ตอนที่แล้วHK ตอนที่ : 44
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHK ตอนที่ : 46

HK ตอนที่ : 45


ในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนในเขตเบเจียง ตำรวจจากชวนกิ่งและตำรวจจากชวนฮู และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายสิบคนจากสถานีตำรวจทั้งสองแห่ง มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอกห้องผู้ป่วยของชิเล่ย

ต๋ายกวงฮัวเป็นเลขานุการของสภาเทศบาลเมืองกำลังคุยกับเคนอยู่ในตอนนี้

"คุณเคน ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับการกระทำอันชอบธรรมของคุณ ที่คุณสามารถช่วยพวกเราไว้ได้ในวันสำคัญเช่นนี้!" ต๋ายกวงฮัวพูดขณะที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตามประโยคที่เขากล่าวว่า 'สำหรับการกระทำอันชอบธรรม' ด้วยสำเนียงท้องถื่น ทำให้เคนไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

"คุณตำรวจ เนื่องจากที่คุณยืนยันสถานะของคนที่สลบได้แล้ว ผมต้องขอตัวกลับเบอร์เบอรี่ก่อนนะครับ"

Burberry(เบอร์เบอรี่) เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของประเทศแกรนด์และยังเป็นแบรนด์หรูระดับโลก แม่ของอัฟฟราก็คือเดซี่เธอเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของเบอร์เบอรี่และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัท ในการมาที่เมืองชวนกิ่งครั้งนี้ก็คือการมาเปิดตลาดแห่งใหม่ที่เมืองชวนกิ่งของเบอร์เบอรี่เพื่อเจรจาต่อรองให้เสร็จสิ้น ส่วนอัฟฟราที่เดินทางตามเดซี่มาประเทศเซี่ยด้วยนั้นก็เพื่อมาพักผ่อน

ต๋ายกวงฮัวในฐานะที่เป็นเลขานุการของสภาเทศบาลเมือง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงมาก แม้ว่ากลุ่มตัวแทนของเบอร์เบอรี่ที่ได้รับมอบหมายมาให้มาเปิดตลาดแห่งใหม่ในเมืองชวนกิ่งแห่งนี้จะมีความสำคัญมาก แต่นี่เป็นเรื่องของธุรกิจจะไปสำคัญกว่าเรื่องของตำรวจได้ยังไง? ดังนั้นต๋ายกวงฮัวจึงสุภาพกับเคนแบบผิวเผิน นอกเหนือจากนั้นเขายังขอบคุณอย่างจริงใจกับอีกฝ่ายที่นำชิเล่ยมา

เย่เฟิง หม่าเหลียงและเจิ้งซานเปา คนสามคนที่มีอาวุธครบมือมาปล้นธนาคารตอนกลางวันแสกๆ และยังวางระเบิดที่ดูอันตรายอย่างมากไว้อีก ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองชวนกิ่งอย่างมาก เมื่อพวกเขาหนีไปได้ ไม่คิดเลยว่าพวกเขายังจับตัวชิเล่ยไปเป็นตัวประกันอีก

ในฐานะที่ชิเล่ยเป็นตัวประกัน ความปลอดภัยของเขาจึงได้รับความสนใจจากคนทั้งเมืองชวนกิ่ง และแม้กระทั่งนักข่าวจากจังหวัดใกล้เคียง ก็เริ่มที่จะรายงานข่าวเกี่ยวกับกลุ่มติดอาวุธที่มาปล้นธนาคาร

ภายใต้ความคิดเห็นของสาธารณชนทำให้สถานีตำรวจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก หัวหน้าของสภาเทศบาลเมืองไบเฉิง ได้ออกคำสั่งให้จับตายทันทีและต้องช่วยชิเล่ยให้ได้อย่างปลอดภัย ไม่สนว่าจะต้องจ่ายออกไปเท่าไหร่!

ตอนนี้เคนได้นำตัวชิเล่ยกลับได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าชิเล่ยจะสลบอยู่ก็เถอะแต่มันไม่มีอันตรายต่อชีวิต! ในที่สุดทางตำรวจก็สามารถตอบคำถามประชาชนของเมืองชวนกิ่งที่กำลังไม่พอใจกันอยู่ตอนนี้ได้แล้ว

ด้านนอกห้องผู้ป่วย ต๋ายกวงฮัวมองผ่านหน้าต่างจากด้านนอกมองชิเล่ยที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้วยสายตาที่รุนแรง

"ดร.โจว อาการของชิเล่ยเป็นยังไงบ้าง?"

โรงพยาบาลแพทย์แผนจีน ดร.โจว เป็นหัวหน้าของแผนกศัลยกรรมสมอง ถ้าอยู่ในโรงพยาบาลอื่น หัวหน้าแผนกของศัลยกรรมสมองจะเป็นที่นับน่าถือตาอย่างมากและมีล้อมหน้าล้อมหลังไปหมด แต่น่าเสียดายที่ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้านยาจีน ในวิชาการแพทย์ตะวันตกในโรงพยาบาลยาจีนสำหรับคุณลุงคุณย่าทั้งหลายไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับเท่าไหร่นัก ผู้ป่วยที่มาที่นี่ทั้งหมดชื่นชมในมุมมองแพทย์แผนจีนเท่านั้น สำหรับคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนตะวันตกของโรงพยาบาลจีน

"เลขานุการต๋าย ร่างกายของชิเล่ยเป็นปกติดี แต่ที่คอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง จึงทำให้เขายังสลบอยู่ ถ้าหากคุณต้องการ เราสามารถบังคับให้เขาตื่นขึ้นมาได้ครับ" ดร.โจวตอบ

ในตาของต๋ายกวงฮัววูบวาบขึ้นมาเหมือนสื่อความหมายออกมา "ดร.โจว ผมหมายถึงทำไมชิเล่ยถึงอยู่สลบ แต่ทำไมร่างกายดูปกติดี?"

ดร.โจว ไม่ใช่คนโง่ เมื่อต๋ายกวงฮัวถามคำถามนี้ออกมา เขารู้ว่าหมายถึงอะไร เขากำลังสงสัยว่าชิเล่ยและเย่เฟิงสมรู้ร่วมคิดกัน!

"เลขานุการต๋าย ชิเล่ยถูกโจมตีฉับพลันอย่างรุนแรงจึงทำให้เขาสลบ อย่างอื่นไม่มีปัญหาทุกอย่างปกติสมบูรณ์ดี! และดูจากแผลที่ข้อศอกซ้าย ควรจะเป็นหลังจากที่ถูกทำให้สลบและไถลตกลงไปอยู่ในรางน้ำฝนจึงทำให้มีรอยขีดข่วน!"

ต๋ายกวงฮัวพยักหน้า "ดังนั้น พูดได้เลยว่าชิเล่ยคนนี้จริงๆแล้ว เป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่งและเสียสละตัวเอง!"

เหล่ยหย่าคุนรองหัวหน้าแผนกอาชญากรรมสน.ชวนฮู ที่ยืนอยู่ด้านข้างต๋ายกวงฮัว หัวเราะออกมาเบาๆ "เลขานุการต๋าย ชิเล่ยเป็นคนดีหรือไม่อันนี้ผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้ก็คือโอวหยางชางกับชิเล่ยอาศัยอยู่ด้วยกัน และโอวหยางชางเธอสวยมาก!"

เหล่ยหย่าคุน เป็นรองหัวหน้าชุดของแผนกอาชญากรรมที่สน.ชวนฮู มีเหล่ยเหลียงหลินเป็นเจ้านาย ซึ่งมีตำแหน่งสูงกว่าของ ต๋ายกวงฮัว ดังนั้นเหล่ยหย่าคุนจึงมีความกล้าที่จะล้อเล่น

เหล่ยหย่าคุนมองต๋ายกวงฮัว ที่มีท่าทีที่ไม่สนใจและพูดต่อว่า "ผมจำได้ว่าไอ้เด็กน้อยชิเล่ยนี่ อายุ 19 ใช่ไหม? ถ้าผมจำไม่ผิด โอวหยางชางน่าจะอายุประมาณ 25! อายุพวกเขาห่างกันหกปี! เป็นไปได้ไหมว่าโอวหยางชาง เธอจะเป็นพวกวัวแก่กินหญ้าอ่อน?"

จากนั้นต๋ายกวงฮัวก็หัวเราะฮิฮิและยิ้มพูดด้วยเสียงจริงจังขึ้นมา "แม้ว่าฉันจะชื่นชมชิเล่ยชายหนุ่มคนนี้! แต่ตอนนี้ในสังคมของเรา จะมีสักกี่คนกัน ขณะที่ตนเองกำลังเผชิญช่วงเวลาความเป็นความตาย กล้าที่จะเสียสละเพื่อคนรัก?"

เหล่ยหย่าคุนหัวเราะออกมาเสียงดัง "เลขานุการต๋าย เราปลุกชิเล่ยขึ้นมาเลยไหม เพื่อถามที่อยู่ของเย่เฟิงกับพรรคพวกของมัน?"

ต๋ายกวงฮัวส่ายหัว แล้วมองไปที่ดร.โจว "ดร.โจว ถ้าเราทำให้ชิเล่ยตื่นขึ้นมาตอนนี้ จะไม่มีผลกระทบหรือผลข้างเคียงไหม?"

"เลขานุการต๋าย ชิเล่ยถูกทำให้สลบอย่างรุนแรง ถ้าเขาถูกบังคับให้ปลุก อาจทำให้เกิดการสูญเสียความทรงจำชั่วคราว" ดร.โจวอธิบาย

ต๋ายกวงฮัวโบกมือปฏิเสธทันทีและพูดว่า "ในกรณีนี้ เราจะรอให้เขาตื่นขึ้นมาเองดีกว่า!"

ดร.โจว ไม่ลืมที่จะประมาณเวลาไว้ "เลขานุการต๋าย ชิเล่ยน่าจะตื่นขึ้นมาอีกประมาณ 1-3 ชั่วโมง ผมไม่รบกวนคุณแล้ว!"

หลังจากดร.โจวเดินออกไป เหล่ยหย่าคุนถามอย่างงุนงงว่า "เลขานุการต๋าย ทำไมเราไม่บังคับปลุกชิเล่ยขึ้นมาตอนนี้เลยละ? แม้ว่าอาจจะสูญเสียความทรงจำไปชั่วคราว แต่ถ้าเป็นช่วงต้นๆก่อนหน้านี้ บางทีชิเล่ยอาจบอกเบาะแสบางอย่างของพวกเย่เฟิงกับเราก็ได้นะ!"

ต๋ายกวงฮัวตบไปที่ไหล่ของเหล่ยหย่าคุน "เสี่ยวคุน นายยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ! ลองคิดดูสิ ชิเล่ยถูกทำให้สลบและถูกทิ้งไว้ที่รางน้ำฝนตั้งแต่ออกจากเมือง นี่แสดงให้เห็นว่าชิเล่ยไม่รู้เส้นทางของพวกเย่เฟิง ไม่อย่างงั้นคงไม่นอนสลบอยู่ที่รางน้ำฝนหรอก! เนื่องจากกล้องจราจรเสียอยู่ จึงไม่สามารถตรวจสอบสภาพรวมของถนนได้ บวกกับทางหลวงที่ออกจากเมือง รายงานมาว่าไม่มีรถหุ้มเกราะออกจากเมือง มีความเป็นไปได้อยู่สองทาง ทางแรกเย่เฟิงได้เปลี่ยนรถก่อนออกจากเมือง ทางที่สองเย่เฟิงกับพวกไม่ได้ใช้ถนนหลวงออกไปจากเมือง ไม่ทางใดก็ทางนึง ว่าเย่เฟิงกับพวกได้ออกจากเมืองไปแล้ว จะถามชิเล่ยหรือไม่ถามมันก็เหมือนกัน!"

เหล่ยหย่าคุนพยักหน้าตามเหตุผลที่กำลังได้ฟัง "เลขานุการต๋าย ฉลาดมาก!"

กว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา ชิเล่ยก็ตื่นขึ้นมาจากการสลบและมองไปที่เพดานสีขาวและได้กลิ่นเหม็นของยาฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ชิเล่ยรู้ได้ทันทีเลยว่าตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล

'ดูเหมือนว่าในสังคมนี้ยังมีคนดีอยู่ดี!' ชิเล่ยถอนหายใจภายในหัวใจของเขาออกมาหนึ่งครั้ง

ต๋ายกวงฮัวกำลังนำเหล่ยหย่าคุนและเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย

"สวัสดีนักศึกษาชิ ผมเป็นเลขานุการจากสภาเทศบาลเมือง เรามีคำถามไม่กี่คำถามที่จะถามคุณเกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษที่เป็นอยู่ในตอนนี้" ใบหน้าที่ไม่แยแสของต๋ายกวงฮัวที่กำลังมอง แม้กระทั่งคำแนะนำตัวของเขาก็ยังไม่มีความสุภาพในน้ำเสียง

ชิเล่ยพยักหน้าอย่างใจเย็น ก่อนที่จะถามว่า "ตอนนี้ โอวหยางชางอยู่ไหน?"

บนใบหน้าของต๋ายกวงฮัวมีรอยยิ้มแปลกๆปรากฏออกมา "นักศึกษาชิเล่ย โปรดอย่ากังวล เจ้าหน้าที่โอวหยางชางอยู่ที่เขตชวนฮู กำลังควบคุมผลกระทบจากการที่ธนาคาร ICBC ถูกวางระเบิดอยู่ เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ"

"ระเบิดที่ ICBC รุนแรงไหม?" ถึงแม้ว่าชิเล่ยจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เพื่อที่จะทำให้ตนเองไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเอง ด้วยใบหน้าที่จริงจังขณะถามออกไป

ต๋ายกวงฮัวไม่ได้สนใจอะไรมากนัก "หน่วยเก็บกู้ระเบิดของเรา สามารถกู้ระเบิดที่เจิ้งซานเปาทิ้งไว้สำเร็จ ส่วนตัวประกันได้รับการช่วยเหลือแล้ว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ!"

ชิเล่ยก็ถอนหายใจยาวๆ ออกมา ราวกับเขาได้ยกภูเขาออกจากอกแล้ว "ดีมาก! นี่มันดีมากๆเลย!"

"นักศึกษาชิ ตอนนี้เราจะขอให้คุณตอบคำถามเราสักสองสามคำถาม ข้อแรกพวกเย่เฟิงได้หนีออกไปจากเมืองหรือยัง?" ต๋ายกวงฮัว ดูเหมือนจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ที่จริงแล้วเขากำลังจับจ้องมองการแสดงออกของชิเล่ยอย่างจริงจัง

ในดวงตาของชิเล่ยเปิดเผยให้เห็นว่าเขากำลังคิดตาม "ผมไม่ทราบ! ผมจำได้แค่เพียงว่าพวกเขาหยุดรถกลางทาง เย่เฟิงเอาปืนมาจ่อผมให้ลงจากรถ ผมเห็นป้ายถนนและถนนคู่ขนาน จากนั้นภายใต้การคุกคามของเย่เฟิง ผมถูกตีเข้าที่คอและตกลงไปที่รางน้ำฝน!"

ชิเล่ยไม่ได้ให้คำตอบยืนยันหรือปฏิเสธ แต่บอกว่าเขาไม่ทราบ คำให้การนี้จะทำให้ทางตำรวจตัดสินใจยากมากว่าชิเล่ยโกหก

ต๋ายกวงฮัวมองไปที่ชิเล่ยอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ด้วยความเปิดเผยของชิเล่ยและไม่มีอาการสั่นตกใจเลยแม้แต่น้อย "นักศึกษาชิ คุณลองคาดคะเนดู ว่าตอนนี้เย่เฟิงกับพวกน่าจะอยู่ที่ไหน?"

"ผมไม่ทราบ!" ชิเล่ยยังคงสั่นศีรษะของเขา "ความจริงโอวหยางชางให้ผมช่วยประมวลผลภาพถ่ายจากภาพวิดีโอให้เธอ พูดได้เลยว่าในเมืองชวนกิ่งแห่งนี้ ผมเป็นคนแรกที่ยืนยันตัวตนของเย่เฟิงได้ ผมเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า เย่เฟิงเป็นอาชญกรระดับ A ที่ทางตำรวจกำลังต้องการตัวมากที่สุด และมีข้อมูลอื่นๆ อีกว่าเขาเคยเป็นทหารกองกำลังพิเศษ มีความเชี่ยวชาญทางด้านทหาร ในแง่ของการป้องกันและการติดตาม เขาต้องมีประสบการณ์มากมาย ผมไม่สามารถคาดเดาที่อยู่ของพวกเขาได้ เพราะอีกฝ่ายอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้!"

ต๋ายกวงฮัวขมวดคิ้ว สองวิต่อมาเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยว่า "คุณพูดถูก เย่เฟิงมีความสามารถด้านการป้องกันการติดตามที่ยอดเยี่ยมมาก! แต่เราก็เพิ่งได้รับข้อความที่น่าเชื่อถือได้มาว่า เติ้งเซียวหลิงหลานสาวของเย่เฟิง ที่ป่วยเป็นลูคีเมียอย่างฉับพลัน ต้องได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด ทางเราจึงคิดว่านี่คือแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้"

ต๋ายกวงฮัวพูดเสร็จก็จับจ้องมองไปที่ชิเล่ยอีกครั้ง อย่างไรก็การตอบสนองชิเล่ยก็ทำให้ต๋ายกวงฮัวต้องผิดหวังอีกครั้ง!

บนใบหน้าของชิเล่ยตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน "เติ้งเซียวหลิง? คดีร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเฮย์เจียง ครอบครัวเติ้งตายหมด เสี่ยวเติ้งต้องเป็นเด็กกำพร้า? คุณจะทำให้ยังไงกับเติ้งเซียวหลิงหลานสาวเย่เฟิง? ยังมีใครอีกไหมที่พวกเขาร่วมมือด้วย?"

ต๋ายกวงฮัวไอ "นักศึกษาชิ นี่เป็นข้อมูลลับของทางตำรวจ กรุณาอย่าเปิดเผยออกไป นอกจากนี้เราหวังว่าจะพึ่งพาข่าวนี้เพื่อที่เราจะควบคุมโรงพยาบาลเอาไว้และรอให้เย่เฟิงมาหา!"

ชิเล่ยพยักหน้า "ผมเข้าใจแล้วครับเจ้าหน้าที่ตำรวจต๋าย! ผมจะเก็บรักษาความลับให้ทางตำรวจไว้เป็นอย่างดี ถ้าไม่มีเรื่องอะไรอื่นอีก ผมอยากจะขอออกโรงพยาบาล ข่าวที่ผมกลับมาแล้ว คุณได้โทรบอกโอวหยางชางหรือยังครับ?"

ต๋ายกวงฮัวพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า "อ้อใช่ เราลืมไป!"

ในความเป็นจริงแล้วเหตุผลที่แท้จริงก็คือต๋ายกวงฮัวสงสัยว่า ชิเล่ยและเย่เฟิง เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกัน หากมีการแจ้งจากโอวหยางชางและชิเล่ยกับเย่เฟิงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันจริงๆ ด้านโอวหยางชางถือว่าเป็นการจัดฉากที่ดีมาก

"ดังนั้น ผมจะกลับไปก่อน! หากคุณตำรวจยังมีเรื่องอะไรอีก ต้องการจะสอบถามเพิ่มเติม คุณจะมาหาผมละก็ ผมอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับโอวหยางชาง"

ชิเล่ยที่กำลังพูดอยู่ดูเป็นธรรมชาติอย่างมาก ภายใต้การมองจากสายตาอันแปลกประหลาดของต๋ายกวงฮัวและเหล่ยหย่าคุน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด