ตอนที่แล้วเล่ม 4 ตอนที่ 4 : พบเจอเด็กสาว (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 4 ตอนที่ 5 : ผู้ชายสีแดง (1) [อ่านฟรี]

เล่ม 4 ตอนที่ 4 : พบเจอเด็กสาว (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 4 ตอนที่ 4 : พบเจอเด็กสาว (3)

 

“เอ้า ฮึบ!”

ตู้ม!

โกเลมที่น้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมถึงกับตัวลอย และจากนั้นจึงค่อยไปติดแหงกอยู่กับพื้น

ด้วยความที่น้ำหนักมหาศาล ความเสียหายจากการล่วงหล่นย่อมมหาศาลตาม โกเลมเสียพลังชีวิตถึง 350 หน่วยไปโดยทันที ร่างของมันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงที่หมายความถึงใกล้ตายเต็มที ทว่า การโจมตียังไม่จบเพียงเท่านั้น ร่างกายของมันกำลังเริ่มส่งเสียงดัง ขณะโกเลมดังกล่าวพยายามที่จะลุกขึ้นมา

โกเลมกำลังตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นอีกครั้ง จนสุดท้ายพลังชีวิตของมันก็หมดสิ้นและถูกทำลายไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูสิ นี่มันง่ายชะมัด”

บุคคลที่กำลังหัวเราะเสียงใหญ่อยู่บนร่างของโกเลมที่พังทลายไปแล้วนั้นกลับเป็นถึงอดีตสารวัตรเลือดร้อน จัสติสแมนนั่นเอง

จัสติสแมนที่ผิดหวังหลังจากทำภารกิจอีเวนท์ล้มเหลวไป ตอนนี้ถึงกับได้พื้นที่การออกล่าแห่งใหม่ เรื่องราวเหล่านี้ล้วนต้องขอบคุณอาร์ค

ในวันหลังจากที่อาร์คขอร้องต่อท่านลอร์ดหนุ่มแห่งแจ๊คสันให้ช่วยเหลือจัสติสแมน จิสติสแมนจึงเข้าไปพบท่านลอร์ดหนุ่ม

“ข้าได้ยินถึงความกล้าหาญของท่านจากทั้งเซอร์ครอสและท่านอาร์คเป็นอย่างดี”

“ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ต้องทำเท่านั้นเอง” จัสติสแมนตอบกลับไปอย่างสุภาพ

กับเอ็นพีซีที่ดูอ่อนเยาว์กว่าเช่นนี้ แต่แล้วอายุกลับไม่ใช่สิ่งที่จัสติสแมนจะนำมาคิดให้มากความ เขาเป็นคนที่คุ้นชินกับสังคมตามลำดับชั้น ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นท่านลอร์ดของพื้นที่แห่งนี้ เขาย่อมต้องให้ความเคารพนับถือ อีกทั้งอาร์คยังเป็นคนแนะนำให้เขามาพบท่านลอร์ดหนุ่มคนนี้ด้วยตัวเองอย่างดิบดี

“ข้าทราบดีว่าท่านลงแรงแข็งขันเพื่อช่วยเหลือแจ๊คสันถึงเพียงใด ทว่ากฎได้ถูกตราเอาไว้ นับเป็นข้าอับอายที่ไม่อาจให้รางวัลแก่ท่านอะไรได้เลย ดังนั้นแล้ว... แม้ว่าข้าจะไม่อาจให้รางวัลท่านที่ช่วยเหลือแจ๊คสันเอาไว้ได้ แต่ข้าก็คิดมอบความสะดวกให้ท่าน”

“ความสะดวก...?”

“นับจากนี้ไป ให้ใช้งานโรงตีเหล็กและโรงอาหารที่เป็นของทางการเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่และเสบียงอาหารได้ ข้าได้แจ้งต่อพวกเขาเอาไว้แล้ว ดังนั้นแล้วจึงมีส่วนลด 50% ให้หากท่านนำไปเปรียบเทียบกับร้านค้าในหมู่บ้าน”

“จริงหรือครับ?” จัสติสแมนถามอีกครั้งด้วยสีหน้ากระจ่างสดใส

จัสติสแมนที่ไม่มีเซนส์ทางด้านการเงินจึงมักมีปัญหากับค่าอาหารและค่าซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง ทว่านี่เขากลับได้รับส่วนลดพวกมันมากถึง 50% เลยนะ!

ทว่าจัสติสแมนก็ถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่คล้ายมีปัญหาหนักอก จัสติสแมนเลเวลถึง 45 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นแล้วจึงเป็นการยากหากจะทำการเพิ่มเลเวลในปราสาทแจ๊คสันที่มีพื้นที่การออกล่าเก็บเกี่ยวเลเวลได้ในช่วง 40 เท่านั้น สำหรับการได้รับโบนัสเหล่านี้ยามที่คิดจะย้ายไปยังพื้นที่นี่มันก็ออกจะ...

ท่านลอร์ดหนุ่มพยักหน้ารับ ยิ้มตอบ และกล่าวถามออกมา “ข้าไม่อาจเข้าใจถึงคนต่างถิ่น ว่าเหตุใดพวกเขาจึงมักเสี่ยงชีวิตไปค้นหามอนสเตอร์อันแข็งแกร่งกัน? ก็ดี อย่างไรแล้วหากนั่นเป็นเส้นทางการใช้ชีวิตของท่าน งั้นก็ไม่อาจทำอะไรได้ กระนั้นแล้ว ถ้าหากเป็นเหตุผลนั้น มันก็ไม่จำเป็นที่ท่านต้องออกไปจากแจ๊คสัน”

“ครับ?”

“ที่จริงแล้ว มันมีพื้นที่อันตรายอยู่รอบแจ๊คสันที่เป็นเขตหวงห้ามโดยกองทหาร โบราณสถานที่อาร์คไปกับบิดาของข้าในอดีตที่ผ่านมานั้นก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว แน่นอนว่าพวกมันถูกจำกัดเอาไว้ไม่ให้ล่วงรู้ ทว่าหากท่านชอบพวกมัน ข้าก็จะมอบสิทธิ์การเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวให้”

ในนิวเวิลด์ ไม่ใช่เพียงแค่แจ๊คสันเท่านั้น แต่กิรัน รวมถึงพื้นที่อื่นก็เช่นเดียวกัน เหล่านั้นล้วนมีพื้นที่หวงห้ามทั้งสิ้น พวกมันเป็นพื้นที่ที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนด้วยหลากหลายเหตุผล และเมื่อใครสักคนเติมเต็มเงื่อนไขให้สมบูรณ์ได้ ยกตัวอย่างเช่นแจ๊คสัน กุญแจที่จะไขพื้นที่หวงห้ามเหล่านั้นได้ล้วนเป็นภารกิจอีเวนท์

ดังนั้นแล้ว พื้นที่ที่จัสติสแมนได้รับอนุญาตจากท่านลอร์ดหนุ่มจึงเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งในป่าแห่งเงา พื้นที่ดังกล่าวเรียกว่าบึงเน่า มันเป็นสถานที่ที่มอนสเตอร์เลเวล 30~60 จะปรากฏตัว

“สิ่งแรกคือไปหาประสบการณ์จากที่นั่น นี่ก็คงเป็นเวลาที่ท่านต้องการพอดีกระมัง...” ท่านลอร์ดหนุ่มบอกกล่าวขณะเผยรอยยิ้มที่คล้ายเป็นกังวลมาให้

อย่างไรเสีย ด้วยสิ่งนี้ จัสติสแมนจึงสามารถยึดครองพื้นที่การล่าที่ไม่มีผู้ใดเข้าไปได้

อาจเพราะเป็นพื้นที่หวงห้าม บึงเน่าจึงมักเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่คลาคล่ำ ทว่า มีเพียงเท่านั้นหรือ? อัตราการดร็อปสิ่งของจากมอนสเตอร์พวกนี้ก็เป็นกอบเป็นกำเช่นเดียวกัน มันแทบจะดร็อปอุปกรณ์สวมใส่ชิ้นหนึ่งต่อการจัดการมอนสเตอร์ทุกสามตัวด้วยซ้ำไป และบางทีในช่วงสองวันก็จะได้รับไอเทมระดับวิเศษที่ดร็อปออกมา และนอกเหนือไปจากนั้น ค่าซ่อมแซมที่ลดลงครึ่งหนึ่งจึงทำให้เหรียญทองในกระเป๋าของจัสติสแมนเพิ่มพูนขึ้นตามไปด้วย

จัสติสแมนมองไปยังไอเทมสวมใส่ชิ้นหนึ่งด้วยสายตาโปรดปราน

 

=====

สนับตุ่ม

ประเภท : สนับมือ

พลังโจมตี : 12~15

ความทนทาน : 14/40

น้ำหนัก : 10

ข้อจำกัดใช้งาน : เลเวล 45 หรือมากกว่า

สนับมือที่สร้างขึ้นโดยนักสู้ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง มันถูกทำขึ้นจากแผ่นหนังชั้นเลิศ โลหะที่เป็นตะปุ่มตะป่ำนั้นได้ถูกเสริมขึ้นเพื่อป้องกันมือในขณะเดียวกันก็เพิ่มพลังการโจมตีให้มากยิ่งขึ้น

ออพชั่น : ทักษะมือเปล่า พลังโจมตี +20%

=====

กางเกงในสบาย

ประเภท : ชุดชั้นใน

พลังป้องกัน : 20

ความทนทาน : 28/60

น้ำหนัก : 5

ข้อจำกัดใช้งาน : เลเวล 50 ขึ้นไป

ชุดเกราะส่วนล่างที่ทำขึ้นจากผ้าที่ให้ความสะดวกสบายอย่างถึงที่สุด ด้วยการตัดอย่างประณีตจึงทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหว ทว่า สำหรับผู้อื่นที่ไม่คุ้นเคยกับการสวมใส่กางเกงในเช่นนี้มันออกจะน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง

ออพชั่น : ความเร็วการตอบสนอง +10%, ความมั่นใจ -20

=====

 

ไอเทมเหล่านี้เป็นเขาได้รับมาจากมอนสเตอร์ภายในบึง จัสติสแมนสวมใส่กางเกงในดังกล่าวโดยไม่คิดอะไรให้มากความ โดยใส่ควบคู่ไปกับเสื้อยืด และอุปกรณ์สวมใส่อื่น สุดท้ายแล้วเขาดูกลับกลายเป็นจ้ำม่ำไปเสีย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาใส่ใจ อย่างไรแล้ว มันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากตัวเขาในชีวิตจริงมากนัก

“หึหึหึ พอมาคิดว่าตัวเองได้ยึดครองพื้นที่การล่าเช่นนี้แล้ว ผู้คนอื่นในหมู่บ้านจะรู้เรื่องนี้กันไหมนะ? นี่เราถึงกับได้รับของดีเช่นนี้มาเพราะอาร์ค!”

“บ้าจริง นี่คุณทำอะไรอยู่กันน่ะ? ถ้ามีเวลาจะทำท่าประหลาดพวกนั้นก็มาช่วยพวกเราได้แล้ว!”

ฉับพลัน เสียงโมโหโกรธาจากอีกด้านพลันดังขึ้น

เมื่อเขาหันกลับไปจึงพบผู้เล่นจำนวนหนึ่งกำลังโดนโกเลมสองตัวไล่ล่าอยู่

พวกเขาเป็นหนึ่งในคนที่จัสติสแมนลากตัวมาเล่นเกมด้วย เป็นหมายเลข 1401 ถึง 1410 นั่นเอง... พวกเขาเป็นผู้เล่นที่ถึงกับนำเอาหมายเลขทัณฑ์บนของตัวเองมาตั้งเป็นชื่อในเกม

ในตอนแรกเขาก็มาพร้อมกับผู้เล่นกว่าสามสิบคน ทว่า พวกเขาทุกคนก็กระจัดกระจายไปกันหมด ที่เหลือก็มีเพียงแค่โรโค่กับกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนเท่านั้น

ด้วยการพยายามอย่างหนักจนแทบตายจากเลเวล 45 จัสติสแมนในตอนนี้ได้เลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 55 เรียบร้อยแล้ว ทว่า เลเวลเฉลี่ยของพวกเขาก็ยังแค่ 35 เท่านั้น พวกเขาในตอนแรกมีเลเวลแค่ 20 เท่านั้น นั่นหมายถึงพวกเขาสามารถเพิ่มเลเวลมาได้ถึง 15 ระดับในช่วงระยะเวลาอันสั้น แต่มันก็ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะต้องมาต่อสู้กับโกเลมเลเวล 60 เช่นนี้

“สู้เข้านะทุกคน เทพีแห่งผืนดินเป็นสหายของทุกคน เธอจะปกป้องพวกเราอยู่เสมอ”

ขณะที่กลุ่มที่กำลังพักฟื้นกำลังจะโดนจัดการไปนั้น โรโค่จึงนำเอาฮาร์ปของเธอออกมาเล่น ‘บทเพลงแห่งการปกป้อง’ เพื่อเพิ่มค่าพลังป้องกัน และแล้ว จากนั้น ก้อนกรวดและพื้นดินจึงเริ่มผุดขึ้นจากพื้นเข้ามาพันรอบตัวของกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนเอาไว้

“โอ้ สมแล้วที่เป็นโรโค่ผู้น่ารัก!”

“พวกเราต้องพึ่งเธอแล้ว”

“มิสเตอร์บ๊อกเซอร์ขาสั้นนั่นมีแต่กล้ามเนื้อในสมอง รู้ก็แต่วิธีการต่อสู้เท่านั้นแหละ!”

กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างล้อมรอบโรโค่เอาไว้ขณะร้องตะโกนส่งเสียงเชียร์

“คำพูดนั่นฉันจะจำเอาไว้นะหมายเลข 1403!”

“บ้าจริง แก่แล้วยังหูดีอีก”

ไม่ช้าเมื่อจัสติสแมนเข้ามาร่วมด้วย สถานการณ์จึงพลิกกลับโดยทันที

โกเลมถึงกับลอยขึ้นกลางอากาศราวกับใบไม้เหี่ยวเฉาที่โดนฝูงลิงจับโยนเล่น

จัสติสแมนเลเวลเพียงแค่ 55 เท่านั้น ทว่าเขาไม่ต่างอะไรไปจากเลเวล 68 เลยสักนิด

มันเป็นเพราะผลจากค่าสถานะ “ความยุติธรรม” ของเขา

ค่าสถานะความยุติธรรมเป็นค่าสถานะระดับชั้นหายากที่จะช่วยเพิ่มค่าสถานะของคนผู้หนึ่งให้มากขึ้นตราบเท่าที่ร่วมต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อเป็นการช่วยเหลือ

ตอนนี้ ค่าสถานะความยุติธรรมของจัสติสแมนอยู่ที่ระดับ 13 และผลลัพธ์ของมันก็จึงทัดเทียมกับการที่เลเวลเพิ่มขึ้นถึง 13 ระดับ และยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นผู้เล่นที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้โดยผ่านการต่อสู้ในชีวิตจริงอย่างโชกโชน กับมอนสเตอร์เลเวล 60 แล้วไม่อาจนับได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อแต่อย่างใด

จัสติสแมนตะโกนเข้าใส่หมายเลข 1406 ทันทีหลังจากที่ปล่อยให้โกเลมอยู่ในสภาพใกล้ตายแล้ว

“รอเดี๋ยวนะครับ! ผมจะรีบเข้าไปแย่งเดี๋ยวนี้แหละ”

หมายเลข 1406 วิ่งพุ่งเข้าไปยังโกเลมตัวดังกล่าวพร้อมขยับมืออย่างรวดเร็ว

 

=====

ท่านได้ขโมย ‘แร่โลหะ’ จากโกเลม

=====

 

กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนเหล่านี้ต่างก็เป็นคนที่ได้เรียนเทคนิคพิเศษจากในชีวิตจริงกันมา ฝีมือที่พวกเขาได้รับการเรียนรู้มานับได้ว่าเหมาะสมกับความเชี่ยวชาญของพวกเขา ในหมู่พวกเขามีทั้ง นักล้วงกระเป๋า ซึ่งก็คือหมายเลข 1406 ที่ซึ่งเพิ่งใช้ทักษะ ‘ล้วงกระเป๋า’ ไป มันเป็นทักษะที่สามารถฉกฉวยเอาไอเทมจากมอนสเตอร์ที่ใกล้ตายออกมาได้

“ดีล่ะ ฆ่ามันได้เลย”

ขณะที่หมายเลข 1406 ยกยิ้มมองไปยังแร่โลหะ โกเลมก็เริ่มมีร่างกายแปรเปลี่ยนกลับคืนเป็นก้อนกรวด โกเลมอีกตัวก็สลายหายไปหลังจากที่โดนรุมเร้าการโจมตีเข้าใส่ หลังจัดการมอนสเตอร์เสร็จพวกเขาจึงค่อยพักเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต ขณะนั้นเองโรโค่ได้กล่าวขึ้นมาอย่างเร่งด่วน

“ฉะ-ฉันต้องไปแล้วค่ะ นี่ก็เกือบจะถึงเวลาเข้างานพาร์ทไทม์แล้ว...”

“หือ? ได้เวลาแล้วเหรอ?”

“อา พอหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวจากไปแล้วก็เริ่มไม่สนุกแล้วสิ...”

“ออกจากงานพาร์ทไทม์แล้วมาเล่นเกมกันดีกว่าน่า เดี๋ยวฉันจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้เอง”

กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างพึมพำกันออกมาด้วยสีหน้าเสียอกเสียดาย

โรโค่ไม่อาจที่จะเล่นเกมเป็นเวลานานได้นักเพราะเธอต้องไปทั้งโรงเรียนและทำงานพาร์ทไทม์ กระนั้นแล้ว ที่เธอเพิ่มเลเวลจนมาถึง 30 ได้นั้นก็ต้องขอบคุณกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนที่คอยช่วยเหลือเธอยามที่เธอเข้าเกมมาด้วยดีมาโดยตลอด

“แหะ ๆ พรุ่งนี้เดี๋ยวเข้ามาเวลาเดิมนะคะ”

“ช่วยไม่ได้นี่นะ งั้นพวกเรากลับไปแจ๊คสันกันเถอะ ยังไงพวกเราก็ต้องไปซ่อมแซมอุปกรณ์สวมใส่ด้วยเหมือนกัน”

ดังนั้นแล้ว หลังจากที่ได้ใช้เวลามาหลายวัน ทั้งจัสติสแมนและกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนจึงต่างก็มุ่งหน้ากลับสู่แจ๊คสันด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง เมื่อพวกเขากำลังจะเข้าไปใช้บริการช่างตีเหล็กของท่านลอร์ดหนุ่ม เซอร์ครอสก็พลันโผล่เข้ามาหาพวกเขา

“พวกท่านกลับมาได้เวลาพอดีเลย ท่านลอร์ดกำลังต้องการพบพวกท่าน”

“ท่านลอร์ด? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”

“ข้าเองก็ไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดมากนัก”

“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวไปพบในตอนนี้เลยแล้วกัน เฮ้ย พวกกลุ่มทัณฑ์บน รออยู่นี่แล้วอย่าสร้างปัญหาอะไรล่ะ”

หลังกล่าวเตือนกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บน จัสติสแมนจึงมุ่งหน้าไปเพื่อพบกับท่านลอร์ดหนุ่มร่วมกับครอส ท่านลอร์ดหนุ่มตอนนี้กำลังรื้อหาเอกสารที่ผ่านมากาลเวลามานานยิ่ง เขาหันมาทักทาย

“อา จัสติสแมน มาถูกเวลาเลยทีเดียว”

“เกิดอะไรขึ้นกันหรือครับ?”

“ไม่นับว่าใหญ่อะไร นั่งพูดคุยกันก่อนแล้วกัน”

ท่านลอร์ดหนุ่มชี้นำให้เขาไปนั่งลงก่อน เมื่อนั่งลงตรงหน้าแล้ว อีกฝ่ายจึงเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาดังเช่นตอนที่ส่งจัสติสแมนไปยังบึงเน่า

“ท่าน ยังไม่ได้เปลี่ยนอาชีพ ใช่หรือไม่?”

“ครับ นั่นถูกต้องแล้ว”

“อืม นับว่าดี ท่านจำได้หรือไม่ว่าข้าบอกให้ไปหาประสบการณ์ให้มาก?”

“ครับ เรื่องนั้น...” จัสติสแมนไม่ใช่คนที่ความจำดีเด่อะไรมากนัก

ท่านลอร์ดหนุ่มพยักหน้ารับอย่างไม่คิดอะไรมากและเริ่มพูดกล่าวต่อ

“มีบางเรื่องที่ข้าคิดอยู่มาพักหนึ่งแล้ว พื้นที่แจ๊คสันนั้นมีผู้คนต่างถิ่นมารวมตัวกันอยู่มากเพราะสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ดี และท่านก็น่าจะรู้เป็นอย่างดีในเมื่อมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ทว่า มันก็ยังคงมีมอนสเตอร์ที่ไม่รู้จักอยู่ใกล้บริเวณอีกมากมาย นับได้ว่าผู้คนต่างถิ่นอาจจะยากต่อการรับมือหากไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมัน รวมถึงกฎหมายระดับภูมิภาคและพวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบพื้นที่”

“ผมเข้าใจความยากลำบากในส่วนนั้นดีครับ” อย่างไรแล้วเขาก็เคยเป็นถึงสารวัตร

“ดังนั้นแล้ว... ข้าจึงคิดถึงเรื่ององค์กรพลเรือนที่สามารถขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เป็นไปได้มากกว่ากองทหารที่ลาดตระเวนเพื่อคอยจัดการพื้นที่ในเขตแดน ยกตัวอย่างก็กองกำลังพลเรือนอะไรทำนองนั้น ทว่า ย้อนกลับไปคิดแล้วข้ากลับไม่พบเจอบุคคลที่เหมาะสม และในตอนที่ข้าได้รับการแนะนำโดยอาร์คที่กล่าวอ้างถึงท่าน หลังจากที่พิจารณาแล้ว ท่านนับว่าเป็นบุคคลที่มีความยุติธรรมอันสูงส่งเลยทีเดียว ดังนั้นแล้ว ข้าจึงอยากมอบหมายงานครั้งนี้ให้กับท่าน... คิดเห็นเช่นไร?”

“กะ-กองกำลังพลเรือน? นี่ท่านพูดถึงตำรวจอะไรพวกนั้น?”

“ตำรวจ? นั่นคือสิ่งที่ผู้คนต่างถิ่นเรียกขานถึงกองกำลังพลเรือนหรือ?” ท่านลอร์ดหนุ่มเอียงศีรษะเล็กน้อยต่อคำที่แปลกประหลาดเช่นนี้

จัสติสแมนกลับไม่นำคำพูดที่ท่านลอร์ดหนุ่มถามเก็บเข้ามาใส่ใจ

‘ตำรวจ...!’

แค่ได้ยินเพียงคำนี้ก็ทำเอาร่างกายของเขาสั่นเทิ้มพอสมควรแล้ว มันเป็นเวลาวันคืนที่ยาวนาน การต่อสู้กับพวกแก๊งต่าง ๆ การได้รับบาดเจ็บ การรักษาพยาบาล... พอมองกลับไปแล้วมันไม่เคยมีความทรงจำที่ดีเลยสักนิด

อย่างไรแล้ว จัสติสแมนก็เพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตต่อไปโดยรักษาความยุติธรรม อาชีพที่เขาเลือกเดินจึงเป็นสารวัตร นั่นถึงจะทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย ดังนั้นแล้วในตอนที่เขาฝืนตนเองจนต้องเกษียณออกมาด้วยชื่อเสียงที่พังทลาย ทั้งหมดนั่นก็หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ยิงกันขึ้น มันเหมือนกับการขึ้นสู่ท้องฟ้าที่อยู่สูงเกินไปจนต้องร่วงหล่นลงมา นั่นเป็นสิ่งที่อาจกล่าวเรียกได้ว่า “สังคมพังทลายจนทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่า”

ทว่า... ก็ยังคงมีคนที่ต้องการตัวเขาอยู่ อีกทั้งท่านลอร์ดหนุ่มยังเป็นผู้ที่มีตำแหน่งอันชอบธรรมและต้องการตัวเขาไปทำงานเพื่อสาธารณชน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ในเกม จัสติสแมนก็รู้สึกคล้ายกับตนได้พบกับสถานที่ที่ตนตามหามาอย่างยาวนานแล้ว

“ให้ผมทำครับ! ได้โปรดให้ผมทำด้วย!”

“อา ใจเย็นลงก่อน เรื่องราวยังไม่ได้สมบูรณ์พร้อมถึงเพียงนั้น”

“ครับ?”

“แม้พวกเราจะเรียกว่ากองกำลังพลเรือน แต่มันก็ยังคงต้องมีการจัดตั้งและเป็นองค์กรที่ได้รับสิทธิ์อันชอบธรรมโดยตรงจากข้าและเป็นผู้ถืออำนาจรัฐในมือ ดังนั้นแล้ว แน่นอนว่าท่านย่อมต้องมีคุณสมบัติเพียงพอกับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น จึงต้องได้รับการยอมรับจากประชาชนและเหล่าขุนนางเสียก่อน”

“ละ-แล้วต้องทำยังไงกันครับ? ผมควรทำอะไรบ้างกัน?” จัสติสแมนกล่าวถามด้วยความร้อนใจ

“ท่านได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถจัดการกับพวกมอนสเตอร์ได้ ที่เหลือก็เพียงแค่ทำให้ได้รับการยอมรับจากผู้คน และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ข้าก็จะมีเหตุผลอันดีที่จะหยิบยื่นอำนาจนี้ให้กับท่านได้”

ท่านลอร์ดหนุ่มส่งกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ มันคือใบปลิวที่โฆษณาถึงเซเลบริดอารีน่าที่อยู่ในเมืองหลวงของอาณาจักรชอร์เดนเบิร์ก

“ที่แห่งนั้นมีการต่อสู้เสมอ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะ บุคคลนั้นก็จะได้รับแต้มสะสม และเมื่อมีแต้มจนถึงจำนวนหนึ่งแล้ว พวกเขาจะสามารถสร้างชื่อและได้รับรางวัลทุกเดือนได้ ส่วนเรื่องจะเป็นการฉายเดี่ยวหรือทีมนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับการแข่งขันนี้ ท่านเพียงต้องยกระดับแต้มสะสมดังกล่าวให้มากพอที่จะทำให้ชื่อเสียงเรียงนามของท่านปรากฏขึ้นบนหนังสือพิมพ์ พอเข้าใจแล้วหรือยัง?”

โดยสรุปแล้ว ก็คือบุคคลใดก็ตามที่มีชื่อถูกกล่าวถึงบนหน้าหนังสือพิมพ์ ย่อมเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

‘อารีน่า... ตำรวจ...!’ จัสติสแมนมอนไปยังใบปลิวดังกล่าวด้วยสายตาร้อนแรง

นับได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากนัก ยูโดเป็นหนึ่งในความหมายแห่งชีวิตของจัสติสแมน รวมถึงอาชีพสารวัตรของเขาก็ด้วย ทว่า การแข่งขันยูโดมันกลับกลายเป็นเพียงแค่ความฝันในความฝันอีกทีเพราะเขาได้รับบาดเจ็บที่ขา ทว่า ในนิวเวิลด์ ด้วยความสมจริงที่เกินกว่าความเป็นจริง การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ยังคงมี นับว่าเป็นโอกาสอีกครั้งที่เขาจะได้เผาผลาญความต้องการในจิตใจที่เคยมอดดับไปแล้ว

“หึหึ... หึหึหึ”

เสียงหัวเราะหลุดรอดออกมาจากริมฝีปาก ท่านลอร์ดหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยความเป็นกังวลหลังได้เห็นการตอบสนองที่แปลกประหลาดออกไป

“อะ-เอ่อ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ครับ สบายดีมาก ไม่สิ วิเศษไปเลยต่างหาก ผมจะออกเดินทางโดยทันทีที่พร้อม ไม่ว่ามันจะเป็นมอนสเตอร์อะไรที่มาขวาง ผมจะต้องมุ่งหน้าไปยังเซเลบริดและกลับมาหลังได้รับและสร้างชื่อเสียงให้กับพื้นที่แจ๊คสันอย่างแน่นอน”

จัสติสแมนกำเอาใบปลิวดังกล่าวเอาไว้พร้อมกับออกไปโดยทันที

“กองกำลังพลเรือน?”

กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างถามเขากลับด้วยสีหน้าแข็งทื่อหลังจัสติสแมนอธิบายเรื่องราวให้พวกเขารับฟัง ทว่า มันก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น พวกเขาเริ่มเผยอาการเช่นเดียวกับที่จัสติสแมนเคยเป็นและเริ่มยกยิ้มกันขึ้น

“นี่หมายความว่า... พวกเราจะได้กลายเป็นนายตำรวจงั้นสิ?”

“ถูกต้องแล้ว ตำรวจคือความหมายของความยุติธรรม! ฉันคิดว่าเวทีในครั้งนี้ย่อมเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้การเข้าสังคมของพวกนายดีขึ้นได้ มีใครคิดคัดค้านอะไรไหม?”

ขณะจัสติสแมนกล่าวคำถามออก พวกเขาจึงต่างมองหน้ากันและกัน

ด้วยการโดนตีตราว่าเป็นอาชญากร พวกเขาย่อมได้รับความเย็นชาตอบรับในทุกสถานที่ที่ไป ทว่า พวกเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมไปเพราะชอบพอที่จะกระทำ แต่มันเป็นเพราะพวกเขาต้องการใช้ชีวิตเพื่อกินและอยู่รอดจึงต้องก่ออาชญากรรมขึ้น ที่มุมหนึ่งภายในหัวใจของพวกเขา ความปรารถนาหนึ่งคือความมีเกียรติและศักดิ์ศรี รวมถึงการเป็นคนที่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ เป็นเพราะสิ่งนั้น พวกเขาจึงยอมรับการฝึกโปรแกรมฟื้นฟูการเข้าสู่สังคมของจัสติสแมน ทว่า ถึงกับข้ามขั้นทุกบทเรียนจนได้เป็นนายตำรวจเลยนี่มันก็... นับได้ว่าเป็นความฝันที่พวกเขาไม่อาจตระหนักถึงได้แม้ว่าจะตายแล้วเกิดใหม่ก็ตามที!

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เกม นิวเวิลด์ก็ยังคงเป็นเกมเสมือนจริงที่แทบจะเอามาแทนที่ชีวิตจริงได้ เอ็นพีซีเองก็ไม่ต่างอะไรไปจากผู้คนจริงที่พูดกล่าวแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและบุคคล รวมถึงความคิดของพวกเขาที่มีแตกต่างกันไปด้วย กับการที่มีโอกาสจะได้เป็นนายตำรวจในโลกใบนี้ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องปฏิเสธ

“ย่อมไม่คัดค้าน!” กลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างตอบกลับโดยไม่คิดอะไรให้มากความ

จากนั้น ทั้งจัสติสแมนและกลุ่มผู้โดนทัณฑ์บนต่างก็เตรียมตัวออกเดินทางไปโดยทันที วันถัดมา เมื่อโรโค่ล็อคอินเข้ามาในเกม พวกเขาก็จากไปและมุ่งหน้าไปยังเซเลบริด เมืองหลวงแห่งอาณาจักรชอร์เดนเบิร์ก

“เป้าหมายคืออันดับสูงสุดของทีมที่เข้าแข่งขัน!”

“โอ้ว!”

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด