ตอนที่แล้วตอนที่ 33 - อยากตายหรือมีชีวิตรอด?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 - เรือที่เร็วที่สุดในโลกโจรสลัด

ตอนที่  34 - กลับไปยังอาณาจักรฝันร้าย


ไปทำภารกิจเสี่ยงตายในหนังกันเถอะ ตอนที่  34 - กลับไปยังอาณาจักรฝันร้าย

 

“อยากตายหรือมีชีวิตรอด?”

 

ได้ยินแบบนั้น ฮั่วซีก็ร้องห่มร้องไห้พลางพูดอ้อนวอนออกมาว่า

 

“ฉะ … ฉันต้องการที่จะมีชีวิตรอด! พี่หยาน ได้โปรดไว้ชีวิตฉัน! ฉันไม่ได้แตะต้องเหล่าลูกเรือฟูหยวนที่เป็นเหมือนดั่งครอบครัวของพี่เลยแม้แต่ปลายเส้นผม!” (กลุ่มหัวซาน เฟย์จับตัวพ่อบุญธรรมของชีหยานและลูกเรือฟูหยวนไปซ้อมเพื่อล่อให้ชีหยานออกมา)

 

ชีหยานตอบกลับทันทีว่า

 

“แน่นอนว่าฉันรู้ว่าแกไม่ได้แตะต้องพวกเขา ไม่อย่างนั้นแกตายไปเหมือนกับคนอื่นๆตั้งแต่โดนจับได้แล้ว … เอาล่ะ ฉันได้ยินมาว่าแกเป็นคนทำบัญชีให้กับเจ้าหัวซาน เฟย์ … บอกทุกอย่างที่แกรู้เกี่ยวกับมันมาซะ และหลังจากที่แกเล่าแล้ว ฉันจะถามเพื่อนที่นอนสลบอยู่ตรงนี้ของแกอีกที ถ้าพวกแกตอบไม่เหมือนกันแล้วล่ะก็ …”

 

ชีหยานยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะเว้นระยะคำพูดของเขา ซึ่งนั่นทำให้ฮั่วซีสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว มันจินตนาการถึงภาพศพของเหล่าสหายของมันที่ถูกทุบตีจนเลือดอาบหน้า ก่อนที่จะรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า

 

“ฉันจะบอก! ฉันจะบอกทุกอย่างที่รู้!”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ชีหยานได้เดินออกมาจากโรงงาน เมื่อเขารู้ข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการแล้ว และแน่นอนว่ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีก็คือ ฮั่วซีได้บอกถึงตู้เซฟที่ซ่อนอยู่ในห้องของหัวซาน เฟย์ ส่วนข่าวร้ายก็คือ เจ้าหัวซาน เฟย์ตอนนี้พึ่งถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าของ ‘กลุ่มภูติผี’ (มาเฟียใหญ่ในแถบพื้นที่ที่ชีหยานอาศัยอยู่) และยังมีกลุ่ม ‘แบล็คเดวิล’ คอยหนุนหลังมันอยู่อีกด้วย (มาเฟียใหญ่ในเวียดนาม)

 

แม้ว่าชีหยานจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพวกองค์กรใต้ดินเหล่านี้ แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงของกลุ่มภูติผีมาก่อน ถ้าเจ้าหัวซาน เฟย์มันกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มภูติผีจริงๆ มันจะมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นอย่างมาก และนั่นจะทำให้ชีหยานที่ต่อสู้เพียงลำพังอยู่ในสถานการณ์วิกกฤต!

 

กลุ่มภูติผีนั้นได้รับการฝึกฝนมาจากทหารของกลุ่มแบล็คเดวิลซึ่งเป็นทหารที่ปลดเกษียรของเวียดนาม (ทหารที่รบกับอเมริกาและจีนในช่วงปี 60 - 80) และยังมีข่าวลืออีกว่าพวกกลุ่มภูติผีได้ร่วมมือกลับเหล่าทหารที่ปลดเกษียรจัดตั้งโรงงานผลิตยาเสพติดและลักลอบนำเข้าข้างชายแดน

 

ในโลกแห่งความจริง ชีหยานยังไม่สามารถปลดล็อคการใช้งานสกิลติดตัว ความถึก ของเขาได้ เพราะฉะนั้นถ้าเขาต้องเผชิญกับทหารเวียดนามที่มีอาวุธปืนครบมือแถมยังหนุนหลังกลุ่มภูติผีอยู่ เขาจะสามารถเอาชนะ และทำลายองค์กรของพวกมันได้อย่างไร?

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชีหยานก็ตัดสินใจกลับไปยังเมืองซิเฉียว(เมืองที่ชีหยานอาศัยอยู่และอยู่ติดกับชายแดนเวียดนาม)

 

ชีหยานคิดว่าเจ้าหัวซาน เฟย์คงยังไม่รู้ว่าลูกน้องของมันถูกกำจัดจนหมดแล้ว และยังคงรอฟังข่าวดีอยู่ในเมืองซิเฉียว --- นั่นหมายความว่าเวลานี้คือเวลาที่มีโอกาสฆ่าเจ้าหัวซาน เฟย์มากที่สุด! ตามคำบอกเล่าของฮั่วซี มันบอกว่าหัวซาน เฟย์นั้นมีมือปืนคอยอารักขาอยู่ อย่างไรก็ตาม ชีหยานก็ต้องฆ่ามันในตอนนี้ให้ได้! เพราะโอกาสดีๆแบบนี้ คงไม่เกิดขึ้นอีก

 

หลังจากตัดสินใจได้ ชีหยานก็เริ่มวางแผนและรักษาบาดแผลของตน จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เมืองซิเฉียว

สวบ---!

 

เสียงมีดเสียบทะลุท้องของชายคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้เพราะถูกปิดปากด้วยมืออีกข้าง ชีหยานคิดว่าเสียงนี่มันช่างคล้ายกับเสียงเวลาที่เขาใช้มีดเสียบพุงปลาจริงๆ

 

หลังจากที่ชายที่ถูกเสียบเริ่มหยุดดิ้นรนขัดขืน ชีหยานก็ค่อยๆวางมันลงบนพื้นอย่างแผ่วเบา พลางจ้องมองร่างอันไร้วิญญาณของมันด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป

 

ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้

 

“ฟู่ววว…”

 

ชีหยานถอนหายใจออกมาเสียงดัง ตัวเขาในตอนนี้รู้สึกทั้งเสียใจผสมปนเปกับโชคดี เขาเข้ามาในเมืองซิเฉียวได้ราวๆ 10 นาทีแล้ว และเมื่อมาถึงเขาก็ตรงมายังบ้านของหัวซาน เฟย์ทันที พร้อมกับมีลูกน้องสองคนคอยต้อนรับเขา ซึ่งชีหยานก็จัดการพวกมันได้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากฆ่าลูกน้องทั้งสองคนแล้วชีหยานก็เริ่มค้นบ้านของหัวซาน เฟย์ และไปเจอกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว --- คนๆนี้คือแฮร์รี่ เป็นน้องชายของเมียหัวซาน เฟย์ มันทำกิจการรับเหมาก่อสร้าง ละมักจะใช้อำนาจของหัวซาน เฟย์ ให้ได้งานมาโดยมิชอบ!

 

แต่แฮร์รี่ก็เป็นแค่เพียงคนอ่อนแอ เมื่อถูกชีหยานเอามีดจ่อ มันก็บอกทุกอย่างที่ชีหยานต้องการจะรู้

 

ดูเหมือนว่าหัวซาน เฟย์ จะกังวลว่าชีหยานที่หลบหนีไปอาจจะมาทำร้ายครอบครัวของเขา เขาจึงออกไปข้างนอกเพื่อรวบรวมญาติๆและครอบครัวให้มาอยู่รวมกันในเมืองแห่งนี้ ซึ่งกว่าจะกลับมาก็น่าจะใช้เวลาอีกประมาณสองชั่วโมง

 

เมื่อชีหยานได้ข้อมูลที่ต้องการ เขาก็ใช้มีดเล่มนั้นแทงแฮร์รี่จนตาย ก่อนที่จะสำรวจพื้นที่รอบๆบ้านอย่างละเอียด และครุ่นคิดว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปดี

 

หัวซาน เฟย์จะต้องกลับมาพร้อมกับลูกน้องที่มีอาวุธปืนครบมือแน่ๆ ซึ่งถ้าชีหยานคิดจะสู้กับมันในเวลานี้คงเสี่ยงเกินไป …

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็สรุปได้ว่าสิ่งที่ต้องทำก็มีดังนี้

 

1 ฆ่าคนที่ยังซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังนี้ให้หมด

 

2 ปล้นบ้านของมัน เพื่อแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ

 

ในเมื่อพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปแล้ว … ก็ช่างมัน! อีก 10 ปีค่อยแก้แค้นก็ยังไม่สาย!!

 

ชีหยานจะกลับมาฆ่าหัวซาน เฟย์อีกครั้ง เมื่อเขาเข้าไปผจญภัยในหนังแล้วแข็งแกร่งมากขึ้น!

 

ในตอนนี้คงต้องถอนตัวก่อน เพราะไม่มีเหตุผลที่จะเสี่ยงแล้ว …

หัวซาน เฟย์ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องของเขาว่าให้รีบกลับมาที่บ้านโดยด่วน เมื่อมาถึงเขาก็พบว่าภายในบ้านเต็มไปด้วยซากศพและรอยเลือด! แต่หัวซาน เฟย์ไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น! เขาพุ่งตรงไปยังห้องนอนของเขาผ่านซากศพมากมายนอนกองอยู่บนพื้น แม้แต่ศพของแฮร์รี่เขาก็ไม่คิดจะชายตามอง!

 

และภาพที่เห็นก็ทำให้หัวซาน เฟย์ตัวแข็งค้าง! ตู้เซฟที่เก็บเงินค่าหัวของชีหยานจำนวน 500000 หยวนบุบบี้อยู่กลางพื้น พร้อมกับฝาปิดที่ถูกเปิดอ้าไว้ … ภายในตู้เซฟเกลี้ยงเกลาไม่มีอะไรเหลือราวกับถูกสุนัขที่หิวกระหายเลียจนสะอาด!

 

แน่นอนว่าเงิน 500000 น่ะไม่เท่าไหร่ … แต่ ‘ผงขาว’ ที่หนักกว่า 20 กก. ของเขาที่เก็บไว้ในตู้ก็หายไปด้วย! แต่แล้วเขาก็สังเกตุเห็นรอยผงสีขาวร่วงอยู่บนพื้น เป็นทางยาวไปถึงห้องน้ำ หัวซาน เฟย์เดินตามไป เขาได้เปิดประตูห้องน้ำออก --- และพบว่าภายในพื้นห้องน้ำเต็มไปด้วยผงสีขาวที่กระจัดกระจาย! แต่ส่วนมากนั้นถูกเทลงชักโครกเสียมากกว่า! หัวซาน เฟย์จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างว่างเปล่า .. ผงสีขาวพวกนี้คือเฮโรอีนบริสุทธิ์ 99%ที่เขารับมาขายต่อ!

 

ชีหยานเปิดตู้เซฟแล้วขโมยเงินไป เขาไม่ว่า แต่ถ้าไม่ต้องการเฮโรอีนก็ควรจะทิ้งมันไว้สิ! แต่ชีหยานกลับทำลายมันจนไม่สามารถนำไปขายต่อได้ … นั่นทำให้หัวซาน เฟย์ขาดทุนเป็นล้าน!

ชีหยานตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนรถประจำทาง และแน่นอนว่าเขาหาเสื้อตัวใหม่มาสวมแทนเสื้อตัวเก่าที่เต็มไปด้วยเลือดแล้ว ข้างกายเขามีกระเป๋าเอกสารวางอยู่ และภายในบรรจุเงิน 500000 หยวน!

 

หลังจากกลับมายังโลกแห่งความจริง ชีหยานก็ต่อสู้เสี่ยงตายจนได้รับบาดเจ็บหนักอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขานั้นช่างน่าอัศจรรย์! หลังจากพักผ่อนไม่กี่ชั่วโมง ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็เรียบเนียน ไร้ซึ่งรอยบาดแผล!

 

รถประจำทางคันนี้จะมุ่งหน้าไปที่ไหน … ชีหยานก็มิอาจรู้ได้ เพราะหลังจากเขาขึ้นมาบนรถแล้ว เขาก็โยนเงินให้คนขับไปร้อยหยวน และบอกว่าต้องการไปให้ไกลที่สุดที่รถคันนี้จะไปได้ --- เนื่องจากชีหยานรู้ดีว่าศัตรูของเขาคงอาฆาตเขาจนต้องตามมาล้างแค้นแน่ๆ เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือหนี! หนีไปให้ไกลที่สุด ไปยังสถานที่ๆไม่มีใครรู้จัก!

 

และหลังจากนั้นก็ค่อยหาวิธีไปสมทบกับพวกลุงต้าซี …. (พวกหัวซาน เฟย์นอกจากไล่ล่าชีหยานแล้ว พวกมันยังจับตัวลุงต้าซี และลูกเรือฟูหยวนมาเพื่อล่อชีหยานอีกด้วย และระหว่างนั้นก็ทำร้ายร่างกายพวกเขา แต่สุดท้ายลุงต้าซีและลูกเรือก็สามารถหลบหนีขึ้นเรือฟูหยวนออกไปได้)

วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป

 

ชีหยานได้ขึ้นรถประจำทางคันแล้วคันเล่า จนในที่สุดเขาก็มาถึง เกาะเล็กๆเกาะหนึ่งที่อยู่ทางตะวันออกของมลฑลกวางตุ้ง เกาะนี้มีชื่อว่า เกาะฟานฉาน (เกาะงู) เดิมทีแล้วเกาะนี้เป็นแหล่งตกปลา ส่วนเจ้าของก็ทำไร่ทำสวนอยู่บนเกาะ

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าของเกาะกลับล้มละลาย และเขาได้ตัดสินฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงไปในทะเล ซึ่งผู้คนได้เล่าต่อๆกันมาว่าที่เจ้าของล้มละลาย สาเหตุก็เพราะเกาะๆนี้นั้นรูปร่างเหมือนงู และมันไม่ดีต่อฮวงจุ้ย! --- สุดท้ายเกาะนี้จึงกลายเป็นเกาะร้าง

 

ชีหยานและลูกเรือฟูหยวนเจอเกาะนี้โดยบังเอิญ ในวันที่พวกเขาออกไปหาปลาแล้วเกิดพายุ จึงจอดเรือที่เกาะนี้เพื่อความปลอดภัย และจากนั้นมาเกาะแห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ลับของพวกเขา

 

ซึ่งจากที่ชีหยานลองคำนวนดู หลังจากที่ลุงต้าซีและเหล่าลูกเรือขับหนีการตามล่าของหัวซาน เฟย์มา มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะมาหลบซ่อนตัวที่นี่

 

เกาะฟานฉานอยู่ห่างจากชายฝั่งราวๆ 2 - 3 กม. และเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ชีหยานจึงรอให้ถึงช่วงเวลากลางคืน แล้วจึงว่ายน้ำข้ามไปยังเกาะฟานฉาน --- แต่เมื่อมาถึงเขาก็ต้องผิดหวัง เพราะกระท่อมบนเกาะที่เขาและลูกเรือฟูหยวนสร้างไว้ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยฝุ่น .. นั่นหมายความว่าลุงต้าซีและลูกเรือฟูหยวนไม่ได้มาที่นี่

 

แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ ครั้งล่าสุดที่จอดเรือฟูหยวนที่นี่ พวกเขาได้ทิ้งข้าวสารและอาหารแห้งเอาไว้ส่วนหนึ่ง แถมภายในเกาะก็ไม่ขาดแคลนน้ำจืดให้ดื่มกิน ชีหยานจึงตัดสินใจรอลุงต้าซีและลูกเรือฟูหยวนอยู่ที่เกาะแห่งนี้

วันเวลาล่วงเลยไปเกือบครึ่งเดือน  ระหว่างที่เฝ้ารอลุงต้าซีและลูกเรือฟูหยวน ชีหยานก็ได้ฝึกซ้อมฝีมือเพื่ออัพค่าสเตตัสไปด้วย

 

จนวันหนึ่ง ในขณะที่ชีหยานกำลังปลอมตัวเข้ามาในเมืองที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อซื้ออาหารกลับไปยังเกาะฟานฉาน  รอยสักตรงหน้าอกเขาก็เริ่มร้อน พร้อมกับเสียงของระบบฝันร้ายได้ดังขึ้น!

 

[กรุณากลับไปยังอาณาจักรฝันร้ายภายใน 24 ชั่วโมง]

 

ได้ยินแบบนั้นชีหยานก็สูดหายใจลึก เมื่อรู้ว่าตัวเขาจะได้ไปเสี่ยงตายในหนังอีกครั้ง! ตัวเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความปรารถนา!

 

ชีหยานได้เดินเข้าไปห้างสรรพสินค้า ก่อนที่จะหันซ้ายหันขวา เมื่อพบว่าไม่มีคนเขาก็รีบเข้าไปยังบันไดหนีไฟทันที จากนั้นเขาก็ได้บอกระบบฝันร้ายว่าพร้อมแล้ว

 

ทันใดนั้น ได้เอง ทุกอย่างพลันมืดมิด --- ก่อนที่จะปรากฏบันไดลึกลงไปจนไม่เห็นปลายทาง พร้อมกับแสงไฟสีแดงที่อยู่บนเพดานเหมือนดั่งเช่นในตอนที่เขากลับมาในโลกแห่งความจริง ชีหยานเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็เห็นประตูที่เหมือนกับประตูลิฟต์ในตอนที่เขาเข้าไปเพื่อออกจากอาณาจักรฝันร้าย

 

และก่อนที่เขาจะเข้าไป ระบบฝันร้ายได้รายงานค่าสเตตัสใหม่ของเขาอีกครั้ง

 

[ความแข็งแรง 11 แต้ม (10+1)]

 

[ความว่องไว 8 แต้ม (7+1)]

 

[ร่างกาย 16 แต้ม (14+1+1) ]

 

[ลางสังหรณ์ 13 แต้ม (12+1)]

 

[สเน่ห์ 8 แต้ม (6+1+1)]

 

[สติปัญญา 6 แต้ม (5+1)]

 

[พลังวิญญาณ 5 แต้ม (4+1)]

 

หลังจากที่ดูค่าสเตตัสที่เพิ่มขึ้น ชีหยานก็ก้าวออกจากประตู

 

เมื่อเข้ามายังอาณาจักรฝัน ชีหยานก็พบว่าตัวเขาในตอนนี้อยู่กลางจตุรัส และข้างๆเขามีคนกลุ่มหนึ่งเขากำลังถกเถียงกันอยู่หน้าร้านขายของ --- ชีหยานจึงเดินเข้าไปดูว่าเขาเถียงอะไรกัน และในที่สุดเขาก็รู้เหตุผล

 

เพลเยอร์สองกลุ่มเถียงกันแย่งซื้อไอเท็มระฆังเงินโบราณ และต่างฝ่ายต่างเสนอราคาเกทับอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ในขณะที่เพลเยอร์ที่ตั้งร้านกำลังยิ้มแก้มแทบปริ เนื่องจากทำกำไรได้มากมายจากเพลเยอร์สองกลุ่มนี้ --- บรรยากาศรอบๆเพลเยอร์ทั้งสองกลุ่มเริ่มมาคุ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่เป็นเซฟโซน และมีระบบฝันร้ายคอยดูแล พวกเขาคงสู้กันเยื่อแย่งชิงไอเท็มชิ้นนี้แล้ว

 

แต่เรื่องที่พวกเขาแย่งชิงไอเท็มกัน ชีหยานไม่สนใจ เขาแค่ยืนอยู่บริเวณนั้นเพื่อแอบฟังบทสนทนาของทั้งสองกลุ่ม

 

“5000 แต้มฝันร้าย กับอีก 10แต้มฝึกฝน!”

 

“5500 แต้มฝันร้าย กับอีก 11 แต้มฝึกฝน!”

 

“ไอ้บ้าเอ๊ย! ระฆังเงินชิ้นนี้ใช้โจมตีได้แค่พวกธาตุมืด แถมยังใช้ได้อีกแค่ 5 ครั้ง ทำไมพวกแกถึงอยากได้มันนักวะ?”

 

“ต้องขออภัยด้วย นั่นก็เพราะหนังเรื่องต่อไปที่ฉันจะไปผจญภัยนั้น ต้องต่อสู้กับพวกสิ่งมีชีวิตธาตุมืด ดังนั้นต่อให้มันราคาแพงแค่ไหน แต่ฉันก็คิดว่ามันคุ้มค่า”

 

“...”

 

“...”

 

ถึงแม้พวกเขาจะเถียงกันอีกหลากหลายประโยค แต่ประโยคที่ชีหยานจำได้อย่างแม่นยำนั้นมีเพียงประโยคเดียว

 

‘ต้องขออภัยด้วย นั่นก็เพราะหนังเรื่องต่อไปที่ฉันจะไปผจญภัยนั้น ต้องต่อสู้กับพวกสิ่งมีชีวิตธาตุมืด ...’

 

ทำไมพวกเขาถึงรู้ว่าหนังเรื่องต่อไปที่พวกเขาจะไปผจญภัยจะต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตธาตุมืดล่ะ?  หรือว่าจะมีวิธีที่จะสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าเราจะไปผจญภัยในหนังเรื่องอะไร? ถ้าอย่างนั้นเราก็สามารถไปดูหนังเรื่องนั้นมาก่อนหรือไม่ก็หาสปอล์ยอ่าน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวได้ถูกน่ะสิ!! ถ้าแบบนั้นมันก็สามารถเพิ่มโอกาสรอดได้มากขึ้น!!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด