ตอนที่แล้วตอนที่ 179 มู่ หลานปะทะเซี่ย หยู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 181 สิ้นสุดการประเมิน

ตอนที่ 180 ถอยคนละก้าว


หลิน ฮวงเตือนเมื่อพวกเธอทั้งคู่กำลังต่อสู้เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

ตามที่คาดไว้ เนื่องจากการโจมตีของ เซี่ย หยูไม่ได้ผล เธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่หลิน ฮวง

เมื่อเซี่ย หยูกำลังพุ่งมาหาเขา ก่อนที่เธอจะได้โจมตี หลิน ฮวงก็สั่ง “ไทแรนด์!”

 

อึดใจต่อมา ไทแรนด์ก็ปรากฏตัวมาจากสักที่และยืนตรงหน้าหลิน ฮวง เขาป้องกันการโจมตีโดยใช้ร่างกายอันใหญ่โตของไทแรนด์เป็นโล่ ทำให้เซี่ย หยูไม่อาจเห็นตัวเขา!

“ฮืม!”เซี่ย หยูหัวเราะเยาะเมื่อเธอเห็นไทแรนด์ปรากฏตัว  เธอเปลี่ยนกรงเล็บบนมือเธอไปที่กำลังจะคว้ากุมตัวหลิน ฮวงเป็นฝ่ามือและกระแทกกับหน้าอกของไทแรนด์

เธอคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับมอนสเตอร์ระดับทองขั้น3 แม้กระทั่งมอนสเตอร์กลายพันธ์ก็ยังยากที่จะมีชีวิตรอดได้กับการโจมตีเช่นนี้

ไทแรนด์ถอยไปไม่กี่ก้าวขณะที่ฝ่ามือของเธอกระทบกับมัน แต่ทว่า มีเพียงรอยแตกที่ราวกับใยแมงมุมปรากฏบนหน้าอกมันเท่านั้น คลื่นกระแทกที่รุนแรงถูกส่งย้อนมาจากร่างไทแรนด์และโจมตีเธอ ส่งผลให้เธอต้องล่าถอยไปหลายก้าวเช่นกัน

เซี่ย หยูตะลึงและมองดูไทแรนด์ รอยแตกที่ราวกับใยแมงมุมบนหน้าอกกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วที่น่ากลัว หลังจากนั้นสักพัก มันก็หายไปโดยสมบูรณ์

 

“มันเป็นมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้งที่มีพลังป้องกันสูงและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง!”ดวงตาของเซี่ย หยูทอประกายแรงกล้าขึ้นในฉับพลัน

 

แม้กระทั่งมู่ หลานที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็ยังประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าไทแรนด์ยังมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะรับการโจมตีของเซี่ย หยูไป มู่ หลานรู้ว่าเซี่ย หยูนั้นทรงพลังแค่ไหน แม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้เคียวและเพิ่งจะใช้กรงเล็บในมือเธอ แต่มอนสเตอร์ระดับทองขั้น3ก็ไม่ควรจะป้องกันการโจมตีจากเธอได้เลย

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการถอยไปไม่กี่ก้าว บาดแผลบนร่างไทแรนด์ยังถูกรักษาด้วยตัวของมันเอง เธอรู้ทันทีว่าไทแรนด์คือมอนสเตอร์ที่ผ่านการกลายพันธ์สองครั้ง

 

“พลังป้องกันและความสามารถในการรักษาตัวของมันน่ากลัวมาก”แม้กระทั่งมู่ หลานยังตกใจกับความสามารถนี้

“หลิน ฮวง นายทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ!”เซี่ย หยูยิ้มกว้างและกล่าว“ให้ฉันได้ทดสอบและดูว่าการป้องกันของสิ่งมีชีวิตตัวโตนี้จะมีพลังป้องกันแค่ไหน”

 

ทันทีที่เธอพูดจบ เซี่ย หยูก็ตวัดเคียวยักษ์อีกครั้ง

ขณะนั้นเอง ลำแสงสีน้ำเงินก็พาดผ่านท้องฟ้า บินโฉบไปทางเซี่ย หยู

เซี่ย หยูขมวดคิ้วและเธอก็ต้องป้องกันการโจมตี

เคียวสีดำได้ฉีกผ่านอากาศและกำลังจะฟันไปที่ร่างของมู่ หลาน

จากนั้นเคียวยักษ์สีดำและดาบยาวสีน้ำเงินก็ปะทะกันอีกครั้ง

เสียงดังขึ้นเมื่อพลังชีวิตสีทองและสีดำกำลังบดขยี้กัน เสียงมันคล้ายกับเสียงของกระแสไฟฟ้าที่กำลังวิ่งพล่าน

หลังจากนั้นไม่นาน ผลกระทบของพลังชีวิตพวกเขาก็มาถึงขีดสุด ก่อให้เกิดการระเบิดขึ้น

มู่ หลานถอยหลังและทะยานลงบนพื้น บังคับให้พลังทั้งหมดไหลลงไปที่พื้นดินผ่านชุดเกราะเธอ

 

“บุตรสาวตระกูลมู่ เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ยอมแพ้?”เซี่ ยหยูจ้องมองมู่ หลานอย่างเย็นชา

“หลิน ฮวงคือสมาชิกของสมาคมนักล่า ฉันไม่ยอมให้เธอนำเขากลับไปด้วย นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้หลุดพ้น เธอจะมีความสามารถแค่ไหนกันหากเธอยังพยายามข่มขู่คนที่อยู่ในระดับเงิน?”มู่ หลานยืนตรงหน้าไทแรนด์ ไม่มีเจตนาที่จะหนี

“ฉันกำลังข่มขู่เขา?ฉันแค่รู้สึกว่าสมาคมนักล่าไม่อาจให้การอบรมที่ดีแก่เขาได้ ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจที่จะพาเขากลับไปยังองค์กรเพื่อที่เขาจะได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องเจิดจรัสในองค์กรนอกรีต นอกจากนี้ ในทางเทคนิค เขายังไม่ผ่านการประเมินด้วยซ้ำไป”เซี่ย หยูมองไปในทิศทางของไทแรนด์

“เขาอาจจะยังไม่เป็นสมาชิกปกติ แต่ทว่า เขาคือหนึ่งในผู้สมัครภายใต้การดูแลของฉัน ในฐานะหัวหน้าผู้คุม ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอพาตัวเขาไป นอกจากนี้ สมาคมนักล่าย่อมต้องฝึกฝนนักล่าที่มีพรสวรรค์ เธอไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนั้นไป ฉันเชื่อว่าหลิน ฮวงจะต้องโด่งดังในสมาคมนักล่า”มู่ หลานกล่าว

“เธอยืนยันที่จะขวางทางฉัน?”เซีย หยูมีสีหน้าที่เย็นชา

“ใช่ ถูกต้อง”มู่ หลานไม่มีเจตนาที่จะถอยหนีขณะที่จ้องมองเซี่ย หยูกลับ

“ดีมาก มีความสามารถบางอย่างที่ฉันเก็บซ่อนเอาไว้ แต่เธอบังคับฉันเอง”เซี่ย หยูกล่าวขณะที่หยิบอาวุธของเธออกมาและวาดมันในอากาศอย่างสลับซับซ้อน

ใบหน้าของมู่ หลานเปลี่ยนไปทันทีขณะที่เธอหันมาตะโกนใส่หลิน ฮวง“ถอยไป!เร็วเข้า!”

“มันสายไปแล้ว...”หลิน ฮวงเงยหน้าและมองไปในท้องฟ้าด้วยความกลัว

กลิ่นอายที่ทรงพลังกระจายไปทั่วอากาศก่อนที่บางสิ่งจะปรากฏขึ้น ปกคลุมทั่วเกาะปีศาจน้อยด้วยกลิ่นอายที่น่าสะพรึง

มอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนกรีดร้องด้วยความกลัว ร่างของพวกมันสั่นสะท้ายราวกับพวกมันยืนอยู่ต่อหน้าราชาและก้มหมอบ

แม้ว่าไทแรนด์จะไม่ได้ก้มหมอบไปกับพื้น ร่างของมันก็เริ่มสั่นเล็กน้อยเช่นกัน

ขณะที่ทั้งคู่กำลังมองไปที่มอนสเตอร์ เคียวขนาดใหญ่ที่เปล่งรัศมีสีทองก็ปรากฏตรงหน้าเซี่ย หยู

 

“สมบัติระดับราชา –เคียวสังหารเทพ....”ใบหน้าของมู่ หลานซีดเซียวขณะที่เธอพ่นคำพูดออกมา

“นี่คือสมบัติระดับสูงสุด – เคียวสังหารเทพ ในองค์กรนอกรีต มีเพียงสามนักบุญและประมุขที่มีสิทธิ์ใช้สมบัตินี้ เซี่ย หยูกล่าวด้วยรอยยิ้ม มองลงไปที่มู่ หลาน”เกี่ยวกับความสามารถของเคียวนี้...เธอควรจะเคยได้ยินมัน ใช่ไหม?”

“มันจะตัดผ่านทุกสิ่ง....”มู่ หลานขมวดคิ้ว

“ใช่ มันจะตัดทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นดาบผ่าสมุทร5ดาวในมือเธอ ชุดเกราะวัฏจักร4ดาวหรือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังป้องกันสูงนั่น...ด้วยการตวัดเพียงครั้งเดียว ทุกสิ่งจะถูกแยกออกเป็นครึ่งหนึ่ง!”เซี่ย หยูยกเคียวสีทองขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่าอันก่อนมากขึ้นและชี้ไปที่มู่ หลาน

 

ท่าทางของหลิน ฮวงเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เซี่ย หยูกล่าว เขาไม่คิดว่าจะมีอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ในโลก

เธอตวัดเคียวสีทองในมือหลังจากที่พูดจบ

แสงสีทองปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่ หลาน มู่ หลานไม่อาจหลบการโจมตีได้และไม่มีเวลาจะป้องกันมัน จากนั้นคมดาบสีทองก็เฉือนร่างกายเธอ

 

“ฉันตายแล้ว?”มู่ หลานก้มหัวลงและมองบาดแผลเธอ จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่าเกราะเธอได้แตกไปแล้วแต่เธอกลับไม่มีบาดแผลเลย

“ไม่ต้องห่วง ฉันแค่ลบเกราะวัฏจักรสุดน่ารำคาญที่เธอกำลังสวมไป การจับเธอไปมันจะดีกว่าการฆ่า เธอคือนักล่าระดับทองอันดับ4และเธอยังเป็นบุคลากรชั้นยอดของสมาคมนักล่า มันคงจะเสียเปล่าหากเธอตาย บางทีองค์กรเราอาจต้องการเธอ หากเธอเลื่อนเป็นเพลิงสวรรค์ ความสามารถของเธอจะไม่อ่อนแอเลย”

 

เสียงของเซี่ย หยูดังมาจากข้างบน

หลิน ฮวงขมวดคิ้วขณะที่พยายามคิดหาทางออก อาวุธของศัตรูนั้นน่ากลัวเกินไป เธอสามารถฆ่ามอนสเตอร์ตัวใดก็ตามที่เขาอัญเชิญมาด้วยการตวัดเพียงครั้งเดียว  หากเขาอัญเชิญชาโคลและไป่ พวกมันจะต้องตายและพวกเขาก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย

ในทางกลับกัน มู่ หลานเป็นกังวลกับเคียวสังหารเทพมาก มันไม่ใช่แค่จะตัดทุกสิ่งแต่มันยังเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นอีกด้วย แม้ว่าเธอจะต้องการหนี เธอก็จะไม่มีทางหนีได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

 

“บุตรสาวตระกูลมู่ จงสำนึกเสียใจที่ต้องสูญเสียดาบของเธอ”เซี่ย หยูแสยะยิ้มและพยายามที่จะทำลายมัน

แสงสีทองปรากฏจากที่ไหนสักแห่งและฟาดฟันดาบผ่าสมุทรในมือมู่ หลาน

ทันใดนั้น ลำแสงสีม่วงก็ปรากฏขึ้นในเวลาพอดิบพอดีและปะทะกันแสงสีทองของเคียว

โดยไม่คาดคิด ผลกระทบทำให้แสงสีทองกระจายหายไปราวกับหิ่งห้อย

จากนั้น เงาดำขนาดใหญ่ก็ทาบทับลงมาข้างมู่ หลาน

มันคือชายวัยกลางคนคิ้วหนาที่มีแผลเป็นตรงริมฝีปากด้านซ้าย

หลิน ฮวงสามารถตระหนักถึงเขาได้ทันที เขาคือผู้หลุดพ้นที่สู้กับปีศาจตัวตลกในเมืองต้าซี

 

“ลุง จู เหนียน?”มู่ หลานประหลาดใจเมื่อเธอเห็นเขา

“คุณคือจู เหนียน?”เห็นได้ชัดว่าเซี่ย หยูเคยได้ยินชื่อเขา

“หืม เธอเองก็รู้จักฉัน?”จู เหนียนมองเด็กสาวที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศด้วยรอยยิ้ม

“แน่นอน ฉันย่อมต้องจำชื่อของผู้สมัครที่ได้รับการเสนอให้เข้าชิงตำแหน่งผู้บริหารของเขต7”เซี่ย หยูกล่าวด้วยความกลัว เธอรู้ดีว่าคู่ต่อสู้ของเธอคือผู้หลุดพ้นที่กำลังจะเป็นระดับนิรันดร์ เมื่อเขาเลื่อนเป็นระดับนิรันดร์ เขาจะกลายเป็นผู้บริหารของสมาคมนักล่า ด้วยอำนาจดั่งกล่าว พลังที่มาพร้อมกับตำแหน่งเขาก็ไม่อาจนำมาเทียบได้

“นักบุญหญิง โปรดอย่าสร้างปัญหาให้พวกเรามากเกินไปเลย”เขากล่าวขณะที่มองเซี่ย หยูด้วยรอยยิ้ม อันที่จริง มันคือวิธีที่เขาหยิบยื่นเพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายถอยหลังคนละก้าวและรักษาหน้าได้

 

เซี่ย หยูนั้นเป็นที่เคารพของผู้คน หากเธอถูกจับ มันอาจจะก่อให้เกิดสงครามระหว่างองค์กรนอกรีตและสมาคมนักล่า พื้นที่ตั้งแต่เขต1ถึง12จะตกอยู่ในความวุ่นวาย

เซี่ย หยูรู้ว่าเธอไม่อาจจับใครได้อีกเมื่อจู เหนียนอยู่ที่นี่ เมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้พยายามจะไม่ทำให้เธออับอาย เธอก็เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อว่า’เธอควรจะหยุดและไปซะ’

 

ภารกิจของเธอล้มเหลวและมันก็ไร้ประโยชน์ที่จะดึงดัน

“คุณ จู เหนียน เนื่องจากคุณได้เสนอ งั้นฉันก็จะไป”เซี่ย หยูเลื่อนสายตาไปจ้องมองหลิน ฮวงและมู่ หลาน“เรายังมีเวลา ฉันจะปล่อยให้พวกเธออยู่ที่สมาคมนักล่าไปก่อน ฉันจะมองหาโอกาสและนำพวกเธอกลับไปที่องค์กรนอกรีต!”

 

เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามจะยั่วยุพวกเขา จู เหนียนหัวเราะหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว

เมื่อเก็บเคียวสีทองไป เซี่ย หยูก็อัญเชิญประตูมิติต่อหน้าพวกเขาสามคนและเข้าไป ก่อนที่ประตูจะปิด เธอก็โบกมือให้พวกเขา

หลังจากที่ เซี่ย หยูจากไป หลิน ฮวงก็เรียกไทแรนด์กลับ

 

จู เหนียนหันมามองหลิน ฮวงราวกับเขากำลังคิดลึก จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้น“กลับไปที่จุดประเมินกันก่อนเถอะ บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

หลังจากที่พาทั้งคู่กลับมายังจุดประเมิน เหล่าผู้สมัครก็ถูกปลดปล่อยจากคุกเทียมมืด และจู เหนียนก็ถามถึงเหตุการณ์

หลิน ฮวงและมู่ หลานบอกกับเขาทุกสิ่ง จู เหนียนพยักหน้าหลังจากที่ได้ยิน

 

“ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนทราบ การประเมินอาจต้องถูกหยุดไว้ชั่วคราว พวกเราต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อพิจารณาว่าการประเมินจะดำเนินต่อไปหรือไม่ ในระหว่างนี้พวกเธอสามารถพักอยู่บนเกาะไปได้”จู เหนียนกล่าวออกมา

 

มู่ หลานและผู้สมัครคนอื่นไม่มีข้อคัดค้าน จากนั้นพวกเขาก็ตั้งเต็นท์ของพวกเขาขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด