ตอนที่แล้วTWO Chapter 257 เหยื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 259 การยอมจำนนโดยปราศจากการต่อสู้

TWO Chapter 258 กองทัพที่ชายแดน


TWO Chapter 258 กองทัพที่ชายแดน

ชาวจีนกล่าวไว้ว่า ‘ถ้าเวลาที่เหมาะสม คุณก็จะเก็บเกี่ยวผลกระโยชน์ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเวลาไม่เหมาะสม คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ยากลำบาก’

“ดี!” ต้าเรี่ยชิตัดสินใจ “ฮูฉีถู ข้าจะให้เจ้านำทหาร 1,000 นาย เข้าโจมตีตลาดการค้า” ต้าเรี่ยชิสูญเสียความใจเย็นของเขา ภายใต้การยั่วยวนของชัยชนะและผลกำไร และภายใต้การผลักดันของเหล่าคนชั้นสูงของเผ่า มันทำให้เลือดของเขาเดือนพล่าน

“ขอรับ!” ฮูฉีถูมีความมั่นใจอย่างมาก

………………………………………………………………………….

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 11 วันที่ 6

ฮูฉีถูนำกองกำลังของเขา  ข้ามคูเมืองและเข้าโจมตีตลาดการค้าที่ไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง

พวกเขาขับไล่พ่อค้าทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น และปล้นชิงทรัพยากรทั้งหมดไป พวกเขายังไม่ลืมที่จะจุดไฟเผาทำลายสถานที่แห่งนั้นด้วย

เมื่อเปลวเพลิงแพร่กระจายและลุกขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ฮูฉีถูกก็นำกองกำลังของเขาออกไป พร้อมกับทรัพยากรจำนวนมหาศาลที่พวกเขายึดได้

ตลาดการค้านอกเมืองมิตรภาพ เป็นจุดซื้อขายสำคัญระหว่างเมืองซานไห่และชนเผ่าเร่ร่อน ทุกเผ่ารวมทั้งเผ่าเทียนฉี มีพ่อค้าประจำอยู่ที่นั่น

การกระทำของเผ่าเทียนเฟิง เป็นดั่งพายุที่โหมกระหน่ำ มันแพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อเผ่าอื่นๆได้รับข่าวนี้ พวกเขาบางส่วนก็อิจฉา และบางส่วนก็ไม่พอใจ หลายคนเสียใจ เสียใจที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้

ผู้ชนะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อแร่เหล็กและธัญพืชจำนวนมหาศาลได้ถูกส่งกลับมาถึงเผ่าของพวกเขา ทั่วทั้งเผ่าก็คึกคัก และพวกเขาได้จัดงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในวันเดียวกันนั้น

แม้แต่ตัวต้าเรี่ยชิเองก็แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกโชคดีที่ไม่ได้พลาดโอกาสนี้

จากการคำนวณของเขา ปริมาณธัญที่ยึดได้นี้ จะทำให้พวกเขาอยู่ได้นานถึงครึ่งปี แร่เหล็กก็มีมากพอให้พวกเขาผลิลูกศร, ดาบ และชุดเกราะได้เป็นจำนวนมาก

เผ่าเทียนเฟิงกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำของทุ่งหญ้า

ในวันที่ 2 ก่อนที่จิตวิญญาณแห่งการเฉลิมฉลองของเผ่าจะผ่านพ้นไป ผู้ส่งสาส์นจากเมืองมิตรภาพก็มาถึง

ผู้ส่งสาส์นเตือนเผ่าเทียนเฟิงสำหรับกระทำของพวกเขา และเรียกร้องให้พวกเขาคืนทรัพยากรทั้งหมดกลับไป และยังต้องมอบม้าฉิงฟู่ 500 ตัว ไปเป็นค่าชดเชยด้วย

“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” คำกล่าวของผู้ส่งสาส์น กลายเป็นการเชื้อเชิญให้ชาวเผ่าเทียนเฟิงหัวเราะเยาะเย้ย

ผู้ส่งสาส์นยังคงสงบ และการแสดงออกทางสีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ต้าเรี่ยชินั่งอยู่ในเต็นท์ของเขา และส่ายหน้าอย่างขบขัน ก่อนจะกล่าวว่า “แล้วถ้าข้าไม่ทำล่ะ?”

“ถ้าท่านปฏิเสธ พวกเราก็คงต้องทำสงครามกัน”

“พูดจาใหญ่โตนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร?” ฮูฉีถูตะคอกออกไป ความสำหรับในการปล้นครั้งนี้ ได้เพิ่มศักดิ์ศรีของเขาขึ้น และตอนนี้ เขาถูกมองว่าเป็นวีรบุรุษของเผ่าเทียนเฟิงไปแล้ว

ดวงตาของผู้ส่งสาส์นกลายเป็นเย็นชา ขณะที่เขาหันไปมองฮูฉีถู ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่คงเป็นขุนพลที่เป็นคนปล้นตลาดของเราใช้หรือไม่? ท่านลอร์ดของข้าได้กล่าวไว้ว่า คนชั่วร้ายเช่นเขาจะต้องถูกกำจัด!”

“เจ้า!” ฮูฉีถูโกรธมาก “เจ้าจะยังกล้าอยู่หรือไม่ หากว่าข้าฆ้าเจ้าไปแล้ว” ขณะที่เขากล่าว เขาก็ดึงดาบจันทร์เสี้ยวออกมาจากหลังของเขา และเตรียมจะกระโจนใส่ผู้ส่งสาส์น

“ช้าก่อน!” ต้าเรี่ยชิรีบหยุดฮูฉีถูในทันที เขาสับสนและถามผู้ส่งสาส์นว่า “สิ่งที่ท่านกล่าวเมื่อซักครู่คืออะไรกัน? ลอร์ด? เมืองมิตรภาพมีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ ผู้นำของท่านกลับกล้าเรียกตัวเองว่าลอร์ดเชียวหรือ?”

เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่ก้าวร้าวเช่นนี้ ผู้ส่งสาส์นยังคงไม่กลัวและรักษาความเยือกเย็นของเขา และเมื่อเขาได้ยินคำกล่าวของต้าเรี่ยชิ เขาก็หันกลับมา พร้อมกล่าวว่า “ท่านได้ดูถูกท่านลอร์ดของข้า ตอนนี้ มันไม่ทางประนีประนอมกันได้อีกแล้ว ลาก่อน!”

“หยุด!” ฮูฉีถูตะโกน และหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้ออกไปหรือ?”

“ทำไมหรือ? เจ้าต้องการจะฆ่าข้าที่เป็นผู้ส่งสาส์นหรือ?”

“เจ้าผู้ส่งสาส์นโง่ ไปลงนรกซะ!” ฮูฉีถูยกดาบจันทร์เสี้ยวของเขาขึ้น และเตรียมจะฟันลงไป

“หยุดาบของเจ้าซะ!” ต้าเรี่ยชิตะโกนออกไป และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แผ่นดินจีนของเรามีคำกล่าวที่ว่า ‘แม้ 2 ประเทศจะทำสงคราม แต่เราจะไม่ฆ่าผู้ส่งสาส์น’ เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาดูถูกเราได้ว่า เป็นพวกไร้วัฒนธรรมได้ ปล่อบเขาไป”

“ท่านผู้นำ!” ฮูฉีถูต่อต้านคำสั่งของเขา

“ข้าบอกให้ปล่อยเขาไป!” ต้าเรี่ยชิโกรธที่ฮูฉีถูต่อต้านคำสั่งของเขา

“ขอรับ!” ฮูฉีถูเป็นคนฉลาด เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจของผู้นำเผ่า เขาก็ยอมถอยออกมา

ต้าเรี่ยชิมองไปที่ผู้ส่งสาส์น แล้วกล่าวว่า “กลับไปแล้วบอกลอร์ดของท่านด้วยว่า เขาไม่ควรที่จะมองหาความอัปยศอดสูให้ตัวเอง”

ผู้ส่งสาส์นส่ายหัวด้วยความขบขันขณะที่เขาเดินออกไป

ก่อนหน้านี้ ฝ่ายข่าวกรองได้ส่งสายลับของพวกเขาไปตรวจสอบสถานะของเผ่าเทียนเฟิงนานแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว

ประชากรของเผ่ทเทียนเฟิงได้ทะลุ 8,000 คน แล้ว จากประเพณีของชนเผ่า ผู้ชายทุกคนของเผ่าจะต้องเป็นนักรบ เดิมทีพวกเขามีทหารในกองทัพเพียง 1,000 นาย แต่ตอนนี้ พวกเขาได้ขยายเป็น 3,000 นายแล้ว

สำหรับการสู้รบครั้งนี้ โอหยางโชวไม่ได้เคลื่อนกองกำลังจากทั้งค่ายทิศตะวันตก และค่ายทิศตะวันออก เนื่องจากพวกเขากำลังปฏิบัติการกวาดล้างค่ายโจรอยู่ และการเรียกพวกเขากลับมา จะไม่เพียงทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนเท่านั้น แต่มันยังเป็นการกระตุ้นพวกโจรด้วย

กองกำลังที่จะถูกส่งมาสนับสนุนกรมทหารที่ 2 ของกองพลทหารที่ 1 จะประกอบไปด้วย กรมทหารองครักษ์, กรมทหารป้องกันเมืองซานไห่, กรมทหารป้องกันเมืองฉิวซุ่ย และกรมทหารป้องกันเมืองมิตรภาพ รวม 5 กรมทหาร และประกอบด้วยทหารทั้งสิ้น 12,500 นาย

นอกจากกรมทหารป้องกันเมืองซานไห่แล้ว กรมทหารป้องกันเมองอีก 2 กรม เพิ่งจะถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ หลังจากที่จัดตั้งขึ้นแล้ว พวกเขายังไม่มีโอกาสเข้าร่วมในปฏิบัติการการต่อสู้ใดๆเลย ดังนั้น พลังต่อสู้ของพวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนแอ

กองกำลังหลักที่โอหยางโชวจะพึ่งได้ก็คือ กรมทหารองครักษ์ และกรมทหารที่ 2 โดยกรมทหารทั้ง 2 นี้ สวมอุปกรณ์ที่ดี พร้อมด้วยม้าศึกฉิงฟู่, ชุดเกราะหมิงกวง และทวนบนหลังม้า

ม้าศึกฉิงฟู่ของกรมทหารที่ 2 ยังได้รับการสวมชุดเกราะป้องกันแล้วด้วย อาจกล่าวได้ว่า ในตอนนี้ พวกเขาเป็นทหารม้าเกราะหนักที่แท้จริง สำหรับกรมทหารองครักษ์ เพื่อรักษาความคล่องตัว พวกเขาจึงไม่ได้สวมชัดเกราะป้องกันให้กับม้าของพวกเขา

การเคลื่อนไหวทางทหารอย่างฉับพลัน ทำให้การฝึกอบรมทางทหารทั้งหมดในเขตชานเมืองทางตะวันตกถูกหยุดลงชั่วคราว

เพื่อหลีกเลี่ยงความระแวงสงสัย กลุ่มผู้ฝึกสอนทั้ง 10 จากกลุ่มทหารรับจ้างแรทเทิ้ลสเน็คได้ถูกส่งกลับไปที่เชี่ยนเย่ชั่วคราว และพวกเขาจะกลับมาอีกครั้งหลังจากี่สงครามจบแล้ว

…………………………………………………………………………….

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 11 วันที่ 8 ณ เมืองมิตรภาพ

บนกำแพงเมือง ธงของลอร์ดแห่งเมืองซานไห่ค่อยๆโบกสะบัดภายใต้ความแวววาวของแสงอาทิตย์ มันดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก มันกำลังประกาศพลังอำนาจของเมืองซานไห่ ในทีสุด ก็ถึงเวลาเปิดเผยเขี้ยวเล็บของมันแล้ว

หันหน้าเขาหาพระอาทิตย์ กรมทหารทั้ง 5 เข้าแถวอบ่างเป็นระเบียบ และรอคำสั่งจากลอร์ดของพวกเขา

หวังเฟิงและหลินยี่มาพร้อมกับโอหยางโชว พวกเขาขึ้นไปบนเวทีสูง และประเมินกองทัพ จากนั้น พวกเขาก็กล่าวตำหนิเผ่าเทียนเฟิง ที่ต่อต้านความร่วมมือของพวกเขา โดยการทำลายตลาดการค้า ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขายังปฏิเสธที่จะประนีประนอม และมองข้ามเมืองซานไห่ เพื่อกู้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของพวกเขาคืน พวกเขาจะต้องสู้เท่านั้น

“สู้! สู้! สู้!” ทหารมากกว่า 10,000 นาย ตะโกนพร้อมกัน กลิ่นอายที่แข็งแกร่งของกองทัพ ได้แพร่กระจายออกไปรอบๆ ราวกับว่าพวกเขาต้องการจะย้อมทุ่งหญ้าให้กลายเป็นสีแดง

โอหยางโชวยืนอยู่บนเวทีสูง เขาทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพ และออกคำสั่งกองกำลังทั้งหมดนี้ เมื่อเขาเห็นขวัญกำลังใจของพวกเขา มันทำให้เลือดของโอหยางโชวเดือดพล่าน

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด