ตอนที่แล้วTWO Chapter 249 กองกำลังพิเศษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 251 การสู้รบทางเรือที่เกาะพระจันทร์ ตอนที่ 1

TWO Chapter 250 ค่ายการคัดเลือก


TWO Chapter 250 ค่ายการคัดเลือก

ในการจัดตั้งกองกำลังพิเศษ นอกเหนือจากจำเป็นต้องมีฐานการฝึกอบรมและการคัดเลือกผู้สมัครแล้ว ยังมีอีกความต้องการหนึ่งที่พวกเขาต้องตอบสนอง นั่นก็คือ นวัตกรรมของอาวุธและอุปกรณ์

พวกเขาจะติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น กระติกน้ำ, เป้สะพายหลัง, รองเท้าทหาร, ชุดปฐมพยาบาล และพลั่วสนาม นอกจากนี้ ยังมียาอื่นๆที่ผลิตโดยเมืองซานไห่, เม็ดอาหารทหาร และเต็นท์ทหาร ในขณะที่อาวุธหลักของทหารจะประกอบไปด้วย กระบี่ถัง, หน้าไม้เซิ่นปี้ และม้าฉิงฟู่ และยังมีแผนในการพัฒนามีดทหารในอนาคตอีกด้วย

ดังนั้น การก่อตั้งกองกำลังพิเศษ จึงเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมหลายส่วน ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จในการก่อตั้ง มันจะส่งผลให้ประสิทธิภาพทางทหารโดยรวมของเมืองซานไห่เพิ่มสูงขึ้น มันจะผลัดดันให้ผู้ที่อยู่บนเส้นทางทหาร กลายเป็นทหารชั้นสูงได้อย่างรวดเร็ว

ไอเดียในการสร้างเส้นทางชั้นสูงนี้ เก็บซ่อนอยู่ในความคิดของโอหยางโชวมานาน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ทำมันในก่อนหน้านี้ ตอนนี้ กำลังทหารได้ครอบคลุม 1 ใน 10  ส่วนของประชาการในดินแดน ซึ่งมันทำให้เกิดภาระทางการเงินปริมาณมหาศาลแก่ดินแดน

ในขณะเดียวกัน หากพวกเขามีกำลังคนมาเข้าร่วมกับกองทัพมากเกินไป อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของดินแดนก็จะซบเซา โอหยางโชวจึงวางแผนที่จะควบคุมกำลังทหารให้เหลือ 1 ใน 15 ส่วน หรืออาจจะถึง 1 ใน 20 ส่วนของประชาการในดินแดน

………………………………………………………………………….

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 10 วันที่ 12

ณ ชานเมืองทางตะวันตกของเมืองซานไห่

ผ่านมา 4 วัน ฝ่ายก่อสร้างได้สร้างค่ายทหารชั่วคราวสำหรับผู้สมัคร 3,250 นาย และผู้ฝึกสอน

โดยไวเปอร์จะรับหน้าที่หัวหน้า และคอบร้าจะรับหน้าที่รองหัวหน้า พวกเขานำทีมผู้ฝึกสอน เริ่มการทดสอบรอบแรก

รากฐานที่สำคัญของกองกำลังพิเศษก็คือ สมรรถภาพร่างกาย ในการคัดเลือกทางทหารสมัยใหม่ การทดสอบสมรรถภาพร่างกายขั้นพื้นฐานประกอบไปด้วย การแบกน้ำหนักวิ่งเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร, การโหนบาร์, การวิ่งข้ามสิ่งกีดขวางเป็นระยะ 400 เมตร, การวิดพื้น และการทดสอบอื่นๆอีกมาก

แต่ทหารในปัจจุบันไม่คุ้นเคยกับการทดสอบเหล่านี้

ดังนั้น ทีมผู้ฝึกสอนจึงไม่ได้ทำการคัดเลือกทหารในทันที แต่พวกเขาเริ่มการฝึกอบรมแบบปรับตัวก่อน และพวกเขายังใช้โอกาสนี้ ทำความคุ้นเคยกับสมรรถภาพร่างกายของผู้สมัคร เพื่อใช้มันร่างโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับพวกเขา

ตามคำขอของโอหยางโชว นอกเหนือจากการฝึกอบรมแบบปรับตัวแล้ว ทีมผู้ฝึกสอนยังต้องฝึกอบรมพื้นฐานอื่นๆด้วย เช่น การฝึกซ้อมทหาร, การชุมนุมฉุกเฉิน และการฝึกอบรมอื่นๆ

ในความเป็นจริง ค่ายทหารชั่วคราวแห่งนี้ ได้ทำหน้าที่เป็นค่ายการคัดเลือกที่แท้จริง

โอหยางโชวไม่ได้ต้องการเพียงสร้างกองกำลังพิเศษเท่านั้น เขายังต้องการฉีดวิธีการทางทหารสมัยใหม่เข้าไปในกระดูกของทหารมเมืองซานไห่ด้วย เขามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างระเบียบวินัยให้กับพวกเขา และสอนให้พวกเขาใช้ความรู้ตรรกะทางวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาที่พวกเขาจะเผชิญ

ด้วยเหตุนี้ โอหยางโชวจึงได้กำหนกกฎระเบียบทางทหารมาตั้งแต่แรก แต่น่าเสียดายที่โอหยางโชวเป็นเพียงคนธรรมดาในด้านนี้ เขาไม่แม้แต่จะเคยปฏิบัติ ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถใช้มันกับกองทัพของเขาได้ดีนัก

แม้ว่าผู้สมัครจะไม่ได้รับการคัดเลือกเข้ากองกำลังพิเศษ ผู้สมัครเหล่านี้ก็ยังคงสามารถนำสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในค่าย กลับไปยังกองกำลังของตน และเผยแพร่พวกมันออกไปได้

ภายใต้คำสั่งของโอหยางโชว กรมทหารทั้งหมดต้องส่งนายทหารอย่างน้อย นายพัน 1 นาย และนายกอง 5 นาย มาเข้าร่วมการฝึกอบรมด้วย โดยหลักๆแล้ว การฝึกอบรมจะมุ่งเน้นไปที่พวกเขา และพวกเขาจะกลายเป็นแกนหลักในการเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ไปทั่วกองทัพเมืองซานไห่

เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ดีที่สุด โอหยางโชวและผู้ฝึกสอนจึงได้อภิปรายกันเล็กๆน้อยๆ โดยพวกเขาตัดสินใจว่า จะกำหนดให้มีการฝึกอบรมเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากครบ 1 เดือนแล้ว ผู้สมัครก็จะเข้าทดสอบรอบแรก

ในวันที่พวกเขาเปิดค่ายการคัดเลือก โอหยางโชวเดินทางไปด้วยตนเอง และกล่าวสุนทรพจน์ เขาเน้นความสำคัญของระเบียบวินัย และบอกให้ทหารปฏิบัติตามผู้ฝึกสอนอย่างเคร่งคัด มิฉะนั้น พวกเขาจะถูกลงโทษตามกฎทางทหาร

หลังจากที่เขาตัดสินใจเรื่องต่างๆหมดแล้ว โอหยางโชวก็ทุ่มเทความสนใจทั้งหมดของเขาไปที่การสู้รบทางเรือที่เกาะพระจันทร์ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในระหว่างเหตุการณ์เหล่านี้ มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้น

ซ่งเจี๋ยกลับมาที่คฤหาสน์เพื่อพบกับโอหยางโชว เธอกล่าวว่า “หวู่ยี่ ข้าต้องการจะแนะนำใครบางคนให้กับท่าน”

“ใครกันหรือ? ถึงกับทำให้ท่านผู้นำนิกายกระบี่ตงหลี่ของเรา ซ่งเจี๋ย ต้องลงมาจากภูเขา?” โอหยางโชวล้อเลียนเธอ

ซ่งเจี๋ยทุกที่หน้าอกของเขา แล้วกล่าวว่า “วู๊ดซี่ ข้ากำลังพยายามช่วยท่านอยู่นะ แล้วท่านยังจะแกล้งข้าอีก!”

“เอาล่ะ เอาล่ะ บอกข้ามาว่าเขาเป็นใคร?” โอหยางโชวยกมือยอมแพ้เธอ

“ท่านจำไม่ได้หรือว่า ถานเสี่ยวหลี่และเมิ่งเฟยเฟยเพิ่งมาที่ดินแดนเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้? ข้าได้พาพวกนางเข้านิกายกระบี่ตงหลี่แล้ว หลังจากนั้น พวกนางก็พาครอบครัวของพวกนางเข้ามาในดินแดน ท่านลองเดาดูซิ? พ่อของเมิ่งเฟยเฟย เมิ่งจี้ต้า ไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะ เขาเป็น 1 ในทีมผู้บริหารอาวุโสของธนาคารกลางรัฐเจียว ข้าคิดว่า เขาสามารถเติมเต็มความต้องการเร่งด่วนของท่าน เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญทางการเงินได้ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าลงมาจากภูเขาเพื่อบอกท่าน” ซ่งเจี๋ยอธิบาย

ในขณะที่ธนาคารสี่สมุทรขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โอหยางโชวได้พยายามแสวงหาผู้มีความสามารถทางการเงินในโลกจริง มาดูแลธนาคารสี่สมุทร เขาต้องการข้ามผ่านงานหยาบและดั้งเดิม แล้วเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบการจัดการที่มีระบบระเบียบและทันสมัย

ผู้เชี่ยวชาญที่มาอยู่ในเมืองซานไห่ ทั้งหมดเป็นผู้มีความสามารถด้านทฤษฎีการวิจัยและวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน และไม่มีใครมีประสบการณ์ในธนาคารหรือสถาบันทางการเงินใดๆ

ตระกูลซ่งมีผู้มีความสามารถพิเศษประเภทนี้ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการระแวงสงสัยกัน ทั้งซ่งเจี๋ยและโอหยางโชวจึงหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้ พวกเขาไม่ได้คิดที่จะขอให้ตระกูลซ่งช่วย

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เวลาผ่านไปเรื่อยๆ มันเริ่มที่จะกลายเป็นปัญหา ซึ่งทำให้โอหยางโชวหนักใจกับมันมาก ซ่งเจี๋ยรู้เรื่องนี้ดี ดังนั้น หลังจากที่เธอรู้ภูมิหลังพ่อของเมิ่งเฟยเฟย เธอก็รีบลงจากภูเขา เพื่อมาบอกกับเขาในทันที

โอหยางโชวพอใจมาก เขาพยักหน้าและยิ้ม “คนที่รู้จักข้าดีที่สุดก็คือ ภรรยาของข้าเองซินะ”

“ท่านกำลังกล่าวสุ่มสี่สุ่มห้าอีกแล้วนะ” ซ่งเจี๋ยรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย แต่ความรักก็เต็มอยู่ในดวงตาของเธอ ความจริงที่ว่าเธอสามารถช่วยโอหยางโชวได้ มันทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก

หลังจากที่ซ่งเจี๋ยกลับไปยังฐานของนิกายกระบี่ตงหลี่ โอหยางโชวก็ส่งคนไปเชิญเมิ่งจี้ต้ามาที่คฤหาสน์ของลอร์ด

คำเชิญของเขาทำให้เมิ่งจี้ต้าประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ลอร์ดแห่งเมืองซานไห่นี้เป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นของลูกสาวเขา การของานทำไม่เคยอยู่ในหัวของเขาเลย เขาเตรียมที่จะเกษียนตัวเองในเมืองซานไห่

โอหยางโชวต้อนรับเมิ่งจี้ต้าในห้องโถงประชุม

เมิ่งจี้ต้าอายุ 45 ปี ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา ประสบการณ์การทำงานยาวนานในระดับสูง ทำให้เขามีบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร เขาดูเป็นคนที่สงบเยือกเย็นอและหนักแน่น

นี่เป็นครั้งแรกที่โอหยางได้พบกับเมิ่งจี้ต้า เขาได้ประทับใจชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเขาในทันที เขาสมกับเป็นนักการเงินชั้นสูงที่สามารถควบคุมเมฆและลมของโลกจริงได้ โอหยางโชวยิ้มและกล่าวว่า  “ท่านลุงเมิ่ง ท่านเคยชินกับชีวิตในเมืองซานไห่แล้วหรือไม่? โปรดอภัยให้ข้าด้วย ที่ไม่ได้ต้อนรับท่านดีนัก”

กับผู้เล่นคนอื่นๆ โอหยางโชวไม่ได้ออกไปต้อนรับใดๆ แม้แต่เมิ่งจี้ต้าที่เป็นพ่อของเมิ่งเฟยเฟย และเป็นผู้อาวุโสสำหรับโอหยางโชวก็ตาม

เมิ่งจี้ต้ามองโอหยางโชวอย่างลึกซึ้ง

ชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้ อายุเท่าๆกับลูกสาวของเขา แต่ความสำเร็จของพวกเขานั้นต่างกันราวกับสวรรค์และโลก ในขณะที่เขายังหนุ่ม เขาได้ปีนขึ้นบันได และทำให้ตัวเองเป็นลอร์ดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่ไม่มีเบื้องหลังหรือการสนับสนุนใดๆ การกระทำทุกอย่างและการเคลื่อนไหวทุกๆครั้งของเขา ทำให้เกิดลมและเมฆ ปลุกเร้าให้เกิดพายุและฝนฟ้าคะนอง ทั้งที่เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่น่ายกย่องก็คือ ความสำเร็จไม่ได้ทำให้เขาตาบอด เขาไม่ได้กลายเป็นคนที่หยิ่งพยอง แต่ยังคงสุภาพและถ่อมตัว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมาก

“การต้อนรับเป็นไปด้วยดี และข้ายังต้องขอบคุณเจ้าสำหรับการดูแลเฟยเฟยด้วย” เมิ่งจี้ต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองพูดคุยกันแบบสบายๆ นอกเหนือจากเรื่องประจำวันแล้ว โอหยางโชวยังปรึกษาเมิ่งจี้ต้า เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการจัดการและการดำเนินงานของธนาคาร

ในขณะที่พวกเขาคุยกัน โอหยางโชวก็ตระหนักว่าเมิ่งจี้ต้าเป็นคนที่พิเศษจริงๆ เขามีข้อมูลเชิงลึกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจและการเงิน คำกล่าวและคำแนะนำของเขา สามารถคลี่คลายความสับสนงุนงงในหัวใจของโอหยางโชวได้อย่างง่ายดาย

โอหยางโชวไม่ลังเลอีกต่อไป เขาตั้งใจและกล่าวว่า “ข้าอยากให้ท่านลุงเป็นผู้จัดการสำนักงานใหญ่ของธนาคารสี่สมุทร ท่านลุงยินดีจะช่วยข้าหรือไม่?”

หัวใจของเมิ่งจี้ต้าเต้นไม่เป็นจังหวะ แม้ว่าเขาจะรู้ว่า โอหยางโชวมีเจตนาที่จะเสนองานข้าราชการให้กับเขา แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่า โอหยางโชวจะเสนอตำแหน่งที่สำคัญเช่นนี้ให้กับเขา

เขาเพิ่งมาถึงเมืองซานไห่ได้ไม่นาน แต่เนื่องจากมันเกี่ยวกับงานของเขาในโลกจริง ทำให้เขาทำความเข้าใจเกี่ยวกับธนาคารสี่สมุทรของเมืองซานไห่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ผ่านการสนทนาของพวกเขา โอหยางโชวได้เปิดเผยข้อมูลบางส่วนโดยไม่ตั้งใจ มันจึงทำให้เขาเห็นภาพรวมชัดเจนมากยิ่งขึ้น ธนาคารสี่สมุทรมีบทบาทที่สำคัญในระบบของเมืองซานไห่อย่างมาก

การที่โอหยางโชวแต่งตั้งให้เขามีบทบาทสำคัญในระหว่างการพบกันครั้งแรก ทำให้เพิ่งจี้ต้าหมดคำพูด เขาไม่รู้ว่าจะประเมินลอร์ดผู้นี้อย่างไร เขาทำตามอำเภอใจและบ้าบิ่น หรือว่ามันเป็นความมั่นใจที่ดี? มันยากที่จะบอกได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับความปรารถนาส่วนตัวของเขา การดูแลธนาคารสี่สมุทรย่อมดีกว่าการเกษียนตัวเองอยู่ในเมืองซานไห่ ในฐานะที่เป็นนายธนาคารที่มีประสบการณ์ การดูแลธนาคารโบราณและใช้แนวคิดสมัยใหม่กับมัน เป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีความมหมายมาก

ไม่ต้องกล่าวถึงว่า ถ้าเขาจัดการธนาคารสี่สมุทรได้ดี เขายังจะสามารถปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวในเกมส์ได้ นอกจากนี้ มันยังมีผลต่อคะแนนความสำเร็จของเขาด้วย

เมิ่งจี้ต้าจ้องมองเข้าไปในดวงตาของโอหยางโชว มันสงบและมั่นคง ก่อนที่เขาจะกล่าวออกไปว่า “ข้ารู้สึกเป็นเกียรตินัก ที่ได้รับความไว้วางใจจากท่าน และข้าจะไม่ปฏิเสธความจริงใจของท่าน” จากนั้น เขาก็ยืนขึ้น และคำนับโอหยางโชว “คำนับท่านลอร์ด!”

แม้มันจะเป็นการคำนับแบบง่ายๆ แต่มันก็ได้เปลี่ยนสถานะระหว่างพวกเขาไปตลอดกาล

โอหยางโชวตกใจ เขารีบลุกขึ้นยืน และหลีกเลี่ยงการคำนับนี้ ก่อนจะกล่าวออกไปว่า “ท่านลุง ท่านไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้”

เมิ่งจี้ต้าส่ายหัวด้วยความมุ่งมั่น และกล่าวว่า “เนื่องจากข้าได้ยอมรับข้อเสนอของท่านแล้ว ตอนนี้ ข้าจึงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน และข้าไม่ต้องการทำลายกฎและประเพณี” หลังจากที่กล่าวจบ เขาก็คำนับโอหยางโชวอีกครั้ง

โอหยางโชวหมดหนทาง เขาทำได้เพียงเบนร่างของเขา และยอมรับการคำนับของเมิ่งจี้ต้า

เมิ่งจี้ต้าเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับตำแหน่งที่สำคัญในระบบการบริหารของเมืองซานไห่ เหตุการณ์นี้ มันจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ของเมืองซานไห่ ในก่อนหน้านี้ แม้แต่สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเพียงแค่ที่ปรึกษาเท่านั้น

ดังนั้น เมิ่งจี้ต้าจึงรู้อย่างชัดเจนว่า ผลกระทบของการแต่งตั้งเขาเป็นข้าราชการ จะส่งผลต่อไปถึงผู้เล่นคนอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกที่ทำให้เขาต้องยืนกรานที่จะรักษาประเพณี เขาทำก็เพื่อปกป้องและรักษาอำนาจของโอหยางโชว ในฐานะที่เขาเป็นมาควิสแห่งเหลียนโจว และเป็นลอร์ดแห่งเมืองซานไห่

ถ้าเขาพึ่งสถานะของเขาในฐานะผู้อาวุโสของโอหยางโชว มันจะเหมือนเป็นการละเมิดกฎระเบียบและประเพณีของข้าราชการ เพื่อนร่วมงานและข้าราชการคนอื่นๆจะกีดกันเขาออก และมันจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะร่วมงานกับข้าราชการคนอื่นๆ สุดท้าย เขาก็จะถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยโอหยางโชว แม้ว่าโอหยางโชวจะไม่เต็มใจก็ตาม

ลึกๆแล้ว โอหยางโชวรู้ถึงสถานการณ์นั้นดี สิ่งต่างๆจะไม่เปลี่ยนแปลง และมันจะยังคงหมุนรอบตัวเขา

ในขณะที่เขาเป็นคนสร้างระบบข้าราชการ มันยังคงผูกพันกับเขา เขาไม่สามารถผ่อนปรนกฎระเบียบและประเพณีของข้าราชการได้ และหลังจากที่ผ่านไประยะเวลาสั้นๆ เขาก็ไม่สามารถทำตามใจตัวเองอย่างอิสระได้อีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ เรื่องทั้งหมดซ่อนอยู่ในเงามืด อย่างไรก็ตาม เมิ่งจี้ต้าได้นำแสงสว่างมาเปิดเผยความจริง

อย่างไรก็ตาม โอหยางโชวไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า การแต่งตั้งผู้จัดการธนาคารสี่สมุทรในวันนี้ จะนำธนาคารไปสู่เวทีโลก และชื่อของมันจะแพร่กระจายไปทั่วทุกมหาสมุทร

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด