เล่ม 4 ตอนที่ 4 : พบเจอเด็กสาว (2) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 4 ตอนที่ 4 : พบเจอเด็กสาว (2)
อาร์คหันศีรษะกลับไปเล็กน้อยขณะเผยรอยยิ้มอ่อนให้
“ไม่ต้องกังวลนะ ถอยไปหน่อย เดี๋ยวฉันจัดการไอ้เจ้านี่ให้ ไว้แล้วจะกลับไปหา”
อา ช่างเป็นคำกล่าวที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
ถ้าหากเป็นผู้เล่น เขาคงไม่คิดเหลือบตามองด้วยซ้ำ ทว่าอาร์คมักทำตัวเช่นนี้กับเอ็นพีซี แน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในความละเอียดอ่อนที่จะนำพาไปสู่รางวัลที่อาจตามมาหลังจากนั้นด้วย
“เข้ามา ไอ้พวกโทรลงี่เง่าที่รังแกเด็กผู้หญิง!”
อาร์คเร่งร้อนพุ่งเข้าใส่โทรลขณะพูดกล่าวคำยั่วยุ
“อย่ามากวนข้านะ... กรร!”
โทรลถึงกับโทสะพวยพุ่งขณะโรมรันเข้าใส่อาร์คด้วยตะบองของมัน ทว่า เดดริคที่พุ่งลงมาด้วยความรวดเร็วราวสายฟ้าสาดได้พุ่งเข้าใส่โทรลอย่างจัง และเมื่อโทรลโดนแรงปะทะ มันก็ถึงกับต้องก้าวเท้าถอย จากนั้น ด้วยการโจมตีคริติคอลอย่างต่อเนื่องของอาร์คที่โหมพัดเข้าใส่ เจ้ากะโหลกเองก็เข้าไปกัดที่หัวเข่าของโทรลนั่น ตอนนี้ร่างของมันจึงล้มลงดั่งต้นไม้เก่าผุก็ไม่ปาน
และนี่ก็เป็นอีกจังหวะที่เขาแทบนับลมหายใจรอคอย โอกาสการทำดับเบิลคริติคอล!
“รับไป คมดาบแห่งความมืด!”
“ควี๊กกกกก!” โทรลเริ่มร่างสั่นขณะจางหายไป
หลังจากจัดการไปได้หนึ่ง ที่เหลือย่อมไม่นับเป็นอะไร
ด้วยการผสานความช่วยเหลือจากทั้งเดดริคและเจ้ากะโหลกรวมถึงอาร์ค พวกเขาพุ่งเข้าโจมตีใส่จากทั้งสามทิศทางเพื่อสร้างความสับสนขณะวิ่งวนไปทั่ว ทว่า หลังจากที่โดนเจ้ากะโหลกที่อาร์คขว้างปาเข้าใส่ที่หัว โทรลที่เหลืออีกตัวจึงล้มลงโดยง่าย
อาร์คเก็บของที่ดร็อปจากโทรล หลังจากนั้นจึงค่อยมุ่งหน้าไปหาเด็กสาว
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เด็กสาวพยักหน้ารับด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความไม่สบายใจ
จากนั้น กลับเป็นอาร์คที่ต้องเหม่อมองเด็กสาวแทน
ในเมื่อเขาช่วยเหลือเธอก็สมควรต้องได้รับรางวัล มันก็เหมือนภารกิจ ดังนั้นแล้วเขาจึงเป็นฝ่ายรอคอยให้เธอพูด แต่แล้วเธอกลับเอาแต่เหม่อจ้องมองอาร์ค
‘ว่าอะไร? จะไม่ได้อะไรเลย?’
ขณะนั้นเอง เด็กสาวจึงยืนขึ้นด้วยอาการสั่น จากนั้นจึงล้มลงไปอีกครั้งเพราะอาการหน้ามืด
อาร์คถอนหายใจออกหลังจ้องมองเด็กสาวไปพักหนึ่ง
นี่ย่อมเด่นชัดว่าเขาไม่อาจได้รับสิ่งใดจากเด็กสาวที่มีสภาพเป็นขอทานเช่นนี้ ทว่า อาร์คก็ไม่ใช่คนใจยักษ์ที่จะปล่อยเด็กสาวที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้เพียงลำพัง
“เอาเถอะ ตอนนี้ไปที่แคมป์ของฉันกันก่อน อยู่ไม่ไกลหรอก”
เมื่ออาร์คเสนอไหล่ของตนให้ เด็กสาวจึงเผยอาการหน้าแดงเป็นการตอบกลับ
“อาร์ค! หือ? เด็กนี่ใครกันน่ะ...?”
“เธอโดนโทรลไล่ล่ามา”
“เป็นแบบนั้น?”
ซิดกำลังใช้สายตาจ้องมองเด็กสาวเพื่อทำการตรวจสอบ เด็กสาวฉับพลันจึงจ้องมองกลับด้วยสีหน้าโง่งมที่ปรากฏบนใบหน้า แม้ว่าเธอจะสกปรก แต่เด็กสาวคนนี้ก็นับได้ว่าเป็นคนที่หน้าตาดีใช้ได้คนหนึ่งเลยทีเดียว
ดูไปแล้วเธอน่าจะอายุราวสิบห้าปีเห็นจะได้ ทว่า ซิดที่เป็นฮอบบิทกลับต้องเงยหน้ามองเธอขณะต้องหันคออย่างสุดกำลัง เป็นเพราะส่วนสูงของเธอนั่นเอง
อาร์คจึงให้เด็กสาวนั่งลงพร้อมกับใช้ทักษะเยียวยาออกมารักษาหัวเข่าของเธอ ทักษะเยียวยาไม่ใช่การฟื้นฟูรักษา ดังนั้นแล้ว มันจึงไม่อาจรักษาได้โดยสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยลดทอนความเจ็บปวดไปได้มาก
เมื่อเด็กสาวพยักหน้ารับด้วยสีหน้าขอบคุณแล้ว ซิดจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเผยสีหน้าแปลกประหลาดใจออกมา จากนั้น หลังจากที่ทำการค้นหาของในกระเป๋าพักหนึ่ง เขาจึงนำเอารองเท้าหนังคู่หนึ่งออกมา
“ดูเหมือนเธอจะไม่มีรองเท้านะ นี่ก็ไม่มากมายอะไร แต่ก็ลองสวมใส่มันดู ฮี่ฮี่ แล้วก็นะ อาร์คนิม นี่เป็นผมจ่ายเองเพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปนะครับ”
“ฉันก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนั้นหรอกนะ แต่ว่า...”
“จริงสิ หิวบ้างไหมครับ?”
ขณะที่เด็กสาวลูบคลำท้องอยู่นั้น เป็นซิดที่เฉลียวฉลาดเร่งร้อนส่งอาหารไปให้กิน อาร์คที่กำลังคิดจะเปิดปากพูดอะไรหลังครุ่นคิดมาสักพักหนึ่งกลับต้องจ้องมองซิดที่มีอาการแปลกประหลาด
“ทำไมเธอถึงไปมาในที่แบบนี้กันล่ะ? แถวนี้ไม่น่าจะมีหมู่บ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงเลยนี่?”
ขณะนั้นเอง เด็กสาวจึงหยุดการกินอาหารลงพร้อมกับเริ่มหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ซิดกลับกลายเป็นงงงันพร้อมตะโกนออก “อาร์คนิม เธอตกใจเพราะคุณถามเธอราวกับกำลังจะสอบสวนเธออย่างไรอย่างนั้นแน่ะ!”
“หา? แต่ฉัน...”
“ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้เลยนะครับ!”
อาร์คที่สับสนเพราะท่าทีของซิดกลับกลายเป็นความดราม่าจากการที่เด็กสาวคนนี้ปรากฏตัว แต่แล้วเด็กสาวก็พลันเช็ดน้ำตาออกและเขียนตัวหนังสืออะไรบางอย่างลงไปกับพื้นด้วยการใช้กิ่งไม้
[ช่วยด้วย!]
* * *
“งั้น... ก็มีโจรที่ลักพาเธอและพ่อของเธอ และเธอก็หนีออกมาได้?”
เด็กสาวพยักหน้ารับเป็นการตอบสนองต่อคำถามของอาร์ค
เด็กสาวมีชื่อว่าซาร่า ที่ซาร่าไม่พูดอะไรเลยกับอาร์คตั้งแต่ที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้ มันก็เป็นเพราะว่าเธอเป็นใบ้ และเมื่อเธอพบว่าสงบใจลงได้แล้วเมื่อเข้ามาในสถานที่ตั้งแคมป์ เธอจึงเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นโดยการเขียนลงบนพื้นด้วยการใช้กิ่งไม้
พ่อของเธอทำงานเป็นนักเขียนแผนที่ และเขามักจะทำแผนที่ของหลายพื้นที่โดยการออกเดินทางไประหว่างทวีปต่าง ๆ และเมื่อเขาได้ยินว่ามีโบราณสถานที่ยังไม่มีการค้นพบใกล้เคียงบริเวณกิรัน เขาจึงมุ่งมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ ทว่า กลุ่มโจรกลับได้เข้ายึดครองพื้นที่แห่งนั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้วยความที่เป็นนักเขียนแผนที่ ทำให้เขาจึงมีเทคนิคมากมายที่เอาไว้ใช้สำหรับหลบเลี่ยงมอนสเตอร์ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเขาที่ต้องเดินทางไปในพื้นที่อันตรายบ่อยครั้ง ทว่า เขากลับไม่อาจสลัดหลุดจากการตามรอยของพวกโจรร้ายได้ ท้ายที่สุด พ่อของเธอจึงโดนพวกโจรจับได้หลังนำเธอไปซ่อนตัว และเด็กสาวจึงพยายามมุ่งหน้าไปยังกิรันเพื่อขอความช่วยเหลือ
“โห เรื่องราวเป็นมาแบบนี้นี่เอง แล้วหลังจากนั้นไอ้โทรลพวกนั้นก็...” ซิดพยักหน้ารับไปมาด้วยดวงตาเจิ่งนองน้ำตา
[ขอร้อง ได้โปรดช่วยด้วย นี่ก็สี่วันแล้วตั้งแต่ที่พ่อโดนจับตัวไป]
“แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องช่วยเหลือ! ใช่ไหมครับอาร์คนิม?” ซิดฉับพลันหันศีรษะกลับมามองอาร์ค
อาร์คถามกลับหลังมองซาร่ามาพักหนึ่ง “แล้วสถานที่ล่ะ?”
จากนั้น ซาร่าจึงเริ่มขีดเขียนลงบนพื้นอีกครั้งหนึ่ง
‘เขตหินสีน้ำตาล... มันเป็นชายแดนของพื้นที่กิรัน’
อาร์คเปิดหน้าต่างข้อมูลออกมาโดยทันทีเพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลพวกอาชญากรที่ลงทะเบียนเอาไว้
‘เหมือนที่คิดไว้ ไม่มีข้อมูลของพวกกลุ่มโจรในเขตหินสีน้ำตาลเลย’
อาร์ครับเอาใบล่าค่าหัวทั้งหมดในกระดานข่าวของกิรันมาจนหมดสิ้นแล้ว ทว่าเขาก็ยังคงไม่มีเบาะแสที่เกี่ยวข้องและจะนำพาไปสู่ภารกิจได้ กระทั่งว่าเขาจัดการไปแล้วกว่าเจ็ดในสิบของพื้นที่ทั้งหมด ที่เหลือเพียงหนึ่งคือสถานที่ที่ไม่มีการกล่าวถึงและอยู่ใกล้เคียงกับเขตหินสีน้ำตาล ดังนั้นแล้ว นี่ก็คงเป็นคำตอบเพียงหนึ่งเดียว มันมีกลุ่มโจรอยู่อีกหนึ่งกลุ่มที่อยู่นอกเหนือไปจากใบประกาศล่าค่าหัว
‘นั่นสิ ทำไมเราไม่คิดให้ได้ก่อนหน้านี้กันนะ? ที่เราต้องหาคือพวกโจรที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ ทำไมคิดไม่ได้นะว่าพวกมันไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับใบล่าค่าหัว’
ท้ายที่สุดอาร์คจึงคิดได้ว่ากระบวนการที่ตนทำอยู่นั้นมันผิดพลาด พวกโจรที่โดนล่าค่าหัวจะต้องหายไปหากมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเข้าไปจัดการ และมันก็จะมีกลุ่มโจรอื่นที่ถูกสร้างขึ้นมาแทน ทว่า โจรกลุ่มอื่นก็ย่อมแตกต่างไปจากกลุ่มโจรที่โดนกวาดล้างไป บางทีกลุ่มโจรที่อาร์คกวาดล้างไปก็คงจะทำให้โจรกลุ่มใหม่เกิดขึ้น
ทว่า ลูกปัดดวงใจวิญญาณนั้นถูกขโมยไปกว่าหนึ่งปีแล้ว
‘ในนิวเวิลด์แห่งนี้ เราไม่อาจได้เบาะแสจากเอ็นพีซีที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรด้วย นี่หมายความว่ากลุ่มโจรที่ขโมยเอาลูกปัดดวงใจวิญญาณไปย่อมต้องมีตัวตนคงอยู่มานับปีแล้ว ไม่เท่านั้น พวกมันยังไม่มีรายชื่อที่ถูกลงทะเบียนการล่าค่าหัวเอาไว้ เป็นเพราะพวกมันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรจนเป็นเหตุให้ต้องมีการล่าค่าหัว’
มันเป็นเรื่องราวง่ายดายขึ้นมายามที่เขานึกออก
ไม่มีทางเลยที่กลุ่มโจรที่จะโดนพวกนักล่าเงินรางวัลจัดการไปเมื่อใดก็ได้จะเป็นกลุ่มโจรที่นำไปสู่เบาะแสของภารกิจ นี่หมายความว่าเวลาสองวันที่ผ่านมา อาร์คได้ทำเพียงแค่จัดการกลุ่มโจรที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
‘บางทีนี่อาจเป็นโอกาสก็ได้ กลุ่มโจรที่ซุกซ่อน... มีโอกาสสูงมากเลยทีเดียว อีกทั้ง ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม อย่างน้อยก็ยังเป็นการจัดการภารกิจที่เอ็นพีซีร้องขอมา ถึงจะเป็นเพียงแค่นักเดินทางธรรมดา อย่างน้อยเราก็ยังพอได้รางวัลเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธเลยสักนิด’
มันเป็นความคิดของอาร์คที่ผุดขึ้นขณะใช้งานสมองประมวลผล
ในเมื่ออาร์คไม่มีการตอบสนองไปพักหนึ่ง ซิดจึงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงโมโหโกรธา “อาร์คนิม คงไม่ใช่ว่าจะปฏิเสธหรอกใช่ไหมครับ?”
“คิก แน่นอนสิ เจ้านายไม่ใช่คนโง่งมนะ เจ้านายไม่ทำงานอะไรที่ไม่ได้นำพามาซึ่งเงินหรอก!”
“วะ-ว่าอะไรนะ?”
“เหตุใดบุคคลที่เดดริคยกย่องให้เป็นเจ้านายถึงต้องยอมลดตัวไปช่วยเด็กสาวสกปรกนี่กันเล่า?”
“หุบปากนะ แกมันไอ้ค้างคาวไร้หัวใจ!”
“ค้างคาว? ข้ามีนามว่าเซอร์เดดริค เป็นชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพ!”
“ชนชั้นสูงบนหัวเจ้าน่ะสิ แกมันก็แค่ไอ้ค้างคาว...”
“ไอ้ตัวโง่งม อยากตายสักรอบดูไหม?”
“เหอะ คิดเหรอว่าฉันจะกลัวแกน่ะ?”
เดดริคและซิดเริ่มที่จะจ้องมองกันก่อนจะข่มใส่กัน
“เดดริคพอได้แล้ว! ซิด นายก็ด้วย”
อาร์คตะโกนขึ้นขณะเผยรอยยิ้มอ่อนให้ซาร่า “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่คิดเพิกเฉยหลังได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นนั้นหรอก”
“หา? จะ-เจ้านาย! ดู ดูสิ! เหตุใดท่านจึงต้องช่วยเหลือเด็กสาวที่ดูแล้วสิ้นเนื้อประดาตัวผู้นี้ด้วยกัน...”
“เงียบน่า!”
ซิดเร่งร้อนเข้าไปตะครุบปากของเดดริคเอาไว้พร้อมกับมองอาร์คด้วยใบหน้าซาบซึ้งใจ “โอ้ อาร์คนิม ผมทราบซึ้งใจยิ่ง อย่างน้อยอาร์คนิมก็ยังมีหัวจิตหัวใจอยู่บ้าง”
พอมาคิดดูแล้ว คำพูดพวกนี้มันแปลกพิกล
“แล้วนี่นายคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกันล่ะ?”
“...ก็พวกไร้หัวใจแถมขี้เหนียว” ซิดพึมพำเสียงเบาออกมาขณะหันหน้ากลับไปเล็กน้อย
กระทั่งว่ายังยิ้มและกล่าวขอบคุณเขาในเวลาเดียวกันพร้อมกับเผยใบหน้าตามปกติ อีกฝ่ายกระทั่งคิดถึงเขาเช่นนั้นอยู่ภายในใจ? เมื่อคิดได้แล้ว เขาจึงคิดว่าในโลกใบนี้แทบไม่มีผู้อื่นให้น่าเชื่อใจอีก
ทว่า ซิดก็เร่งร้อนยิ้มออกขณะส่ายศีรษะ “ทว่าตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้วครับ”
“ขอบใจ ฟังแล้วน้ำตาจะไหล”
“ไม่เอาน่า ก็แค่ล้อเล่นเองครับ ผมจะไปกล้าคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน?”
ขณะที่ซิดกล่าวประจบสอพลอจึงยิ้มออกด้วยความโง่งม ซาร่าจึงหลุดหัวเราะออก ใบหน้าของซิดจึงกลายเป็นแดงก่ำขณะกระแอมไอออกมา ทว่า เขากลับพบว่ายามเธอหัวเราะออกนั้นกลับน่ารักไม่น้อย
“อะ-แฮ่ม ถ้าหากตัดสินใจได้แล้ว ไปกันเลยดีกว่าครับ พวกเราไม่รู้ว่าคุณพ่อของซาร่าจะอยู่ได้อีกแค่ไหน ซาร่า ถ้าหากเป็นอาร์คล่ะก็ นับได้ว่าเขาเป็นคนที่สามารถเชื่อใจได้เลยว่าจะต้องช่วยเหลือพ่อของเธอให้รอดปลอดภัยกลับมาได้”
[จริงเหรอ? จะช่วยจริงเหรอ?]
ซาร่ามองตรงไปยังอาร์คด้วยดวงตากลมโตขณะต้องการการยืนยันจากเขา
“ใช่ หากเขายังมีชีวิตรอด ฉันจะต้องช่วยออกมาให้ได้แน่”
[ขอบคุณ ขอบคุณมากค่ะ]
ซาร่าโค้งกายให้พร้อมดวงตาที่ปริ่มไปด้วยน้ำตา
ติ๊ง! ขณะเดียวกัน เสียงประกอบได้ดังขึ้นพร้อมหน้าต่างภารกิจที่เด้งขึ้นมา
=====
ช่วยเหลือบิดาของซาร่า!
ท่านด้วยช่วยเหลือเด็กสาวจากเงื้อมมือของโทรลในป่ามืด เด็กสาวได้เปิดใจยอมรับความอบอุ่นที่ท่านมอบให้จึงเผยออกซึ่งปัญหาที่เธอประสบ บิดาของเธอที่ออกเดินทางร่วมกับเธอไปไหนมาไหนเสมอได้ถูกลักพาไปโดยกลุ่มโจรร้าย
ท่านซึ่งเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมจึงไม่อาจเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดของเธอ และจึงมอบคำสัญญาที่จะช่วยเหลือบิดาของเธอ ทว่าโปรดระมัดระวัง เวลามีไม่มากนัก นี่ก็เป็นเวลากว่า 4 วันแล้วตั้งแต่ที่เขาโดนจับตัวไป
กลุ่มโจรย่อมไม่ใจดีเป็นแน่ มันอาจสายเกินแก้หากท่านไม่เร่งรีบ (ภารกิจนี้จะถูกพิจารณาให้ล้มเหลวหากท่านไม่สามารถแก้ไขได้ภายในเวลา 12 ชั่วโมงหลังรับภารกิจมา)
ระดับความยาก : E+
=====
“หา? ภารกิจ!” ดวงตาของซิดกรอกไปมาขณะเริ่มพึมพำออกมากับตนเอง
‘ไม่ใช่ว่าหมอนี่รู้อยู่แล้วหรอกเหรอว่าเธอจะต้องมอบภารกิจให้น่ะ?’ อาร์คมองไปยังอีกฝ่ายด้วยดวงตาแข็งทื่อ
กระทั่งซิดที่ค่อนข้างมีภูมิความรู้กว้างขวางเรื่องราวในเกม ก็ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องการทำให้ภารกิจปรากฏขึ้นมา ก็นะ ในเมื่อเป็นคนที่มักจะรับเอาภารกิจการค้าจากกิลด์พ่อค้าหรือไม่ก็ทำเพื่อการแลกเปลี่ยน เขาย่อมไม่เคยมีประสบการณ์การได้รับภารกิจเช่นนี้มาก่อน
‘จะยังไงก็เถอะ แต่ระดับความยากนี่ E+ เลยทีเดียว ในเมื่อมันเป็นภารกิจของปาร์ตี้ งั้นมันก็คงไม่ง่ายแล้ว แต่เราก็ทำภารกิจระดับ E+ สำเร็จมาแล้วอยู่บ้าง ในเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นมาอีกทั้งยังทักษะทั้งหลาย นี่สมควรไม่เป็นไร’
“ซิด ไปกันได้แล้ว”
“ครับ!” ซิดตอบกลับด้วยแรงใจเต็มเปี่ยมเพื่อช่วยเหลือซาร่า
อีกฝ่ายเป็นเอ็นพีซี อาร์คไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเหตุใดซิดจึงมองเธอด้วยความคาดหวังถึงเพียงนั้น นั่นเป็นเพราะในตอนนี้ ดวงตาของซิดกำลังทอประกายออกมาขณะมองไปยังซาร่า
* * *