ตอนที่แล้วChapter 89 - เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 91 - เจ้าอ้วนแปลงร่าง

Chapter 90 -เดิมพันด้วยหลุมฝังศพของบรรพบุรุษเจ้า


Chapter 90 -เดิมพันด้วยหลุมฝังศพของบรรพบุรุษเจ้า

การแข่งขันระหว่างสี่ตระกูลใหญ่ได้เป็นการจับคู่เผชิญหน้าระหว่างตระกูลลั่วและตระกูลซู.

และมีบรรยากาศมาคุที่ลอยอบอวนในอากาศ.

เมื่อพวกเขาปรากฏตัวที่ลานประลองมันจะเป็นการต่อสู้เดิมพันด้วยความตาย.

ตัดสินจากแนวโน้มคงจะเป็นของตระกูลซูที่มีระดับสูงกว่าตระกูลลั่ว ตัดสินจากสถานะที่เป็นสาวกของนิกายเมฆคราม ซูซางเฟยและเฉินซ่ง.

ด้วยการที่มีนิกายเมฆครามเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำให้พวกเขาทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ.

ลั่วเทียนยิ้มอย่างสงบและพูด“งั้นมาเริ่มกัน ผู้นำซูคงไม่โกรธใช่ไหม? ผู้นำซูท่านเชิญก่อนเลย.”

ซูเหยาซ่งยิ้มเย็นขณะมองไปที่ลั่งเทียนและพูดว่า“บิดาอยากจะเห็นว่าเจ้าจะทนได้นานแค่ไหน!”

“ให้ข้าทำ!”

เฉินซ่งยืนขึ้นจากที่นั่งและกระทืบเท้าขวาก่อนที่จะใช้แรงส่งให้เขามาถึงลานประลอง เฉินซ่งเผยรอยยิ้มที่เขาคิดว่าเขาดูหล่อเหลาและพูดกับหลี่ซูเอ๋อร์“นี่สุดสวย ดูฉันทุบตีและกระทืบมันจนตาย.”

“วู้ววว!”

ฝูงชนที่อยู่ในจตุรัสกลายเป็นสับสน.

คนแรกที่ตระกูลซูส่งมาเป็นคนของนิกายเมฆคราม ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเอ็นดูด้วยตัวเอง.

เป็นที่ชัดเจนว่า...

เฉินซ่งต้องการทำลายเหล่าสาวกทุกคนในตระกูลลั่ว.

เขาต้องการที่จะโอ้อวดต่อหน้าหลี่ซูเอ๋อร์ ครั้งแรกที่เขาได้เห็นหลี่ซูเอ๋อร์หัวใจของเขาก็ได้ตกหลุมรักเธอ.

ซูซางเฟยรู้สึกไม่พอใจ.

โอกาสอันดีที่เขาจะได้เปิดตัวถูกเฉินซ่งวิ่งนำไปก่อน มันทำให้เขาไม่พอใจ.

เขาอยากจะโอ้อวดต่อหน้าหลี่ซูเอ๋อร์ ด้วยการทำให้ลั่วเทียนอยู่ใต้ฝ่าเท้า เขาต้องการให้ลั่วเทียนคุกเข่าเบื้องหน้าเพื่อเป็นการบอกว่าไอ้ขยะนี่มีดีแค่ปากเท่านั้น.

สิ่งที่เขาต้องการคือการชนะ เพื่อให้หลี่ซูเอ๋อร์เห็นว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน.

แต่...

หลี่ซูเอ๋อร์ไม่แม้แต่จะสนใจเฉินซ่งแม้เพียงครั้งเดียว.

ลั่วเทียนขมวดคิ้วและพูดเบาๆ “ผู้นำซู คนนี้คงไม่ใช่สาวกตระกูลซูใช่มั๊ย? เกิดอะไรขึ้น? ท่านกลัวตระกูลลั่วของเขาจนต้องยืมกำลังคนอื่น?”

การบ่มเพาะของเฉินซ่งแข็งแกร่งอย่างมาก.

เขาอยู่ในระดับที่สูงกว่าเฉินหวู่ ด้วยปราณเชี่ยวชาญระดับ 8 ไม่มีใครสักคนเดียวในตระกูลลั่วที่จะก้าวไปถึงขั้นนั้นในรุ่นเยาว์.

ยิ่งไปกว่านั้นลั่วเทียนก็ไม่คิดว่าตระกูลซูจะนำสาวกนิกายเมฆครามเข้ามาร่วมด้วย.

ปราณเชี่ยวชาญระดับ 8 ศิษย์หลักของนิกายเมฆครามที่แท้จริง.

การบ่มเพาะของเขาแข็งแกร่งกว่าคนที่อยู่ระดับ 8 ด้วยกัน นอกเหนือจากลั่วเทียนแล้วก็ไม่มีใครในตระกูลลั่วที่ต่อสู้กับเขาได้...

หัวใจของลั่วเทียนกลายเป็นบีบรัด.

ฟางเล่ยก้าวออกมาและพูด“นายท่าน ให้ข้าไปเอง.”

ลั่วเทียนมองเจ้าอ้วนและพูด “การบ่มเพาะของเขาอยู่ในระดับ 8 ปราณเชี่ยวชาญ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน ข้ากลัวว่า…”

ฟางเล่ยเกาหัวอย่างโง่ๆและพูดว่า“ข้ายังคงต้องการลอง.”

จากช่วงหลังของการฝึกพิเศษจนถึงตอนนี้ ฟางเล่ยไม่เคยแสดงพลังของเขา ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของลั่วเทียนทำให้เขาดูดซับแก่นโลหิตได้อย่างราบรื่น เขาเพียงแค่เก็บและดูดซับพลังของเขาจะถึงขั้นไหน? ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้.

การบ่มเพาะของเฉินซ่งอยู่ที่ระดับ 8 ขณะที่ฟางเล่ยอยู่ที่ระดับ 6.

ช่องว่างระหว่างการบ่มเพาะห่างกันราวเป็นหมื่นๆไมล์ ไม่มีทางไหหปนที่ฟางเล่ยจะเอาชนะระยะทางดังกล่าวได้ แต่เขาก็ยังต้องการลองดู.

เขาอยากจะรู้ว่าเขามีพลังมากแค่ไหน.

เขาต้องการทราบว่าเขายังมีคุณสมบัติที่จะเดินตามลั่วเทียนหรือไม่.

อย่างไรก็ตาม...

ฟางเล่ยก็เข้าใจว่าลั่วเทียนไม่อาจส่งคนที่มีความสามารถออกไปได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการกระโดดขึ้นไปแทน เขาเดินออกไปโดยไม่คำนึงอะไร!

นี่คือฟางเล่ย เจ้าอ้วนที่โง่และซื่อ!

ลั่วเทียนมองไปที่ฟางเล่ยอย่างจริงจังสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดกว่า“ระวังตัวด้วย!”

ฟางเล่ยยิ้มอย่างโง่ๆ“แน่นอน.”

ชุนชุนกำหมัดเล็กๆของเธอและทำท่าทางจริงจัง จากนั้นเธอก็หัวเราะคิดคัก“พี่อ้วน หักขามัน! ชุนชุนเชื่อว่าท่านจะชนะแน่นอน.”

หลี่ซูเอ๋อร์พูด“เจ้าอ้วน ชายคนนี้พยายามที่จะขโมยเจ้าสาวต่อหน้านายท่านของท่าน ดังนั้นท่านยังไม่ไปสอนบทเรียนให้มันดีๆอีก? ถ้าท่านไม่อาจชนะได้อย่าตำหนิน้องสาวหากว่าไม่สุภาพกับท่าน.”

หลังจากบอกอย่างนั้นแก้มของเธอก็เริ่มแดงระเรื่อ.

ลั่วเทียนหันไปมองหลี่ซูเอ๋อร์ เขาไม่อาจพูดได้ว่าสำลักความสุข.

หลี่ซูเอ๋อร์จ้องมองไปที่ลั่วเทียนและกล่าวว่า“ท่านมองอะไร? นี่จะถือว่าเป็นรางวัลล่วงหน้าของท่าน ฮึ่ม!”

“เมื่ออ้างว่าเป็นน้องสาวตามกฏหมายนี่เป็นรางวัลแล้ว สิ่งที่เป็นรางวัลคืนนี้หล่ะ?”ความคิดชั่วร้ายได้ปรากฏขึ้นในใจของลั่วเทียน...ความคิดชั่วร้ายอย่างมาก.

“หักขามันเจ้าอ้วน!”

“พี่อ้วน ทุบมันให้ตาย!”

“พี่อ้วนท่านต้องชนะ!”

เหล่าสาวกของตระกูลลั่วเชียร์เสียงดัง.

สาวกของตระกูลซูมองมาด้วยความรังเกียจและเริ่มหัวเราะเยาะเย้ย.

“ไม่มีใครในตระกูลลั่วจะออกมา? พวกเขาส่งคนรับใช้มา? พวกเขาไม่กลัวที่จะหัวเราะจนหัวทิ่มงั้นเรอะ?”

“ความแข็งแกร่งของตระกูลลั่วเป็นคำพูดที่แหลมคม.”

มีคนได้ยินเสียงเยาะเย้ยและล้อเลียน ใบหน้าของฟางเล่ยยังคงสงบและเดินไปเบื้องหน้าทีละก้าวๆ.

ซูเหยาซงยิ้มและมองไปที่ลั่วเทียนที่อยู่ไม่ไกลออกไป“ลั่วเทียน ข้าได้ยินว่าเจ้าต้องการเดิมพันพื้นที่บางส่วน อย่างงั้นเจ้าวางแผนที่จะใช้ตระกูลลั่วเดิมพันหรืออย่างไร?”

ซูเหยาซงมีใบหน้าที่หยิ่งอยู่บนหน้าของเขา.

ลั่วเทียนยิ้มน้อยๆ“ข้าสงสัยว่าพื้นที่ไหนที่ผู้นำซูหมายตาอยู่?”

ซูเหยาซงพูดทันที “คฤหาสน์ตระกูลของตระกูลลั่วก็ไม่เลวนัก? ลั่วเทียนเจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่?”

สิ่งแรกที่ต้องการคือคฤหาสน์ของตระกูลลั่ว!

เรื่องนี้ทำให้สาวกตระกูลลั่วไม่อาจทนได้อีกต่อไปขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ซูเหยาซง.

ลั่วเทียนยิ้มและพูด“ไม่เป็นไร ข้ายังแอบหมายตาพื้นที่ในตระกูลซูของเจ้า ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าเจ้าจะเอามันออกมาเดิมพันหรือไม่”

ซูเหยาซงไม่ได้คาดหวังว่าลั่วเทียนจะเห็นด้วยอย่างง่ายๆ ในใจเขาคิดว่าเมื่อได้รับแล้วความสนุกมันจะมากมายแค่ไหน เมื่อเขาขับไล่คนของตระกูลลั่วออกจากคฤหาสน์บรรพบุรุษของตระกูล เขาตอบทันที“มีอะไรที่ข้าไม่กล้า?เพียงแค่บอกข้าตรงๆ เจ้าต้องการคลังยาหรือคลังอาวุธปราณของเรา?”

ลั่วเทียนส่ายหัวและกล่าวว่า“ข้าหมายตาหลุมศพบรรพบุรุษของตระกูลซู ดังนั้นเราจะเอาที่นั่นมาพนัน.”

“ลั่วเทียน!”

“ไม่มีความเกรงใจบ้างเลยรึ ไอ้สารเลว!”ซูเหยาซงทำหน้าเหมือนกับแมวที่โดนเหยียบหาง เขาลุกขึ้นจากที่นั่งและตะโกนด่า.

ลั่วเทียนไม่มีร่องรอบของความเสียใจและปฏิเสธตรงๆ“บิดาคนนี้เป็นคนที่เกรงใจคนอยู่แล้วไม่เหมือนไอ้สวะอย่างเจ้า? เจ้ากล้าที่จะเดิมพันหรือไม่? ถ้าไม่ก็หุบปากได้แล้วไอ้สารเลว!”

“ข้าจะเดิมพัน!”

ไม่รอให้ซูเหยาซงตอยกลับซูซางเฟยตอบแทนทันที.

ใบหน้าของซูเหยาซงเปลี่ยนไป จะทำให้หลุมศพของบรรพบุรุษของตระกูลเสียไปได้อย่างไร?

ซูซางเฟยกระซิบ“ท่านลุง เจ้าอ้วนนี่อยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญระดับ 2 เท่านั้นและไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินซ่ง ไม่ต้องกังวล แน่นอนว่าเราจะชนะในรอบนี้ เพียงแค่รอจนกว่าเราจะขับไล่คนเฒ่าคนแก่ออกจากพื้นที่ของตระกูลลั่วทุกคนที่ออกมาข้าจะฆ่ามันทีละคน เราจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาจะพินาศก่อนที่มันจะสิ้นสุดลงบนถนน!”

ซูเหยาซงยิ้มอย่างพอใจและดู“ได้!”

ทันทีหลังจากนั้น...

ซูเหยาซงระงับความโกรธในหัวใจและตะโกน“ข้าจะพนันกับเจ้า!”

ลั่วเทียนหัวเราเสียงดัง“ซูเหยาซง หนอ ซูเหยาซง เจ้าเป็นผู้นำตระกูลซูจริงๆไม๊เนี่ย? เจ้าใช้หลุมศพบรรพบุรุษในการเดิมพัน? เจ้าไม่กลัวผีบรรพบุรุษของเจ้ามาหาคืนนี้? เจ้าไม่กล้วคนในเมืองหัวเราะเจ้า? เฮ้อ ข้าลืมไปใบหน้าของเจ้ามันหนายิ่งกว่ากำแพง ดังนั้นคนทั้งเมืองหัวเราะก็ไม่อาจทำอะไรเจ้าได้ 555…”

“555…”

ฝูงชนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง.

เขาแพ้ให้กับกับดักของลั่วเทียนในเวลาเดียวกัน เปลวไฟแห่งความโกรธของซูเหยาซงที่มอดไปแล้วก็กลับมาปะทุอีกครั้ง.

ใบหน้าของซูเหยาซงเปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนที่จะเป็นสีขาว เขาโกรธจนไม่อาจพูดอะไรได้.

ซูซางเฟยมองอย่างดูถูกบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะพูดว่า“ลองดูว่าเจ้าจะอยู่เฉยได้อีกนานไหม.”

โลกนี้ไม่ใช่ลิ้มที่แหลมจะทำให้เจ้าแข็งแกร่ง ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเจ้า!

ซูซางเฟยมองไปที่เฉินซงที่เวที“น้องเฉิน ฆ่าเขา!”

มุมปากของเฉินซ่งยกขึ้นอย่างบิดเบี้ยวขณะพูดว่า“ไม่ต้องห่วง ข้าจะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นศพในสามกระบวนท่า!”

“น้องสาวเจ้า! หยุดพูดมากได้แล้ว!”

“ถ้าเจ้ามีความกล้า ข้าจะกระทืบเจ้าเอง!”

ฟางเล่ยกำลังจะระเบิด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด