่เท้าของหวังหยู่และด่าเขา “คุณนี่เล่นแรงเกินไปแล้ว รีบไปขอโทษเร็วเข้า!”

“ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือก่อนหน้านี้!”หวังหยู่ยิ้มแล้วเขาก็กุมมือคำนับ

“ไม่มีใครทำกับฉันแบบนี้มาก่อน! ครั้งหน้าถ้าพวกคุณทั้งสองออกไปเดทกัน ฉันจะไม่ไปช่วยพวกคุณอีกแล้ว!”หยางนัวพ่นเสียงอย่างเย็นชา

เมื่อมองไปที่หยางนัว มู่จี่เซียนก็แตะไปที่ไหล่ของหวังหยู่และพูดว่า “ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่คุณจะต้องไปสอบใบขับขี่แล้วละ”

วันต่อมาเมื่อหวังหยู่เข้าไปในเกมอีกครั้งหนึ่ง เขาก็รีบเข้าไปด้านในโรงเตี๊ยมและซื้อไหเหล้าหลายไหก่อนที่จะเดินไปยังถนนกลาง

ผู้ให้ข้อมูลนั้นบอกกับหวังหยู่ให้กลับมาอีกครั้งตอนระดับยี่สิบพร้อมกับเควสอีกเควสหนึ่ง แต่เขาไม่เคยพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้มาก่อน

หลังจากดื่มไหเหล้าไปสองไหเสร็จแล้ว สุดท้ายแล้วผู้ให้ข้อมูลก็พูด “ไม่เลวเลยเด็กน้อย นายมีระดับยี่สิบแล้ว! นายนี่มีความสามารถจริงๆ!”

“มันเป็นเพราะการแนะนำของมาสเตอร์”หวังหยู่นั้นพูดตามบทคำพูดอย่างไม่เต็มใจ ไอ้แก่บัดซบนี่ไม่ได้สอนเขาเลยซักอย่าง! สิ่งที่เขารู้ทั้งหมดนั้นก็มีเพียงการดื่มเหล้าและใช้เงินที่หวังหยู่นั้นหามา!

เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ให้ข้อมูลนั้นก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อหวังหยู่นั้นชมเขาและพูดขึ้น “ไม่เลวเลยเด็กน้อย ไม่เลว! นายนี่ไม่ไร้ประโยชน์เลยจริงๆ! ตั้งแต่ที่นายต้องการที่จะเรียนรู้ ให้ฉันได้บอกเกี่ยวกับเรื่องของเทพเจ้านักต่อสู้ละกัน!”

“ขอบคุณมากครับ มาสเตอร์!”หวังหยู่ก็ตอบกลับอย่างตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่นเกมที่หวังหยู่ได้ยินเกี่ยวกับเบื้องหลังของอาชีพลับของเขา

“เทพเจ้านักต่อสู้นั้นเป็นคนที่มาจากอีกทวีปหนึ่ง! ข่าวลือเล่าว่าเขามาจากทิศตะวันตกอันห่างไกล บางที เขานั้นมาจากโลกที่แตกต่างออกไปนายเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดถึงไหม?”

“ผมเข้าใจ!”หวังหยู่พยักหน้ารัวๆ มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเนื้อเรื่องของนิยายทั่วไปงั้นเหรอ? ตั้งแต่ยังเด็ก หวังหยู่นั้นก็ได้อ่านหนังสือหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับตัวละครที่เข้าไปในร่างกายที่แตกต่างออกไปเกิดใหม่ หรือย้อนเวลากลับไปในอดีต! ใครจะไปคิดว่าเกมนี้นั้นจะใช้แนวคิดแบบนี้ใหม่อีกครั้งกัน…

หลังจากที่วีรบุรุษทั้งเจ็ดนั้นสังหารราชาปีศาจได้สำเร็จ พวกเขาก็แยกตัวกันและกลับไปยังเมืองเกิดเพื่อที่จะมีชีวิตอย่างสงบสุข มีเพียงคนเดียวที่ไม่ปรากฏนั้นก็คือเทพเจ้านักต่อสู้ ใครบางคนยืนยันว่าเขานั้นเสียชีวิตลงในการต่อสู้ แต่ฉันรู้สึกว่าเขานั้นกลับไปยังสถานที่ที่เขาเกิดแทนเสียมากกว่า!”ผู้ให้ข้อมูลพูดอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์

“โอ้วววว โอเค คุณจะบอกผมว่าให้ผมไปยังหมู่บ้านของเขาและตามหาเขา และหลังจากนั้นก็รวบรวมวีรบุรุษทั้งเจ็ดมาเพื่อสังหารราชาปีศาจตนใหม่งั้นเหรอ?”หวังหยู่ถาม

“หนุ่มน้อย ทำไมถึงพูดเรื่องไร้สาระมากมายขนาดนี้กัน? รุ่นของนายไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาของพวกนายเองได้งั้นเหรอ?”ผู้ให้ข้อมูลหัวเราะอย่างดูถูก

“ถ้างั้น ทำไมคุณถึงพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นกัน?”หวังหยู่สาปแช่งภายในหัวใจของเขา

“ฉันนั้นแก่แล้ว…..โลกนั้นจำเป็นสำหรับวัยรุ่นเช่นนาย….เอานี่ไปและไปหาร่องรอยของเทพเจ้านักต่อสู้!”ผู้ให้ข้อมูลพูดอย่างมืดมนแล้วเขาก็เอาวัตถุบางอย่างที่คล้ายกับลูกตาสีดำออกมา

{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้กระตุ้น “หัวใจแห่งความกล้าหาญ” บทที่สี่ : ร่องรอยของเทพเจ้านักต่อสู้ ความยากระดับ S ตกลงหรือไม่?}

{ตกลง!}

{แจ้งเตือนระบบ : “หัวใจแห่งความกล้าหาญ” บทที่สี่ : ร่องรอยของเทพเจ้านักต่อสู้ ความยากระดับ S กระดูกแห่งหุบเหว 0/1 ขนนักศักดิ์สิทธิ์ 0/1 เลือดของมังกรไฟ 1/1 หัวใจแห่งไททัน 0/1 จิตวิญญาณนักฆ่า 0/1}

{แจ้งเตือนเควส : มันไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาของเควสนี้ เควสนี้สามารถที่จะแชร์กับผู้เล่นอีกคนหนึ่ง ตั้งแต่ที่มันเป็นเควสการสืบทอดมรดก เทพเจ้านักต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมนั้นไม่ต้องการที่จะให้ใครนั้นชื่อของเขา ผู้เล่นที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้รับค่าประสบการณ์จนกระทั่งเควสนั้นสำเร็จเสร็จสิ้น}

{แจ้งเตือนระบบ : คุณได้รับไอเทมเควสพิเศษ ดวงตาแห่งพระพุทธเจ้า}

{ดวงตาแห่งพระพุทธเจ้า} (ไอเทมเควส) : ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับหินที่ปิดผนึก ใช้ได้อีก 5ครั้ง}

“…”

เมื่อเปิดไปยังหน้าต่างสถานะ ค่าประสบการณ์ของหวังหยู่นั้นกลายเป็นสีเทา ถ้าเขานั้นทำเควสนี้ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็จะติดอยู่ที่ระดับยี่สิบตลอดไป….เควสเนื้อเรื่องของหัวใจแห่งความกล้าหาญนี่มันมากเกินไปจริงๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด