ตอนที่11 การไหลเวียนของพลังและพลังลึกลับทั้ง3ระดับ
“ไม่ ตาข้า...”
ไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่มที่หล่อเหลากำลังยืนอยู่บนยอดหลังคา เขาเป็นคนที่เคยปรากฏตัวในตลาดเทียงหยางแล้ว เขาตั้งใจที่จะเข้าไปในหุบเขาหมอกในส่วนที่ลึกที่สุดเพื่อนำสมุนไพรกลับมา แต่เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ริมหุบเขาหมอก เขาก็เจอหมีดำกำลังล่าเหยื่อเขาจึงตามมาที่นี่
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่พวกฮีโร่ที่ต้องการจะปกป้องความสงบสุขอะไรแบบนั้นและเป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่การปกป้องหมู่บ้านด้วย เขาเป็นคนที่มักจะทำตามความรู้สึกของเขาและด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงตามหมีดำไป...เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เขาทำไปเพียงต้องการลดความเบื่อหน่ายจากการเดินทางเท่านั้นแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้
เมื่อชิบะน้อยเดินเข้าไปหาหมีดำชายหนุ่มก็ไม่อาจจะหัวเราะเจ้าหนูนี้ได้เลย เขารู้สึกประหลาดใจมากที่เด็กน้อยอายุเพียงแค่3หรือ4ขวบจะสามารถลุกขึ้นยืนได้หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก!
อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่าพลังจิตของเด็กคนนี้เป็นเลิศอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาจึงจับตาดูชิบะน้อยอย่างจริงจังและพร้อมเข้าไปช่วยในทันที ในเวลานั้นเขาเห็นแววตาของชิบะน้อย
ชิบะน้อยคำรามและมีเลือดหนาทึบที่ปรากฏขึ้นในนัยน์ตาของเขา ดูเหมือนเมฆในตอนเย็นพระอาทิตย์กำลังจะตก แสงของมันสะท้อนเข้ากับนัยตาของชิบะน้อยทำให้นัยตาของชิบะน้อยเปล่งประกายสดใสดั่งทับทิมที่สด รูม่านตาวงนอกได้กลายเป็นสีดำพร้อมกับนัยน์ตาเป็นสีแดงสดดั่งทับทิม รูม่านตาวงนอกเป็นสีดำจางๆเผยให้เห็นถึงความชั่วร้ายที่ซ่อนตัวอยู่
เป็นไปไม่ได้ดวงตาแบบนั้นมัน...เนตรในตำนาน! แต่เนตรในตำนานมันหายสาบสูญไปแล้วนิ เรื่องแบบนี้มันอะไรกัน! เจ้าหนูนั้นเหมือนว่าจะรู้ศิลปะการต่อสู้อีกด้วยทั้งๆที่3-4ขวบเองนี่นะ? ไหนข้าขอดูหน่อยสิว่า ผู้มีเนตรในตำนานอย่างเจ้าหนูนี่จะทำอะไรได้บ้าง
เด็กหนุ่มได้ชี้นิ้วไปทางขวามือ ชายหนุ่มกำลังเฝ้าดูอยู่อย่างจริงจัง ชิบะน้อยได้ยืนขึ้นและพร้อมที่จะสู้กับหมีดำ
“เจ้าหนู อย่าปล่อยให้ข้าลงไปตรงนั้นล่ะ มิเช่นนั้นหากข้าได้ลงไป ข้าจะฆ่าทุกคนในที่แห่งนี้! ฮ่าฮ่าฮ่า...” ชายหนุ่มได้ยิ้มอออกมาและขำอย่างเยือกเย็น
หมีดำมันเคลื่อนไหวเร็วมาก มันได้พุ่งเข้าหาชิบะน้อยในพริบตา มันใช้กรงเล็บที่ใหญ่โตตะปบชิบะน้อย
การโจมตีที่รวดเร็วของมันพุ่งไปยังทางชิบะน้อยและพ่อของหวังเทียนเหล่ย และมันไม่มีโอกาสเลยที่จะหลบได้
โดยปกติแล้วไม่มีทางที่ชิบะน้อยจะหลบหรือหนีออกมาได้ แต่เขาได้บิดตัวของเขาและกลิ้งหลบการโจมตีของหมีดำได้ และได้ปรากฏแสงระยิบระยับออกมาจากดวงตาของเขา
ในช่วงเวลาสำคัญนั้นเขาได้เห็นโลกที่แตกต่างจากที่เขาเคยรู้จักมาก่อน
ในสายตาของเขาทุกสิ่งทุกอย่างได้เคลื่อนไหวช้าลง เหมือนกับว่าฉากต่างๆที่เกิดขึ้นมาได้ถูกสโลโมชั่นเหมือนในทีวี เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนถึงการเคลื่อนไหวของหมีดำจึงทำให้เขาหลบได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีที่พลาดของหมีดำครั้งนี้ทำให้หมีดำหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ทำให้มันเปิดช่องว่าง
นี่แหละจะเป็นโอกาสของเขา!
เขารู้ดีว่าหมีดำจะมาโจมตีเขาอีกครั้ง เขาได้กลิ้งไปหยิบขวานและตีลังกาจามขวานใส่หมีดำด้วยแรงทั้งหมดที่มีเข้าไปยังลำคอของหมีดำ
ในเวลานั้นหมีดำกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและได้ล้มลงไป ทำให้หมีดำเปิดช่องว่าง ชิบะน้อยได้ยกขวานขึ้นอีกครั้งและจามใส่ลำคอหมีอย่างสุดแรง
จากนั้นเขาก็ได้ล้มตัวลงนอนข้างๆมันและได้หมดสติไป...
“ชิบะน้อย...”โจวหัวพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา จากนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บบริเวณท้องของเธออย่างรุนแรง
“โชคร้ายจริงๆ! เธอกำลังจะคลอดลูก!”
ชายหนุ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ก่อนที่จะหายไปจากหลังคา ในเวลาเดียวกันกลุ่มคนที่ได้ยินเสียงร้องไห้ก็ได้ตามมาเจอ อย่างไรก็ตามพวกเขามาสายเกินไปเหมือนกับตำรวจที่มาในตอนที่ทุกๆอย่างมันจบแล้วแบบในละคร
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ที่นี้ที่ไหน? ข้ามาทำอะไรที่นี่?!
ชิบะน้อยรู้สึกเจ็บปวดทั่วร่างของเขาและเขาไม่สามารถขยับตัวได้เลย แจ่อย่างน้อยในตอนนี้เขายังมีสติอยู่
แต่..ข้ารู้สึกแย่มากๆ นี่มันเป็นแค่ฝันร้ายใช่ไหม?
ในไม่ช้าชิบะน้อย ก็พบว่ามีบางอย่างผิดพลาด ความรู้สึกที่เขาพบในชีวิตก่อนหน้านี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา มันเป็นฝันร้าย ฝันร้ายอาจเป็นประสบการณ์ที่หายากสำหรับคนธรรมดา แต่เขาต้องทนทุกข์ทรมานมากจากปัญหาของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาหลับไปในช่วงบ่ายเขามักรู้สึกว่ามีผีอยู่บนเตียง
เขาจึงไม่รู้สึกกระวนกระวาย แต่คิดว่าเศร้าใจในใจว่า "มันเป็นไปได้มั้ยที่หมีดำมันมาโจมตีมันเป็นแค่ฝันไป? อะไรน่ะ...เส้นเอ้นของข้า หลอดเลือดก็ด้วย?
เร็วๆนี้ชิบะน้อยได้ตะหนักถึงสิ่งที่แตกต่างออกไปจากฝันร้ายนี้ ในชีวิตก่อนหน้าที่ทุกๆอย่างมันผกติสุขและก่อนหน้านี้สิ่งที่เขารู้สึกมันอาจจะไม่ชัดเจนนัก แต่ในตอนนี้สิ่งที่เขารู้สึกมันชัดเจนขึ้นมาก เขาสามารถแยกแยะความแตกต่างของเส้นเลือดทุกเส้นที่อยู่รอบๆกระดูกได้แม้กระทั้งพลังภายในที่คลุ้มคลั่งอยู่ในร่างกายเขาอีกด้วย
นี่มันพลังแก้นแท้แห่งชี่กง!
ชิบะน้อยกำลังวิเคราะห์ว่า พลังภายในนี้เป็นพลังแก่นแท้แห่งชี่กงหรือไม่ ในอดีตเขารู้สึกแค่กระแสพลังอ่อนๆ ไหลผ่านไปยังเส้นเอ้นและเส้นเลือดของเขาและในตอนนี้ทุกๆอย่างมันชัดเจนยิ่งขึ้น ในตอนนี้เขายังสามารถมองเห็นเว้นเอ้นและเส้นเลือดในร่างกายเขาและยังสามารถดูพลังภายในที่ไหลเวียนทั่วร่างกายเขาได้อีกด้วย
มันแตกต่างจากที่เขาได้จินตนาการไว้
เขาเคยคิดว่า พลังแก่นแท้แห่งชี่กง เป็นเพียงแค่ความแข็งแกร่งแค่ผิวเผินและใช้กันอย่างแพร่หลายในทหารในกองทัพ แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ฝึก พลังภายใน ได้อีกมันพิศูจน์ได้ว่ามันเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์พอ
หลังจากที่ฝึกซ้อมไปประมาณครึ่งปี พลังภายในของพลังแก้นแท้แห่งชี่กง ยังคงอ่อนแอเช่นเดียวกับพวกพึ่งเริ่มฝึกหัด ชิบะน้อยไม่ได้คาดหวังให้มันแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม พลังชี่ของเขาไม่มีรูปร่างและไม่มีความเสถียรราวกับว่ามีไอพลังเล็กๆน้อยๆไหลเวียนไปทั่วร่างกายแค่นั้น
ก่อนฝึกซ้อมพลังภายในชิบะน้อยยังเป็นเด็กดังนั้นเส้นเอ้นและเส้นเลือดของเขายังไม่ปิดสนิทดี
ด้วยเหตุนี้หวังเทียนเหล่ยเลยอิจฉฉาเขาที่ได้รับผลเป็นสองเท่าเมื่อฝึกฝน และก้าวหน้ามากกว่าเขา
ชิบะน้อยรูสึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากเขา
มองไปที่เส้นเอ็นและเส้นเลิดของเขาชิบะน้อยเริ่มตระหนักว่า หวังเทียนเหล่ย กล่าวไม่ถูกต้องไปทั้งหมด พลังภายในของเขาและพลังแก้นแท้แห่งชี่กงของหวังเทียนเหล่ย นั้นไหลผ่านเส้นเลือดไม่กี่เส้นนอกจากนั้นเส้นเลือดดำก็มีบางอย่างไปบล็อกพลังภายในเอาไว้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่มีอะไรขัดขวางสิ่งที่หวังเทียนเหล่ยจะเป็นได้
นี่เป็นวิสัยทัศน์ที่ถูกซ้อนเร้นในตำนานงั้นเหรอ?!
ลิตเติ้ลชิบะมองไม่เห็นการอุดตันในเส้นเอ็นและเส้นเลือดของเขาตอนนี้ไม่มีทางใดที่จะแก้ไขพลังแก่นแท้แห่งชี่กงได้ มันสามารถไหลผ่านทั้งในเส้นเอ้นและเส้นเลือดได้อย่างอิสระ นอกจากนี้วรยุทธ์อัคคียังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังชีวิตให้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าส่วนที่เหลือของเส้นเลือดจะไม่ถูกรบกวนหลังจากฝึกทักษะ วรยุทธฺอัคคี อย่างแน่นอนยังเร็วเกินไปที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ความสำคัญอันดับแรกคือการคิดออกว่าทำไมเขาถึงได้รับวิสัยทัศน์ที่ถูกซ้อนเร้น
นี่คือความรู้สึกก่อนตายงั้นเหรอ? หรือข้าแค่ฝันไป?
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ชายหนุ่มได้ปรากฏตัวขึ้นมาในลาน ณ ที่แห่งหนึ่ง เขากำลังฝ่าลมหนาวไปยัง หุบเขาแห่งหมอกทีละก้าวด้วยรอยยิ้มอันขื้นขมบนใบหน้าของเขา
“มันถึงเวลาตายของพวกแกแล้ว บางคนใช้เวลาเป็นเวลา10กว่าปีของการฝึกยังอาจพลาดท่าได้ในสถ่านการณ์แบบนี้ แล้วนับประสาอะไรกับเด็กตัวเล็กๆละ แต่เขาก็สามารถดึงเอาพลังภายในและพลังแก่นแท้แห่งชี่กงออกมาได้ทั้งหมดกังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ต้องยกความดีความชอบให้แก่ดวงตาคู่นั้นของเขา!” ชายหนุ่มคิดในใจ
เมื่อคิดถึงดวงตาสีแดงที่แปลกประหลาดของชิบะน้อย ใบหน้าเขาก็ยิ้มเล็กน้อย “สายเลือดที่สูญสิ้นไปแล้ว? ถ้าข้าพาตัวออกไปจากภูเขานี้ล่ะ? คิดว่าเพื่อนเก่าของข้าจะคิดยังไง พวกนั้นคงหัวเราะ? ดีไม่ดีอาจจะไม่ เหล่าสามพี่น้องนั้นอาจจะฆ่าเจ้าหนูนี้แบบที่ทำกับยูนซานก็ได้ใครจะไปรู้ล่ะ? พวกเขาดูเหมือนจะฆ่าข้าอีกด้วย!”
ลมหนาวได้พัดผ่านไป ก็มีเสียงหัวเราะไม่หยุดจากชายหนุ่มนั้นห่างจากเขาประมาณ1ฟุตดูเหมือนจะมีกำแพงที่มองไม่เห็นซึ่งแยกกระแสดลมออกไปสองทาง ถ้าเขาได้รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคงหงุดหงิดไม่น้อย
ค่ายกลแห่งสำนักซี่!
มันต้องป้องกันไว้ได้สิ ฝั่งนั้นมีเพียงชายคนเดียว ...มีเพียงผู้ฝึกฝนถึงระดับ7เท่านั้นถึงสามารถสร้างลมมาเป็นกำแพงป้องกันค่ายกลได้!
จอมยุทธ์ระดับ7 !?
มันจะมีสักกี่คนบนโลก!?
ในหมู่คนนับพันล้านคนในเมืองจินมีจอมยุทธ์ระดับ7 เพียงแค่ไม่ถึงร้อยคนเท่านั้น แต่เป็นไปได้อย่างไรเจ้าหนุ่มในวัยแค่นั้นจะฝึกฝนจนถึงระดับ7ได้และยังมาปรากฏตัวขึ้นมาบนหุบเขาหมอกอีกต่างหาก!
ดูเหมือนหนุ่มวัยยี่สิบปี การฝึกทักษะศิลปะการต่อสู้ในระดับสูงจะช่วยให้รูปลักษณ์ของเยาวชนอ่อนเยาว์ได้ กล่าวคือหากคุณประสบความสำเร็จในวัยสี่สิบของคุณคุณสามารถเก็บเฉพาะรูปลักษณ์ของคนในวัยสี่สิบ และถ้าคุณทำมันในวัยห้าสิบของคุณลักษณะที่ปรากฏของคุณอาจจะยังคงเป็นของตัวเองในยุคของคุณ แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีผู้ชายที่สามารถสำเร็จระดับ7ได้ในวัย20ปี มันเป็นไปไม่ได้เว้นแต่พลังของคุณอยู่เหนือระดับ 9! และได้เข้าสู่ระดับพลังลึกลับในตำนาน!
ระดับพลังลึกลับ ...
ทักษะศิลปะการต่อสู้ในโลกนี้เน้นความสมดุลระหว่างรอบด้านในและด้านนอก รวมถึงสามระดับพลังลึกลับ ได้แก่
ความทนทานของผิวหนัง (ผิวทองแดง)
ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูก (กระดูกโลหะ)
ความพริ้วไหวของเส้นเอ็น (เส้นเอ็นทิพย์)
นอกจากนี้พลังลึกลับทั้ง3ยังแบ่งออกเป็น 9 ระดับ
ความทนทานของผิวหนังจะอยู่ในสามระดับล่างสุด
ความแข็งแกร่งดั่งเหล็กของกระดูกจะอยู่ในสามระดับกลาง
และความพลิ้วไหวของเส้นเอ็นจะอยู่ในสามระดับบนสุด
ในสามระดับบนสุดนั้นผู้คนจะเรียกมันว่า ผิวหนังทองแดง เส้นเอ็นเหล็กกล้าและกระดูกทองคำ
โดยหากคุณสำเร็จและผ่านทั้งสามระดับนี้ไปได้คุณจะสามารถเข้าถึงระดับพลังลึกลับในตำนานได้
มีผู้คนบอกว่ามีผู้อวุโสที่แกร่งที่สุดในยุทธ์ภพสามารถก้าวเข้าสู่ระดับพลังลึกลับในตำนานได้ แต่ไม่มีใครเคยเห็นผู้อวุโสผู้นั้นเลย ดังนั้นในตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดก้าวขึ้นไปยังระดับลึกลับในตำนานได้
ค่ายกลของสำนักชี่ที่ถูกทำลายไปได้ เป็นสัญญาณว่ามีคนเข้าไปถึงระดับ 7 ไปแล้วเนื่องจากชายคนนี้สามารถทำลาย ค่ายกลได้อย่างง่ายดาย เขาจะต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับอย่างน้อย 7 ขึ้นไป
ในกรณีนี้มีความเป็นไปได้อยู่สองประการคือ
ประการแรกการฝึกฝนของเขาสำเร็จจนไปถึงระดับ 7 ในขณะที่เขาสำเร็จได้ในวัย20ปี
ประการที่สองคือ เขาเป็นชายชราคนหนึ่งที่ได้สำเร็จขั้นกระดูกทองคำและได้ก้าวเข้าสู่ระดับพลังลึกลับในตำนานจึงทำให้เขาสามารถรักษาให้ตนเองยังคงเยาว์วัยได้ตลอดกาล
ทั้งสองข้อที่กล่าวมานั้นไม่ว่าจะเป็นข้อไหนก็พิสูจน์ได้ว่าเขาแกร่งแค่ไหน
เสียงอะไรน่ะ?
เสียงคำรามมาพร้อมกับเสียงลมหนาวที่พัดผ่านมา
“ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังสนุกสนานในทิศตะวันตก!”ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ จากนั้นร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นล็กน้อยและเหินไปยังทิศตะวันตกของภูเขาในทันที
