ตอนที่แล้วบทที่ 5 เฆี่ยนตีหมาเฒ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 ปรมาจารย์จู

บทที่ 6 ตำหนักเม็ดยาสวรรค์


หลิงหานและหลิงยวี่ถงจะออกเดินทาง หลิงมู่หยุนและคนอื่นอยากจะหยุดพวกเขา แต่ไม่กล้าทำเช่นนั้น แม้แต่หลิงฉงควนยังพ่ายแพ้ แล้วใครในตระกูลหลิงจะมีพลังที่จะห้ามปรามพวกเขา?

 

มันไม่มีเลย...เว้นเสียแต่ว่าหลิงตงชิงจะกลับมา

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลิงตงชิงจะกลับมาแล้ว แล้วเขาจะอยู่ฝ่ายไหน? เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว

 

สีหน้าของสาวใช้ทั้งห้าคนเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย พวกนางได้เห็นการแสดงที่น่าทึ่ง มันเพียงพอที่จะทำให้พวกนางมีเรื่องคุยได้ถึง 3 ปี

 

"พวกเราจะไปที่ไหน?" หลิวยวี่ถงถามหลิงหานหลังออกจากพื้นที่ตระกูลหลิง

 

"ตำหนักเม็ดยาสวรรค์" หลิงหานตอบ

 

หลิวยวี่ถงถึงกับส่งเสียง "โอ้" ออกมา นางคิดว่าหลิงหานจะเป็นคนปรุงเม็ดยาให้นาง เพราะนางเป็น "คนป่วย"

 

ทั้งสองกำลังเดินอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเพียงแค่ 10 นาที พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง

 

ตำหนักเม็ดยาสวรรค์เป็นตัวตนที่ทรงพลังมาก และมีสาขาอยู่ทุกเมืองในอาณาจักรสายฝน  ความหลากหลายของสมุนไพรและเม็ดยาในตำหนักเม็ดยาสวรรค์นั้นมีมากมายที่วางขายอยู่ ถ้ามีบางสิ่งที่ไม่อาจซื้อได้จากที่นี่ สาขาอื่นก็ไม่อาจซื้อได้เช่นกัน

 

หลิงหานเดินเข้าไปในตำหนักและไปที่โต๊ะ ด้านหลังโต๊ะมีหญิงสาวที่งดงามมากนั่งอยู่ เมื่อนางเห็นหลิงหานกำลังเดินมาหา นางจึงลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับรอยยิ้มและกล่าวว่า "สวัสดี ข้าชื่อเซียวเถา ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ให้บริการท่าน"

 

ดวงตาของนางจับจ้องไปที่หลิวยวี่ถงอยู่ชั่วขณะ เพราะความงามของนางนั้นไม่ธรรมดา แม้แต่นางเองยังรู้สึกหลงใหลเล็กน้อย แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกัน

 

หลิงหานพยักหน้า และกล่าว "ข้าอยากซื้อ หญ้าดอกบัวม่วง ผลก้านนภา ไผ่สีชาดร้อยปี ใบหัวมันสีชาด รากพฤกษามรณะ"

 

สีหน้าของเซียวเถาดูว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง นางทำงานอยู่ที่นี่มากกว่าสองปีแล้ว และยังไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรทั้งห้านี้มาก่อน นางจ้องมองอยู่ว่างเปล่าชั่วครู่ก่อนที่จะพูดออกไปว่า "ท่านลูกค้า ข้าต้องขอโทษด้วย แต่ข้าไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรเหล่านี้มาก่อนเลย ได้โปรดรอสักครู๋ ข้าจะไปถามคนอื่นให้"

 

"ไม่เป็นไร" หลิงหานพยักหน้า สมุนไพรทั้งห้านี้มันค่อนข้างไม่ธรรมดาทีเดียว เพราะนอกเหนือจากปรุงมันเป็นผงฟื้นฟูแก่นวิญญาณแล้ว มันไม่ค่อยได้ใช้เพื่อปรุงยาชนิดอื่น แม้ว่าผงฟื้นฟูแก่นวิญญาณจะไม่ใช่เม็ดยาระดับสูง แต่ก็เป็นเม็ดยาที่เขาสามารถคิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเองในชีวิตที่แล้วของเขา แม้เขาจะสอนสูตรปรุงยาให้กับคนอื่น แต่มันอาจไม่ได้รับการสืบทอดต่อกันมา

 

หลังจากนั้นชั่วครู่ พวกเขาก็เห็นเซียวเถา และชายวัยกลางคนที่มีอายุประมาณ 30 ปีเดินตรงมาหาพวกเขา

 

"เจ้าเป็นคนที่ก่อปัญหา?" ชายวัยกลางคนจ้องมองหลิงหาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

 

หลิงหานขมวดคิ้ว "หมายความว่ายังไง ข้าก่อปัญหา?"

 

"หึ การตั้งชื่อสมุนไพรที่ไม่มีอยู่จริง ไม่ใช่ว่าจงใจเพื่อก่อปัญหาหรอกรึ?" ชายวัยกลางคนกล่าว ใบหน้าของเขาดูนิ่ง

 

หลิงหานถาม "ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าพูดชื่อสมุนไพรที่ไม่มีอยู่จริง?"

 

"เจ้าไม่คิดว่าคำถามของเจ้ามันไร้สาระเลยรึ?" ข้าเป็นนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ ข้าสามารถปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลางได้ แล้วข้าไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรพวกนี้มาก่อน ดังนั้นไม่ใช่ว่าเจ้าพูดชื่อมั่วซั่วหรอกหรือ? ออกไปให้พ้นจากที่นี่!" ชายวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับสะบัดมือให้เขาออกไป

 

ชื่อของเขาคือหม่าต้าจวิน และเขาเป็นนักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลาง

 

ในตำหนักมีลูกค้าคนอื่นอยู่ และเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเขา ทำให้พวกเขาอุทานออกมาว่า "โอ้" และใบหน้าของพวกเขายังเต็มไปด้วยความเคารพ

 

นักปรุงยาเป็นคนที่มีเกียรติและหาได้ยาก และแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ สวรรค์,ปฐพี,ทมิฬ,เหลือง ทุกระดับแบ่งออกเป็น 3 ขั้นย่อยคือ สูง กลาง และต่ำ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะเป็นนักปรุงยาระดับเหลืองขั้นกลาง ขุมพลังอำนาจบางกลุ่มอาจต่อสู้เพื่อแย่งตัวเขา

 

มันเหมือนกับในเมืองหมอกเมฆา มีนักปรุงยาที่อยู่ในระดับนี้เพียงแค่คนเดียวเั้น และเขาได้ทำงานให้กับตำหนักเม็ดยาสวรรค์ โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องปรุงเม็ดยาใดๆ เขามีแค่เป็นทำหน้าที่ผู้ดูแลอยู่เบื้องหลัง

 

ดังนั้น หม่าต้าจวินมีเหตุผลมากพอที่เขาจะทำตัวหยิ่งยโส

 

"แม้กระทั่งนักปรุงยาหม่ายังพูดเช่นนั้น ถ้างั้นเจ้าเด็กเหลือขอนี่คงมาเพื่อก่อเรื่อง"

 

"น่าตลกเสียจริง เขามาตำหนักเม็ดยาสวรรค์เพื่อก่อปัญหา เจ้าเด็กเบาปัญญานี่มาจากไหนกัน?"

 

ทุกคนต่างอยู่ข้างหม่าต้าจวิน เขาเป็นนักปรุงยาที่ทรงเกียรติ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงลำเอียงขนาดนี้

 

หลิงหานรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย และกล่าวว่า "ถ้าเจ้าไม่เคยได้ยินชื่อพวกมันมาก่อน นั่นอาจเป็นเพราะเจ้าไร้ความสามารถ คนไร้พื้นฐานอย่างเจ้ามากล่าวหาผู้อื่นว่าก่อปัญหา? ไปพาคนที่ฉลาดกว่าเจ้าในตำหนักมาหาข้า ข้าจะพูดคุยกับเขา"

 

"เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงออกคำสั่งกับข้าได้?" หม่าต้าจวินดูไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาออกมาที่นี่ด้วยตัวเองเพื่อเปิดโปงแผนของหลิงหาน แต่แล้วทำไมเขายังอยู่ที่นี่ เขาเป็นวัชพืชหรือไง? นอกจากนี้ หม่าต้าจวินยังเป็นผู้รับผิดชอบตำหนักเม็ดยาสวรรค์แห่งนี้! แล้วที่นี่จะมีใครฉลาดไปกว่าเขาเล่า?

 

โดยปกติแล้ว นอกจากปรมาจารย์จู คนอื่นจะมาที่นี่ในวันหยุดเมื่อพวกเขามีแรงบันดาลใจ และเมื่อพวกเขามา พวกเขามาเพียงแค่เพื่อยืมอุปกรณ์ของตำหนักเม็ดยาสวรรค์เพื่อปรุยา

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มุมปากของหลิวยวี่ถงยกขึ้นเล็กน้อย

 

นางจะไม่เข้าไปยุ่งอย่างแน่นอน

 

ตำหนักเม็ดยาสวรรค์คือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่ตระกูลราชวงศ์แห่งอาณาจักรสายฝนยังปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเคารพ! นางเป็นเพียงสมาชิกรุ่นเยาว์ของตระกูลหลิว ดังนั้นนางไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหลิงหานภายในสถานกที่แห่งนี้ได้

 

ไม่ใช่ว่าเจ้ามีความสามารถหรอกหรือ? ทำไมเจ้าถึงต้องอับอายด้วย?

 

แม้ว่านางตกลงที่จะเป็นผู้ติดตามของหลิงหาน แต่เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ด้วยเกียรติของนางแล้ว นั่นคือสิ่งที่นางไม่เต็มใจที่จะทำ แม้กระทั่งในตอนนี้ ดังนั้น นางจึงอยากเห็นสีหน้าอับอายของหลิงหาน

 

อย่างไรก็ตามผู้หญิงที่เย็นชาอย่างนาง นางก็ต้องตอบโต้เป็นธรรมดาเมื่อรู้สึกไม่พึงพอใจ

 

"ออกไปให้พ้น!" หม่าต้าจวินสะบัดมือขับไล่

 

"เจ้าจะไม่เสียใจกับเรื่องนี้?" หลิงหานกล่าวช้าๆ

 

"ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้?" หม่าต้าจวินรู้สึกว่ามันไม่มีเหตุผล ชายหนุ่มนี่กล้าที่จะข่มขู่เขา

 

คนอื่นที่อยู่ในตำหนักราวกับกำลังดูการแสดงตลกอยู่ ชายหนุ่มคนนี้เป็นนายน้อยเหลือขอจากบางตระกูล? อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะเป็นลูกชายของสองตระกูลที่ยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับนักปรุงยาระดับเหลือขั้นกลางได้

 

หลิงหานเพียงแค่ยิ้มออกมา และหันหน้าไปหาหลิวยวี่ถง

 

ความรู้สึกที่น่ารังเกียจได้แวบผ่านเข้ามาในใจของนาง เขากำลังบอกให้นางลงมือ? แต่นางได้ยินหลิงหานพูดว่า "ช่วยข้าตะโกนให้ทีว่า 'เจ้าใส่ทรายภูผาทองแดงมากเกินไป!' ตะโกน 3 ครั้งยิ่งดังยิ่งดี"

 

มันหมายความว่ายังไงกัน?

 

ดวงตาที่สวยงามของหลิวยวี่ถงเบิกกว้างขึ้น แต่เมื่อนางเห็นสีหน้าที่มั่นใจของหลิงหาน ทำให้หัวใจของนางสั่นไหวและช่วยไม่ได้ที่นางจะทำตามที่เขาพูด "เจ้าใส่ทรายภูผาทองแดงมากเกินไป! เจ้าใส่ทรายภูผาทองแดงมากเกินไป! เจ้าใส่ทรายภูผาทองแดงมากเกินไป!

 

นางเป็นคนที่อยู่ระดับหลอมรวมธาตุ ดังนั้นเสียงของนางจึงคล้ายกับเสียงคำรามของราชสีห์

 

"พวกเจ้าสองคนบ้าไปแล้ว ไล่พวกเขาออกไปจากที่นี่!" หม่าต้าจวินโกรธเกรี้ยว และบอกให้ทหารยามสองคนในตำหนักไล่พวกเขาออกไป

 

"ปัง!" เสียงกึกก้องดังขึ้น ราวกับมีบางอย่างระเบิด นักปรุงยาสามารถบอกได้ว่าเสียงนั่นเกิดจากหม้อปรุงยา มันเป็นเสียงที่นักปรุงยาสามารถรับรู้ได้

 

"ตึก ตึก ตึก ตึก!" เสียงฝีเท้าดังมาจากชั้นบน อย่างรวดเร็ว ชายราผมขาวปรากฏอยู่บนบันได และหันหน้าไปหาหลิวยวี่ถงราวกับหัวลูกศร แล้วถามออกไปว่า "เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าใส่ทรายภูผาทองแดงมากเกินไป?"

 

ร่างของชายชรายังคงเผยให้เห็นร่องรอยจากการระเบิดของหม้อปรุงยา คิ้ว หนวดเคราและเส้นผมของเขาถูกเผา ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาดำคล้ำราวกับขี้เถ้า เสื้อผ้าของเขาอยู่ในสภาพยับเยินและเต็มไปด้วยรอยไหม้ เมื่อถูกชายชราจ้องมองเขม็ง ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกในใจหลิวยวี่ถง

 

แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากที่สุดคือเหรียญตราสีเงินที่อยู่บนอกข้างหนึ่งของชายชรา นั่นคือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเขาเป็นนักปรุงยา และสีเงินเป็นตัวแทนของ....ระดับทมิฬ! เขามีเพียงอันเดียวนั่นหมายความว่า

 

ชายชราผู้นี้เป็นนักปรุงยาระดับทมิฬขั้นต่ำ!

 

มันน่าทึ่งมาก ตัวตนอย่างเขาแม้แต่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในเมืองจักรพรรดิยังถือว่าเขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ แม้แต่ผู้นำตระกูลหลิวของนาง หากพบคนอย่างเขายังต้องเรียกเขาอย่างสุภาพว่า"ปรมาจารย์"

 

แต่ทว่าตอนนี้ "ปรมาจารย์" นี้กำลังจ้องมองนางด้วยความเคารพ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ แล้วหลิวยวี่ถงจะไม่รู้แปลกได้อย่างไร?

 

มันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่นางจะหันไปมองหลิงหาน มีเรื่องลึกลับมากมายขนาดไหนกันที่ชายหนุ่มผู้นี้ปกปิดอยู่?

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด