ตอนที่แล้วบทที่ 51: ส่งมอบมรดก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 53: ตบหน้า

บทที่ 52: สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 52: สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์

พ่อค้าผู้มั่งคั่งเผยตัวออก เขากำหมัดไว้แน่นพร้อมกล่าวออกมาว่า “ข้าขอทราบถึงเหตุผลที่เขาให้ท่านมาพบข้าได้หรือไม่?”

“ไม่มีอะไรมาก เขาเพียงต้องการให้ข้านำสิ่งที่ควรเป็นของเจ้ามาให้!” เมื่อเจ้าอ้วนกล่าวจบ เขายื่นภาพวาดให้กับซางเต๋อชิง

ขณะที่ซางเต๋อชิงมองภาพวาด สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนทันที เขารับมันพร้อมกับรีบเปิดมันออกดูอย่างรวดเร็ว นี่คือภาพวาดของบรรพบุรุษตระกูลซาง ‘จันทร์กระจ่างบนสายน้ำผุด’ หลังจากตรวจสอบมันโดยละเอียด ซางเต๋อชิงเข้าใจทันทีว่ามันคือของจริงอย่างแน่นอน

เขารีบเก็บภาพวาดนั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคุกเข่าหมอบตัวลงต่อหน้าเจ้าอ้วน พร้อมกับกล่าวว่า “ท่านเซียนอาวุโสช่างเต็มไปด้วยความเป็นธรรม! ข้าซางเต๋อชิงขอขอบคุณท่านจากใจในนามของตระกูลซาง!”

“ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตอง!” เจ้าอ้วนกล่าว “ตอนนี้ภาพวาดได้อยู่ในมือของเจ้า จึงหมดธุระของข้าแล้ว!” หลังจากกล่าวจบ เจ้าอ้วนหันหลังพร้อมเดินออกไป

แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังได้เกิดขึ้นเสียแล้ว ซางเต๋อชิงตะโกนออกมา “ท่านเซียนอาวุโสได้โปรดหยุดก่อน ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าพี่น้องของข้าเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้? ข้ารู้ข่าวเพียงเขาถูกล้อมจับและเข้าไปอยู่ในคุก ข้ายังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะช่วยเหลือพวกเขา!”

“พวกเขาทั้งหมดตายแล้ว!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างไม่สู้ดี “ศาลตัดสินให้ประหารชีวิตพวกเขาทั้งหมด ข้าเสียใจด้วย!”

“สวรรค์!” เมื่อซางเต๋อชิงได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขามีน้ำตารื้นไหลออกมาด้วยความโศกเศร้า พร้อมกล่าวต่อว่า “พี่น้องของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่เหตุการณ์ร้ายเหล่านี้ยังเกิดขึ้นกับพวกเขา นี่ข้ากำลังอยู่ในโลกแบบไหนกัน!”

“อา!” เมื่อเห็นเขาร่ำไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ เจ้าอ้วนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับกล่าวออกมา “เรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้นแล้ว มันไม่มีประโยชน์อันใดหากเจ้าจะร้องไห้เช่นนี้ อย่างน้อยทุกคนที่ทำกับตระกูลของเจ้าก็ได้ถูกส่งไปสู่ความตายเรียบร้อยแล้ว!”

“ท่านว่าอะไร?” ซางเต๋อชิงกล่าวอย่างรวดเร็ว “มีคนบอกข้าว่าคนที่จัดการตระกูลของข้าคือราชครู แล้วพวกเขาจะตายตกไปได้อย่างไร?”

“เขาเป็นเพียงราชครูเท่านั้นเองมิใช่หรือ? ข้าคือคนสังหารเขาเอง!” เจ้าอ้วนกล่าวเรียบง่าย

“อา หากเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่าท่านเซียนอาวุโสได้ชำระแค้นนี้ให้กับพี่น้องของข้า?” ซางเต๋อชิงกล่าวอย่างรวดเร็ว

“เป็นเช่นนั้น ซางเต๋อหลงกลายเป็นผีหลังจากเขาตายและได้ตามไปแก้แค้นราชครู ข้าจึงทราบเรื่องนี้ซึ่งข้าไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ จึงได้สังหารพวกเขาทั้งหมด ก่อนที่เขาจะจากไปเขาขอให้ข้านำสิ่งนี้มาส่งให้กับเจ้า และในตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดจบลงแล้ว ควรแก่เวลาที่ข้าจะต้องไป!” เจ้าอ้วนกล่าวลา

“ท่านเซียนอาวุโส ได้โปรดรอก่อน!” ซางเต๋อชิงคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับดึงแขนเสื้อของเจ้าอ้วนและกล่าวว่า “ท่านให้ความสำคัญกับครอบครัวของข้าถึงเพียงนี้ ท่านควรให้โอกาสข้าตอบแทนพระคุณครั้งนี้บ้าง มิเช่นนั้นพี่น้องของข้าที่ล่วงลับไปจะตำหนิข้าได้!”

“ฮ่า!” เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นพร้อมกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกล่าวเช่นนั้นกับข้า แต่ข้าเป็นนักบวชลัทธิเต๋าและมั่นคงในเส้นทางแห่งเต๋า สิ่งใดในโลกมนุษย์ล้วนไร้ประโยชน์สำหรับข้า! ขอขอบคุณในน้ำใจของเจ้า เพียงแค่คำพูดของเจ้าก็นับว่าตอบแทนข้าได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว” เขาโบกมืออย่างสบายใจพร้อมกับดึงเสื้อคืนจากซางเต๋อชิง พร้อมกับเดินออกมา

“ท่านเซียนอาวุโส โปรดรอก่อน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซางเต๋อชิงตะโกนออกมาอีกครั้ง “ข้าทราบดีว่าสิ่งต่าง ๆ ของโลกมนุษย์ไม่จำเป็นสำหรับท่าน แต่ข้ามีบางสิ่งที่นี่มันถูกทิ้งไว้โดยผู้ฝึกตน ข้าเชื่อว่าท่านสามารถใช้มันได้!”

“หืม?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาหยุดเท้าลงและถามออกไปอย่างงุนงง “เหตุใดเจ้าจึงมีสิ่งของสำหรับผู้ฝึกตน?”

“เรื่องราวมีอยู่ว่า ทศวรรษที่ผ่านมามีผู้ฝึกตนได้บาดเจ็บและขึ้นบกมาติดอยู่ที่หลังบ้านของข้า ข้าดูแลเขาอย่างเต็มกำลังแต่ว่าก็มิอาจรักษาชีวิตของเขาไว้ได้ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขามอบของสิ่งนี้ตอบแทนให้กับข้าที่ดูแลเขามาตลอดสิบปี เขาทิ้งแผ่นหยกสีเหลืองไว้ เขากล่าวว่ามันคือสมบัติของเหล่าผู้ฝึกตน ถ้าหากข้าพบเจอปัญหาใด ๆ และต้องร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าผู้ฝึกตน ข้าสามารถใช้มันเป็นของรางวัลได้ ผู้ฝึกตนทั้งหลายจะยินยอมช่วยเหลือข้าอย่างแน่นอน ซึ่งมันต้องเป็นสิ่งที่วิเศษมากอย่างแน่นอน” ซางเต๋อชิงกล่าวเสริม “ท่านเซียนอาวุโสช่วยเหลือครอบครัวข้าอย่างมากมาย และข้าก็ไม่มีสิ่งใดที่เหมาะสมจะตอบแทนท่าน ข้ายินดีจะมอบของชิ้นนี้ให้แทนคำขอบคุณของข้า!”

“เรื่องนั้น…” เจ้าอ้วนรู้สึกลังเลขึ้นมา อันที่จริงความมั่งคั่งของเขาทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้ขาดสิ่งใด แต่เมื่อเห็นท่าทางของซางเต๋อชิง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมลุกขึ้นหากไม่ได้มอบสิ่งนั้นเป็นของตอบแทน เพื่อที่จะได้กลับออกไปอย่างรวดเร็วที่สุด เจ้าอ้วนจึงกล่าวออกมา “ข้าขอดูของสิ่งนั้นก่อน!”

“ขอรับ ขอรับท่านเซียนอาวุโส โปรดรอสักครู่!” ซางเต๋อชิงกล่าวจบ เขารีบเดินออกไปทันที ในระยะเวลาสั้นๆเขากับมาพร้อมกับแผ่นหยกเหลืองสองชิ้น

“สิ่งนี้คือสมบัติที่ผู้ฝึกตนทิ้งเอาไว้! ซึ่งมนุษย์อย่างข้ามิรู้จะใช้งานมันอย่างไร” ซางเต๋อชิงรีบยื่นมันให้กับเจ้าอ้วนพร้อมจ้องมองอย่างมีความหวัง

เจ้าอ้วนรับมันอย่างเบามือพร้อมกับใช้ปราณจิตวิญญาณตรวจสอบทันที ทำให้เขารู้ทันทีว่ามีเวทมนตร์สายฟ้าอยู่ด้านใน หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เขาพบชื่อของมันอย่างรวดเร็วมันคือ สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์

หยกสีเหลืองชิ้นนี้ดูคล้ายกับว่าเป็นหยกที่ผ่านการปรับแต่งด้วยเคล็ดวิชาสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์!

หน้าตาของเจ้าอ้วนสดใสขึ้นมาทันทีพร้อมกล่าวกับซางเต๋อชิงว่า “ข้าละอายใจนักที่ต้องกล่าวเช่นนี้ แต่สิ่งของชิ้นนี้มีประโยชน์กับข้าอย่างมากจริง ๆ!”

เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนชอบสิ่งของชิ้นนี้อย่างมาก ซางเต๋อชิงเผยรอยยิ้มอย่างพอใจพร้อมกล่าวต่อ “หากว่าท่านเซียนอาวุโสชอบมัน นับว่าเป็นเกียรติสำหรับข้ายิ่งนัก ในตอนนี้ดึกมากแล้ว ท่านเซียนอาวุโสให้ข้าให้ดูแลท่านในคืนนี้เถิด ข้าขอแสดงความกตัญญูในโอกาสนี้!”

ดังคำกล่าวที่ว่า ‘พอได้รับผลประโยชน์มาแล้วก็ต้องไว้หน้าบ้าง’ เนื่องจากซางเต๋อชิงได้มอบสิ่งของที่มีมูลค่าทัดเทียมกับหินจิตวิญญาณมากกว่าล้านก้อน เจ้าอ้วนจึงไม่มีหน้าจะปฏิเสธเขาอีกต่อไป

เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “งั้นข้าขอรบกวนด้วย!”

“มิได้ ข้ามิกล้าคิดเช่นนั้น ท่านคือผู้มีพระคุณของข้า!” ซางเต๋อชิงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนตกลง ใบหน้าของเขาแสดงรอยยิ้มออกมาโดยธรรมชาติ เขานำทางเจ้าอ้วนเข้ามาด้านในพร้อมกับสั่งคนรับใช้ให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเซียนอาวุโสอีกด้วย

คนรับใช้ในตระกูลซางทำงานอย่างเป็นระเบียบ เพียงไม่นานงานเลี้ยงต้อนรับก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ซางเต๋อชิงนั่งอยู่ด้านข้างซึ่งจัดตำแหน่งให้เจ้าอ้วนนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ทั้งสองคนเริ่มดื่มและพูดคุยกัน ซางเต๋อชิงควรจะเป็นคนที่มีตำแหน่งสูง เพราะคำพูดและทัศนคติของเขาน่าสนใจอย่างมาก เขาดูแลเจ้าอ้วนอย่างดีที่สุดซึ่งนั่นทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

หลังจากไวน์หมดไปสามรอบแล้วในขณะที่พูดคุย เจ้าอ้วนถามออกมาอย่างใคร่รู้ “เจ้าของบ้านซาง วันนี้ข้านำภาพวาดมาให้เจ้า และเจ้าจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้กับข้า! อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดว่าข้านั้นเป็นคนฉ้อโกง? และถ้าหากข้าเป็นคนเช่นนั้น เจ้าจะทำสิ่งใดงั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่า ท่านเซียนอาวุโส ท่านช่างมีอารมณ์ขันยิ่งนัก!” ซางเต๋อชิงหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวว่า “ภาพวาดจันทร์กระจ่างบนสายน้ำผุดนั้นชื่อเสียงโด่งดังมาก มูลค่าของมันมากกว่าหนึ่งหมื่นทอง ท่านสามารถมอบมันให้กับข้าอย่างง่ายดาย ข้าไม่เคยเห็นนักต้มตุ๋นที่ใจกว้างเช่นนี้มาก่อน! ถ้าผู้คนเหล่านั้นทำเช่นท่าน ข้าต้องการที่จะพบพวกมันทุกวัน! งานเลี้ยงเพียงเท่านี้เพื่อแลกกับจันทร์กระจ่างบนสายน้ำผุดนั้นช่างน้อยนิดยิ่งนัก ฮ่าฮ่า!”

“ฮ่าฮ่า!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวต่อ “งานเลี้ยงนับว่าเป็นเรื่องรอง หัวใจหลักที่จริงแล้วคือแผ่นหยกสีเหลือง แม้กระทั่งภาพวาดนั่นสักสิบรูปก็ยังไม่มีค่าเทียบเท่ากับมัน!”

“ท่านเซียนอาวุโส อย่าได้กังวลไป ข้าใช้เวลากว่าสิบปีเพื่อดูแลผู้ฝึกตน ข้าสามารถบอกได้ว่าท่านคือผู้เชี่ยวชาญ!” ซางเต๋อชิงหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง เขากล่าวต่อ “มันเป็นรางวัลเพื่อตอบแทนความซื่อสัตย์ของท่าน เหตุใดท่านจึงต้องหลอกลวงข้า? แม้ว่าท่านต้องการจะแย่งชิงมันไปจากข้าเสียเฉย ๆ ข้าก็มิอาจป้องกันได้!”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด