ตอนที่แล้วตอนที่27 พรสวรรค์ของนักกีฬา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่29 การสอบสำหรับนักกีฬาชาติลำดับ2

ตอนที่28 โควตารับเข้าเรียนแบบอิสระ


ในออฟฟิศ ครูใหญ่ลู่กำลังทำหน้าหน้าตาเคร่งเครียด

นี้คือปีที่2ของเขาในโรงเรียนกีฬาเเห่งนี้ ในฐานะของครูใหญ่คนใหม่ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ในคอนเเรกเขาก็ไม่ค่อยได้รับการยอมรับเท่าไร ตลอด2ปีที่ผ่านมาเขาพยายามปรับตัวให้ชินกับสภาพเเวดล้อมเเล้วปลูกฝังทีมของเขาเอง

ท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้

 

หลายๆคนคิดว่ามันไม่ได้มีความกดดันอะไรเลยในโรงเรียนกีฬาถ้าดูจากสัดส่วนของนักเรียนที่เข้าโรงเรียนขั้นสูงได้  พวกนั้นคิดว่าการทำงานที่โรงเรียนกีฬามันโคตรจะสบาย

 

เเต่ครูใหญ่ลู่พึ่งรับรู้หลังจากทำงานที่นี้มา1ปี ว่ามันไม่ง่ายเหมือนกับที่คนภายนอกมองเลย

 

โรงเรียนกีฬาเคยเป็น1ในสุดยอด ถึงเเม้จะเป็นเเค่โรงเรียนเฉพาะทางเเต่มันก็รับรองการทำงานที่มีให้เเน่นอนกับเด็กที่จบไปจนกระทั้งถึงปี90 ระหว่างเวลานั้น โรงเรียนเฉพาะทางเคยเป็นตัวเลือกเเรกๆ เเม้ว่าจะไปเทียบกับโรงเรียนม.ปลายก็ตาม เหมือนกับโรงเรียนเทคนิคทั่วไป โรงเรียนแพทย์ยังเป็นที่สำหรับเด็กดีเด่นที่มีเกรดยอดเยี่ยมเพราะว่ามันมีงานรอให้พวกเขาอยู่เเล้วถ้าพวกเขาไม่สอบตก โรงเรียนกีฬาก็เป็น1ในที่สุดของพวกนั้นเหมือนกัน ในช่วงเวลานั้นผู้คนได้รับโปรตีนไม่มากพอ เเล้วเเทนที่จะห่วงเรื่องสารอาหารไม่เพียงพอ ผู้คนเป็นห่วงเรื่องจะอดตายกันมากกว่า

 

เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ทำให้สิ่งที่เป็นข้อเสียสำหรับโรงเรียนกีฬา ในฐานะที่เป็นโรงเรียนเฉพาะทางเริ่มเด่นชัดขึ้นมา ไม่เหมือนกับโรงเรียนม.ปลายทั่วไป เด็กนักเรียนจากโรงเรียนเฉพาะทางไม่สามารถสอบมหาลัยได้ วิธีทางเดียวที่จะทำให้มีวุฒิคือทำข้อสอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง วุฒิการศึกษาแบบนี้ได้รับการยอมรับจากทางประเทศก็จริง แต่ก็เท่านั้นละ มันไม่ได้ช่วยในการหางานเลย

 

นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณภาพของนักเรียนที่เข้ามาสมัครที่โรงเรียนกีฬามันต่ำเอาต่ำเอาแล้วก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากมีนักเรียนที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาหลายคนแต่พวกเขาไม่ได้ไปที่โรงเรียนกีฬาเพราะว่าพ่อแม่พวกเขาไม่ยอมส่งพวกเขาไป การเรียนสายปรกติเป็นที่สุดในตอนนี้ในมุมมองของผู้ปกครอง มันดีกว่าที่โยนเด็กให้ไปนั่งงงๆในมหาลัย ยังดีกว่าส่งเด็กไปเรียนโรงเรียนกีฬา

 

ในยุคสมัยนั้นผู้คนเลยยอมรับผู้คนที่อยู่ในโรงเรียนกีฬาว่าเป็นพวกร่างกาย

กาลเวลาผ่านไป ระบบการสมัครงานเเบบเก้าก็ถูกยกเลิกไป เเต่โรงเรียนกีฬาก็ยังคงได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆอยู่เพราะว่าเบี้ยเลี้ยงค่าอาหาร สำหรับคนที่อยู่ในเขตุพื้นที่ๆยากจน การที่โรงเรียนรองรับค่าอาหารเป็นสิ่งที่ดึงดูดมาก

 

20ปีที่เเล้ว ตอนที่จำนวนนักเรียนที่สามารถเข้าโรงเรียนขั้นสูงได้ยังมีจำกัด นักศึกษามหาลัยก็ยังคงเป็นของหายากเเละล้ำค่า คนทั่วไปก็ยังสามารถหางานดีๆได้โดยเเค่จบที่โรงเรียนเฉพาะทางเเละด้วยการขยายจำนวนการรับสมัครม.ปลายมันทำให้คนสอบเข้ามหาลัยง่ายตามไปด้วย นี้ยิ่งทำให้โรงเรียนกีฬายากที่จะอยู่รอด เด็กปริญญาโท หรือเเม้เเต่ปริญญาเอกก็ยังหางานไม่ได้เลย เเค่เด็กจากโรงเรียนเฉพาะทางจะไปทำอะไรกินได้

 

ผู้ปกครองก็คาดหวังให้ลูกได้งานดีๆไม่ใช่ไปเป็นเเรงงานเเบกหาม โดยเฉพาะตอนที่พยายามทุกทางที่จะส่งลูกตัวเองไปเรียนสูงๆ ค่าความเป็นอยู่ของชีวิตคนสูงขึ้นเเล้วก็คงไม่มีใครเข้าโรงเรียนกีฬาเพื่อทำลายอนาคตตัวเองเเลกกับอาหารหรอก

 

เเล้วด้วยสถานการณ์เเบบนี้ โรงเรียนกีฬาทั่วประเทศจึงถูกต้อนให้จนมุม โรงเรียนชื่อดังที่บ่มเพาะนักกีฬาตัวท๊อปก็ดีไปเพราะพวกนั้นมีเงินสนับสนุนจากรัฐบาล พวกคนที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนกีฬาในโหยวฮาว ที่เเทบไม่มีใครรู้จัก ทำได้เเค่ดิ้นรนเอาชีวิตรอโดยการกินเงินเดือนเเล้วก็หาเช้ากินค่ำไป

 

เเต่ถึงอย่างงั้นครู่ใหญ่ลู่ก็ไม่ได้ดิ้นอะไรชีวิตมากมากกำตำเเหน่งใหม่ของเขา เขากระตือรือร้นที่จะเเสดงความสามารถของเขาเอง นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงนำเรื่องที่จะปลูกฝังให้นักเรียนม.ปลายกลายเป็นนักเรียนความสามารถกีฬากับบริษัทต่างๆ ด้านหนึ่งคือเขาได้เงินจากส่วนนี้ ส่วนอีกด้านเเละสำคัญมากคือมันจะทำโรงเรียนมีชื่อเสียงได้

 

ในออฟฟิศของเขา ครูใหญ่ลู่กำลังถือเอกสารอยู่ในมือ ที่เป็นประกาศของการทดสอบนักกีฬาเเห่งชาติ ผอ.เฉาเหล็นฮาวปฏิบัติตัวต่อหน้าครูใหญ่ลู่เหมือนกำลังตั้งใจฟังคำพูดของท่านผู้นำ

 

ลู่เคลียร์ลำคอ เเล้วพูด "การทดสอบนักกีฬาเเห่งชาติครั้งนี้กำลังจะเริ่มขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมดาก็จริง เเต่ปีนี้หน้าที่ของคุณมันยิ่งใหญ่กว่านั้น ไม่ใช่เเค่พาเด็กจากโรงเรียนของเราไปสอบ เเต่พาเด็กที่เรียนคลาสฤดูร้อนของเราไปด้วย การฝึกวิ่งเร็ว100เมตรเป็นยังไงบ้าง คุณคิดว่าจะมีซักกี่คนที่ผ่านการสอบนักกีฬาเเห่งชาติลำดับ2ได้"

 

“การฝึกกำลังจะจบลงครับ ตามผลประเมินภายในที่ออกมา อย่างน้อย 1ใน3ของนักเรียนทั้งหมดจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ นักเรียนบางส่วนจะอยู่บริเวณเส้นผ่าน ถ้าเกิดพวกเขาฟอร์มดีก็อาจจะผ่านได้ครับ”เฉาเหล็นฮาวพูด

 

“1ใน3มันยังน้อยเกินไป ต้องให้ได้ผ่านอย่างน้อยครึ่งนึง แบบนั้นค่อยดีขึ้นหน่อย นั้นจะทำให้คลาสฝึกของเราดูน่าจูงใจมากขึ้นแล้วทำให้เด็กม.ปลายทุกคนเชื่อว่า เรามีความสามารถมากพอที่จะพัฒนาความสามารถทางกีฬาของนักเรียน แล้วก็จะทำให้พวกผู้ปกครองส่งเด็กมาเรียนมากขึ้น” ครูใหญ่ลู่หยุดซักวินึงแล้วพูดต่อ “อีกอย่าง ผมได้รับข้อมูลสำคัญมากๆมา เกี่ยวกับการสอบ หัวหน้ากรรมการคุมสอบคือ โค้ชหยู่จิน เฉิน เขาจะถูกส่งมาจากสำนักงานเขตจากมหาวิทยาลัยทางกีฬาของเขตพื้นที่ เขาเป็นคนที่เข้มงวดและเที่ยงธรรมมาก”

 

“โค้ชหยู่จิน เฉินหรอครับ คนที่ฝึกให้นักกีฬาทีมชาติหลายคนมาแล้วนั้นเหรอครับ เขาเป็นโค้ชกีฬากรีฑาตัวท๊อปในเขตเรานี้ครับ” เฉาเหล็นฮาวเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน

 

“ใช่ เขานั้นละ ที่สำคัญกว่านั้น เขามีที่ว่า2ที่มหาลัยกีฬาประจำเขต มหาลัยละที่ นั้นหมายความว่า เขาสามารถเลือกนักเรียน

 

2คนที่จะไปเข้าสอบได้"ครูใหญ่ลู่เปลี่ยนโทนเสียง แล้วพูดต่อ “เราต้องได้อย่างน้อย1ที่จาก2นั่งในมหาลัยกีฬา

 

“คุณกำลังจะหมายความว่าเราควรจะขอให้นักเรียนที่เรียนคลาสฝึกซัมเมอร์กับเราให้เข้า1ที่ในนั้นเหรอครับ”เฉาเหล็นฮาวถาม

 

“ใช่ มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับโรงเรียนกีฬาของเรา ถ้าเราสามารถทำให้1ในเด็กของเราเข้าไปอยู่ในมหาลัยนั้นได้ มันก็จะยืนยันกับสังคมถึงความสามารถในการทำให้เด็กเข้าไปอยู่ในมหาลัยได้ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นโรงเรียนเฉพาะทาง! แล้วในเมื่อโรงเรียนม.ปลายในเมืองรู้ว่ามี1ในเด็กของเราสอบเข้าได้ พวกนั้นก็จะยินดีที่จะได้ร่วมงานกับเราแน่ๆ” ครูใหญ่ลู่บอก

 

เฉาเหล็นฮาวลังเล เพราะเขาไม่สามารถรับปากและให้คำตอบได้ทันที นั้นทำให้ครูใหญ่ลู่กังวล เขากรอกตาแล้วเปลี่ยนเรื่อง

 

“เทอมที่แล้วมีอดีตรองประธานของเราเกษียณอายุออกไป ทำให้ตอนนี้เรามีที่ว่าง พวกคนในสำนักงานถามความเห็นของฉันถึงชื่อของผู้ที่เหมาะสมจะเข้ารับตำแหน่งรองประธาน แล้วฉันก็คิดว่า ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ ความสามารถและผลงานก็สำคัญเช่นกัน ผอ.ฮาว ผมมีความคาดหวังในตัวคุณสูงนะ แต่คุณก็ต้องทำงานอย่างหนักแล้วก็ทำผลงานด้วย นั้นจะทำให้คุณโน้มน้าวใจคนอื่นแล้วก็เป็นเหตุผลที่จะทำให้ผมแนะนำคุณขึ้นไป”

 

ถึงแม้ว่าครูใหญ่จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่เฉาเหล็นฮาวก็เข้าใจที่เขาจะสื่อ ไม่ว่าเขาจะสามารถทำให้เด็กได้โควตาการเข้ามหาลัยได้หรือไม่ การได้รับตำแหน่งรองประธานของเขาก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้

 

หลังจากตัดสินใจแล้ว เฉาเหล็นฮาวก็พูดออกไปทันที “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะรับผิดชอบเรื่องคลาสฝึกฤดูร้อนเองครับ เราต้องได้โควต้าสมัครเข้ามหาลัยครับ!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด