ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (3) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (2) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 5 : ปฏิบัติการทำลายล้างปืนใหญ่มอดไหม้ (2)

“นี่จะไม่เป็นไรใช่ไหม?” ครอสกล่าวถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ถ้าหากทำตามที่ท่านอลันกล่าวไว้ ระหว่างที่พวกเราถ่วงรั้งกองกำลังของมอนสเตอร์เหล่านั้นเอาไว้ โอกาสที่กลุ่ม A จะประสบความสำเร็จในการทำลายปืนใหญ่กระบอกแรกแทบจะมั่นใจได้ และหลังจากนั้นพวกเขาจะมารวมกับพวกเราเพื่อจัดการอีกหนึ่งกระบอก แต่กลุ่ม B ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการถูกกวาดล้างได้ กระนั้นแล้ว ถ้าหากพวกเราเผลอไปกดดันศัตรูเข้า ทางพวกกลุ่ม A คงได้รับความเสียหายครั้งใหญ่...”

กล่าวตามตรง นี่คือปัญหา ถ้าหากกลุ่ม A ลงมือได้สำเร็จ ดังนั้นแล้วภารกิจหลักก็จะไม่ล้มเหลว แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่อาร์คต้องทำตามแผนดังกล่าว ในเมื่อพวกองครักษ์ร่วมเดินทางไปกับกลุ่ม B เขาจึงไม่สามารถใช้แผนลากถ่วงการโจมตีเพื่อซื้อเวลาได้ ถ้าหากเขาทำเช่นนั้น ค่าความสัมพันธ์ แต้มสะสม รวมถึงความนิยมในตัวเขาคงดิ่งเหว

‘ไม่ว่าจะอะไร เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเคลื่อนไหวตามแผนการ’

อาร์คหัวเราะออกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวลครับ มันสมควรมีหนทางอยู่ ไม่สิ ผมจะหาทางนั้นให้ได้ครับ”

“ใช่ ก็ดี ข้าขอเชื่อใจและติดตามเจ้าไป ข้าจะไปเตรียมการพวกองครักษ์เสียก่อน ทางเจ้าเตรียมการเสร็จแล้วก็มาหาข้าด้วย”

“เข้าใจแล้วครับ”

หลังแยกจากครอส อาร์คจึงมุ่งหน้าไปหากลุ่มกองกำลังสำรองและอธิบายภารกิจให้ฟัง เมื่อได้ยินได้ฟังเรื่องราว เหล่าผู้คนในกองกำลังสำรองจึงต่างเผยความผิดหวังออกมา พวกเขาต้องเข้าร่วมกลุ่ม B ที่ไม่มีความหวังว่าจะสำเร็จ มันทำให้จิตใจของพวกเขาหนักอึ้งราวถูกขุนเขากดทับเอาไว้

“พอได้แล้ว ออกไปถล่มพวกมันดีกว่าจะต้องมาซึมเพราะไอ้ลูกหมานั่น ไปกัน!”

“เข้าใจแล้ว พวกเราจะติดตามแต่จัสติสแมนเท่านั้น!”

ขณะที่จัสติสแมนตะโกนขึ้น กองกำลังอาสาจึงตกปากรับคำโดยไม่คิดอื่นใด เมื่ออาร์คได้รับภารกิจเช่นนี้มา กองกำลังอาสาจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม B ไปโดยปริยาย

‘แต่ก็นะ เราจะทำยังไงดี?’

ตอนที่เขาได้รับภารกิจมาก็เหมือนกับต้องไปเสียสละแล้ว

มอนสเตอร์ที่ต้องพบเจอระหว่างทางไปยังกองขนส่งปืนใหญ่ไม่ใช่ปัญหา ทว่า พวกมันอย่างน้อยสามร้อยตัวก็มีเลเวลมากถึง 80~90 ที่กำลังคุ้มกันปืนใหญ่อยู่

‘มันจะเป็นไปได้ไหมนะที่พวกเราจะดึงพวกมันออกมาทีละยี่สิบหรือสามสิบตัวทีละครั้ง...’

ส่วนใหญ่แล้ว มอนสเตอร์ที่อยู่เป็นกองทัพนั้นจะอยู่รวมกัน ถ้าหากเข้าโจมตี พวกมันทั้งหมดก็จะโจมตีกลับมา

แน่นอนว่า ยังพอมีความเป็นไปได้ที่จะล่อพวกมันออกมาได้หลายครั้งหากใช้เดดริค แต่มันก็มีขีดจำกัดที่จะกระทำ อีกทั้งภารกิจนี้ยังกำหนดเวลา การจัดการปืนใหญ่มอดไหม้ด้วยกองกำลังห้าสิบนาย มันต้องผ่านการสู้รบโดยไม่อาจพักผ่อนตลอดระยะเวลาสองชั่วโมง ถ้าหากพวกเขาเจอศัตรูมากกว่าที่คาดการณ์ มันก็อาจต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่าพวกเขาจะเหลือเวลาเพียงแค่น้อยนิดก่อนจะได้เข้าถึงตัวปืนใหญ่ นั่นหมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องจัดการศัตรูกว่าสามร้อยตัวและปืนใหญ่มอดไหม้โดยเร็วที่สุด ด้วยกองกำลังอาสาและกองทหารองครักษ์ มันฟังดูแล้วคล้ายเป็นภารกิจไร้ซึ่งความหวังตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว

‘กระทั่งว่าเราเอาตัวรอดกลับมาได้ ความแตกต่างระหว่างเรากับอลันก็ยังมี สำหรับภารกิจนี้ มันไม่ต่างอะไรไปกับสวรรค์และปฐพี ถ้าหากพวกเราล้มเหลว นั่นก็หมายความว่าภารกิจหลักล้มเหลว เพราะงั้นเราจึงไม่อาจไปขัดขวางอลันได้ แต่ก็อีก มันไม่มีทางเลยที่จะกำจัดมอนสเตอร์เป็นร้อยได้ภายในพริบตา...’

ขณะนั้นเอง ความคิดหนึ่งถึงกับผุดขึ้นวาบผ่านจิตใจของอาร์คไป

‘เดี๋ยวนะ? หลายร้อยเหรอ? ใช่แล้ว ยังมีวิธีนั้นอยู่นี่นา อาจได้ผลก็ได้...’

มันรู้สึกราวกับโดนอะไรบางอย่างจี้จุดเข้า ที่จริง ความเป็นไปได้มันต่ำ แต่ถ้าหากเขาสามารถใช้วิธีการนี้ได้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีโอกาสประสบความสำเร็จ

‘ดีล่ะ ดีกว่าไม่ได้ลอง มีแต่ต้องลองแล้ว ตอนนี้เวลาก็ไม่เหลือแล้วด้วย’

โดยทันที อาร์คจึงมุ่งหน้าออกจากค่ายพักผู้ลี้ภัยเพื่อมุ่งหน้าไปยังมุมหนึ่งของปราสาทแจ๊คสัน ที่แห่งนั้นเขาไปเพื่อพบเจอกับหัวหน้าลูกเรือ จาเบล จากนั้นจึงเริ่มเกลี้ยกล่อมเขาด้วยวิธีการที่เขาคิดออก จาเบลฟังอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นจึงครุ่นคิดอีกสักพักจึงค่อยตอบกลับมาด้วยความสงสัย

“บางทีนะ... ขอพูดตามตรงนะ มันยากที่จะให้คำตอบได้ พวกเราร่อนลงฉุกเฉินจนเกิดการปะทะแต่มันก็ไม่ได้ระเบิดออก ดังนั้นแล้วก็ไม่ใช่ไร้ซึ่งความหวังเสียทีเดียว แต่ก่อนที่จะได้เห็นด้วยตัวเองนั้น... อีกทั้งกระทั่งว่ามันใช้งานได้ เวลาในการแยกส่วนและประกอบมันขึ้นใหม่ก็แตกต่างกันไปตามสถานการณ์อีก”

“แต่มันก็มีความเป็นไปได้ใช่ไหมครับ”

“อา ใช่แล้ว”

“สมาคมเวทมนตร์ปรารถนาที่จะช่วยเหลือและกอบกู้ปราสาทแจ๊คสันอย่างชัดเจน พวกคุณจะช่วยใช่ไหมครับ?”

“ถ้าหากพวกเรามีอะไรที่พอทำได้ เช่นนั้นก็แน่นอน พวกเรายังรอดได้ต้องขอบคุณเธอคนเดียวเลยนะอาร์ค อีกทั้ง พวกเรายังเป็นผู้ที่มาเพื่อปกป้องปราสาทแจ๊คสัน ดังนั้นแล้วเหล่าลูกเรือของซิลเวอร์แอร์โรว์ย่อมรู้หน้าที่นี้ดี”

จาเบลตอบกลับด้วยความกล้าหาญ สมแล้วที่เขาเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของกัปตันผู้กล้าหาญคนนั้น

‘ดีล่ะ แม้จะยังไม่อาจรับประกันได้ แต่อย่างน้อยก็พอมีความหวังบ้างแล้ว’

ดังคาด หากครุ่นคิดให้ดีมันก็จะมีคำตอบออกมา เกมผจญภัยเช่นนี้มันมีอิสระที่สูงล้ำอยู่แล้ว

เมื่อพบหนทางแก้ไขปัญหาแล้ว เขาจึงผ่อนคลายได้เล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยเริ่มคิดถึงสถานการณ์ให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น

‘แต่กระทั่งว่าเราจบภารกิจได้ ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง’

ในเมื่ออลันกวาดต้อนเอากองกำลังทั้งหมดไปแล้ว การที่อีกฝ่ายจะทำภารกิจสำเร็จได้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากสัจธรรมที่เป็นไป มันหมายความว่าสถานการณ์ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้อาร์คจะกระทำได้สำเร็จ ระบบการจัดอันดับอย่างไรแล้วก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นแน่

สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับอาร์คคือ กรณีที่เขาทำสำเร็จและกลุ่ม A ทำล้มเหลว แต่ด้วยกองกำลังผู้เล่นหนึ่งร้อยยี่สิบคนของกลุ่มเอที่มีค่าเฉลี่ยเลเวลถึง 80 กระทั่งว่าเป็นพวกเขาเหล่านี้ก็ยังไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นภารกิจที่ง่าย แต่มันก็มีโอกาสน้อยที่จะล้มเหลว

‘เราต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้!’

อาร์คกัดฟัน ที่จริง เขาได้วางแผนให้กลุ่ม A ล้มเหลวเอาไว้แล้วด้วยซ้ำ กล่าวตามตรง มันคือแผนการที่เขาคิดขึ้นมาได้หลังได้พบกับแชมบาร่า แต่ก็อีกนั่นแหละ หากกลุ่ม A จบลงด้วยความล้มเหลว อีกทั้งถ้าหากกลุ่ม B ยังล้มเหลวด้วยอีก มันก็หมายความถึงภารกิจหลักที่จะต้องจบด้วยความล้มเหลว

มันสามารถขยี้ความสิ้นหวังไว้ในใจของอลันได้ แต่หากอาร์คทำเช่นนั้น ทุกสิ่งอย่างที่เคยทำมาในช่วงหลายวันมานี้ก็จะกลายเป็นฝุ่นผงไป

‘แต่ว่า เราจะไม่อาจเอาชนะอลันได้หากไม่ทำอะไรที่ต้องเสี่ยง’

ภารกิจในตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาแล้ว มันเปลี่ยนมาเป็นการประชันกันกับอลันเสียแทน แต่ก็ยังไม่มีเพียงเท่านั้น มันยังมีอันเดลที่สวมควรโดนเคี้ยวและกลืนกินให้สิ้นซากไป อีกฝ่ายในตอนนี้กำลังเกาะติดอลันอยู่ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมากลัวความพ่ายแพ้แล้ว

‘อลัน อันเดล พวกแกสองคนเลือกยุ่งด้วยผิดคนแล้ว’

อาร์คตั้งใจแน่วแน่แล้ว

มันคือความตั้งใจที่จะใช้ทุกแผนการไม่ว่าจะเป็นอะไร ไม่ว่าจะเป็นแผนการต่ำช้าอย่างไรก็ไม่เกี่ยง...

โดยทันที อาร์คนำเอาหม้อที่ว่างเปล่าออกมา จากนั้นเขาจึงเขย่าส่วนผสมทั้งหมดที่เหลืออยู่ในกระเป๋าลงไปและเริ่มทำอาหาร

 

=====

พริกผัดเปรี้ยวหวาน

อาหารที่ทำขึ้นจากผลไม้ที่ออกจากต้นที่คล้ายพริกเป็นอย่างยิ่ง หากกินเข้าไปความร้อนจะถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายอย่างไม่หยุดยั้ง คำเตือน บางสิ่งอาจเกิดความผิดปกติขึ้นเพราะความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมา

พละกำลัง +10 เป็นระยะเวลา 5 นาที ส่งผลให้เกิดสถานะ สับสน เป็นระยะเวลา 3 นาทีหลังผลลัพธ์หายไป

ผลจากการทำอาหารเพื่ออยู่รอดขั้นกลาง : เพิ่มเครื่องเทศลงไปจะยืดระยะเวลาส่งผล ‘สับสน’ เพิ่มเป็น 5 นาที

=====

 

หลังทำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบจานในเวลาเพียงแค่สามสิบนาที อาร์คยัดพวกมันเข้าใส่ถุงที่จัดเตรียมไว้และมุ่งหน้าไปหาแชมบาร่า

ในเมื่อแชมบาร่าไม่ได้เข้าร่วมกองกำลังที่หนึ่ง สอง หรือว่าสาม อีกฝ่ายจึงเข้าร่วมกับเขามาอยู่กลุ่ม B ตามสภาพ ขณะที่เขาอธิบายแผนการต่ำช้าให้แชมบาร่าฟัง ไม่ช้าเขาจึงหรี่ตาลงมอง

“นายบอกว่านายมีทักษะหลายอย่างสินะ แต่มันใช้กับงานนี้ได้ไหม?”

“บอกง่าย ๆ ก็พอ ว่านายทำได้หรือว่าไม่ได้?”

“...ฉันทำได้”

“ดี เวลามีเหลืออีกไม่มากแล้ว พวกเรากำลังจะออกเดินทางในอีกไม่ช้า เพราะงั้นเร่งมือเข้า”

“เข้าใจแล้วน่า ฉันไม่รู้หรอกนะว่างานนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ แต่ฉันจะทำให้ดังที่สัญญาเอาไว้”

แชมบาร่านำเอาถุงที่ใส่พริกผัดเปรี้ยวหวานไป จากนั้นจึงหายเข้าไปในความมืดมิด

แชมบาร่าใช้งาน ‘ลอบเร้น’ เพื่อมุ่งหน้าไปยังคลังเก็บสิ่งของภายในปราสาท เป้าหมายก็คือเสบียงที่เตรียมเอาไว้โดยท่านลอร์ดหนุ่มสำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ อาหารที่จะถูกส่งมอบให้กับทีม A สมควรอยู่ที่นั่น อาร์คจึงขอให้แชมบาร่านำพริกผัดเปรี้ยวหวานผสมลงไปในอาหารที่จัดเตรียมไว้

‘การทำอาหารเพื่ออยู่รอดก็ยังส่งผลลัพธ์ออกมาได้แม้จะปะปนไปกับอาหารอื่น!’

เรื่องนี้เป็นเขาพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว อีกทั้ง ถ้าหากมันผสมกันกับอาหารอื่น มันก็จะกลายเป็นอะไรที่ไม่สามารถยืนยันได้อีกครั้ง และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมันก็จะไม่รู้เลยหากไม่ได้ลอง

‘เสบียงอาหารภายในปราสาทมีปริมาณน้อย แม้อาหารเหล่านั้นจะมีผลลัพธ์ที่ไม่มากนัก ด้วยการต่อสู้ขั้นแตกหักที่แนวหน้า อลันย่อมต้องกินอาหารเสบียงนี้เข้าไป ถ้ามันเผยผลลัพธ์ขึ้นตอนนั้นล่ะก็...’

เมื่อมันผสมปนเปเข้าไปในอาหารอื่น ทุกผู้เล่นภายในกลุ่ม A จึงไม่อาจได้รับผลกระทบทั้งหมด อีกทั้งผลลัพธ์ของมันก็จะถูกลดทอนลง แต่กระทั่งว่าผลลัพธ์เหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อสถานการณ์อย่างมากแน่

ดังที่ว่า นี่คือวิธีการอันต่ำช้า!

เหตุผลที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ใช้วิธีการนี้ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกผิดอะไรแต่อย่างใด แต่ถ้าหากมันจะช่วยให้เขาได้ประโยชน์ อาร์คยินดีที่จะทำเรื่องอันต่ำช้าได้อย่างไม่ต้องคิดกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็ในนิวเวิลด์ เขาเพียงแค่เป็นกังวลว่าหากโดนพบเห็นเข้าโดยเอ็นพีซีหรือว่าผู้เล่น มันจะส่งผลกระทบต่อค่าแนวโน้มของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องกังวลในเรื่องนั้น แชมบาร่านับเป็นไพ่ลับที่มีทักษะ ‘ตัวแทนแห่งความตาย’ ในการที่จะสามารถกระทำเรื่องพวกนี้ได้

‘ฮ่าฮ่าฮ่า อลัน ไอ้ลูกหมา ขอให้แกได้ลิ้มรสมัน’

หลังเสร็จสิ้นการเตรียมออกปฏิบัติการ อาร์คจึงส่งเสียงผิวปากออกมาขณะเดินไปที่ฝ่ายพลาธิการ

* * *

 

“พวกเราจัดเตรียมเสบียงเอาไว้สำหรับองครักษ์แยกต่างหาก นี่คือเสบียงของกองกำลังสำรอง”

หลังผ่านไปชั่วโมงตามเวลานัด เขาจึงมารับเสบียงจากฝ่ายพลาธิการ ดังคาด มันมีอาหารทั้งสิ้นยี่สิบกล่อง และกล่องเครื่องมือทั่วไปอีกยี่สิบกล่อง จากนั้น เอ็นพีซีจากสมาคมเวทมนตร์ได้เข้ามามอบลูกแก้วขนาดเท่าลูกบอลให้ผู้บัญชาการทั้งสองกลุ่มซึ่งก็คือ อาร์ค และอลัน ส่วนเสบียงที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้เป็นท่านลอร์ดหนุ่มส่งมอบให้

“นี่คือระเบิดเวทมนตร์”

“ระเบิดเวทมนตร์?”

“ถูกต้อง ปืนใหญ่มอดไหม้ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเหล็กอันแข็งแกร่ง มันจำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงหากต้องการทำลายมันด้วยอาวุธที่พวกท่านมี ทว่า ถ้าหากเป็นระเบิดเวทมนตร์นี้ เพียงนำมันติดตั้งเอาไว้กับเป้าหมาย มันจะแปรเปลี่ยนให้ปืนใหญ่มอดไหม้กลายเป็นเศษเหล็กได้เพียงพริบตา ทว่า มีสิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังเอาไว้ เป็นเพราะพวกเราเร่งร้อนทำขึ้น พวกเราจึงไม่อาจพูดได้ว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ปลอดภัย ดังนั้นแล้วอย่างน้อย... ถ้าหากพบเห็นอะไรที่ผิดปกติจากระเบิดเวทมนตร์ ให้โยนมันไปให้ไกลพร้อมเร่งหลบหนีออกไปยังสถานที่ปลอดภัยนะครับ”

“เข้าใจแล้ว”

 

=====

ระเบิดเวทมนตร์

ระเบิดเวทมนตร์ที่ถูกผลิตขึ้นโดยสมาคมเวทมนตร์ เป็นระเบิดพลังสูง ทว่า ด้วยความไม่เสถียรของมันอีกทั้งยังเป็นต้นแบบ ดังนั้นแล้วมันจึงไม่อาจควบคุมการใช้พลังมานาได้ดีเท่าไหร่นัก

การตั้งเวลาระเบิดสามารถตั้งได้ตั้งแต่ 10 วินาทีจนถึง 1 นาที ดังนั้นแล้วถ้าหากอุปกรณ์คงสภาพความปลอดภัยเกิดไม่เสถียรขึ้นมา ตัวสวิตช์จะเปิดการทำงานเองโดยอัตโนมัติและระเบิดออกภายในเวลา 2 ชั่วโมง 50 นาที

=====

 

ในเมื่อภารกิจนี้กำหนดเวลาเอาไว้ที่สามชั่วโมง นั่นก็หมายความว่าระเบิดจะต้องถูกติดตั้งที่เป้าหมายภายในเวลาสองชั่วโมงกับอีกห้าสิบนาที และเวลาที่เหลืออีกสิบนาทีมันจะระเบิดปืนใหญ่มอดไหม้และทำให้ภารกิจเสร็จสิ้น

“มันจะดีขึ้นถ้าหากทางด้านโน้นไม่โดนมอนสเตอร์กวาดล้างในพริบตาจนทำให้มอนสเตอร์เร่งร้อนมาทางด้านพวกเรา”

ขณะที่รับและเก็บพัสดุไป อลันได้พูดกล่าวขึ้นขณะมองไปที่อาร์ค

“เช่นกัน”

“เชื่อมั่นดีก็ดีแล้ว งั้นมาพนันกันไหมว่าฝ่ายไหนจะทำลายปืนใหญ่มอดไหม้ได้ก่อนกัน?”

“เอาที่นายพอใจเลย”

ขณะที่ตอบตอบกลับแกมยั่วยุไป อลันเพียงแค่นเสียงและจึงหันไปพูดกล่าวอีกด้าน จากนั้น คนกว่าร้อยยี่สิบของทางกลุ่ม A จึงมุ่งหน้าออกไปยังประตูหน้าราวกับสายน้ำหลาก

ขณะมองพวกเขาจากไป ครอสจึงเริ่มการสำรวจสภาพโดยรอบและกล่าวถามขึ้น “ว่าแต่ ทำไมอาจารย์กับกองกำลังอาสายังมาไม่ถึงอีก?”

บุคคลที่ครอสกล่าวถึงว่า อาจารย์ หมายถึงจัสติสแมนนั่นเอง

“กองกำลังสำรองออกล่วงหน้าไปอีกที่ก่อนแล้ว หลังจากพวกเราจัดการมอนสเตอร์และเข้าถึงปืนใหญ่มอดไหม้ได้ พวกเขาจะตามมาหาพวกเราเอง”

“นั่นหมายความว่าอะไร? นี่เจ้าแบ่งกองกำลังออกเป็นกองกำลังย่อย?” ครอสกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

กองกำลังสำรองไม่สามารถช่วยอะไรได้มากอยู่แล้ว แต่มันก็ยังมีความต่างระหว่างมีพวกเขากับไม่มี

“พวกเขากำลังเตรียมบางสิ่งที่จำเป็นต่อภารกิจของเรา”

“งั้นแผนคืออะไรกันแน่?”

“มันยากจะอธิบายรายละเอียดในตอนนี้น่ะครับ ท่านไม่เชื่อใจที่จะฝากชีวิตเอาไว้กับผมหรือ?” อาร์คกล่าวถามอย่างแข็งขืนขณะจ้องมองไปยังครอสด้วยดวงตาที่จริงจัง

ครอสจ้องตอบสายตานั้นชั่วขณะก่อนจะพยักหน้า “ย่อมเป็นเช่นนั้น ทั้งเจ้าและข้าต่างรับเอาปฏิบัติการนี้ที่เดิมพันมาด้วยชีวิต เช่นเดียวกัน ท่านลอร์ดยังมอบให้เจ้าเป็นผู้ออกคำสั่ง หากเจ้ากล่าว พวกเราย่อมติดตาม”

“ขอบคุณครับ”

ด้วยเหตุนั้น อาร์คจึงออกไปนอกประตูปราสาทร่วมกับพวกองครักษ์

หลังมุ่งหน้าออกมาจากประตูใหญ่ได้กว่าสิบนาที พวกเขาก็มาถึงทางแยก นี่คือเส้นทางที่ปืนใหญ่มอดไหม้ทั้งสองกระบอกจะเดินทางมา อลันและกองกำลังได้เลือกไปทางซ้าย ดังนั้นแล้วอาร์คจึงไปทางขวา

หลังเลือกเส้นทางจากทางแยกออกมาแล้ว พวกมอนสเตอร์จึงเริ่มเข้าโจมตีอย่างเต็มกำลัง

“คึคึคึ พวกมนุษย์ ถึงกับออกมาหาที่ตายถึงที่นี่!”

“ตาย!”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด