เล่ม 4 ตอนที่ 2 : นักล่าเงินรางวัล (2) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 4 ตอนที่ 2 : นักล่าเงินรางวัล (2)
‘แก๊งโจรลูกศรเงินมีระดับความยากคือ F ระดับเลเวลเฉลี่ยของพวกมันสมควรอยู่แถว 70 ถ้าหากพวกมันมีเลเวลเพียงเท่านี้ งั้นก็คงไม่มีอะไรน่ากังวลจนเกินไปนัก’
“เดดริค ต้นไม้ต้นที่สองทางขวา!”
“ขอรับ!”
ขณะที่อาร์คชี้ไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง เดดริคได้ตอบรับกลับด้วยความตื่นเต้นขณะบินจากไป จากนั้น ด้วยเสียง “ตึง” ที่ดังขึ้น หนึ่งในแก๊งโจรถึงเผยเสียงกรีดร้องออกมาขณะเผ่นออกมาจากหลังต้นไม้
“อั่ก อะ-อะไรกัน? ไอ้ค้างคาวนี่?”
“หุบปากเสีย ข้าคือชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพ เดดริคนิม!”
“แผน A! เจ้ากะโหลก ไปเลย!”
อาร์ควิ่งพุ่งเข้าหาโจรคนนั้นพร้อมกับเจ้ากะโหลก ทว่า ขณะที่เขากำลังจะเหวี่ยงดาบออกไปนั้นเอง ลูกศรสี่ดอกถึงกับถูกปลดปล่อยออกมาจากทั่วทุกทิศทาง อาร์คเร่งร้อนหันเหดาบกลับคืน แต่กระทั่งว่าเคยฝึกการสะท้อนกลับโดยเทควันโด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปได้กับการที่ต้องปัดป้องลูกศรถึงสี่ดอกในทันที
“อึก!”
ลูกศรได้ทิ่มแทงเข้าใส่ท้องและขาของเขา
ด้วยการติดสถานะ ‘เลือดไหล’ และ ‘ลดความเร็วเคลื่อนที่’ จึงทำให้อาร์คเริ่มเซไปมา โจรคนนั้นที่ล้มลงจึงเร่งร้อนกลับไปหลบหลังต้นไม้อีกครั้งหนึ่งโดยทันที
“ไอ้หมอนั่น ไม่ใช่ว่ามันสั่งการมอนสเตอร์ได้หรือไง?”
“รักษาการระวังตัวเอาไว้ ในเมื่ออีกฝ่ายถึงกับยังรอดชีวิตแม้จะโดนลูกศรโจมตีไปหลายครั้งก็ตาม นี่ย่อมไม่ใช่ศัตรูที่สามารถจัดการได้โดยง่ายเป็นแน่”
“จัดการไอ้ค้างคาวนั่นก่อน!”
“เพ่งเล็งการโจมตีไปที่ค้างคาวนั่น!”
“เดดริค หลบไป! แผน D!”
“อา ขอรับ! อั่ก นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?”
ขณะที่อาร์คส่งเสียงร้องบอก เดดริคจึงเร่งร้อนพุ่งตัวขึ้นฟ้า ทว่าก่อนที่จะได้บินขึ้นไปไกล มันถึงกับถูกจับเอาไว้โดยบางสิ่งจนต้องพลิกตัวไปมา มันถูกทำให้ติดอยู่เช่นนั้นจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก เป็นเพราะดงไม้ที่หนาแน่นเหนือศีรษะของอาร์คนั่นเอง
“คิคิคิ ช่างโง่เง่ายิ่งนัก นับว่าน่าอับอายแทน”
ตึง! ตึง! ตึง!
พวกโจรที่หัวเราะออกจึงปล่อยลูกศรของพวกมันออกไป ด้วยการที่โดนกับดักของดงไม้ด้านบนดักจับเอาไว้จึงไม่อาจเคลื่อนไหว เดดริคโดนโจมตีโดยลูกศรสามถึงสี่ลูก นั่นจึงทำให้มันเข้าสู่สภาวะวิกฤตแทบจะในทันที สิ่งมีชีวิตบินได้ย่อมเสียเปรียบการโจมตีอย่างพวกลูกศร ดังนั้นแล้วมันจึงโดนความเสียหายเพิ่มเติมไปอีก 30% เพราะเรื่องนี้
“บ้าจริง ยกเลิกอัญเชิญเดดริค!”
อาร์คเมื่อได้เห็นว่าเดดริคตกอยู่ในสภาพไร้การป้องกัน เขาจึงเร่งร้อนรีบเรียกตัวมันกลับโดยการยกเลิกอัญเชิญ ทว่า สถานการณ์ได้กลับกลายเป็นยากลำบากมากขึ้น ทุกการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังเดดริคตอนนี้กลับมุ่งเป้ามายังอาร์คแทนแล้ว เป็นเพราะขาดแคลนซึ่งทักษะการโจมตีระยะไกล อาร์คจึงไม่อาจทำอะไรกับพวกมันที่กระหน่ำยิงลูกศรออกมาจากบนต้นไม้ได้เลยแม้แต่น้อย อาร์คทำได้เพียงกลิ้งกับพื้นไปมาขณะปัดป้องและหลบเลี่ยงการโจมตีของลูกศรที่ลอยลิ่วเข้าหาเขาราวห่าฝนจากทั่วสารทิศ
ทว่า การหลบเลี่ยงพวกมันทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่อาจเป็นไปได้ เขาต้องได้รับการโจมตีสักครั้งหนึ่งจากลูกศรที่ยิงมาสามหรือว่าสี่ลูก ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้มันมีแต่จะแย่ลงเพราะเขาโดนผลของอาการเชื่องช้าและเลือดไหลทุกครั้งที่โดนโจมตีเข้าใส่
โจรพวกนี้ก็เริ่มที่จะยกยิ้มชั่วร้ายแล้ว
“ข้าเอง!”
เมื่อได้ยินเสียงจากทางด้านหลัง เขาจึงเร่งร้อนหันกลับไปโดยทันที และนั่นจึงส่งผลให้เขาโดนลูกศรปักเข้าที่แผ่นหลัง
“เจ้าโง่เอ๊ย หัดระวังหลังเสียบ้าง คิคิ”
“ไอ้หมอนี่มันโง่ขนาดไหนกันถึงกับกล้าหันหน้าส่งเดชขณะที่โดนลูกธนูระดมยิงใส่แบบนี้?”
“เฮ้ นี่คราวหน้าโจมตีแล้วนะ ลองปัดป้องให้ได้ดูสิ!”
“หุบปาก!”
‘คิดเหรอว่าฉันคนนี้จะหลงกลเป็นครั้งที่สองน่ะ?’ … นั่นคือสิ่งที่เขาคิด แต่แล้วการที่เขาไม่ได้หันหน้าไปยังทิศทางดังกล่าว ครั้งนี้มันถึงกับมีลูกธนูถูกยิงออกมาจริง หลังโดนลูกไม้การโจมตีเช่นนี้หลายครั้งเข้า มันก็ยิ่งทำให้เขาหัวร้อนมากยิ่งขึ้น
ใครมันจะไปคิดกัน? นี่เขาโดนโจมตีเพราะโดนเอ็นพีซีโจรกระจอกพวกนี้หลอกเอาหรือ?
‘ฮึ่ย ไอ้พวกบัดซบนี่...’
อาร์คกำลังกัดฟัน แต่ไม่ว่าเขาจะกัดฟันแน่นขึ้นเพียงใดมันก็ไม่อาจทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ดีขึ้นได้
อาร์คเข้าไปใกล้ต้นไม้พร้อมใช้คมดาบแห่งความมืดสาดซัดเข้าใส่ เขาพยายามทำให้มันสั่นเพื่อให้ไอ้โจรที่อยู่ข้างบนนั่นตกลงมา แต่ทว่าด้วยความกว้างใหญ่ของลำต้นถึงหลายเมตร ต้นไม้แทบไม่สะเทือนอะไรด้วยซ้ำ
‘บ้าจริง แล้วนี่เราจะทำยังไงดี?’
เขาก็คิดพยายามปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แต่มันกลับไม่ง่ายเลยพวกพวกโจรคอยเอาแต่ยิงลูกธนูเข้าใส่ สุดท้ายเขาต้องยอมแพ้เรื่องการปีนขึ้นไปหลังโดนยิงไปหลายดอก
แน่นอน สถานการณ์เช่นนี้เจ้ากะโหลกไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้ เพราะสิ่งที่เจ้ากะโหลกทำได้คือเพียงแค่การกลิ้งไปมากับพื้น มันทำได้แค่คืบคลานไปมารอบต้นไม้ที่อาร์คยังไม่อาจปีนขึ้นไป อีกทั้งมันยังไม่อาจรับลูกศรที่พุ่งผ่านอากาศแทนอาร์คได้ ท้ายที่สุด ไม่ว่าเจ้ากะโหลกจะอยู่หรือไม่ก็ไม่มีอะไรต่างกันสักนิด บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ โจรพวกนี้จึงไม่สนใจเจ้ากะโหลกเลยแม้แต่น้อย ขณะที่อาร์คและเจ้ากะโหลกทำได้เพียงแค่วิ่งพล่านไปทั่วด้วยอาการสับสนไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี พลังชีวิตของเขาก็เริ่มลดลงไปทีละน้อยทีละน้อยจนตกเข้าสู่สภาวะวิกฤตแล้ว
‘ไม่นะ กับอีแค่ไอ้พวกนี้เราจะไม่ยอมตายเด็ดขาด!’
อาร์คเผยความร้อนใจทางสีหน้า
ศัตรูของเขาไม่ใช่มอนสเตอร์ทั่วไป ถ้าหากเขาตายด้วยเงื้อมมือของเอ็นพีซีที่เป็นโจร มันจะมีโอกาสถึง 60% ที่อุปกรณ์สวมใส่ของเขาต้องดร็อปออกมา
‘โกรธก็ใช่ แต่เอาชีวิตรอดสำคัญกว่า!’
“ยกเลิกอัญเชิญเจ้ากะโหลก!”
อาร์คเร่งร้อนเรียกเจ้ากะโหลกกลับไปยังโลกใต้พิภพก่อนที่จะเริ่มวิ่งหนี
“นี่แกคิดเหรอว่าปลาที่ติดเบ็ดแล้วมันจะหนีไปได้น่ะ?”
โจรพวกนี้เองก็ไม่ใช่ชั่ว พวกมันใช้เถาวัลย์โหนตัวไปมาทั่วทุกแห่งภายในป่าได้ การโหนเถาวัลย์เช่นนี้ข้ามต้นไม้ไปมามันไม่ต่างอะไรจากทาร์ซานเลยสักนิด จะมีก็แต่พวกมันยิงลูกธนูออกมาได้นี่แหละที่แตกต่าง
อาร์คไถลตัวเข้าหาต้นไม้เพื่อหลบเลี่ยงลูกธนูที่ยิงมา ทว่า ท้ายที่สุดเขาก็ยังโดนลูกธนูอีกดอกยิงเข้าที่หัวเข่าจนต้องล้มลง
“ได้ตัวแล้ว!”
“จัดการมัน!”
‘อึก บัดซบ... นี่เราจะต้องมาตายเพราะโจรกระจอกเลเวล 70 เนี่ยนะ?’
อาร์คขบฟันขณะมองดูโจรชั่วร้ายเหล่านี้ที่กำลังเข้ามาใกล้เขา ฉับพลันเขาจึงได้เห็นวัตถุที่ดูคุ้นตาสีน้ำตาล ดูไปคล้ายกับลูกบอลที่เก่าโทรมลูกหนึ่งกำลังแขวนตัวอยู่บนแมกไม้ที่อยู่ระหว่างเส้นทางที่พวกโจรจะเคลื่อนผ่าน อาร์ครู้ว่าวัตถุดังกล่าวมันคือสิ่งใด
มันคือฝูงผึ้งที่อาศัยอยู่ภายในป่าทั่วไปในนิวเวิลด์ เป็นผึ้งสีแดง
ในช่วงวันแรกที่เขาเริ่มเดินทางผ่านภูเขาอากัส บ่อยครั้งที่เขาเกือบตายเพราะพยายามหาวัตถุดิบระดับสูงมาเพื่อใช้งาน น้ำผึ้ง มันคือสิ่งที่จะได้รับจากรังผึ้งสีแดง แถมพวกมันยังค่อนข้างหวงของมากเสียด้วย
‘ดีล่ะ ยังไงก็ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว!’
“อัญเชิญกะโหลก! สุดท้ายนี้ขอฝากแกด้วยล่ะ!”
อาร์คคว้าเจ้ากะโหลกเอาไว้ขณะโยนมันออกไปยังสุดแรงเกิด เจ้ากะโหลกลอยลิ่วออกไปเป็นเส้นตรงจนปะทะเข้ากับรังผึ้ง หลังจากนั้น รังผึ้งจึงเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ไม่ช้า ผึ้งสีแดงพลันเริ่มหลั่งไหลออกมาเป็นฝูง ด้วยเสียงปีกที่โบกสะบัดของผึ้งจำนวนมากที่ดังขึ้น เมื่อผึ้งสีแดงเริ่มออกมาจนหมดสิ้นรัง ใบหน้าของพวกโจรเหล่านั้นถึงกับซีดเผือด
“แย่แล้ว ผึ้งแดง!”
“นะ-หนีเร็ว! โดนพวกมันรุมจบเห่แน่!”
“อ๊าก!”
ขณะผึ้งสีแดงโบยบินเข้าใส่ทั้งฝูง พวกโจรที่กำลังยินดีถึงกับต้องซีดเผือดจนกรีดร้องออกมาขณะเผ่นหนีกระจายตัวไปทั่วทิศ หนึ่งในพวกมันโดนผึ้งแดงโจมตีเข้าใส่จนร่วงหล่นลงมากับพื้น จากนั้น ผึ้งแดงได้แผ่ขยายฝูงออกราวกับเมฆรุมเร้า พลังชีวิตของมันลดลงจนแทบหมดสิ้นโดยทันที
ขณะเดียวกัน อาร์คส่งเจ้ากะโหลกกลับโลกใต้พิภพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขากำลังวิ่งหนีเข้าป่า เป็นเพราะพบเห็นอาร์ค ผึ้งแดงทั้งฝูงก็มุ่งเข้ามาหาเขาเช่นเดียวกัน
อาร์คที่ตกอยู่ในสภาวะวิกฤตอยู่แล้ว ดังนั้นทักษะเซ็ตทรหดจึงทำงานพร้อมผลของอะดรีนาลีนด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยสิ่งนี้ มันทำให้ความเร็วการเคลื่อนที่ของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล ทว่า เขาก็ไม่อาจที่จะสลัดหลุดจากผึ้งแดงทั้งฝูงโดยสมบูรณ์ได้ เสียงหึ่งที่ดังลั่นเริ่มเข้ามาใกล้จนไล่หลังเขาแทบตามติดแล้ว
‘น่าจะแถวนี้นี่นา หรือเราจำผิด...?’
อาร์ควิ่งตัดผ่านป่าไปอย่างบ้าคลั่ง หลังการทำเช่นนี้ผ่านไปหลายนาที ท้ายที่สุดป่าก็พลันหายไปจนปรากฏขึ้นเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ขึ้นตรงหน้า มันคือทะเลสาบที่เขาพบเจอไม่นานก่อนจะเข้ามายังป่าโบราณแห่งนี้นั่นเอง
‘ดีล่ะ เจอแล้ว!’
โดยทันที อาร์คเร่งร้อนกระโดดลงน้ำในทะเลสาบไป
“หึ่ง!”
ขณะที่ฝูงผึ้งแดงบินตระเวนอยู่บนผิวน้ำกว่าสิบนาที พวกมันจึงค่อยตัดใจจากไป ถ้าหากไม่มีทะเลสาบอยู่ใกล้ในละแวกนี้แล้วล่ะก็ อีกทั้งถ้าหากเขาไม่มีเกล็ดเงือกด้วยแล้ว เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งแรกที่อาร์คทำคือการเพิ่มพลังชีวิตโดยการทำและกินอาหาร
“บัดซบ! เจ็บชะมัด เจ็บเป็นบ้า! ไอ้บัดซบพวกนั้น! ข้าไม่อภัยให้มันแน่!” เมื่ออัญเชิญออกมาอีกครั้ง เดดริคคจึงโพล่งโทสะออกขณะบินไปมา
อาร์คเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้
พอคิดถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้ว เขาก็เริ่มนึกถึงความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักตอนที่ยังเด็กอยู่ มันเป็นตอนที่เขาเข้าโรงเรียนชั้นประถม อาร์คเป็นเด็กที่ไม่เข้าสังคมกับเพื่อนฝูง ด้วยวัยเท่านั้น เขาจึงกลายเป็นเด็กที่มักโดนรังแกอยู่เสมอมา แน่นอน ว่ามันก็มีพวกเด็กเกเรอยู่ห้องเรียนเดียวกับอาร์คเช่นกัน
ไอ้หมอนั่นมักจะกลั่นแกล้งอาร์คทุกครั้งเท่าที่มันจะทำได้ แต่อย่างแย่ที่สุดก็คือมันเอารองเท้าเขาไปซ่อน หรือไม่ก็กินอาหารกลางวันของเขา แถมมันยังทำให้เขากลายเป็นตัวตลกของห้อง พอคิดถึงเรื่องพวกนี้มันก็ทำเอาเขาโมโหขึ้นมาทุกครั้งไป
มันเป็นการกลั่นแกล้งของเด็กสามถึงสี่คน พวกมันนำเอากระเป๋าของเขาไปและโยนไปมา พวกมันยั่วยุเขาให้เข้าไปเอาคืน ถ้าหากเขาวิ่งเข้าใส่เด็กคนหนึ่ง มันก็จะโยนกระเป๋าไปให้เด็กอีกคนหนึ่ง และถ้าหากเขาวิ่งไปอีกครั้งมันก็จะส่งต่อเช่นนี้อยู่เรื่อยไป... กับคนที่ไม่เคยประสบพบเจอเรื่องแบบนี้ย่อมไม่มีทางรับรู้ว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นเช่นไร
อาร์ครู้สึกเช่นเดียวกันนี้ยามที่โดนพวกโจรกระจอกเหล่านี้ที่เป็นแค่เอ็นพีซีปั่นหัวเอาไม่ต่างจากตอนยังเด็ก มันเป็นความรู้สึกที่ขมขื่นอย่างแท้จริง!
‘พวกมัน... เราต้องกวาดล้างพวกมันไม่ว่าจะต้องเสียอะไรก็ตาม!’
อาร์คเริ่มกัดฟันแน่นขณะจ้องมองออกด้วยดวงตาน่าหวาดหวั่น ด้วยสายตาเช่นนั้น ทั้งเดดริคและเจ้ากะโหลกต่างสั่นกลัวจนต้องถอยหนี
“อะ-เอ่อ เกิดอะไรขึ้นขอรับ? ข้าทำตามที่ท่านว่าแล้วนะเจ้านาย!”
กะ-กรั่ก กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
“ฉันรู้น่า อย่าเพิ่งยุ่ง เงียบไปก่อน!”
เมื่ออาร์คตะโกนเข้าใส่ ทั้งเดดริคและเจ้ากะโหลกต่างเริ่มถอยกลับด้วยความระแวดระวัง พวกมันเลือกที่จะหลบซ่อนตัวไปอยู่มุมหนึ่งให้พ้นสายตา
อาร์คที่หัวร้อนกลับลงที่สมุนปีศาจ ที่จริงเขาก็รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของพวกมันแต่อย่างใด ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนใจกว้างที่จะช่วยคนอื่นเมื่อพวกเขากระทำผิด เช่นกัน เขาเองก็ไม่ใช่คนใจแคบขนาดที่จะโยนความผิดให้ผู้อื่นทั้งที่เป็นตนเองที่กระทำผิดพลาด เขาทำได้เพียงแค่กล่าวโทษตนเองที่ประเมินการศึกในครั้งนี้ต่ำเกินไปจนส่งผลให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา
‘เรื่องนี้ไม่มีอะไรให้เอามาอ้าง’
ที่จริง อาร์คกลับกลายเป็นคนครุ่นคิดน้อยลง หลังเปลี่ยนอาชีพมาแล้ว อาร์คก็มักจะสู้กับศัตรูที่มีเลเวลสูงกว่าตนเองเสมอมา อย่างน้อยก็มากกว่า 5~10 เลเวลโดยไม่ยากลำบากอะไรนัก และบางครั้งเขากระทั่งว่าสามารถล่ามอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าตนเองถึง 20 ระดับได้ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เขายังสามารถจัดการบอสมอนสเตอร์ที่เลเวลของตัวเขาไม่อาจทัดเทียมมันได้เลยสักนิดด้วยซ้ำ อีกทั้งยังเป็นเขาที่ได้รับอันดับหนึ่งผู้มีแต้มสะสมในภารกิจอีเวนท์ที่เลเวล 70 อีกด้วย
ด้วยสิ่งเหล่านี้เองที่เกิดขึ้น ทำให้อาร์คลืมเลือนสิ่งสำคัญอีกสิ่งอย่างไปจนหมดสิ้น
มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่นิวเวิลด์นั้นเลเวลไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง
ความสมบูรณ์ในการควบคุมตัวละครของผู้เล่นนั้นมันสำคัญยิ่งกว่าระดับเลเวลเสียด้วยซ้ำ เหตุผลที่อาร์คสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าผู้อื่นได้ มันก็เป็นเพราะเขาตระหนักเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วและสามารถฝึกปรือฝีมือของตนได้ตลอดโดยไม่มีหยุดพัก และเป็นเพราะเขาไม่ละเลยการฝึกกระทั่งในชีวิตจริง มันจึงทำให้เขาสามารถเป็นเช่นนี้ในเกมได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ว่าในบางครั้ง เขาก็เริ่มที่จะหย่อนยานลง มันไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังคงเป็นเช่นเดิม เขายังคงออกกำลังกายเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงทุกวันจนทำเอากล้ามเนื้อปวดเมื่อยเสียด้วยซ้ำ แต่ปัญหามันอยู่ที่เขาละเลยการนำเอาผลของการออกกำลังกายมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพกับอาร์ค อีกทั้งเขายังละเลยการค้นคว้าการใช้งานทักษะใหม่ที่ได้รับมา เขากลับพึงพอใจกับตนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ นั่นจึงทำให้เขาไม่มีความก้าวหน้าอันใด
‘เราหย่อนยานเกินไป เป็นเพราะมอนสเตอร์ที่เราเคยสู้ด้วยจนกระทั่งถึงตอนนี้มันง่ายดาย ทำให้เราคิดว่าตอนนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่นี่คือเกม เราไม่อาจสู้กับมอนสเตอร์แบบเดียวกันไปตลอดได้’
มันเป็นเรื่องที่ควรเป็นดังเช่นเดียวกันทุกเกม
เมื่อเลเวลสูงมากขึ้น ระดับความยากในการต่อสู้ก็จะยิ่งมากขึ้นตามมาด้วย
ถ้าหากเลเวลเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าหมายถึงตัวละครที่แข็งแกร่งขึ้น แต่มอนสเตอร์ที่เผชิญหน้าด้วยก็เป็นเลเวลสูงและแข็งแกร่งขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ พวกมันยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันมากขึ้น จนทำให้พวกมันเริ่มมีลูกเล่นกับการต่อสู้ที่มากขึ้น กล่าวก็คือ ยิ่งเลเวลสูงขึ้น มันก็ยิ่งจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมและความเข้าใจต่อเกมที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องนำเก็บมาคิดอะไรถ้าหากเขายังคงเจอเพียงแค่มอนสเตอร์อย่างที่เคยล่า ทว่าตอนนี้...
‘ถ้าหากเราคิดอยากสร้างเงินจากเกม เราก็จำเป็นต้องขึ้นไปนำให้เหนือล้ำผู้อื่น’
ที่อาร์คเล่นเกมนี้ก็เพื่อเข้าร่วมงานกับโกลบอลเอ็กซอร์ทโดยหวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น คนอื่นต่างลงทุนทางการเงินเพื่อเล่นนิวเวิลด์ แต่อาร์คกลับทำตรงกันข้าม เขาคิดใช้มันหาเงิน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเขาก้าวนำผู้อื่นออกมาก้าวหนึ่งหรือไรกัน?
ถ้าหากผู้เล่นส่วนใหญ่ขายไอเทมของตนที่เลเวล 30 เมื่อเลเวลตัวละครเข้าถึง 40 แล้วล่ะก็ แน่นอนว่ามันไม่อาจขายได้เงินมากนัก อย่างน้อยมันก็จำเป็นต้องขายไอเทมเลเวล 45 เป็นอย่างน้อยถึงจะทำเงินได้ และถ้าหากทำเช่นนั้น มันก็จำเป็นต้องจัดการมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งให้ได้ก่อนผู้อื่นจะทำได้ และต้องสำเร็จภารกิจของเลเวลสูงให้ได้เช่นเดียวกัน
‘เราถึงกับลืมเลือนไป สำหรับเราแล้ว เกมนี้คืองาน มันไม่ใช่เรื่องแย่ที่จะสนุกร่วมไปกับเกม แต่เราไม่อาจลืมจุดยืนเพียงเพราะสนุกไปกับมันได้ ถ้าหากเราต้องการทำให้ได้ดีกว่าผู้อื่น เราก็จำเป็นต้องทำงานให้หนักมากขึ้น เราไม่อาจเล่นเกมเพียงเพราะมันแค่สนุกอย่างเดียวได้’
อาร์คเริ่มขบฟันครุ่นคิด
‘สิ่งสำคัญสำหรับตอนนี้มันไม่ใช่ทั้งภารกิจหรือว่าการเพิ่มเลเวล เลเวลของเราตอนนี้คือ 78 แล้ว ไม่ใช่เลเวลเพียงแค่ 40 เพราะงั้นเราจำเป็นต้องหารูปแบบการใช้งานทักษะให้เหมาะสมกับตัวละครเลเวล 78 นั่นแหละคือที่สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ ดีล่ะ นี่ก็ดี ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องอื่นแล้ว เป้าหมายเดียวของเราตอนนี้คือการล่าแก๊งโจรพวกนี้!’
แก๊งโจรพวกนี้ ตอนนี้มันไม่ใช่เบาะแสสำหรับการทำภารกิจอีกต่อไป มันกลับกลายเป็นสิ่งที่จะขัดเกลาเขาให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นนั่นเอง