ตอนที่แล้วChapter 96: ใครที่สามารถหยุดฉันได้กัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 98: กระทิงหนึ่ง กระทิงสอง

Chapter 97: นี่มันความยุ่งเหยิงอะไรกันวะเนี่ย?


Chapter 97: นี่มันความยุ่งเหยิงอะไรกันวะเนี่ย?

“ลุงกระทิง คุณอยู่ที่นี่แล้ว! มันมีชายที่นั้นปลอมตัวเป็นลุงอยู่ และทำให้ชื่อของลุงนั้นเสีย…”ความทระนงตัวฟ้อง

ไร้ความกลัวและหวังหยู่นั้นพึ่งจะมาถึง

“นายพูดเหมือนกับว่าผู้คนพวกนั้นมีความประทับใจที่ดีกับพวกเราอย่างงั้นละ…”

“มันเป็นความผิดของไร้ความกลัว ผมไม่สามารถที่จะเชื่อไอ้โง่นี่ได้เลยที่ลากผมไปดื่มและซื้อของ.....มันมีผู้คนที่กำลังตายอยู่ทั่วทุกแห่งและเขาก็ยังคงมีอารมณ์ในการต่อราคาของอยู่อีก!”หวังหยู่ตอบกลับอย่างไม่อดทน

“ฮ่าๆ!”ไร้ความกลัวหัวเราะอย่างไม่แยแส

ผู้เล่นจากกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นหลบหนีออกมาทันทีเมื่อยามลาดตระเวนนั้นปรากฏตัว หวังหยู่นั้นตั้งใจที่จะฆ่าพวกเขาลง แต่เขาก็ถูกไร้ความกลัวลากไปดื่มในโรงเตี๊ยม

ในขณะที่เขานั้นอยู่ในโรงเตี๊ยม หวังหยู่ก็เห็นผู้เล่นกลุ่มแล้วกลุ่มเล่านั้นถาโถมออกไปนอกเมืองรัตติกาลเพื่อเข้าร่วมสงคราม แต่ไร้ความกลัวนั้นก็ยังต่อต้านอย่างดุเดือดว่าให้พวกเขานั้นดื่มเสร็จก่อนที่พวกเขาจะออกมา

“เหี้....อะไรวะ! ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ไอ้เหี้...กระทิงเหล็กเข้าไปในเมือง?”ผู้เล่นด้านนอกเมืองนั้นคำรามอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อพวกเขาเห็นหวังหยู่อยู่ด้านหน้าประตูเมือง

“ระวังคำพูดที่พูดไว้ดีๆนะ! เมื่อไหร่กันที่ผมไปยั่วยุพวกนาย?”หวังหยู่นั้นถมึงตาใส่ฝูงคนเมื่อเขาโต้เถียงกลับไปอย่างโกรธเคือง

“นาย….”ใครบางคนนั้นกำลังจะตอบกลับเขา แต่ผู้เล่นด้านหลังเขาก็จับไปที่ไหล่ของเขา ในขณะที่ใบหน้าของเขานั้นแสดงออกมาถึงความไม่เชื่อ ผสมไปกับความกลัวและความตกตะลึง

เมื่อผู้เล่นคนนี้หันหัวกลับไป เขาก็เห็นความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นกำลังพุ่งมาหาเขาในขณะที่เขานั้นกวาดล้างและสังหารทุกคนที่กำลังขวางทางเขาอยู่

“หื้อ? เทพเจ้ากระทิงเหล็ก มันมีใครบางคนที่กำลังเลียนแบบคุณอยู่โน่น เขานั้นฆ่าพี่น้องไปหลายสิบคนแล้ว

ผู้เล่นคนอื่นนั้นก็รีบหันหัวกลับไปเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดสองคำ “กระทิงเหล็ก” เพียงแค่หลังจากนั้นที่พวกเขาตระหนักได้ว่า ‘กระทิงเหล็ก’ ที่ฆ่าเพื่อนของพวกเขานั้นไม่ได้มากไปกว่าของปลอมราคาถูก

“ถูกแล้ว ถูกแล้ว เทพเจ้ากระทิงเหล็ก ชายคนนั้นแม่งดุร้ายมากเกินไปจริงๆ! เขาเลียนแบบคุณและก็ฆ่าคนของคุณไป!”ทุกคนนั้นก็พูดโพล่งขึ้นมา

“ไอ้บัดซบนั่นฆ่าแม้กระทั่ง…”ใครบางคนตะโกน เมื่อพวกเขานั้นเริ่มเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นถูกอธิบายว่าเป็นอันธพาลอันชั่วร้ายที่ต่ำช้าเท่าที่พวกเขาสามารถจะจินตนาการถึงอาชญากรรมแล้ว

หวังหยู่นั้นก็เข้าใจถึงเหล่าผู้เล่นพวกนี้ที่เข้าใจผิดว่าความอาละวาดอันชั่วร้ายสำหรับเขา ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็ใช้ประโยชน์จากความจริงที่เขาสังหารผู้คนโดยใช้ชื่อของหวังหยู่

หวังหยู่นั้นก็ตกลงไปในความกราดเกรี้ยว เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ เขาก็นำนิกายซวนเฉินออกไล่ล่าเส้นทางที่พุ่งเข้าไปในความอาละวาดอันชั่วร้าย

เพียงแค่นั้น หวังหยู่ก็เข้าใจถึงขนาดของสงครามนี้

มันมีผู้เล่นนับหมื่นคน! มันมีแม้กระทั่งผู้เล่นที่กำลังถูกฆ่าและใครบางคนที่กำลังหลบซ่อนอยู่ พวกมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่ามันมีผู้เล่นนับพันคนที่กำลังต่อสู้อยู่นอกเมือง

ตาของหวังหยู่ก็รีบจ้องไปที่ไอ้บัดซบที่กำลังปลอมตัวเป็นเขาอยู่

ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็ยืนอยู่ตำแหน่งที่โดดเด่นและโอ้อวดกับสมาชิกคนอื่นของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ

“เอาหน่อยดิ ฉันคิดว่าเมืองรัตติกาลนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญซะอีก ฉันรีบพุ่งมาที่นี่เพื่อจัดการกับพวกอ่อนแองั้นเรอะ?”

“มึงคือไอ้บัดซบที่ปลอมตัวเป็นกูอยู่ใช่ไหม?”หวังหยู่ตะโกน เมื่อเขานั้นพุ่งเข้าใส่

“หื้อ?”

ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็รีบหันกลับไปเมื่อเขาได้ยินเสียงดังมาทางเขา แล้งเขาก็เห็นเพียงแค่หมัดขนาดใหญ่ที่เข้ามาใกล้หน้าของเขา

“เหี้…!”

ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็รีบหลบแล้วเขาก็จับไปที่หมัดของหวังหยู่ในขณะที่เขาก็ปล่อยหมัดและเตะกลับไป

“ศิลปะการต่อสู้ของตระกูลหวังงั้นเหรอ?”หวังหยู่นั้นตกใจเล็กน้อย แล้วเขาก็หันหัวหลบหมัดของความอาละวาดอันชั่วร้ายแล้วเขาก็ยืดมือของเขาออกไปจับข้อมือของความอาละวาดอันชั่วร้ายแล้วหวังหยู่ก็ดึงข้อมือของความอาละวาดอันชั่วร้ายมาหาเขา ในขณะที่ก็ส่งอีกหมัดหนึ่งเข้าไปใส่หน้าของเขา

ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นไม่ได้ระวังตัวกับหมัดนี้ เขาก็รีบกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็วแล้วเขานั้นก็หลุดออกมาจากคว้าของหวังหยู่อย่างยากลำบาก เขาก็หลบการโจมตีของหวังหยู่แล้วเขาก็ส่งลูกเตะลอยเข้าใส่หวังหยู่

“หื้ม การโคจรแห่งการล่ามโซ่ทั้งเก้า ความชำนาญของนายมันก็ดีพอใช้ แต่การโจมตีของนายนั้นขาดพลังที่แท้จริง นายยังต้องการที่จะต่อสู้ต่อไหม?”

หวังหยู่หัวเราะอย่าเย็นชาเมื่อเขานั้นยืดมือขวาของเขาออกไปในทันทีและจับไปที่ข้อเท้าของความอาละวาดอันชั่วร้ายและทุ่มเขาลงกับพื้น

โดยปราศจากการลังเลแม้แต่เล็กน้อย หวังหยู่ก็ยกเท้าของเขาขึ้นและวางมันลงไปบนหลังของความอาละวาดอันชั่วร้าย แล้วเขาก็ยกเท้าอีกข้างขึ้งและเตะไปที่ก้นของความอาละวาดอันชั่วร้าย

“มึงกล้าดียังไงที่ปลอมตัวเป็นกูวะ!”

หวังหยู่คำรามอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อเขานั้นเตะความอาละวาดอันชั่วร้ายอย่างต่อเนื่อง

ทุกคนนั้นกลายเป็นสับสน นี่มันใช่ชายคนเดียวกับที่ทำให้ผู้เล่นเมืองรัตติกาลเกิดหายนะใช่ไหม? เขานั้นโดนกำราบง่ายๆแบบนั้นนี่นะ?”

“มันเหมือนกับว่าบอสนั้นแพ้ของปลอม…”ผู้เล่นจากกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นพึมพำอย่างผิดหวัง

“เหี้.... พวกเราพ่ายแพ้กับไอ้ลูกหมาแบบนี้นี่นะ? นี่มันช่างน่าอายสิ้นดี…”

มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าผู้เล่นจากเมืองรัตติกาลนั้นรู้สึกหดหู่มากยิ่งกว่า…

แม้ว่าผู้เล่นพวกนี้นั้นไม่ได้รับบาดแผลทางกายจากการโดนทำร้ายในเกม แต่ความอับอายที่โดนตีก้นต่อผู้เล่นนับหมื่นคนซึ่งทำให้ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นเดือดพล่านไปด้วยความกราดเกรี้ยว

“ท่านวีรบุรุษ ไว้ชีวิตให้ผมด้วย! ผมผิดไปแล้ว…ผมจะไม่ทำมันอีกแล้ว…”ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็รีบร้องขอความเมตตา

“พูดมา! นายเป็นใครกันแน่? ทำไมนายถึงรู้ศิลปะการต่อสู้ของตระกูลหวังกัน”หวังหยู่ก็กระทืบใส่ความอาละวาดอันชั่วร้ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะจับไปที่คอเสื้อของความอาละวาดอันชั่วร้ายและถามเขา

“มันเป็นศิลปะการต่อสู้ของครอบครัวผม! ทำไมผมจะไม่รู้มันกันละ…”

ความอาละวาดอันชั่วร้ายตอบกลับอย่างว่าง่าย

“ครอบครัวของนาย?”หวังหยู่อ้าปากค้างแล้วเขาก็มองไปที่ใบหน้าของความอาละวาดอันชั่วร้ายดีๆ

มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย….ดวงตาคู่ใสที่สว่างและมุทะลุ มันเป็นออร่าของที่คุ้นเคยอย่างแน่แท้!

“เฟย!!!”

“หื้อ? พี่ใหญ่…เป็นพี่นี่เอง…”ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็รู้สึกเหมือนกับสวรรค์มาโปรด ชายคนนี้ที่อยู่ด้านหน้าเขาไม่ได้ปลอมตัวเป็นเขา แต่มันเป็นพี่ชายคนโตของเขาจริงๆ…

“โชคดีที่มันเป็นนาย มิฉะนั้นละก็จะทรมานจนมันถึงแก่ความตาย!”หวังหยู่หัวเราะอย่างดังกึกก้องแล้วเขาก็ตบไปที่ด้านหลังของน้องชายของเขา

“แต่ทำไมนายมาเลียนแบบฉันละ?”หวังหยู่ถามอย่างไม่มีความสุข

ทั้งสองพี่น้องนั้นไม่ได้มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกัน ความสูงของพวกเขานั้นก็ทำให้ความแตกต่างนั้นเห็นได้ชัดแล้ว

“ถ้ามันเป็นแบบนี้ แม้ว่าผมพ่ายแพ้ พี่ก็จะเสียหน้าแทน และไม่ใช่ผมที่เป็นคนเสียหน้ายังไงละฮะ…”

“เหี้....!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธเคืองแล้วเขาก็ยกหมัดของเขาเตรียมที่จะต่อยไปยังความอาละวาดอันชั่วร้าย

“พอได้แล้ว อย่าให้มันมากเกินไป!”ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็รีบตะโกนออกมา

“นายเป็นคนที่ไม่เคารพคนที่สูงอายุกว่า และนายก็ยังไม่ได้ทักทายฉันอีกด้วย!!!”หวังหยู่ตะโกนอย่างโกรธเคืองใส่ความอาละวาดอันชั่วร้าย

“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่…”ความอาละวาดอันชั่วร้ายพูดอย่างว่างายแล้วเขาก็โค้งตัว

“นั่นแหละที่ฉันชอบ!”หวังหยู่นั้นพูดอย่างมีความสุข เมื่อเขานวดหัวของความอาละวาดอันชั่วร้าย

สมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินนั้นก็สับสนอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างพี่น้อง พวกเขาไม่ใช่พี่น้องที่เป็นสายเลือดเดียวกันงั้นเหรอ? ทำไมเขาถึงยังคงเรียกหวังหยู่ว่าศิษย์พี่อยู่อีก? โลกแห่งศิลปะการต่อสู้นั้นช่างน่าสับสนจริงๆ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด