ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 8 : วีรบุรุษแห่งแจ๊คสัน (3) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 9 : กลับไปยังกิรันอีกครั้ง (2) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 9 : กลับไปยังกิรันอีกครั้ง (1) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 9 : กลับไปยังกิรันอีกครั้ง (1)

“เฮ้ ฮยอนอู ทางนี้”

ขณะที่เขาเข้ามาในร้านคาเฟ่ จีวอนฮวารังจึงโบกมือให้จากอีกด้านหนึ่ง จุงฮเยซอนเองก็นั่งอยู่ข้างจีวอนฮวารังเช่นเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งพบกันได้ไม่นาน แต่กลับไม่มีท่าทีอะไรที่น่าอึดอัดระหว่างพวกเขาเลยสักนิดเดียว

ก็นะ หลายคนต่างยิ่งใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นหลังการการออกล่าด้วยกัน กระทั่งว่าต้องอยู่ร่วมในเกมด้วยกันหลายวัน อีกทั้งยังได้สนุกไปด้วยกันผ่านทางตัวละคร จีวอนฮวารังและจุงฮเยซอนเองก็ใช้เวลาเกือบเดือนร่วมกันผ่านทางตัวละครที่มีรูปลักษณ์คล้ายตัวจริงผ่านทางเกมเสมือนจริงอยู่แล้ว ดังนั้นแล้วจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเกิดความเคอะเขินขึ้น

“ที่เรียกออกมานี่เนื่องในโอกาสอะไรหรือเปล่าครับ?”

“เป็นเพราะพวกเราไม่มีเวลาพูดคุยกันในเกมมากนักยังไงล่ะ”

“นั่นก็จริงครับ”

ฮยอนอูพยักหน้าขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“เกมนี้คุ้มค่าไหมครับที่ได้เล่น?”

“อา นี่มันก็น่าอายอยู่บ้างนะ ฉันโกรธแทบตายแน่ะที่ไม่รู้จักอะไรแบบนี้จนกระทั่งถึงตอนนี้เนี่ย”

“แล้วเธอล่ะฮเยซอน?”

“ก็สนุกนะคะ แต่ฉันก็โมโหตัวเองเหมือนกันที่ไม่มีเวลาว่างไปเล่นมากนัก”

“นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แหละนะ ยังไงแล้วชีวิตจริงย่อมสำคัญยิ่งกว่าเกม เธอก็ต้องเรียนด้วย พูดตามตรงนะ เธอกระทั่งไม่มีเวลาเหลือพอให้อ่านหนังสือเตรียมสอบเลยด้วยซ้ำใช่ไหม? ที่จริงเธอคิดอยากเพิ่มเลเวลตอนไหนก็ได้ ทั้งคุณจีวอนกับฉันก็พร้อมช่วยเสมอ เพราะฉะนั้นตั้งใจเรียนก่อนเถอะ เข้าใจนะ? มีโอกาสได้เรียนก็จงเรียนให้คุ้มค่าเสีย”

“เชอะ พูดอย่างกับคนแก่แน่ะ...” จุงฮเยซอนเม้มริมฝีปาก ทว่ากลับไม่คล้ายมีอาการใดที่ไม่พอใจคำพูดของฮยอนอูแม้เลยสักนิด “แล้วต่อจากนี้พี่จะทำอะไรเหรอคะ?”

“อืม ก็คิดอยู่เหมือนกัน คิดว่าคงต้องไปหาที่ไหนสักที่ที่น่าจะดีหน่อยและเริ่มเพิ่มเลเวลให้มากขึ้น พี่รู้สึกได้ถึงความอ่อนแอของตัวเองในช่วงที่ทำภารกิจอีเวนท์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะในโลกจริงหรือว่าโลกเสมือนจริงก็ตาม พี่ไม่อาจยืนหยัดโดยที่อ่อนแอกว่าผู้อื่นได้ เพราะว่าความยุติธรรมจะได้รับมาก็ต่อเพื่อมีพละกำลังที่มากพอยังไงล่ะ”

“พี่นี่ก็เป็นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะ”

“เส้นทางแห่งการทำงาน ผู้คน แล้วก็เกม! ทั้งหมดนี่สิถึงจะสมเป็นลูกผู้ชาย!”

ความกระตือรือร้นฉายวาบผ่านออกมาจากดวงตาของจีวอนฮวารัง มันเป็นสายตาที่ฮยอนอูไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว และนี่เป็นอีกครั้งที่ได้เห็น เขาคิดว่าในนิวเวิลด์นั้น จีวอนฮวารังสมควรเล่นต่อไปได้ด้วยดีเลยทีเดียว

“ถ้าหากคิดจะอยู่ที่แจ๊คสันต่ออีกสักระยะเวลาหนึ่ง เมื่อล็อคอินเข้าไปแล้ว ไปพบท่านลอร์ดด้วยนะครับ”

“ท่านลอร์ด?”

“ครับ ท่านลอร์ดบอกว่าต้องการพูดคุยกับพวกคุณหลายเรื่อง พยายามทำความคุ้นเคยกับเขาเอาไว้ ยกระดับความสัมพันธ์กับเอ็นพีซีอย่างท่านลอร์ดจะช่วยเรื่องในเกมได้มากมายเลยทีเดียวครับ”

ฮยอนอูหัวเราะออกที่ได้เห็นสีหน้าของจีวอนฮวารังเผยความงุนงง หลังจากนั้น เขาจึงร่วมทานมื้อเย็นกับจุงฮเยซอนและจีวอนฮวารัง ไปที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงค่อยกลับไปบ้าน ถึงตอนนี้มันก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว เมื่อเขากลับมาจึงเดินเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ของตนเองและเข้าสู่เว็บไซต์การประมูลแทบจะในทันทีที่มาถึงบ้านเลยทีเดียว เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าผลลัพธ์ของการประมูลไอเทมที่เขาเพิ่งส่งเข้าไปจะออกมาเช่นไร

 

=====

การประมูลเสร็จสิ้น ถุงมือแห่งพลัง : 750,000 วอน

การประมูลอยู่ระหว่างดำเนินการ ใช้เวลาไปแล้ว 7 ชั่วโมง อัคคีสังหาร : 6,800,000 วอน

======

 

‘หกล้านแปดแสนวอน!’

เขาแทบรู้สึกคล้ายลมหายใจโดนพรากเอาไป

ถุงมือแห่งพลังเป็นเขาตั้งเวลาประมูลเอาไว้ว่าจะเสร็จสิ้นภายในหกชั่วโมง และการเสนอราคาครั้งสุดท้ายจบสิ้นที่ราคาเจ็ดแสนห้าหมื่นวอน เขาคิดว่ามันสมควรได้สักแปดแสนวอนด้วยซ้ำไป แต่จำนวนมันกลับน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้พอสมควร ทว่า กับสิ่งของอย่างตะบองระดับยูนีคที่เขาตั้งเวลาการประมูลเอาไว้ถึงเจ็ดสิบสองชั่วโมง มันกลับเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ ด้วยเวลาเพียงแค่เจ็ดชั่วโมงเท่านั้น ราคาของมันกลับมากมายมหาศาลยิ่งนัก เขาคิดว่ามันสมควรขายได้ในราคาที่สูงเพราะเป็นสิ่งหายากอย่างอาวุธระดับยูนีค แต่ราคาที่พุ่งทะยานสูงขึ้นไปถึงหกล้านแปดสอนวอน ด้วยเวลาเพียงแค่เจ็ดชั่วโมง ทั้งที่เวลาประมูลจริงมีมากถึงเจ็ดสิบสองชั่วโมง มันยังคงเหลือเวลาอีกหกสิบห้าชั่วโมงกว่าการประมูลจะจบลง พอได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เขาจึงคาดคิดว่าราคามันสมควรเกินกว่าสิบล้านวอนได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ด้วยเงินจำนวนขนาดนั้น มันเพียงพอที่จะให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้ถึงหนึ่งหรือสองเดือนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใดด้วยซ้ำไป

‘สิ่งนี้แทบไม่ต่างอะไรไปจากผลผลิตในครั้งแรกของเส้นทางเกมเมอร์ของเรา แต่เราก็จะหยุดเพียงแค่ตรงนี้ไม่ได้ ได้รับมาสำคัญก็จริง แต่เราไม่ได้เล่นเกมเพียงเพื่อได้รับสิ่งพวกนี้ ตอนนี้เรายังมีความคาดหวังต่อการทดสอบเข้าทำงาน เราเพิ่งส่งรายงานเรื่องได้รับอันดับหนึ่งในส่วนของผู้มีแต้มสะสมทัดเทียมอลันจากภารกิจอีเวนท์ไป ดังนั้นแล้วความก้าวหน้าของเราในโกลบอลเอ็กซอร์ทจึงนับได้ว่าขยับขึ้นไปอีกนิดแล้ว’

ภารกิจครั้งนี้เขาแทบเสี่ยงตายกระทำมัน ตอนนี้เมื่อได้รับความสบายใจมาส่วนหนึ่งแล้ว ทุกสิ่งที่เขาต้องทำต่อไปคือตั้งใจให้ดี ฮยอนอูไม่แทบไม่อาจกักเก็บความรู้สึกเปี่ยมล้นภายในใจเอาไว้ได้ เขามุ่งไปที่เครื่องเล่นโดยทันที

* * *

 

อาร์คออกมาจากปราสาทแจ๊คสันและมุ่งหน้าเข้าไปยังป่า

ถ้าหากเขาใช้งานหอคอยของสมาคมเวทมนตร์ในปราสาทแจ๊คสัน เขาจะสามารถเทเลพอร์ตตัวเองไปยังกิรันได้โดยทันที ที่จริงแล้ว เขาแทบทนไม่ไหวกับความอยากไปกิรันเพื่อตรวจสอบรางวัลที่ตนจะได้รับจากภารกิจอีเวนท์ในครั้งนี้ด้วยซ้ำ อีกทั้งเขายังจำเป็นต้องหาทางจัดการกับกระบวนการเปลี่ยนสัณฐานของเจ้างูโดยเร็วที่สุด ทว่า อาร์คก็ยังคงมีธุระอื่นที่จำเป็นต้องทำในพื้นที่แห่งนี้อยู่

 

=====

ราชทูตแห่งชาวเงือก

ราชินีแห่งชาวเงือกได้รู้สึกเสียใจกับความผิดพลาดครั้งอดีตและปรารถนาที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาวเหมียว สำหรับท่านที่มีค่าความสัมพันธ์กับทั้งชาวเงือกและชาวเหมียวแล้ว ท่านสมควรเป็นตัวแทนที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองเผ่าพันธุ์ให้กลับมาได้อีกครั้ง

ระดับความยาก : G

ความต้องการของภารกิจ : มีค่าความสัมพันธ์กับชาวเหมียวและชาวเงือกเกินกว่า 70%

=====

 

มันมีสถานที่ที่เขาจำเป็นต้องไปอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อจัดการภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจากราชินีชาวเงือกของนครใต้สมุทรโนเดเลส กล่าวตามตรง มันยังคงมีความยากลำบากแม้จะทำภารกิจได้เสร็จสิ้น เป็นเพราะเขาไม่อาจกลับไปรับรางวัลจากชาวเงือกได้ อย่างดีที่สุด เขาคงได้รับเพียงแค่ค่าประสบการณ์เพียงเล็กน้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมอาร์คจึงไม่คิดเร่งร้อนไปทำหลังได้รับภารกิจนี้มา ทว่า ซากโบราณสถานที่ชาวเหมียวใช้ชีวิตอยู่นั้นมันอยู่ไม่ห่างจากพื้นที่แจ๊คสันมากนัก ดังนั้นแล้วเขาจึงคิดว่าควรไปจัดการภารกิจครั้งนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนจากไปน่าจะดีกว่า

ครั้งแรกที่เขาไปยังซากโบราณสถานแห่งนี้เขาต้องขี่ม้าไป ผลลัพธ์ก็คือมันทำให้เขาคิดว่ามันอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่แล้วความจริงที่ต้องเดินไปนั้น มันจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียว แต่มันก็ไม่ใช่การเดินทางที่ยากลำบากอะไรนัก

‘เมื่อไม่นานมานี้แถวนี้คงดูน่ากลัวเอาเรื่อง’

พอนึกถึงเหตุการณ์ของภารกิจอีเวนท์ เขาต้องสู้ทั้งที่โดนหมอกมืดเข้าปกคลุมและกลืนกิน แม้ว่าจะทำให้เขาสามารถเพิ่มเลเวลมาได้ถึง 10 ระดับก็ตามที แต่ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนเหนื่อยล้า กระทั่งว่าเขาเป็นผู้เดินทางแห่งความมืด มันก็ยังไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะสลัดความคิดที่ต้องอยู่ภายในความมืดถึงสามวันในเวลาโลกแห่งความเป็นจริงออกไปจากหัวได้

อาร์คได้รับชมภูมิทัศน์อันยอดเยี่ยมของนิวเวิลด์ขณะเดินทางมุ่งหน้าไปยังซากโบราณสถาน แน่นอน อาร์คไม่คิดปล่อยให้มือของตนว่างแม้ว่ามันจะใกล้พังก็ตามที เขาไม่ลืมที่จะขุดรากถอนโคนป่าที่เดินผ่านทางเพื่อเก็บสะสมวัตถุดิบที่พบและรู้ว่าสามารถใช้งานได้ ส่วนใหญ่แล้วทักษะของเขาในตอนนี้ก็อยู่ขั้นกลางทั้งสิ้น การสะสมรวบรวมหรือการทำอาหารด้วยวัตถุดิบระดับต่ำมันไม่อาจช่วยยกระดับทักษะของเขาได้อย่างที่ควรจะเป็น ทว่า อาร์คที่หลังจากนี้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่การล่าเลเวลสูงแล้ว มันจึงเป็นเหตุให้วัตถุดิบเลเวลต่ำอาจหาได้ยากเย็นมากยิ่งขึ้น เขาจึงต้องเก็บสะสมวัตถุดิบเลเวลต่ำเอาไว้บ้างเพื่อเอาไว้ทำอาหารที่ปลอดภัยกับตนเอง ดังนั้นแล้วมันจึงดีกว่าถ้าหากเขาจะเก็บพวกมันเสียตั้งแต่ตอนนี้ที่ยังกระทำได้

กรร!

ขณะที่เขาคิดถอนป่าอยู่นั้นเอง ทั้งหมาป่าและสุนัขป่าโลกันตร์ต่างเผยตัวกันขึ้น ตอนนี้พวกมันได้กลายเป็นศัตรูที่แสนน่ารักไปเสียแล้ว การสังหารพวกมันแทบไม่อาจช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญทักษะได้แม้แต่น้อย สำหรับผู้เล่นที่มีเลเวลใกล้เคียงเท่าอาร์ค มันเป็นเรื่องง่ายดายที่คิดจะผ่านทางพวกมันไป ทว่า อาร์คนั้นแตกต่าง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ออกไปหามัน แต่เขาก็ไม่เคยคิดปล่อยผ่านมอนสเตอร์ที่โผล่เข้ามาอยู่ในสายตาของเขาไป

‘กระทั่งค่าประสบการณ์ 1 หน่วยก็ยังเป็นค่าประสบการณ์ และ 1 เหรียญทองแดงก็ยังคงเป็นเงิน!’

การรวบรวมแม้กระทั่งค่าประสบการณ์ 1 หน่วยก็ช่วยทำให้เลเวลเพิ่มขึ้นได้ และการประหยัด 1 เหรียญทองแดงมันก็สามารถกลายเป็นเหรียญทองได้ นั่นคือความตั้งใจที่แน่วแน่ของอาร์ค เช่นกัน มันก็ออกจะสนุกอยู่บ้างที่ได้ล่าพวกมอนสเตอร์เลเวลน้อยนิดเหล่านี้ ได้เห็นหมาป่าเสียพลังชีวิตไปถึง 60% เพราะเขาโจมตีเข้าเพียงครั้งเดียวก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าตนแข็งแกร่งมากแล้ว

การล่าถึงกับสะดวกสบายถึงเพียงนี้!

พวกมันไม่ได้ให้ค่าประสบการณ์ที่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็ทำให้สดชื่นขึ้นมาได้ และเมื่อเขาเดินผ่านป่าแห่งนี้ไปในภายหลัง พวกมอนสเตอร์ต่างก็หวาดกลัวจนหลบเลี่ยงเขากันหมด ขณะที่เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับการที่ต้องมาล่าพวกมัน ซากโบราณสถานก็เริ่มปรากฏขึ้นที่สุดปลายสายตา

‘หือ? ความรู้สึกมันออกจะแตกต่างไปบ้าง’

ซากโบราณสถานนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก จนทำเอาเขาสงสัยว่าตนมาถึงถูกที่ถูกทางหรือเปล่า ความมืดมัวที่เคยปกคลุมรอบซากโบราณสถานแห่งนี้ได้หายไปหมดสิ้นแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยความสว่างไสว อีกทั้งยังมีดอกไม้นานาชนิดที่ผลิดอกเบ่งบานอย่างอบอุ่น ดวงตะวันก็สาดแสงจนราวกับมันสามารถเปล่งประกายออกมาได้ เขาได้เห็นแมวจำนวนหนึ่งกำลังหยอกล้อกันเล่น บ้างก็นอนงีบหลับในแปลงดอกไม้ขนาดใหญ่นี้ อาร์คเริ่มเข้าไปใกล้เด็กสาวคนหนึ่งที่โดนแมวล้อมหน้าล้อมหลังเอาไว้

“ไม่เจอกันนานเลยนะจาน่า”

“โอ้? ไม่ใช่อาร์คหรอกหรือเนี่ย?”

ด้วยความยินดีที่ได้พบเจอ จาน่าเข้ามาใกล้ขณะที่หางเริ่มแกว่งไกว

“เธอสบายดีไหม?”

“ดีมาก ถึงมันจะไม่มีอะไรพิเศษออกไปก็เถอะนะ” จาน่าตอบกลับมาอย่างแจ่มใสขณะที่เริ่มใช้จมูกของเธอดมกลิ่นของเขา จากนั้นเธอจึงหัวเราะออกมาขณะมองอาร์คเสียใหม่

“อื้ม ก่อนหน้านี้นายยังเป็นเจ้าหนูอยู่เลย ตอนนี้กลิ่นกายกลับคล้ายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว อีกทั้งตอนนี้ยังกลายที่น่าดึงดูดเสียอีก ถ้ามีเวลาอยากไปออกเดตกับฉันหน่อยไหม?”

“ขอบคุณนะ แต่ฉันว่าไม่ดีกว่าน่ะ” อาร์คยิ้มเคอะเขินออกมา

ถ้าหากเลเวลหรือค่าชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น การตอบสนองของเอ็นพีซีก็จะแตกต่างกันออกไปบ้าง มันมีหลายครั้งที่เอ็นพีซีในหมู่บ้านแห่งใหม่จะเผยท่าทีรังเกียจถ้าหากทั้งเลเวลและชื่อเสียงของคุณมีเพียงน้อยนิด แต่เมื่อเลเวลของคุณสูงมากขึ้น พวกเขาจะมีท่าทีที่ดีราวกับเจอนักผจญภัยผู้เก่งกาจ จาน่าเองก็ตอบสนองต่อเลเวลของเขาที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน มันไม่ได้มีอะไรอื่นนอกไปจากนั้น กระนั้นแล้วก็ตาม เขาเองก็ไม่ได้เข้าตาจน ถึงกับขนาดที่จะต้องไปออกเดทกับเอ็นพีซีในตอนนี้

แน่นอน มันคงแตกต่างออกไปหากเป็นผู้งดงามอย่างจาน่าเข้าหาเขาในชีวิตจริงล่ะก็นะ...

ดังคาด จาน่าตอบกลับมาอย่างไม่ใยดีอะไรมากนัก “ว่าแต่ มีอะไรหรือเปล่า?”

“ผมอยากพบผู้อาวุโสน่ะครับ เขายังอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”

“ไม่หรอก หลังจากที่นายไปแล้ว พวกเราก็จัดการพวกมอนสเตอร์ในวิหารจนหมดสิ้น ดังนั้นแล้วตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยในวิหารอีก พวกเราตอนนี้ย้ายไปอยู่แถวทางด้านโน้นแทน”

“พอจะพาไปได้ไหม?”

“ได้สิ ตามมาเลย”

สถานที่ที่จาน่าพาเขามานั้นเป็นป่าที่อยู่ค่อนข้างไกลจากซากโบราณสถาน มันมีนักรบชาวเหมียวกว่าสิบห้าคนที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ พวกเขากำลังรวมตัวกันคล้ายทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ นักรบชาวเหมียวที่หมกมุ่นอยู่กับบางสิ่งอยู่นั้น พวกเขาไม่ทันได้ตระหนักด้วยซ้ำว่าอาร์คมา

ทว่า ก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาทำอะไรอยู่กันแน่ ร่างของชายที่ใหญ่โตคนหนึ่งเริ่มสั่นขณะที่กองไม้ขนาดเล็กจำนวนหนึ่งล้มลงจนยุ่งเหยิง กระทั่งเด็กยังมองออกได้ว่ากองไม้พวกนั้นค่อนข้างจัดวางได้ไม่ดีนัก ไม่ช้าพวกมันก็เริ่มร่วงลงมา

“อั่ก โธ่เว้ย! อย่างนี้ต้องกำจัด!”

“ฉันทนไม่ไหวแล้ว! เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยว!”

และเมื่อมันเกิดขึ้น หนุ่มสาวชาวเหมียวที่โกรธเกรี้ยวจะเริ่มขีดข่วนไม้แปรรูปพวกนั้นด้วยกรงเล็บ

“นั่นทำอะไรกันน่ะ?”

“อยากจะบอกว่า พวกเรากำลังจะสร้างบ้านกันอยู่น่ะ”

“ที่เห็นนี่ ฉันว่าพวกเธอกำลังเล่นกันอยู่นะ?”

“ที่ฉันจะบอกก็คือ...”

จาน่าถอนหายใจออกมาอย่างแรง “ชาวเหมียวเดิมทีเป็นนักรบแต่กำเนิด พวกเราสามารถสู้เป็นวันได้โดยไม่หยุดพัก ทว่าทักษะการก่อสร้างของพวกเราเลวร้ายมาก ด้วยเหตุนี้ นี่ก็เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่พวกเราพยายามสร้างบ้าน แต่ก็อย่างที่นายเห็น ฉันคิดว่ามันคงต้องใช้เวลาอีกสักสิบปีละมั้งนะ”

“งั้น แล้วก่อนหน้าที่จะติดอยู่ในซากโบราณสถานนั่นพวกเธออาศัยอยู่ยังไงกัน?”

“พวกเรามีสหายเป็นชาวมนุษย์ช่วยสร้างหมู่บ้านให้เราอยู่อาศัยกันน่ะ แต่ว่า เพราะพวกเราโดนขังมันเลยถูกทิ้งร้างเอาไว้เป็นเวลานาน ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้วด้วยซ้ำ มนุษย์ที่พวกเรารู้จักล้วนแล้วแต่ชราและสิ้นอายุขัยไปกันหมดแล้ว อีกทั้งพวกเรายังเป็นพวกเข้าสังคมได้น้อยอย่างรุนแรง เพราะงั้นแล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะไปขอให้มนุษย์ที่ไหนมาช่วยจนสุดท้ายต้องเป็นแบบนี้น่ะ”

“อาศัยอยู่ในโบราณสถานนั่นไม่ได้เหรอ?”

“มันไม่ใช่โบราณสถานนะ มันเป็นวิหาร อีกทั้งวิหารยังไม่ใช่สถานที่สำหรับพวกไร้บ้านให้ใช้พักอาศัย สำหรับฉันที่เป็นชาแมนก็สามารถอยู่ที่วิหารนั่นได้แหละ แต่ชาวเหมียวคนอื่นไม่อาจทำเช่นนั้น พวกเราจัดการมอนสเตอร์ภายในนั้นได้จนหมดแล้ว ดังนั้นถ้าหากพวกซกมกเหล่านี้เข้าไปขีดข่วนไปทั่ว มันจะแตกต่างอะไรจากก่อนหน้านี้กัน?” จาน่าบอกเล่าออกมาขณะเม้มริมฝีปาก

ดังนั้นแล้วเธอจึงพูดคล้ายไม่ใส่ใจนักถ้าหากชาวเหมียวที่ไม่อาจสร้างบ้านได้จะต้องนอนหลับในที่โล่งแจ้งก็ตาม ซึ่งที่จริงการนอนกลางแจ้งก็สมกับเป็นแมวดีแหละนะ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด