เล่ม 3 ตอนที่ 7 : ปรมาจารย์ใต้น้ำ (1) [อ่านฟรี]
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
==========
เล่ม 3 ตอนที่ 7 : ปรมาจารย์ใต้น้ำ (1)
ครืน!
เสียงน้ำปะทะอย่างรุนแรงเข้าใส่วาลเดอลาสและกองทัพปีศาจของมัน ทั้งกองทัพปีศาจ และกระทั่งวาลเดอลาส พวกมันไม่อาจที่ต้านทานการถูกคลื่นน้ำพัดพาได้ ไม่ต้องกล่าวถึงพวกผู้เล่นด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่ต่างก็โดนกระแสคลื่นที่เชี่ยวกรากพัดพาหายวับไป บางคนก็ตายไปเพราะกระแทกเข้ากับหินหรือว่าต้นไม้ ทว่าแม้จะโดนกระแสน้ำเชี่ยวกราก แต่อาร์คก็ยังคงสบายดีสมบูรณ์ ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณตรวนมนุษย์ฉลามจึงทำให้เขาสามารถเมินเฉยต่อผลจากสภาวะแวดล้อมในตอนนี้ได้
‘เป็นอย่างที่คิดไว้เลย!’
ขณะที่โดนน้ำซัดเข้าใส่ เปลวเพลิงที่คุ้มกันวาลเดอลาสเอาไว้รวมถึงกองทัพปีศาจของมันถึงกับหายวับไปโดยสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น มอนสเตอร์ที่โดนน้ำเข้าปะทะต่างก็ได้รับความเสียหายมหาศาลเช่นเดียวกัน ทว่า ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น เป้าหมายแท้จริงของอาร์คย่อมเป็นข้อจำกัดเมื่อต้องอยู่ใต้น้ำต่างหาก อาร์คเคยมีประสบการณ์กับข้อจำกัดของน้ำมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันคือข้อจำกัดของธรรมชาติ มันจะทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างที่ควรเป็น กระทั่งว่าโจมตีหรือป้องกันก็ยังยาก!
สภาพแวดล้อมตอนนี้ส่งผลกับมอนสเตอร์เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในเมื่อมอนสเตอร์พวกนี้มันสวมใส่เกราะเพลท ข้อจำกัดของพวกมันก็จะยิ่งแย่กว่าเดิมหลายเท่านัก กระนั้นแล้ว กระทั่งว่าคลื่นเริ่มจางหาย มอนสเตอร์พวกนี้ก็ยังไม่อาจที่จะคุมสมดุลและเคลื่อนกายได้ หรือก็คือ พวกมันคือตาไร้ซึ่งดวงตา!
“นี่นายอย่าบอกนะว่า...!”
แชมบาร่าตะโกนขึ้นอย่างตกตะลึงขณะเผยฟองอากาศออกมา อาร์คเพียงนำเอาเกล็ดเงือกออกมาและส่งมอบไปให้ เขายกยิ้มขึ้น
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า ตามฉันมาก็พอ”
อาร์คเริ่มเปลี่ยนรองเท้าและชุดเกราะ รองเท้านอแรตสามารถช่วยเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่และอัตราการหลบหลีกได้ และข้อจำกัดของน้ำจะไร้ผลหากสวมใส่ชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก นั่นจึงทำให้น้ำหนักที่เคยกดทับร่างของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาจะอยู่ใต้น้ำ แต่การเคลื่อนไหวก็เป็นไปได้อย่างลื่นไหล ราวกับตอนนี้กำลังวิ่งอยู่
“ดีล่ะ เริ่มกันได้แล้วมั้ง? เนตรแห่งแมว!”
ขณะยืดเส้นยืดสายจนเสียงข้อต่อดังลั่นออกมา ฉับพลันอาร์คได้พุ่งไปยังพวกมอนสเตอร์ที่อยู่เบื้องหน้า
“ไอ้หมอนี่มันเป็นใครกันแน่? แล้วไหนจะเกล็ดนี่อีก?” ด้วยสีหน้าแข็งทื่อ แชมบาร่าจ้องมองแผ่นหลังของอาร์คที่พุ่งไปราวกับสายลม
ตอนนี้อาร์คกำลังวิ่งอยู่ใต้น้ำ
บะ-บะ-บุ๋ง!
พลังชีวิตของมอนสเตอร์ที่อาร์คหมายตาลดฮวบลงโดยทันที
เขาไม่เห็นพวกมอนสเตอร์คิดจะเข้าโจมตีเข้ามาอีกเลย เพราะมันคือใต้น้ำ เลเวลไม่อาจส่งผลกระทบอะไรได้ ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่ยากอะไรยามที่ต้องเผชิญหน้ามอนสเตอร์ถึงห้าตัวและจัดการได้ในระยะเวลาอันสั้น สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างออกไปแล้ว กระทั่งว่าเขาโดนมอนสเตอร์กว่ายี่สิบหรือสามสิบตัวปิดล้อม เขาก็มั่นใจว่าสามารถจัดการพวกมันได้ภายในเวลาหลักนาที เพราะก่อนหน้านี้มีปราการแห่งเปลวเพลิงคงอยู่ มอนสเตอร์พวกนี้จึงโดนความเสียหายอย่างใหญ่หลวง พลังชีวิตของพวกมันจึงนลดต่ำฮวบลง แต่ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่คาดหวังเอาไว้ตั้งแต่แรกคือ ตอนนี้ สถานที่แห่งนี้คือใต้น้ำ!
ข้อจำกัดทางน้ำจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้ไม่เคยมีประสบการณ์รับมือมาก่อน เมื่ออาร์คลงสู่ใต้น้ำเป็นครั้งแรก มันก็ทำเอาเขาเกือบตายไปหลายครั้ง กระทั่งว่ามอนสเตอร์พวกนั้นเลเวลต่ำกว่าเขานับสิบระดับด้วยซ้ำไป ทว่า เขาได้ผ่านความยากลำบากทั้งหลายจนได้กลายเป็นปรมาจารย์ต่อสู้ใต้น้ำไปแล้ว
มีเพียงเท่านี้หรือ? ในตอนนี้ ด้วยชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก มันทำให้ผลเสียของการอยู่ใต้น้ำหายไปจนหมดสิ้น สำหรับอาร์คแล้ว มอนสเตอร์พวกนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากทารกเกิดใหม่รอคอยให้ถูกเชือด อาร์คสามารถมองทั้งมอนสเตอร์เงา ผู้ล้างแค้น และกระทั่งฮิปตันเป็นค่าประสบการณ์และแต้มสะสมของเขาแต่เพียงผู้เดียว แน่นอนว่าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะการผสมผสานระหว่างสภาวะแวดล้อมกับไอเทม!
‘นี่แหละ ทีของเราแล้ว!’
เมื่อมองไปโดยรอบ ผู้เล่นที่ยังคงรอดชีวิตต่างต่อสู้ออกอย่างสุดแรงกับมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าใส่ แม้ว่าการต่อสู้ที่เห็นมันคล้ายกับเป็นการเล่นตบแปะกันก็ตามที เรื่องนี้ทำเอาอาร์คแทบหลุดขำออกมา
นักรบที่สูญเสียสมดุลร่างกายขณะเหวี่ยงดาบออก จึงส่งผลให้ร่างกายเริ่มหมุนไปรอบ อีกทั้งยังมีนักเวทโง่งมคนหนึ่งใช้เวทมนตร์สายฟ้าออกมา จนสุดท้ายต้องจบลงด้วยการโดนไฟช็อตจนได้รับความเสียหายเข้าตัวเอง อย่างน้อยสถานการณ์ของทางนักรบก็ยังดูดีกว่า ต้องขอบคุณชุดเกราะเพลทที่หนักอึ้งของพวกเขาจึงทำให้สามารถจมลงไปเบื้องล่างและใช้การเคลื่อนเท้าได้ ทว่า นักเวทและนักธนูต่างลอยอยู่ในน้ำอย่างไม่รู้เหนือใต้ขณะต้องพยายามโจมตีสวนกลับจากมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าใส่ทุกทิศทาง
ยามที่เขาเห็นพวกผู้เล่น อาร์คจะรีบพุ่งเข้าไปสังหารมอนสเตอร์เหล่านั้น และหายตัวไปอย่างเงียบงัน ไม่ใช่ว่าเขาคิดช่วยพวกมัน แต่เป็นเพราะมันน่าเป็นเรื่องน่าอับอายหากเขาต้องปล่อยให้ตนเองสูญเสียค่าประสบการณ์จากมอนสเตอร์เหล่านั้น
‘นี่มันป้อนขนมเข้าปากเด็กชัด ๆ!’
ทั้งค่าประสบการณ์และแต้มสะสมต่างหลั่งไหลมาดุจสายน้ำ ทั้งหมดที่อาร์คต้องทำก็เพียงแค่วิ่งไปทั่วภายในน้ำขณะเข้าไปจัดการพวกมัน มันจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านี้ได้อีกกันเล่า?
แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะดีไปเสียหมด ขยะจำนวนมากต่างลอยออกมาจากพวกที่เป็นศพไปแล้ว! เจ้างูน้อยก็หายตัว กระเป๋าเขาก็เต็ม ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องปล่อยพวกมันทิ้งเอาไว้ เรื่องราวครั้งนี้แทบทำเอาเขาหลั่งน้ำตาออก เขากระทั่งไม่มีที่ว่างกระเป๋าเหลือพอให้ใส่ดาบของอันเดลที่ดร็อปออกมาด้วยซ้ำ ดังนั้นตอนนี้ที่เขาทำได้ก็เพียงแค่ต้องแบกมันไปด้วย
ในขณะนี้เขากำลังถือดาบทั้งสองเล่มด้วยมือทั้งสอง ทำให้การเคลื่อนไหวไม่ลื่นไหลเหมือนแต่ก่อน ศูนย์กลางสมดุลของเขาถึงกับเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นมาโดยตลอด ทำให้ในตอนนี้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวติดต่อกันได้อย่างที่ต้องการ แต่สำหรับไอเทมล้ำค่าที่เขาเก็บขึ้นมาแล้ว กระทั่งว่าต้องตายเขาก็ไม่คิดจะดร็อปอาวุธชิ้นนี้ออกจากมือเป็นแน่ เช่นกัน ที่นี่คือใต้น้ำ การเคลื่อนไหวของเขาแม้จะช้าลง แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมากเท่ากับที่มอนสเตอร์เหล่านั้นโดน
=====
ท่านได้ทำความเสียหายคริติคอล
=====
เมื่ออาร์คเหวี่ยงดาบออกไป การโจมตีคริติคอลจึงระเบิดออกพร้อมเสียงกรีดร้อง
นี่เป็นเพราะโอกาสที่มอนสเตอร์พวกนี้จะหลบเลี่ยงได้นั้นต่ำเตี้ยจากสภาวะใต้น้ำ ลูกเตะเองก็เช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่เขาเตะออกไป มอนสเตอร์ตัวนั้นจะสูญเสียสมดุลร่างกายจนลอยลิ่วปลิวไป แทบไม่จำเป็นต้องกลัวพวกมันสวนกลับเลยแม้แต่น้อย เพราะกว่าพวกมันจะว่ายน้ำกลับมาหาอาร์คได้ก็ใช้เวลานานยิ่ง การสังหารมอนสเตอร์พวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
กระทั่งว่าไม่มีชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก อาร์คก็ยังคงเป็นผู้ที่สามารถหลบเลี่ยงหนวดของแมงกระพรุนได้ อีกทั้งเขายังสามารถเสียดแทงดาบเข้าใส่ข้อต่อของปูที่เล็กเพียงเท่านิ้วได้อีก การที่เขาสามารถใช้การโจมตีคริติคอลเข้าใส่มอนสเตอร์ที่เคลื่อนไหวช้าได้เช่นนี้ กระทั่งว่าหลับตายังสามารถกระทำ นอกจากนี้ เพราะมอนสเตอร์พวกนี้พลังชีวิตลดลงเหลือแค่ 30~40% มันจึงไม่อาจนับได้ว่าเป็นการต่อสู้ มันคือการสังหารฝ่ายเดียวต่างหาก
ทุกมอนสเตอร์ที่เขาเคลื่อนผ่านจะหายตัวไป ราวกับพวกมันโดนอาร์คหลอมละลาย แต่ก็มีอีกหลายตัวที่ปรากฏขึ้น แต่ก็ไม่มีพวกมันตัวใดที่จะตามการเคลื่อนไหวของอาร์คได้ทัน
“คึคึคึ มนุษย์นั่นเคลื่อนได้เร็วถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”
“อั่ก! มะ-มันไม่ธรรมดา!”
เหล่านี้คือคำสุดท้ายที่พวกมันได้กล่าวออกมา ท้ายที่สุดพวกมันต่างโดนกวาดล้างไปสิ้น!
‘อยากจัดการมอนสเตอร์ทุกตัวก่อนหรอกนะ แต่ว่า...’ อาร์คถอนหายใจออกด้วยความเสียดาย
ค่าประสบการณ์และแต้มสะสมจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังล้อมรอบเขาอยู่! อาร์คสามารถได้รับมันมาทั้งหมดหากต้องการ แต่โชคร้าย เขาไม่มีเวลามากพอจะทำเช่นนั้น
มอนสเตอร์หลายตัวเริ่มหนีออกไปจากน้ำได้แล้ว แน่นอน พวกผู้เล่นที่รอดชีวิตต่างก็จัดการมอนสเตอร์เหล่านั้นด้วยตัวเองกันแล้ว แต่ถ้าหากวาลเดอลาสออกไปจากน้ำได้ จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร ถ้าหากวาลเดอลาสออกไปจากน้ำและได้รับพลังของมันกลับคืน วิธีการที่จะทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จก็จะหายไปด้วย กล่าวก็คือ ไม่ว่าเขาจะมีแต้มสะสมมากมายเพียงใด เขาก็จะไม่อาจได้รับรางวัลได้หากปล่อยให้มันเกิดขึ้น
‘เราต้องเอาชนะมันขณะที่ยังอยู่ในน้ำ!’
อาร์ควิ่งผ่านน้ำไปขณะไล่ตามหลังวาลเดอลาส
‘ไม่มีเวลาแล้ว! มันอยู่ไหนกัน? มันลอยไปไกลถึงไหนกันเนี่ย?’
อาร์ควิ่งพล่านไปทั่วราวน้ำตกที่สาดซัด แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะสังหารมอนสเตอร์ที่พบเจอระหว่างทาง
ตึง ตึง ตึง
และขณะนั้นเอง เสียงสั่นสะเทือนฉับพลันได้ปรากฏขึ้นใต้น้ำ เขามองออกไปยังทิศทางที่น่าจะเป็นต้นเหตุ สุดปลายสายตาเขาได้เห็นร่างเงาใหญ่ยักษ์กำลังเคลื่อนผ่านมวลน้ำไป มันคือปีศาจที่มีร่างเป็นมังกรและส่วนบนเป็นเงา!
‘วาลเดอลาส!’
บอสตัวสุดท้ายที่ผู้เล่นหลายสิบคนไม่อาจโค่นล้มมันได้แม้จะเข้ารุมการโจมตีใส่ก็ตาม! แต่สถานการณ์ตอนนี้แปรเปลี่ยนไปแล้ว วาลเดอลาสเหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 40% พลังชีวิตจากเดิมที่มี 70% ได้โดนลดลงไป 30% หลังโดนคลื่นน้ำสาดซัด ยิ่งมันมีพลังเปลวเพลิงที่แข็งแกร่งมากเพียงใด ความเสียหายที่มันจะได้รับจากน้ำก็มีมากเพียงนั้น นอกจากนี้ ไม่เหมือนมอนสเตอร์ตัวอื่นที่ได้รับปราการแห่งเปลวเพลิงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง วาลเดอลาสมีธาตุดั้งเดิมเป็นไฟ ดังนั้นแล้วมันจึงโดนความเสียหายทุกครั้งที่เปลวเพลิงของมันต้องปะทะเข้ากับน้ำที่อยู่รอบกาย
‘ตอนนี้แหละ ถ้าปล่อยมันไปจะไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง!’
“วาลเดอลาส แกหนีไม่รอดแน่!”
อาร์คเข้าขัดขวางเส้นทางของวาลเดอลาสเอาไว้ วาลเดอะลาสถึงกับส่งเสียงร้องออกมาขณะเหวี่ยงตะบองโลหะของมัน
“ไอ้มนุษย์บัดซบ!”
ทว่า แรงของตะบองในครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนหน้า การโจมตีนี้มันเชื่องช้าลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่มีเปลวเพลิงสีดำที่น่าหวาดกลัวอีกต่อไป มันจึงไม่ยากเลยที่จะหลบเลี่ยงไปได้ ทว่าอาร์คกลับเข้ารับความเสียหายเอาไว้พร้อมใช้การปัดป้องและโจมตีสวนกลับ
‘สวนกลับฉับพลัน!’
=====
ท่านทำการโจมตีคริติคอล!
=====
ทักษะต่อเนื่องระเบิดพลังออกมา วาลเดอลาสชะงักงันถอยกลับ มันถูกเบี่ยงออกจากเส้นทางเดิมเพราะการใช้งานสวนกลับฉับพลัน มันผลักให้วาลเดอลาสกลับคืนสู่ส่วนลึกของห้วงน้ำเพื่อไม่ให้มันหลบหนีไปได้
เดิมที สวนกลับฉับพลันจะมีผลผลักดันกลับก็ต่อเมื่อเป็นมอนสเตอร์ไม่เกินขนาดกลาง มอนสเตอร์ขนาดใหญ่มีน้ำหนักมาก ผลของการผลักดันกลับจึงทำงานน้อยลงตามไปด้วย ทว่า ที่แห่งนี้คือใต้น้ำ ดังนั้นแล้วขนาดของวาลเดอลาสหรือน้ำหนักล้วนไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างไรแล้วมอนสเตอร์ตัวนี้ก็ไม่ได้มีศูนย์ถ่วงสมดุลให้ร่างกายอีกต่อไป
‘อย่างที่คิดไว้! ตอนนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากมอนสเตอร์ธรรมดาแล้ว!’
เขามั่นใจได้ก็ตอนที่ลั่นการโจมตีออกไปครั้งหนึ่ง ธาตุไฟของวาลเดอลาสกลับกลายเป็นอ่อนแอมาก อีกทั้ง ทักษะเปลวเพลิงที่ทำให้วาลเดอลาสเป็นอมตะก็ล้วนถูกผนึกเอาไว้หมด ท้ายที่สุด ด้วยการที่ปราการแห่งเปลวเพลิงหายไป ความเสียหายจึงได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย มันมีพลังชีวิตมากขนาดที่ว่าการโจมตีคริติคอลเพียงลดทอนพลังชีวิตลงแค่ 0.1% เท่านั้น ทว่า เท่านี้ก็นับได้ว่าเป็นความสำเร็จแล้วถ้าหากเทียบกับการที่มันไม่ส่งผลอะไรเลย
‘เราชนะได้ เราสามารถสู้กับมันด้วยกำลังของเราได้’
หลังจากที่ยกเลิกการอัญเชิญเดดริค อาร์คจึงอัญเชิญมันออกมาอีกครั้ง
เดดริคที่บินมุ่งหน้าไปยังปืนใหญ่มอดไหม้ ตอนนี้กลับปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาด้วยสีหน้าแตกตื่น
“เจ้านาย! อะ-ไอ้เจ้านี่... ไม่ใช่ว่าเป็นวาลเดอลาสหรือไร?”
“เดดริค อย่าพูดมากแล้วไปดึงความสนใจมันไว้!” อาร์คออกคำสั่งขณะยื่นมือส่งเกล็ดเงือกไปให้
“ฮา ฮา ฮา แก ไอ้อ้วนนรก! มาเล่นกันเถอะ พออยู่ใต้น้ำเลเวลของแกมันก็ไร้ค่าแล้ว!”
ดูไปแล้วเดดริคเองก็น่าจะชอบใจที่เห็นวาลเดอลาสดิ้นรนเหมือนกัน เดดริคเริ่มเผยทักษะที่ได้รับมาครั้งยังอยู่ใต้สมุทรออกมาขณะก่อกวนวาลเดอลาส
“มนุษย์ถึงกับสามหาวกล้าท้าทายข้าผู้ซึ่งเป็นนักรบแห่งดราโกเนี่ยนเพียงลำเพียงเชียวรึ?!”
“นี่แกยังไม่รู้ตัวอีกหรือไงเนี่ย? ฉันเนี่ยแหละที่โยนแกลงมาในน้ำ สมองแกมันคิดอะไรเป็นบ้าง?”
“ว่าอะไร?”
“แกมันไอ้กิ้งก่าโง่เง่า ตอนนี้และที่นี่ แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันแม้สักนิด”
“กะ-แกบังอาจยั่วยุข้า!”