ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (4) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (3)

เบื้องหน้าคือพวกมอนสเตอร์เงาและผู้ล้างแค้นสี่สิบเกือบห้าสิบตัวเห็นจะได้

“เหล่าอัศวินจงมุ่งหน้า ยกโล่ขึ้นและเข้าปะทะ โจมตีศัตรูที่อยู่ด้านหน้า นักธนูให้เคลื่อนถอยและยิงสกัดการเคลื่อนไหวพวกศัตรูที่อยู่ด้านหลัง! ถ้าแนวหน้าของมันแตกออกให้ใช้รูปแบบสามเหลี่ยมเป็นหนึ่ง!”

การเคลื่อนไหวของพวกองครักษ์แตกต่างไปจากก่อนหน้า ขณะที่ครอสเร่งพิจารณาสถานการณ์และส่งถ่ายคำสั่งออกไป กองกำลังก็เคลื่อนไหวคล้ายเข็มนาฬิกากันไปแล้ว

อัศวินทั้งสิบห้าคนวิ่งออกไปเข้าปะทะกับมอนสเตอร์เงาด้วยโล่ พวกเขาเร่งพุ่งเข้าใส่เพื่อค้ำยันมอนสเตอร์เงากลับ ขณะที่ทางนักธนูซึ่งอยู่แนวหลังต่างปล่อยลูกศรออกไปเพื่อหยุดยั้งพวกผู้ล้างแค้นให้เคลื่อนไหวได้ช้าลง

ครั้งนี้แตกต่างจากก่อนหน้า เมื่อพวกเขาทั้งหมดพุ่งเข้าปะทะจะเริ่มการโจมตีแบบสลับกันไป ทุกคนต่างทำอย่างเป็นระบบ เปรียบดั่งเข็มของนาฬิกาที่กำลังเคลื่อนตัว เมื่อพวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกันเข้าต้านทาน พละกำลังของพวกเขาจึงได้รับการยกระดับครั้งใหญ่

ผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่จัสติสแมนเรียกมันว่า การฝึกแบบสปาตัน

“โจมตีปีกทั้งสองข้างและพุ่งเข้าใส่ด้านหน้าอีกครั้ง!”

หลังได้รับการฝึกสอนกลยุทธ์จากจัสติสแมน ความสามารถในการอ่านสถานการณ์ของครอสก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น อาร์คยังยอมขาดทุนทำอาหารจำนวนมากที่ให้ผลลัพธ์อันดีเยี่ยมเข้าไปอีกด้วย เมื่อสิ่งเหล่านี้รวมกัน ความสามารถของพวกเขาจึงสูงมากยิ่งขึ้น พวกองครักษ์จึงสามารถสำแดงทักษะที่เหนือล้ำยิ่งกว่าระดับเลเวลออกมาได้

‘เหมือนที่จัสติสแมนคาดการณ์เอาไว้ ถึงกับเปลี่ยนเอ็นพีซีพวกนี้ได้เพียงแค่สองวันเท่านั้น...’

เขาในตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความนับถือจากใจ

‘จะอย่างไรก็ตาม หากเป็นเช่นนี้คงไม่ยากเกินไปที่จะเข้าถึงตัวปืนใหญ่มอดไหม้ด้วยกองกำลังขององครักษ์’

มันเป็นเรื่องที่เขากังวลเป็นอย่างยิ่งก่อนจะออกจากปราสาท เมื่อพวกเขาต้องจัดการศัตรูจำนวนมากอีกทั้งยังต้องเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังปืนใหญ่มอดไหม้ด้วยกองกำลังขนาดเล็ก เช่นกัน พวกเขายังต้องไปถึงปืนใหญ่มอดไหม้ให้ทันเวลา ทั้งสองเรื่องนี้เป็นความกังวลที่อาร์คอดคิดไม่ได้

แต่ในการศึกครั้งนี้กลับทำให้เขามั่นใจได้ว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่

“พวกเราจะจัดการมอนสเตอร์พวกนี้ให้เร็วที่สุดและมุ่งหน้าไป! เดดริค เจ้ากะโหลก แผน A!”

“ขอรับ!”

กรั่ก กรั่ก กรั่ก

ด้วยหนึ่งสมุนปีศาจที่กลิ้งไปบนพื้น และอีกหนึ่งที่บินไปในอากาศ อาร์คเองก็เข้าร่วมการศึกในครั้งนี้ อัตราความสำเร็จโจมตีคริติคอลของเขาเริ่มระเบิดพลังออกด้วยการใช้ดาบเข้าโจมตีใส่ เขาโต้กลับศัตรูทุกตัวด้วยการโจมตีคริติคอล จากนั้นจึงเตะพวกมันให้ปลิวไป เมื่อเขาระดมการโจมตีพวกนี้เข้าใส่ พวกมอนสเตอร์เงาจึงโดนสถานะผิดปกติเล่นงานเข้า

การต่อสู้กับมอนสเตอร์เงาในตอนนี้ อาร์คสามารถเผชิญหน้ากับพวกมันได้ถึงห้าตัวเพียงลำพังได้ นอกจากนี้ แชมบาร่าเองก็มีทักษะไม่ด้อยไปกว่าอาร์ค อีกฝ่ายไม่ได้โจมตีอย่างอุกอาจซึ่งหน้า เพียงแต่ลากพวกมันออกไปตามแต่ต้องการ แน่นอนว่าอีกฝ่ายสามารถสู้กับพวกมันได้สามถึงสี่ตัวเพียงลำพังได้

ด้วยอาร์คและแชมบาร่าที่เข้าต้านทานพวกมันกว่าสองในสิบของจำนวนกองกำลังศัตรู พวกองครักษ์จึงสามารถผ่อนแรงไปได้พอสมควร ด้วยการกระทำเหล่านี้มันจึงใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่จะกำจัดพวกมอนสเตอร์ไปได้หมด เป็นเพราะได้เรียนกลยุทธ์มา พวกองครักษ์จึงเสียพลังชีวิตไปน้อยนิด ทำให้เวลาที่ต้องพักลดน้อยลงและสามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ทว่า จำนวนของมอนสเตอร์ที่เข้าขัดขวางเส้นทางมันก็เหนือกว่าที่คาดคิดเอาไว้ กระทั่งว่าพวกเขาสามารถจบสิ้นการต่อสู้ได้ภายในสิบนาทีต่อรอบ มันก็ยังต้องใช้เวลามากถึงสองชั่วโมงยี่สิบนาทีเพื่อเข้าถึงตัวกระบอกปืนใหญ่มอดไหม้ หลังเสร็จสิ้นการจัดการมอนสเตอร์กลุ่มสุดท้ายและขึ้นไปบนเนินเขา พวกเขาจึงได้พบเห็นปืนใหญ่ขนาดใหญ่ที่สร้างจากโลหะกำลังจมอยู่ภายในความมืดมิด

“นั่นคือปืนใหญ่มอดไหม้?”

ปืนใหญ่มอดไหม้มันมีความสูงอย่างน้อยก็ยี่สิบเมตรได้ ด้วยด้านข้างของมันที่สร้างขึ้นด้วยแผ่นโลหะติดกันเอาไว้อย่างแน่นหนา มันคล้ายกับแขนขนาดใหญ่ที่ยื่นยาวออกมาก็ไม่ปาน เปลวเพลิงสีดำกำลังสั่นไหวคล้ายรูปมือที่มีห้านิ้วอย่างแปลกประหลาด มันเป็นอาวุธที่คล้ายกับแขนขนาดใหญ่ที่สามารถยิงพลังมานาออกมาได้

ครืน...

เสียงของพื้นสั่นสะเทือนขณะที่มันเริ่มหันทิศ แม้จะเชื่องช้า แต่ตอนนี้มันกำลังรุกคืบเข้าใกล้ระยะห่างระหว่างปราสาทแจ๊คสันอยู่ แน่นอนว่าปัญหาในตอนนี้คือมอนสเตอร์กว่าสามร้อยตัวที่คุ้มกันอยู่รอบปืนใหญ่มอดไหม้!

‘ที่เหลือก็ทำได้แค่รอคอยและเชื่อใจจัสติสแมนกับกองกำลังสำรองแล้ว!’

ตอนนี้เหลือเวลาอีกสี่สิบนาทีก่อนที่กำหนดเวลาจะหมดสิ้นลง กระนั้น อาร์คก็ยังคงอดทนรอคอย องครักษ์ทั้งสามสิบคนไม่สามารถโค่นล้มศัตรูถึงสิบตัวด้วยกำลังเพียงลำพังได้ ทั้งอาร์คและแชมบาร่าหรือกระทั่งกองกำลังสำรองก็ไม่อาจสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดิมพัน

เวลาผ่านไปสิบนาที ครอสจึงถามออกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “นี่เจ้ากำลังรอคอยอะไรอยู่? พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ!”

“ผมรู้ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น”

“เจ้ากำลังรอคอยผู้ใดอยู่กัน? หรือพูดถึงท่านอลัน?”

“ไม่ เป็นจัสติสแมนนิมกับกองกำลังสำรอง”

“แต่เจ้าไม่ทราบหรือว่ากระทั่งพวกเขาเข้าร่วม สถานการณ์มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนักน่ะ?”

“ถึงเวลาที่ผมต้องบอกแล้วสินะ ที่จริงคือว่า...”

และขณะที่อาร์คกำลังจะพูดกล่าวออกมา แชมบาร่าที่กำลังพักผ่อนอยู่ทางแนวหลังด้วยสีหน้าเรียบเฉยถึงกับกระเด้งตัวขึ้นมา

“อาร์ค เราโดนสอดแนม!”

ขณะที่อาร์คหันศีรษะกลับด้วยสีหน้าแตกตื่น มอนสเตอร์เงากว่าสิบตัวกำลังขึ้นมาจากทางเนินเขา พวกมันพบเจอปาร์ตี้ของอาร์คเข้าและเร่งร้อนหันกลับไปอย่างเร่งรีบ

“บ้าจริง! แชมบาร่า!”

อาร์คและแชมบาร่าพุ่งออกไปราวลูกศรที่ถูกยิงออกและพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์เงา พวกเขาทั้งสองเร่งร้อนวิ่งและโจมตีเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้งด้วยการโจมตีคริติคอล เมื่อนักธนูของกองกำลังองครักษ์เข้าร่วมด้วย มอนสเตอร์เงาจึงเริ่มตายลง แต่กระทั่งว่าเป็นอาร์คและแชมบาร่าก็ไม่สามารถจัดการพวกมันทั้งหมดได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

นอกจากนี้ พวกมันยังเป็นหน่วยสอดแนม พวกมันไม่มีจุดประสงค์ที่จำเป็นต้องโจมตีสวนกลับ ขณะพวกมันที่เหลือเข้าขัดขวางอาร์คและกองกำลังเอาไว้ หนึ่งในพวกมันก็เร่งร้อนหนีตายลงไปจากเนินเขาพร้อมส่งเสียงร้องที่แหลมเสียดแทง

“ควี๊ก! ศัตรู! ศัตรู!”

และก็ ตู้ม! มอนสเตอร์กว่าสามร้อยตัวหันหัวมาทางยอดเนินเขาโดยทันที

“เป็นมนุษย์! เป็นมนุษย์!”

มอนสเตอร์กว่าสามร้อยกรีดร้องออกมาขณะแผ่จิตสังหารพุ่งมายังเนินเขา ฮิปตันได้เหวี่ยงค้อนใหญ่ยักษ์ของมันออกมา พวกผู้ล้างแค้นก็กำลังขี่กิ้งก่าพร้อมเหวี่ยงสะบัดดาบคล้ายเกิดอาการคลั่ง พวกมอนสเตอร์เงาที่ตามหลังมาอีกจำนวนมาก ลำพังเพียงแค่สิ่งเหล่านี้ก็สามารถกวาดล้างพวกเขาทั้งหมดได้แล้ว

“จะ-จบสิ้นแล้ว!”

“ถ้ามอนสเตอร์เยอะขนาดนั้นพุ่งเข้ามาล่ะก็...!”

สีหน้าของพวกองครักษ์ต่างไร้ซึ่งสีเลือด

ความสิ้นหวังฉายผ่านดวงตาของครอสออกมา “บะ-บัดซบ! ถ้าหากจะเป็นเช่นนี้ อย่างน้อยก็ขอลากพวกมันลงนรกร่วม! ทุกคนเตรียมปะทะ!”

“ไม่ได้นะ!” อาร์คร้องตะโกนออกมาขณะเร่งร้อนเข้าไปขวางทางครอสเอาไว้

“ว่าอะไร? ไม่ได้? หมายความว่ายังไง?”

“หากพวกเราสู้แบบนี้มันไม่มีความหวังที่จะชนะ”

“แล้ว...?”

“ที่พวกเราต้องทำในตอนนี้คือป้องกันเอาไว้ ถ้าหากพวกเราป้องกันเอาไว้ได้ พวกเราก็ยังมีหนทางจัดการมอนสเตอร์ทั้งสามร้อยตัวนี้ให้ราบ”

“เจ้าจะบอกว่าจุดประสงค์ที่ต้องทำตอนนี้คืออดทน?”

“ผมขอร้อง โปรดทำตามที่ผมพูด โปรดอดทนจนกว่าจะถึงเวลา นั่นคือหนทางเดียวที่พวกเราจะรอดชีวิต”

“ฮึ่ม... ก็ได้ แนวโล่เคลื่อนทัพไปด้านหน้า ขัดขวางศัตรูที่พุ่งเข้าปะทะไว้! ค้ำยันพวกมันเอาไว้ให้ถึงที่สุด!”

ขณะที่ครอสออกคำสั่ง พวกองครักษ์จึงเริ่มตั้งกำแพงโล่ขึ้นมา จากนั้น ด้วยเสียงร้องที่น่าหวาดหวั่น พวกมอนสเตอร์ได้เริ่มเข้าปะทะกับพวกองครักษ์ การโจมตีของทั้งมอนสเตอร์เงาและผู้ล้างแค้นส่วนใหญ่จะปะทะเข้าใส่กำแพงโล่ พลังป้องกันของโล่นั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าพลังป้องกันของอุปกรณ์สวมใส่ทุกชนิดรวมเข้าด้วยกัน แน่นอนว่าพลังป้องกันจะไร้ประโยชน์หากไม่อาจปัดป้องเอาไว้ แต่ถ้าหากกองกำลังเหล่านี้โจมตีออกโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกัน ดังนั้นแล้วพลังอำนาจการป้องกันของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

เป็นดังคาด พลังชีวิตของพวกองครักษ์ไม่ได้ถูกลดทอนไปมากนักจากการพุ่งเข้าปะทะของมอนสเตอร์นับสิบครั้ง แต่ด้วยจำนวนที่ถาโถมเข้าใส่ อีกทั้งยังมีฮิปตันที่ไม่อาจป้องกันเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นเพราะพวกมันมีความสามารถ ‘ทำลายการป้องกัน’ ด้วยการเหวี่ยงอาวุธคล้ายตะบองเข้าใส่ อีกทั้งมันยังเป็นการเหวี่ยงโจมตีจากมอนสเตอร์ขนาดยักษ์!

“โอ้!”

แคร๊ง!

เมื่อฮิปตันเหวี่ยงค้อนของมันเข้าใส่ กองทหารองครักษ์สามหรือสี่นายถึงกับปลิวไปพร้อมอาการมึนงง เพียงแค่ฮิปตันสองตัวที่ปรากฏตัวขึ้นก็ทำเอารูปแบบแนวป้องกันขององครักษ์พังทลายลงในทันที

“แชมบาร่า ฝากจัดการฮิปตันทางด้านนั้นด้วย!”

“ชิ นายนี่ใช้งานฉันคุ้มค่าจริงนะ”

“อย่าบ่นน่า จะยังไงนายเองก็จะได้สำเร็จภารกิจด้วยนี่นา”

“ภารกิจพวกนี้ฉันไม่ได้สนใจเลยสักนิด นี่ฉันต้องบอกกี่ครั้งกันนายถึงจะเข้าใจ?!” แชมบาร่าต่อว่าออกมาขณะที่พุ่งเข้าใส่ฮิปตันอีกด้านหนึ่ง

ด้วยโบนัสธาตุความมืด มีเพียงแค่อาร์คและแชมบาร่าเท่านั้นที่สามารถต่อสู้ตัวต่อตัวกับฮิปตันได้

“เดดริคไปดึงดูดความสนใจ! เจ้ากะโหลกโจมตี! แผน C!”

โอ โอ โอ้!

อาร์ควิ่งวนรอบฮิปตันขณะเริ่มสร้างความเสียหายคริติคอลเข้าใส่ พวกมันเคลื่อนไหวช้า ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะโจมตีคริติคอลสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเสียหายโบนัสที่ได้จากการประสานโจมตีของสมุนปีศาจ อีกทั้งยังมีการโจมตีสวนกลับที่สามารถสร้างความเสียหายได้เพิ่มเติมเข้าไป

ด้วยความเสียหายที่โรมรันเข้าใส่ พลังชีวิตของฮิปตันจึงลดลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมันร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น ถัดจากนั้นอาร์คจึงมุ่งหน้าออกไปปล่อยการโจมตีเข้าใส่พร้อมหลบการโจมตีขณะพุ่งเข้าปะทะกับพวกมอนสเตอร์เงา

มันไม่เหมือนการหลบโจมตี การปัดป้องด้วยดาบจำเป็นต้องถูกลดทอนพลังชีวิต แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก พื้นในตอนนี้ทั้งเหม็นเน่าและลื่นแฉะเพราะหมอกมืด ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพดังปกติได้ ที่แย่ยิ่งกว่านั้น การโจมตีนับสิบถึงกับโรมรันเข้าใส่พร้อมกัน การหลบเลี่ยงพวกมันทั้งหมดจึงไม่อาจเป็นไปได้!

แต่แล้วสถานการณ์ก็แย่ลงอีกครั้ง เขาไม่อาจเมินเฉยต่อการที่พลังชีวิตเริ่มลดน้อยลงทีละนิดจากการปัดป้องทุกการโจมตีด้วยดาบไปได้ นอกจากนี้ ความทนทานของมันสูญเสียไปเพราะเขาสกัดการโจมตีอีกด้วย

‘บ้าจริง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราทนได้อีกไม่นานแน่!’

จากนั้น ระหว่างที่อาร์คกำลังส่งเสียงครางต่ำอยู่ เขาได้ปัดป้องแขนของมอนสเตอร์เงาอีกตัวที่กำลังพุ่งเข้าใส่ จากนั้น หน้าต่างข้อความจึงเด้งขึ้นมาพร้อมเสียงแตรเป่าแสดงความยินดี

 

=====

ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่

ปัดป้อง (ขั้นต้น, มีผลต่อเนื่อง) : ท่านได้เป็นผู้คุ้นชินต่อการป้องกันโดยการปัดป้องการโจมตีของศัตรูด้วยการใช้ดาบเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ท่านสามารถปัดป้องการโจมตีของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อการปัดป้องสำเร็จ พลังป้องกันจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากความเสียหายของดาบ และดาบจะไม่สูญเสียความทนทาน

=====

 

จากนั้น ประกายแสงได้ปรากฏขึ้นพร้อมหน้าต่างใหม่

 

=====

ทักษะต่อเนื่องใหม่ได้ถูกลงทะเบียน

ทักษะต่อเนื่อง : เมื่อทักษะอย่างน้อยสองอย่างได้ถูกใช้งานออกอย่างต่อเนื่อง พวกมันจะได้รับการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติเป็นทักษะต่อเนื่องใหม่ ถ้าหากทักษะใช้งานออกได้สำเร็จ ทักษะต่อเนื่องจะทำงานและมอบโบนัสพิเศษต่อเนื่องให้กับท่าน ทว่า หากหนึ่งในทักษะต่อเนื่องใช้งานออกล้มเหลว ท่านจะได้รับบทลงโทษ

*ขณะนี้สามารถใช้งานทักษะต่อเนื่อง

=====

สวนกลับฉับพลัน (ปัดป้อง + การโจมตีสวนกลับ)

การโต้กลับขั้นสูงที่ปัดป้องการโจมตีของศัตรูและสวนกลับไป

หากทักษะต่อเนื่องสำเร็จ : เพิ่มโอกาส 50% ทำให้ศัตรูถอยกลับเป็นระยะ 5-10 เมตร

หากทักษะต่อเนื่องล้มเหลว : มีโอกาส 50% ที่จะโดนผลอัมพาตเป็นระยะเวลา 3 วินาที

=====

 

‘ทักษะต่อเนื่อง?’ อาร์คจ้องมองหน้าต่างข้อความขณะเผยสีหน้างุนงง

ขณะนั้นเอง มอนสเตอร์เงาได้ยื่นแขนของมันออกมา อาร์คได้ปัดป้องแขนนั้นด้วยการเหวี่ยงดาบออกไป จากนั้นจึงลั่นการโจมตีโต้กลับด้วยการหมุนตัว ในทันทีที่ประกายดาบเผยออกมานั้นเอง ทักษะต่อเนื่องก็ทำงานขึ้นมา มอนสเตอร์เงาถึงกับโดนเหวี่ยงตัวโยนถอยกลับไปหลายเมตร มันพุ่งเข้าไปปะทะกับฝูงมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังจนร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น

‘นี่สินะทักษะต่อเนื่อง!’

อาร์ครู้สึกคล้ายได้รับแรงใจ ด้วยผลลัพธ์พิเศษเช่นนี้ มันสามารถผลักดันศัตรูกลับไปได้ร่วมสิบเมตร! ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ มันยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นหากทักษะจะสร้างความเสียหายเพิ่มได้มากขึ้น

อาร์คเร่งร้อนพุ่งเข้าปะทะด้วยการใช้ทักษะต่อเนื่อง ด้วยความสามารถของเขา โอกาสที่มันจะประสบการณ์ความสำเร็จยังมีน้อย ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้ถูกผลักดันกลับเสียทั้งหมด แต่ด้วยความสามารถทางร่างกายของอาร์คที่ยอดเยี่ยม! ในไม่ช้าเขาจึงสามารถจับจังหวะจนเพิ่มโอกาสที่จะทำสำเร็จได้มากขึ้น

“สวนกลับฉับพลัน!”

ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม!

พวกมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีใส่อาร์คต่างกระเด็นกระดอนกลับไปทั่วทุกทิศทาง ราวกับทุกครั้งที่เขาลั่นการโจมตี หนึ่งในพวกมันก็จะลอยลิ่วปลิวกลับและล้มลงไปกองกับพื้น ด้วยสิ่งเหล่านี้ เขาจึงสามารถช่วยลดภาระที่เหล่าองครักษ์ต้องแบกรับเอาไว้ได้ แนวป้องกันจึงยังสามารถดำเนินต่อไป หลังผ่านไปได้สิบนาทีกว่า ฉับพลันพวกเขาจึงได้ยินเสียงตะโกนสะท้อนมาจากอีกด้านของด้านหลังเนินเขา

“มาถึงแล้ว!”

อาร์ค แชมบาร่า ครอส และพวกองครักษ์ทั้งหมดต่างหันศีรษะกลับไปอย่างยากลำบากราวกับต้องหักคอตัวเองก็ไม่ปาน

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด