Chapter 81: จุดอ่อนของเนียน
Chapter 81: จุดอ่อนของเนียน
“ถ้าการโจมตีทางเวทย์นั้นมันไม่เวิร์คละก็ ถ้างั้นก็ใช้การโจมตีกายภาพแทนละกัน!”หวังหยู่ตะโกน นี่คือบางสิ่งที่หมิงตู่สอนเขามาก่อน
“มันก็ไม่โอเคด้วยเช่นกัน! พลังโจมตีกายภาพก็ไร้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน! แม้กระทั่ง [ระเบิดสายฟ้า] ก็ทำความเสียหายได้เพียงแค่ 20!”ความทระนงตัวบ่นออกมา
“เหี้...! นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม?”เมื่อมองไปที่บอส หวังหยู่ก็สังเกตได้ว่าเกล็ดของมันนั้นเป็นสีดำมะเมี่ยม ซึ่งทำให้มันดูทั้งทนทานและหนากว่าปกติ
“ถ้างั้นก็พยายามโจมตีส่วนที่ปราศจากเกล็ดแทน!”หวังหยู่ตอบกลับ
ดาบน้ำแข็งก็ส่ายหัวและพูด “พวกเราโจมตีไม่ถึง!”
มันมีเพียงสองส่วนของเนียนที่ไม่มีเกล็ด ซึ่งนั่นก็คือหัวกะโหลกของมันและด้านใต้หาง
สำหรับโจรนั้น ดาบน้ำแข็งก็ไม่พยายามที่จะต่อสู้ซึ่งๆหน้า อย่างไรก็ตาม การปักกริชที่หลักของเขาเข้าไปยังก้นของมอนสเตอร์นั้นจะทิ้งเงาไว้ในหัวใจของเขา
“เฒ่าหลี่ก็ไม่สามารถที่จะโจมตีถึงมันได้ด้วยงั้นเหรอ?”
“ฉันลองมันด้วยเวทย์แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผลเหี้...อะไรเลย…”หมิงตู่บ่น
“ถ้างั้นให้ผมลอง!” เมื่อหวังหยู่ตะโกนออกมา เขาก็พุ่งไปด้านหน้าและกระโดดขึ้นไปกลางอากาศและกระแทกไปที่หัวของมันด้วย [เทพเจ้าสายฟ้าเหยียบย่ำ”
“พู้ฟฟ”
เมื่อกระแทกโดนมัน หวังหยู่ก็รู้สึกว่าเขาพึ่งเตะไปที่หินและความแข็งแกร่งของเขานั้นก็หายไป
-97
“โฮกกกกก!!!”เมื่อหัวของมันโดนเหยียบโดยหวังหยู่ เนียนก็คำรามอย่างเกรี้ยวโกรธและก็ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างมึนงง
โดยไม่มีการหยุด เนียนก็กระโดดข้ามหัวรัศมีฤดูใบไม้ผลิและขุนนางครอทและชนเข้ากับหวังหยู่ และการโจมตีเพียงหนึ่งครั้งของมันก็กระตุ้นให้ [จิตวิญญาณผู้พิทักษ์] นั้นทำงาน
เมื่อมีประสบการณ์มากแล้ว รัศมีฤดูใบไม้ผลิและขุนนางครอทนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าหวังหยู่นั้นดึงแอคโกรมาที่เขาจากการโจมตีเพียงหนึ่งครั้ง
[เสียงคำรามของสัตว์ป่า] นั้นทำให้มันงงเป็นเวลา3วินาที ในขณะที่จะความคงกระพันนั้นจะมีระยะเวลาสองวินาที เมื่อความคงกระพันนั้นหมดลง ความมึนงงก็หายไปด้วยเช่นกัน ในจุดนี้เองที่หวังหยู่สามารถขยับตัวได้ เขาก็กลิ้งตัวใต้ร่างของเนียนทันทีและก็ใช้ความมุ่งมั่นของผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้เหวี่ยงไปที่กรงเล็บของมัน
-72
ความเสียหายจากการโจมตีนี้ไม่ได้สูงแต่มันก็สามารถทำให้เนียนนั้นเซเป็นเวลาสั้นๆ
พร้อมกับเสียงคำรามอีกครั้งหนึ่ง เนียนก็ก้มหัวต่ำลงเพื่อที่จะกัดหวังหยู่ แต่มันก็พบกับพลองยาว(เปลี่ยนจากเสาเป็นพลองยาวนะครับ)ของหวังหยู่อีกครั้งหนึ่ง
-84
ผ่านไปสักพักหนึ่งเนียนก็ฟื้นตัว หวังหยู่ก็กลิ้งออกมาจากด้านล่างของมันเรียบร้อยแล้ว หวังหยู่นั้นก็แสดงถึงศิลปะการใช้พลองอีกครั้งหนึ่ง และกดดันเนียนด้วยภาพติดตานับไม่ถ้วน
ศิลปะการใช้พลองและการต่อสู้มือเปล่านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โรงเรียนของการสอนศิลปะการต่อสู้นั้นเน้นความแม่นยำและความละเอียด
พร้อมด้วยแขนทั้งสองข้างนั้นเป็นตำกำเนิดของความแข็งแกร่งการใช้ร่างตัวเองนั้นเป็นแกน เมื่อหลบหลีกและใช้พลองยาวนั้นโบกสะบัดไปมาและยับยั้งการเคลื่อนที่ของคู่ต่อสู้ นี่คือศิลปะการต่อสู้หลักของพลองยาว
ในนิยายกำลังภายใน โรงเรียนที่สอนศิลปะการต่อสู้พลองยาวนั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ศิลปะการต่อสู้พลองยาว ‘ฟาดหมา’ มันโฟกัสให้ล้มลง ขานั้นแยกกัน พันกัน แทง ดึง ยับยั้ง และหันเห แม้ว่าโรงเรียนฝึกศิลปะการต่อสู้นี้จะไม่ได้มีอยู่ในโลกความเป็นจริง แต่หลักของมันนั้นเป็นเรื่องจริง
เซตของศิลปะการต่อสู้โดยใช้พลองยาวที่หวังหยู่นั้นใช้อยู่นั้นรู้จักในชื่อของศิลปะการต่อสู้พลองยาวมังกรขด มันเป็นศิลปะการต่อสู้อันเก่าแก่ที่ถูกพัฒนามาโดยกองทัพเพื่อใช้ต่อสู้กับขบวนทหารม้าและมันก็สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
ถึงแม้ว่าเวอร์ชั่นที่หวังหยู่เรียนมานั้นจะเป็นเพียงเวอร์ชั่นที่ได้รับการปรับแต่งแล้วก็ออกสู่ที่สาธารณะ มันก็ยังเพียงพอในการจัดการกับมอนสเตอร์แบบนี้
หลังจากที่หวังหยู่นั้นดึงแอคโกรทั้งหมดจากเนียนไป แรงกดดันของขุนนางครอทและรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็แทบจะยกออกไปทั้งหมด เมื่อมองไปที่หวังหยู่ต่อสู้นั้นทำให้คนอื่นนั้นยืนแข็งค้าง หวังหยู่ในปัจจุบันนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากพระเจ้าในสายตาของพวกเขา แม้ว่าหวังหยู่สามารถที่จะโซโลบอสตัวนี้ได้ ก็ไม่มีใครที่จะประหลาดใจ
“มันมีบางอย่างผิดปกติกับบอส!”
เมื่อเห็นเนียนหายใจเข้าลึกๆ หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่า [เสียงคำรามของราชาสัตว์ป่า] นั้นคูลดาวน์เสร็จลง และเขาก็รีบถอยหนีระยะการโจมตีของมันในทันที
“นายหมายถึงอะไร? มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”
ในขณะที่เขานั้นกำลังล่าถอย คนที่เหลือก็ถามหวังหยู่
“การโจมตีของผมนั้นทำความเสียหายจริงแต่มันก็ยังไม่รุนแรงเลย! มันไม่ประหลาดงั้นเหรอ?”หวังหยู่พูดอย่างจริงจัง
“ฉันรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่ต้องจัดการกับ [การปกป้องแห่งพระอาทิตย์ตกดิน]” ไร้ความกลัวตอบกลับหลังจากคิดไปครู่หนึ่ง
บอสตัวนี้นั้นใช้เพียงแค่ [ท่าพุ่งแห่งพระอาทิตย์ตกดิน] และ [เสียงคำรามแห่งราชาสัตว์ป่า] สกิลที่ยังไม่ได้ใช้ก็เหลือเพียงแค่ [การปกป้องแห่งพระอาทิตย์ตกดิน] ไม่ว่าจะชื่อหรือรูปร่างของมันแล้ว สกิลนี้เหมือนกับเป็นสกิลติดตัว
มันมีบางครั้งที่สกิลติดตัวนั้นมีปัญหามากกว่าสกิลที่ใช้งาน
“ดังนั้นพวกเราจะทำไงดี? หรือว่าพวกเราจะสู้กับมันยันพรุ่งนี้หรืออะไร?”หวังหยู่จ้องไปที่พลังชีวิตของเนียนและตระหนักได้ว่าเขานั้นพึ่งทำความเสียหายไปเพียงพันหน่วยและเนียนนั้นก็เริ่มฟื้นฟูพลังชีวิตไปเล็กน้อยแล้ว
การใช้ศิลปะการต่อสู้มาสู้ในเกมนั้นมันยังคงเหนื่อยสำหรับหวังหยู่ แม้ว่ามันจะเป็นเกมก็ตาย การต่อสู้กับมันทั้งคืนก็ทำให้เขายังคงเหนื่อยจนแทบตาย
“มันไม่มีบอสที่ไม่สามารถชนะได้หรอก! กระทิงเหล็กล่อมันไว้ให้ดีที่สุด! ทุกคนก็ใช้ทุกอย่างที่มีซะ! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบอสมันจะไม่มีจุดอ่อน!”ไร้ความกลัวกัดฟัน
เขาก็พยักหน้ากับคำพูดของไร้ความกลัว และทุกคนก็เริ่มปลดปล่อยพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุดใส่บอส
“พิ้ว!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นและทำให้เนียนโซเซ
-624
“อ๊า?”
พระเจ้า! สัตว์ประหลาดตัวไหนกันที่ทำความเสียหายได้มากขนาดนั้น? และได้ยังไง?
พวกเขาก็หันกลับไปและพวกเขาก็เห็นรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็ตัวแข็งทื่อพร้อมกับปืนคาบศิลาในมือของเขา เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขานั้นก็เป็นเรื่องที่เด่นชัดว่าเขาก็ไม่เชื่อว่าเขานั้นเป็นคนที่ทำความเสียหายใส่เนียน
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นเป็นหมอผี ดังนั้นความเสียหายธรรมดาของเขาไม่ได้ทำความเสียหายมากซักเท่าไหร่ หลังจากที่เขาร่ายเวทย์ของเขาทั้งหมดแล้ว เขาก็ยิงปืนคาบศิลาเล่นๆเป็นการฆ่าเวลา
ความเสียหายจากปืนรองนั้นขึ้นอยู่กับพลังโจมตีของเจ้าตัวและมันก็นับไปถึงอาวุธหลัก แล้วกระสุนเพียงนัดเดียวจะแข็งแกร่งกว่าเวทย์มนได้ยังไง?
ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าปืนคาบศิลานั้นจะสามารถทำความเสียหายได้มากขนาดนั้น
“เหี้...เอ้ย! เมื่อไหร่กันที่พี่ชายฤดูใบไม้ผลินั้นแข็งแกร่งขนาดนี้?”ทุกคนอ้าปากค้าง
หลังจากที่กลับมาได้สติ รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็คิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็ตอบกลับ “ฉันคิดว่ามันมีบางอย่างเกี่ยวกับปืนคาบศิลา…เนียนนั้นอ่อนแอต่อดินปืน!”
“นั่นมันถูกแล้ว! ตามตำนานอันลึกลับของจีน เนียนนั้นหวาดกลัวดินปืน…..พวกเขานั้นทำให้มันมีจุดอ่อนแบบนั้นจริงๆแล้ว…”
“มันไม่มีน่าผิด! ยังไงก็ตาม พี่ไปเอาอาวุธนั่นมาจากไหนกัน พี่ฤดูใบไม้ผลิ?”ไร้ความกลัวพยักหน้า
อาวุธรองนั้นหาได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อในเวลานี้ของเกม ในขณะที่คนอื่นนั้นยังคงใช้มีดขว้าง แต่รัศมีฤดูใบไม้ผลิใช้ปืน!
“กระทิงเหล็กให้ฉันมา”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับ
“อึ้ก! ลุงกระทิงยังมีอีกไหม? สามารถให้ฉันกระบอกหนึ่งได้ไหม?”หมิงตู่ถามอย่างหน้าด้าน
“ชู่!”พร้อมกับโบกพลองยาวของเขา หวังหยู่ก็ฟาดหมิงตู่ออกให้พ้นทางการโจมตีของเนียน
หมิงตู่นั้นแทบจะฉี่รดกางเกงในหลังจากที่ถูกช่วยไว้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวจากกรงเล็บอันทรงพลังของเนียนนั้นก็ทำให้นักเวทย์ที่อ่อนแอแบบเขานั้นกลายเป็นแสงสีขาวได้แล้ว
“เกิดอะไรขึ้นกันกระทิงเหล็ก? นายไม่สามารถที่จะรับมือมันได้อีกต่อไปแล้วงั้นเหรอ?”ที่เหลืออ้าปากค้าง แม้ว้าพวกเขาจะไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ก็ตาม หวังหยู่นั้นก็หมดเส้นทางในการช่วยหมิงตู่และก็พยายามที่จะทำให้การโจมตีของมันนั้นคงที่
ในขณะที่กำลังล่อเนียนไว้ หวังหยู่ก็ตะโกนอย่างเร่งรีบ “เหี้...! เพียงแค่กระสุนนัดเดียวก็ทำให้ไอ้บัดซบนี่คลั่งไปแล้ว!”
“นั่นมันจริง! มันอ่อนแอต่อดินปืน!”ไร้ความกลัวตะโกนอย่างตื่นเต้น
“อ่อนแอตู..มึงอะดิ! รีบช่วยกูเร็วเข้า!”หวังหยู่ตะโกนอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่มันโดนยิงโดยกระสุนของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ ความเร็วและการโจมตีของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก บอสพิเศษตัวนี้นั้นรับมือยากมากกว่าบอสธรรมดาทั่วไปและค่าสถานะของมันก็เพิ่มขึ้นสูงอีกด้วย! แต่ไอ้กลุ่มบัดซบที่ไม่มีความรู้สึกขอบคุณพวกนี้ยังคงยืนและพูดคุยกันเล่นอยู่
เมื่อฟังเสียงตะโกนของเขา รัศมีฤดูใบไม้ผลิก็เรียกผีออกมาในขณะที่ขุนนางครอทนั้นเปลี่ยนอุปกรณ์ของเขาและพุ่งไปด้านหน้าอีกครั้งหนึ่ง
ไร้ความกลัวและหลี่ซัวก็รีบตามพร้อมกับเวทย์ฮีลอีกหลากหลายเวทย์
ร่างของหวังหยู่นั้นก็สว่างวาบขึ้น เมื่อเขากระโดดไปแถวหลังและหยิบเอาปืนคาบศิลาออกมาสามกระบอกและแบ่งให้โบซอน ความทระนงตัวและดาบน้ำแข็ง
“ฆ่ามันซะ!!!”
เมื่อเขาตะโกนออกมา หวังหยู่ก็หยิบวัตถุบางอย่างออกมาจากประเป๋าของเขา