ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 6 : ลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 6 : ลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส (3) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 6 : ลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส (2) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 6 : ลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส (2)

เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขาได้เห็นอลันที่ร่วงหล่นลงมาจากการที่บินขึ้นไปสูงจนเกินไป แต่นั่นครึ่งหนึ่งก็เป็นผลจากการกระทำของอาร์ค แต่ไม่ว่าจะอะไรมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว สำหรับการเป็นเป้าสายตาจำนวนมากมันไม่อาจส่งผลอะไรกับอลัน แต่แล้วด้วยความอิจฉาที่ซุกซ่อนแต่เดิมหากมันระเบิดออกมาเป็นความริษยาล่ะ อลันมีทั้งเลเวลและพลังที่สามารถใช้ดึงดูดความสนใจได้ แต่ความสนใจของผู้เล่นทั้งหลาย สำหรับอาร์คแล้วมันเป็นองค์ประกอบที่น่าไว้ใจ มันจะทำให้เป็นเป้าที่ง่ายต่อการเป็นเป้าหมายของพวกผู้เล่นฆาตกร อีกทั้งยังมีข้อจำกัดหลายสิ่งอย่างที่จะสามารถกระทำได้กับผู้ติดตาม เขาจึงพยายามหลบเลี่ยงเรื่องราวพวกนี้อย่างถึงที่สุด

‘เราก็แค่ผู้ได้รับผลประโยชน์โดยที่ไม่ต้องมือเปื้อนเลยด้วยซ้ำ’ นี่คือเป้าหมายที่อาร์คคาดคิดเอาไว้ระหว่างเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้

ด้วยความไม่รู้ว่าภายในของเขานั้นคิดเรื่องอื่นอยู่ ท่านลอร์ดหนุ่มได้พยักหน้ารับอย่างซาบซึ้งใจ

“ผมเชื่อว่า ความเป็นจริงที่ผมได้ลงมือช่วยนั้น มันก็เพียงพอที่จะเป็นรางวัลสำหรับตนเองแล้วครับ”

“สมกับเป็นท่านอาร์ค! ถึงกับไม่เรียกร้องความดีความชอบแต่อย่างใด? ท่านถึงกับเป็นบุคคลที่กระจ่างใสประดุจคริสตัลที่ส่องประกาย นี่สินะถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบิดาข้าถึงได้เชื่อใจท่านและฝากฝังเรื่องราวเอาไว้กับท่าน ข้าเข้าใจแล้ว หากท่านต้องการตามนั้นจริงก็ช่วยไม่ได้ เรย์มอนด์ แจ้งในประกาศว่าปฏิบัติการในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพราะการร่วมมือขององครักษ์ กองกำลังสำรอง และลูกเรือของซิลเวอร์แอร์โรว์ดังที่ท่านอาร์คร้องขอ ตกลงตามนี้นะ?”

“ครับ ขอบคุณมาก” อาร์คยกยิ้มขณะยกประเด็นเรื่องสำคัญขึ้นมา “ที่จริงแล้ว ผมมาเพื่อเผยสิ่งให้ท่านลอร์ดดูครับ”

อาร์คนำเอากระดาษที่ได้รับหลังการสังหารกัปตันพลปืนนารัคออกมา

 

=====

ท่านได้ตรวจสอบเนื้อหาของ ‘คำแนะนำลงตราประทับโดยลอร์ดแห่งความมืดวาลเดอลาส อนุมัติ’

=====

 

เนื้อความกล่าวถึงกัปตันพลปืนที่ควบคุมปืนใหญ่มอดไหม้ นารัคและนาจัค

 

=====

ไอ้ตัวโง่งม นี่แกเสียเวลาเป็นสัปดาห์ไปทำอะไรกัน?!

เพราะพวกแกมันไร้ความสามารถ นายท่านวาลเดอลาสจึงตัดสินใจร่วมกองกำลังปีศาจให้มุ่งมายังแนวหน้า และตอนนี้ ด้วยความช่วยเหลือของพลังแห่งความมืดอันยิ่งใหญ่ นายท่านคิดกำจัดมนุษย์ที่อ่อนแอทุกคนให้สิ้นซาก

พวกแกสองตัวต้องเคลื่อนปืนใหญ่มอดไหม้ไปยังตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้บนแผนที่ก่อนที่พระจันทร์เต็มดวงจะขึ้น ตราบเท่าที่นายท่านวาลเดอลาสมาถึง พวกเราจะสามารถถล่มปราสาทแจ๊คสันด้วยปืนใหญ่มอดไหม้ได้

=====

 

“วาลเดอลาส!” ท่านลอร์ดหนุ่มอุทานออกมาอย่างแตกตื่น

“เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนหรือครับ?”

“ใช่...” ท่านลอร์ดหนุ่มยกมือขึ้นปาดเหงื่อจากหน้าผากขณะเผยความกังวลภายในออกมา “ข้าเคยเห็นนามนี้ในเอกสารเก่าแก่ที่เก็บเอาไว้ภายในปราสาท ได้ยินมาว่าวาลเดอลาสเป็นหนึ่งในผู้ปกครองของพื้นที่แจ๊คสันก่อนยุคร้อยปีแห่งความมืดในฐานะของนักรบในตำนาน ดราโกเนี่ยน ตามบันทึกกล่าวเอาไว้ว่าเขาเป็นท่านลอร์ดที่สุดยอดท่านหนึ่ง แต่แล้วเมื่อร้อยปีแห่งความมืดเริ่มขึ้น เขากลับกลายเป็นข้ารับใช้ความมืดและเขย่าขวัญไปทั่วทั้งทวีป จากนั้นผู้กล้าทั้งเจ็ดจึงค่อยปรากฏตัวขึ้น และข้าได้ยินมาว่าวาลเดอลาสได้หายตัวไปท่ามกลางพลังแห่งความมืด”

“แล้วคนที่หายตัวไปตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนทำไมถึงได้...?”

“ไม่แน่ชัดนัก บางที...” ท่านลอร์ดหนุ่มกล่าวต่อขณะเผยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ที่ข้าพูดได้เพราะเป็นท่าน แต่ที่จริงแล้ว ตั้งแต่ที่กองกำลังความมืดเข้าโจมตีแจ๊คสัน มันมีข่าวลือถูกพูดอย่างหนาหู ว่ามันคือสัญญาณเตือนถึงความมืดที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เกิดร้อยปีแห่งความมืด มันกำลังจะตื่นขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หมอกมืดที่ปกคลุมแจ๊คสันอยู่ก็มีส่วนคล้ายพลังแห่งความมืดที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ มันเป็นเหตุผลว่าทำไมกิลด์ใหญ่ทั้งสามจึงเร่งร้อนกะเกณฑ์คนมาเช่นนี้ เพราะถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพแห่งความมืดจริง เช่นนั้นแล้วครั้งนี้มันก็จะไม่ใช่ปัญหาธรรมดาอีกต่อไป”

“ครับ?”

“แน่นอน ว่ามันยังคงเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ายุคมืดจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ดังที่กล่าวไป วาลเดอลาสคือสายเลือดดราโกเนี่ยนผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยปกครองแจ๊คสัน มันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งและเข้าโจมตีแจ๊คสันเพื่อยึดครองอีกครั้งหนึ่ง ทว่า สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้แทบไม่ต้องสงสัยแล้ว ว่ามันสมควรเป็นดังที่คาด”

ครอสและเรย์มอนด์เองก็แลกเปลี่ยนคำพูดกันด้วยใบหน้ามืดมน

“ตามสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้ในเอกสารโบราณ วาลเดอลาสถูกกล่าวเอาไว้ว่ามีพละกำลังเพียงพอที่จะเข้าต้านทานกองทัพได้ด้วยเพียงลำพัง เหล่าผู้กล้าที่ลุกขึ้นสู้ในช่วงยุคมืดต่างสูญสิ้นชีวิตไปภายในเงื้อมมือนั้น”

“ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องจะร้ายแรงถึงเพียงนี้...”

“พวกเราไม่มีเวลาแล้ว พระจันทร์เต็มดวงกำลังจะขึ้นในวันถัดไป”

“ยังคงเหลือเวลาอีกสองวันกว่ากำลังเสริมของอาณาจักรจะมาถึงตามที่คาดการณ์เอาไว้ แต่กำแพงปราสาทในตอนนี้ได้อ่อนยวบลงเพราะต้านทานมอนสเตอร์ทุกวี่วันมานานยิ่ง ถ้าหากพวกมันมาโจมตีปราสาทจริง แจ๊คสันคงได้รับความเสียหายเกินจะคาดเดา กระทั่งว่าพวกเราจะได้รับชัยชนะมาก็ตาม”

“พวกเราต้องหยุดยั้งพวกมันก่อนมาถึงปราสาทอย่างสุดความสามารถ”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระดาษแผ่นนี้คือสิ่งยืนยันถึงการปรากฏตัวขึ้นของวาลเดอลาส และมันยังเป็นการประกาศถึงศึกสุดท้ายอีกด้วย กล่าวก็คือ มันหมายความว่า วาลเดอลาสคือบอสตัวสุดท้ายของภารกิจระดับ C++!

มันจะต้องแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าบอสใด ๆ ที่อาร์คเคยพบเจอมาอย่างแน่นอน!

“ผมก็คิดเช่นนั้นครับ พวกเราต้องหยุดยั้งวาลเดอลาสไม่ให้มาถึงที่นี่อย่างสุดกำลัง ยังเหลือเวลาอีกสองวันกว่ากองกำลังเสริมจะมาถึง ถ้าหากพวกเรารั้งเอาไว้ได้ถึงสองวัน ชัยชนะจะตกเป็นของพวกเรา”

“แน่นอน มันต้องไม่ใช่การศึกที่ง่ายดายถ้าหากศัตรูคือวาลเดอลาส ทว่า ต้องขอบคุณที่เราได้รับจดหมายนี้จากการที่ท่านอาร์คนำมา นั่นจึงทำให้เราล่วงรู้เส้นทางของศัตรูได้ เช่นกัน หนึ่งในปืนใหญ่มอดไหม้ตอนนี้ได้ตกอยู่ในกำมือของพวกเราแล้ว หากพวกเราสามารถใช้งานปืนใหญ่มอดไหม้ร่วมกับกองกำลังทั้งหมดเข้าไปขัดขวางเส้นทางที่พวกมันพูดถึงเอาไว้ได้ พวกเราก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ”

ท่านลอร์ดหนุ่มพยักหน้าขณะจับมือของอาร์คเอาไว้

“ดังที่ท่านได้ยินไป ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความสำเร็จของท่าน”

 

=====

ด้วยการได้รับข้อมูลที่จะชี้ชะตาต่อผลโดยรวมของการศึก ท่านได้รับแต้มสะสมเพิ่มขึ้น 3,000 หน่วย

=====

 

ข้อความแสดงความยินดีผุดขึ้นพร้อมกับเสียงประกอบ

“การศึกที่กำลังจะมาถึงนี้จะต้องยาวนานและอันตรายยิ่งกว่าการศึกครั้งใดที่ผ่านมา ทว่า พวกเราจะสามารถได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ได้เพียงแค่ถ่วงเวลาออกไปสองวันเท่านั้น อีกทั้ง ความมืดที่เข้าปกคลุมแจ๊คสันเอาไว้จะได้หายไปด้วยเช่นเดียวกัน” ท่านลอร์ดหนุ่มพูดกล่าวด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม “ท่านครอส โปรดเตรียมพัสดุที่จำเป็นโดยทันที และให้หารือถึงรายละเอียดการปฏิบัติการด้วย”

“ขอรับ!”

ครอสวิ่งออกไปอย่างเร่งร้อน จากนั้น หลังผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง เรย์มอนด์ได้ประกาศแจ้งการชุมนุมที่ท่านลอร์ดสั่งการภายในจัตุรัส ในขณะเดียวกันนั้น หน้าต่างภารกิจจึงปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้เล่นทุกคนในแจ๊คสัน

 

=====

งานชุมนุมผู้กล้า!

*ภารกิจย่อย : ศึกครั้งสุดท้าย

ลอร์ดแห่งความมืด วาลเดอลาส ได้นำกองกำลังปีศาจมุ่งหน้ามายังปราสาทแจ๊คสัน หากวาลเดอลาสมาถึงแจ๊คสัน มันจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่หลวง ดังนั้นแล้ว ท่านลอร์ดจึงตัดสินใจใช้กองกำลังทั้งหมดที่มีอยู่เตรียมเคลื่อนพลออกไปยังเส้นทางที่ได้ล่วงรู้มาเพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของพวกมัน

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นนายพลเรียกรวมพลโดยคำสั่งของท่านลอร์ด ผู้เล่นทุกคนจึงต้องเข้าร่วม เหลือเวลาอีก 2 วันก่อนกองกำลังเสริมของอาณาจักรจะมาถึง ถ้าหากวาลเดอลาสถูกหยุดยั้งการรุกคืบเอาไว้ได้ หรือถูกจัดการไปก่อนหน้านั้น ชัยชนะจะตกเป็นของกองกำลังรักษาการณ์แห่งแจ๊คสัน การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่มีชะตาของแจ๊คสันเป็นเดิมพันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เชิดชูดาบของท่านและโค่นล้มความมืดลงให้จงได้!

(ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้จะได้รับแต้มสะสมเพิ่มเติม 50 หน่วยต่อมอนสเตอร์ทุกตัวที่สังหารไป ผู้เล่นทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างความเสียหายหรือสังหารวาลเดอลาสจะได้รับแต้มสะสมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้เล่นทุกคนที่ร่วมภารกิจจนสำเร็จจะได้รับการคำนวนแต้มสะสมพิเศษเพิ่มขึ้น)

ระดับความยาก : C++

=====

* * *

 

พื้นที่สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ถูกตัดสินแล้วว่าจะใช้หุบเขาที่อยู่ห่างจากปราสาทแจ๊คสันหลายกิโลเมตร มันเป็นชัยภูมิที่ดีต่อการโจมตีและผลักดันกองทัพของศัตรูให้ถอยกลับ

ผู้เล่นที่ได้รับภารกิจนี้ต่างก็มารวมตัวกันในพื้นที่ โดยมีทั้งกองกำลังที่หนึ่ง สอง และสาม ทว่าจำนวนนั้นมีเพียงแค่หนึ่งร้อย ก่อนหน้านี้พวกเขามีมากถึงหนึ่งร้อยสี่สิบคน แต่เป็นเพราะการศึกระหว่างปฏิบัติการระเบิดปืนใหญ่มอดไหม้ คนกว่าสี่สิบคนจึงหายไป

นอกจากนี้ กลุ่มของพวกเขายังไม่เป็นหนึ่งเดียวกันดังเช่นที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ ด้วยความเชื่อใจที่เคยมีต่ออลันซึ่งเป็นศูนย์กลางพังทลายลง พวกผู้เล่นจึงเริ่มแบ่งแยกกันออกเป็นปาร์ตี้ของตนเอง

ทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความผิดพลาดของอลันเสียทีเดียวที่ทำหน่วยจู่โจมแตกแยก เป็นเพราะภารกิจนี้มันมีแต้มสะสมให้มากกว่าครั้งไหน อีกทั้ง นี่ยังเป็นการศึกครั้งสุดท้ายที่จะตัดสินความเป็นไปของภารกิจ ตอนนี้ความกระหายต่อแต้มสะสมจึงพุ่งสูงมากขึ้นยิ่งกว่าครั้งใด นอกจากนี้พวกเขายังต้องอยู่รอด อีกเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือพวกเขาต้องท้าทายปฏิบัติการในครั้งนี้ร่วมกับปาร์ตี้ไม่ใช่หน่วยจู่โจม

“มอนสเตอร์แต่ละตัวให้แต้มสะสมมากถึง 50 หน่วย”

“อย่างดีที่สุด พวกเราคงจัดการได้สักสิบตัว”

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกเราจะพลิกกระดานแล้ว ไม่ต้องไปสนใจคนอื่น ในเมื่อมันคือเรื่องราวสุดท้ายที่ต้องทำ ให้ใส่ใจผู้คนในปาร์ตี้ของเราเพียงอย่างเดียวก็พอ”

“คุณนักบวช โปรดอย่าได้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูกับผู้เล่นจากปาร์ตี้อื่น รักษาพลังมานาของตัวเองเอาไว้”

พวกผู้เล่นต่างยุ่งอยู่กับการกระซิบกระซาบในหมู่พรรคพวกตนเองที่อยู่เป็นกลุ่มราวสองหรือสามคน

อาร์คเองก็ยุ่งอยู่เช่นกัน เป็นเพราะตอนนี้เขาต้องรับผิดชอบคนจำนวนมาก “เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น มันจะไม่มีเวลาให้สำรวจสถานการณ์ได้อีก ส่วนที่อันตรายที่สุดคือกองกำลังสำรองที่มีเลเวลต่ำ พวกคุณได้รับแต้มสะสมจำนวนมากจากการยิงปืนใหญ่มอดไหม้ไปแล้ว ดังนั้นโปรดอย่าได้หน้ามืดตามัวกับแต้มสะสมเหล่านี้ เข้าใจหรือไม่ครับ? การอยู่รอดสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด”

“ค่ะ เข้าใจค่า!”

โรโค่พยักหน้ารับขณะเผยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล ทั้งกองกำลังที่หนึ่ง สอง และสาม รวมถึงกองกำลังสำรอง และกองทหารองครักษ์แจ๊คสัน กระทั่งอัศวินซิลฟีดก็ถูกนับรวมตอนนี้เหลือกำลังเพียงแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้านายเท่านั้น นอกจากนี้ ท่านลอร์ดหนุ่มยังเริ่มแจงรายละเอียดผ่านแผนที่ถึงปฏิบัติการและอธิบายต่อพวกผู้เล่น ทว่า เมื่อใดก็ตามที่การต่อสู้ปะทุขึ้น พวกผู้เล่นก็คงดำเนินแผนการของตัวเองกัน พวกเขาจะดวงตามืดบอดเพราะค่าประสบการณ์และแต้มสะสม

ท้ายที่สุด มีเพียงแต่ตนเองเท่านั้นที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเองได้

แน่นอน อาร์คก็เช่นกัน สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้กองกำลังสำรองได้ก็คืออาหารที่ช่วยเพิ่มพลังชีวิตมากถึง 300 หน่วย และเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เขาจะไม่มีเวลาหรือความลำเอียงข้องแวะไปช่วยผู้ใด

‘การศึกครั้งนี้จะช่วยยกระดับผลลัพธ์ที่ได้และความสามารถ!’

ที่จริงอาร์คได้คาดหวังถึงสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้แล้ว

“นายจะทำอะไรล่ะ?”

อาร์คมองไปยังแชมบาร่าที่กำลังนั่งผ่อนคลายอยู่

สัญญาที่มีกับแชมบาร่าคืออีกฝ่ายต้องช่วยเหลือเขาจนกว่าภารกิจอีเวนท์จะสิ้นสุดลง ทว่าอาร์คก็ได้ส่งมอบไอเทมที่อีกฝ่ายต้องการให้ตั้งแต่หลังจบสิ้นปฏิบัติการระเบิดปืนใหญ่มอดไหม้เรียบร้อยแล้ว เจ้างูน้อยได้คายเอาทุกสิ่งอย่างออกมาจากท้องจนหมดสิ้น มันนับเป็นความอัปยศอยู่บ้างที่ต้องให้ไอเทมเหล่านั้นต้องมากินพื้นที่ว่างในกระเป๋าของเขาไป ดังนั้นแล้วอาร์คจึงตัดสินใจกระทำตามสิ่งที่ให้สัญญาเอาไว้ อีกทั้ง ถ้าหากต้องให้พูดออกมา เขาก็ไม่ต้องการผูกมัดแชมบาร่าเอาไว้เพราะเงื่อนไขเหล่านี้ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเขานั้นก็เริ่มชอบนิสัยของแชมบาร่าขึ้นมาพอสมควร แน่นอน ไม่ว่าอาร์คจะชอบใจอีกฝ่ายแค่ไหน เขาก็ไม่คิดที่จะลดราคาให้แม้สัก 1 เหรียญทองแดงจากมูลค่า 300 เหรียญทองอย่างแน่นอน

“ฉันไม่สนใจเรื่องแต้มสะสมพวกนั้น แต่... ฉันจะช่วยนายก็แล้วกัน ที่จริงสู้ร่วมกับนายมันก็สนุกเอาเรื่องเหมือนกัน”

แชมบาร่าเองก็เผยออกมาแล้วว่าชอบใจอาร์คอยู่พอสมควรเช่นกัน

“กองทัพปีศาจใกล้เข้ามาแล้ว!”

ขณะนั้นเอง นักเวทที่รับหน้าที่สอดส่องทัศนวิสัยยามค่ำคืนได้ร้องตะโกนออกมา

อาร์คจึงใช้เนตรแห่งแมวขณะหันสายตามองไป กลุ่มมอนสเตอร์หนาแน่นกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่หุบเขา มอนสเตอร์เงา ผู้ล้างแค้น ฮิปตัน... พวกมันล้วนมีเลเวลแตกต่างจากมอนสเตอร์ชนิดเดียวกันที่เคยพบเจอเมื่อก่อนหน้านี้ ทั้งผู้เล่นและเอ็นพีซีก็ได้เห็นเช่นเดียวกัน มอนสเตอร์พวกนี้มีรูปลักษณ์ที่เหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งเลเวลและอุปกรณ์สวมใส่ของพวกมันล้วนแตกต่าง มอนสเตอร์เหล่านี้กำลังมุ่งหน้าเข้ามายังหุบเขาพร้อมชุดเกราะที่มีความทนทานเต็มเปี่ยม อีกทั้งพวกมันยังมีขนาดใหญ่กว่าถึงเท่าตัวอีกด้วย

ใบหน้าของเหล่าผู้เล่นจึงเริ่มแข็งทื่อราวกับหินก็ไม่ปาน

‘มีมอนสเตอร์เลเวล 100 ปะปนอยู่ภายในนั้นด้วย’

เลเวลที่แสดงอยู่เหนือศีรษะของพวกมอนสเตอร์ต่างอยู่ในช่วง 90~100!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด