ตอนที่แล้วตอนที่39 มาฝึกกันเถอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่41 เหตุผลว่าทำไมคนถึงอ้วนกัน

ตอนที่40 ลองซักที่แล้วจะเห็นผล


ถึงเเม้หน้าตาหลี่ไต้จะมั้นใจหนักหนาว่ามันต้องได้ เเต่มันคือการเเสดงล้วนๆ เอาจริงๆเเล้วเขาไม่มั้นใจอะไรเลย มันเป็นครั้งเเรกที่เขาลองใช้ท่าออกกำลังกายลดน้ำหนักนี้ เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันจะได้ผลไหม

"เห้ย ระบบ เเกบอกว่าหลังจากวันเดียวก็เห็นผลได้ จริงปะเนี่ย" หลี่ไต้ถามย้ำซ้ำอีกรอบ

"100%ได้เเน่ๆ ใจร่มๆไว้หน่ะ ถ้าเเกไม่เชื่อข้า เเกก็ลองชั่งน้ำหนักเธอหลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จก็ได้"ระบบบอก

"ตามที่เเกบอกนี้ มันไม่ใช่เเค่วันเดียว เเต่เป็นครั้งเดียวถูกไหม?" หลี่ไต้ถามต่อ

"จะบอกอย่างงั้นก็ได้  เเต่มันก็ขึ้นอยู่กับเเต่ละคนด้วย ตามทฤษฏีเเล้วคยที่อ้วนจะเห็นผลชัดมากกว่า ฟังดีๆนะ ที่ว่าอ้วนเนี่ยไม่ได้หมายถึงน้ำหนัก อ้วนขึ้นอยู่กับส่วนสูง อายุ เพศ เเละอื่นๆ"ระบบบอก

"หมายความว่ายังไง? อธิบายหน่อยซิ" หลี่ไต้ไม่อยากจะคิดด้วยตัวเองเท่าไร มันง่ายกว่าที่จะให้ระบบอธิบายเเทน

"นึกภาพงี้นะ มีคน2คนที่สูงเท่ากันเเล้วน้ำหนักเท่ากัน เเต่เเตกต่างที่เพศ หลังจากที่พวกเขาออกกำลังจากลดน้ำหนักเเล้ว น้ำหนักของผู้หญิงจะลดเยอะกว่าผู้ชาย เพราะว่าโดยปรกติเเล้วผู้ชายจะหนักกว่าผู้หญิง ความเป็นไปได้ในการลดน้ำหนักเลยน้อยกว่า ลองมาดูตัวอย่างอื่นกันนะ

มีคนอยู่2คน 2คนนี้น้ำหนัก เพศ ส่วนสูงเหมือนกัน เเต่คนนึงอายุ40อีกคนนึงอายุ20 คนที่มีอายุ40จะลดน้ำหนักได้น้อยกว่าคนที่อายุ20 เพราะว่าสภาพทางร่างกายของคนอายุ20ดีกว่า ถ้าร่างกายทำงานดีกว่าก็จะใช้หลักการเดียวกัน" ระบบบอก

"โอเคเข้าใจละ หวังว่าไอ้ท่าออกกำลังกายนี้จะใช้ได้ผลกับหยูเฟ่ยเฟ่ยนะ" หลี่หายใจลึกๆ การออกกำลังกายลดน้ำหนักกำลังจะจบรอบเเรกพอดี

"โอเคครบหลักสูตรละ!" หลี่ไต้จบท่าสุดท้ายเเล้วมองไปที่หยูเฟ่ยเฟ่ย "เป็นไงบ้าง เหนื่อยรึเปล่า"

"ดีอยู่ ฉันไม่เหนื่อย ฉันเเค่รู้สึกอบอุ่น"หยูเฟ่ยเฟ่ยบอก

"โอเค ไปชั่งน้ำหนักกันดีกว่าว่าน้ำหนักจะลดไปเท่าไร"หลี่พูดจริงจัง

"จะบ้าเหรอ นี้พึ่งออกกำลังกายไปได้เเค่10นาทีเองนะ จะไปน้ำหนักลดได้ไงกันละเเค่10นาทีเอง ท่าออกกำลังกายของคุณมันไม่ใช่มีดมาเฉือนไขมันฉันซักหน่อย"เฟ่ยเฟ่ยหัวเราะ

"เเล้วถ้า--" หลี่ไต้หยุดซักพักก่อนจะพูดต่อ "ยังไงก็เถอะ การฝึกวันนี้ของเธอมันจบเเล้ว เรามาชั่งน้ำหนักของเธอกันดีกว่า เราจะได้ติดตามผลของการฝึกได้ไง"

"ฉันพึ่งวัดน้ำหนักตัวเองมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่เเล้วนี้เอง ก็ที่ฉันร้องไห้ก็เพราะว่าน้ำหนักฉัน ..ไม่ลดเลยเนี่ยละ" หยูเฟ่ยเฟ่ยพึมพัมเสียงเบา เเล้วเดินไปที่เครื่องชั่งน้ำหนักไฟฟ้า เเละเเน่ละ เธอก็อยากให้มันได้ผลเร็วๆเหมือนกัน เธอยืนบนเครื่องเเล้ววัด ตอนที่เธอเห็นตัวเลข เธอพูดไม่ออกไปซักพัก

"เออ ..น้ำหนักเธอลดลงไหม" หลี่ไต้ถามนำไปก่อน เขารู้สึกไม่ค่อยมีความมั่นใจเพราะเขากลัวว่าการออกกำลังกายมันจะไม่ได้ผล

หยูเฟ่ยเฟ่ยหันกลับมาด้วยสีหน้าเริงร่า เธอโดดออกจากเครื่องชั่งเเล้วตะโกน "ฉันผอมเเล้ว! ฉันเบาลงตั้ง150กรัมเเหน่ะ!ในที่สุดน้ำหนักฉันก็ลดเเล้ว!"

"150กรัม? เยอะนะนั้น"หลี่ไต้ตกใจเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าผลลัพท์มันจะออกมาดีขนาดนี้หลังจากเพียงออกกำลังกายเเค่ครั้งเดียว

การลดน้ำหนักมันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเเละยากมากสำหรับคนธรรมดา เเละยากเข้าไปอีกสำหรับนักกีฬา กินน้อยๆออกเเรงเยอะๆเป็น2ปัจจัยหลักที่ใช้ลดน้ำหนักสำหรับคนทั่วไป เเต่ไอ้ปัจจัย2อันง่ายๆเนี่ย มันใช้ไม่ได้กับนักกีฬาที่ต้องการจะลดน้ำหนัก เอาจริงๆคือมันต้องมันต้องใช้ความพยายามถึง2-3เท่าสำหรับนักกีฬาที่จะลดหรือเพิ่มน้ำหนักถ้าเทียบกับคนธรรมดา

นักกีฬาส่วนมากอยากที่จะคงน้ำหนักตัวเองไว้เท่าเดิม ตลอดระยะเวลาการเป็นนักกีฬา เเต่ความเป็นจริงคือ การคงน้ำหนักเดิมไว้ตลอดมันก็ยากเหมือนกัน

น้ำหนักลดลง1.5-2กิโลหลังจากวันฝึกซ้อมของนักกีฬา ถือว่าเป็นเรื่องปรกติมาก เนื่องจากการใช้พลังงานกับการใช้น้ำในร่างกายมันทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำเล็กน้อยหลังจากการฝึกอย่างเข้มข้น เหงื่อของพวกเขาอย่างเดียวก็อาจจะเกิน0.5-1กิโลเเล้วก็ได้ เพราะงั้นการที่น้ำหนักลดลงสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัยหาเท่าไร เพราะมันจะกลับคืนมาหลังจากดื่มน้ำเข้าไป

เเต่การออกกำลังกายวันนี้มันไม่เหมือนกัน ออกกำลังกายเพียงเเค่20นาที หยูเฟ่ยเฟ่ยเหงื่อยังไม่ไหลซักหยด เเต่น่ำหนักเธอร่วงลงมาตั้ง150กรัม มันไม่ได้ฝึกหนักหนาอะไรเลย ดังนั้นเธอไม่ได้น้ำหนักลดเพราะเสียน้ำไปเเน่นอน เธอผอมลงจริงๆ

การฝึกครั้งเดียวลดลง150กรัมเหรอ ผลลัพท์นี้สุดโต่งมาก นี้มันโหดกว่าซาวน่าอีกนะเนี่ย หลี่ไต้เเสดงท่าทางว่าใจเย็นเหมือนคุ้นเคยกับมันเเละไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเต่เอาจริงๆเขาทึ้งกับผลที่ออกมามากๆ การออกกำลังกายทำได้เพียงเเค่20นาที เเม้เเต่เหงือของหลี่ไต้เองก็ยังไม่ไหลซักหยด เเต่ผลลัพท์ที่ได้มันออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อะไรมาอธิบายเรื่องเเบบนี้ได้เเน่ๆ

บางทีพวกนักวิทยาศาสตร์อานจะจับฉันไปผ่าเเล้วหาว่าฉันเป็นเอเลี่ยนก็ได้ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ หลี่ไต้คิดกับตัวเอง เเต่มันก็โอเคถ้าใช้กับเเค่กลุ่มเล็กๆที่รู้จักกัน ฉันก็ยังเเถๆได้ว่ามันสืบทอดกันมาในตระกูลฉันตั้งเเต่บรรพบุรุษ เเต่ถึงอย่างงั้นไอ้ท่าออกกำลังกายลดน้ำหนักนี้มันใช้ยากมากเลย มีเงื่อนไขเยอะมาก เช่นคนนั้นต้องเป็นนักกีฬา เเล้วฉันก็ต้องเป็นคนนำท่าออกกำลังกายด้วยตัวเอง มันไม่มีทางใช้ได้ในกลุ่มใหญ่ๆ หลี่ไต้คิดเรื่องนี้ก่อนจะสงบใจลง

เฟ่ยๆพุ่งตัวมาหาเขา แล้วพูดด้วยหน้าตาออดอ้อน “ขอร้องละ ช่วยสอนฉันอีกรอบนึงตอนนี้เลยได้ไหม”

“โอเค มาทำกันอีกรอบละกัน” หลี่เตรียมตั้งท่าแล้วเริ่มนับจังหว่า

“1และ2 3และ4 5และ6 7และ8...”

...

เฟ่ยเฟ่ยวิ่งไปชั่งน้ำหนักอีกครั้งหลังจากจบการออกกำลังกายยก2

“น้ำหนักฉันลดลงไปอีก100กรัมอีกแล้ว! ขนาดฉันออกกำลังกายมา2เดือนน้ำหนักยังไม่ลดเลยนะเนี่ย!” หยูเฟ่ยเฟ่ยตื่นเต้นสุดขีดแล้วโดดมาหาหลี่ไต้ด้วยหน้าตาขอร้องอีกครั้ง

“นี้มันทุ่มนึงแล้วนะคุณหญิง! ฉันหิวมากแล้ว ฉันว่าสำหรับวันนี้เราพอแค่นี้แล้วมาต่อกันพรุ่งนี้ดีกว่าไหม? ฉันเหนื่อยเกินกว่าที่จะต่อแล้ว” หลี่ไต้พูดแล้วมองเธออย่างเจ็บปวด

เฟ่ยเฟ่ยไม่อยากยอมแพ้แค่นี้ แต่แล้วเธอก็มองดูเวลาแล้วพบว่ามันค่อนข้างมืดแล้วตอนนี้ แล้วเธอก็เริ่มหิวตามหลี่ไต้แล้วด้วย

“ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับวันนี้ ให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นคุณตอบแทนนะ!” เฟ่ยเฟ่ยพูด

“ข้าวเย็นเหรอ? ไม่เย็นละมั้ง ตอนนี้ร้านอาหารคงปิดหมดแล้วละ” ไต้หลี่ตอบ

“ฉันไม่ได้หมายถึงร้านอาหารในที่ของคุณ ฉันจะพาคุณไปร้านข้าวของทีมกีฬาเขต ไปตอนนี้รถคงไม่ติดแล้วละ ไปกัน ไปขึ้นแท็กซี้ จากนี้10นาทีก็ถึงละ”เฟ่ยเฟ่ยหยูชักชวน

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด