ตอนที่แล้วTWO Chapter 242 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 244 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 3

TWO Chapter 243 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 2


TWO Chapter 243 การกำราบด่านเจิ้นหนาน ตอนที่ 2

มู่กุ้ยหยิงพยักหน้า “ข้าเองก็คิดว่ามันเป็นเพียงความคิดโง่ๆ”

เมื่อไม่มีที่ปรึกษาที่ดี สิ่งที่พวกโจรคิดจะทำ ก็ไม่มีค่าอะไรมากนัก

ในการสู้รบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เมืองมู่หลานจะต้องกำราบด่านเจิ้นหนาน แต่พวกเขายังจะต้องช่วยหลี่อ้านไป๋และลูกสาวของเขา หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจที่จะยอมจำนน มันก็หมายความว่า พวกเขาได้เป็นพวกเดียวกันแล้ว ดังนั้น มู่กุ้ยหยิงจะต้องช่วยพวกเขาให้ได้

“ท่านขุนพล ท่านมีแผนอย่างไร?” โอหยางโชวถาม

มู่กุ้ยหยิงกล่าวอย่างมั่นใจและเฉียบขาดว่า “ข้าไม่มีแผน พวกเราเพียงแต่จะโจมตีเข้าไปตรงๆเท่านั้น”

โอหยางโชวตกใจ เขามองไปที่มู่กุ้ยหยิงด้วยความหวาดหวั่นและประหลาดใจ ตั้งแต่ที่พวกเขามีความบาดหมางกับศัตรู พวกเขาก็จะทำลายศัตรูให้สิ้นซาก เพราะมันเป็นเรื่องชอบธรรมที่จะทำเช่นนั้น

“ดี!” โอหยางโชวลุกขึ้นยืน “เราจะยึดตามสิ่งที่ท่านขุนพลกล่าว ด่านเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมานี้ มันนับเป็นโอกาสที่ดีของเราแล้ว ไปกันเถอะ!”

“ขอรับ!” เหล่านายทหารกล่าวตอบรับเสียงดัง

กองกำลังขนาดใหญ่ ได้เดินออกมาจากเมืองมู่หลาน และมุ่งหน้าตรงไปที่ด่านเจิ้นหนาน

เวลา 13.00 น. โดยไม่หลับซ่อนใดๆ พวกเขาได้มาถึงด้านหน้าของด่านเจิ้นหนาน

หุบเขามีความกว้างเพียง 50 เมตร ดังนั้น พวกเขาจึงกระจายกองกำลังของพวกเขาได้ไม่มากนัก

ที่ด้านหน้าของขบวนทัพ บันไดกำแพงทั้ง 10 ได้ถูกประกอบขึ้นอีกครั้ง ส่วนที่ด้านหลัง เครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร ทั้ง 5 เครื่อง ก็กำลังตั้งค่าศูนย์ยิง

ที่ด้านล่างของบันไดกำแพง เป็นฐานไม้ที่มีล้ออยู่ 6 ล้อม ตัวบันไดหลักถูกยึดไว้กับฐาน ที่ด้านข้างมีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่ทำมาจากหนัง ทหารสามารถป้องกันการโจมตีจากลูกศรได้ในขณะที่พวกเขาเข็นบันไดกำแพง

ตัวบันไดถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มันมีโครงสร้างบานพับตรงกลาง ใช้เชื่อมต่อกับบันไดทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน

เมื่อถึงเวลาปิดล้อม ตราบเท่าที่พวกเขาเข็นบันไดหลักไปชิดกำแพง และใช้ประโยชน์จากบันไดรอง พวกเขาจะสามารถไปขึ้นไปด้านบนกำแพงได้อย่างง่ายดาย มันช่วยลดความอันตรายและความยากลำบากลงไปได้มาก

นอกจากนี้ เมื่อบันไดกำแพงได้ถูกวางไว้ที่กำแพงแล้ว ทหารยังสามารถป้องกันตัวจากการโจมตีของศัตรูได้ ในขณะที่พวกเขากำลังปีนขึ้นไป

ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของกองกำลัง เป็นกองพันทหารองครักษ์ที่ 1 ที่โอหยางโชวนำมา หน้าที่ของพวกเขาก็คือ การใช้บันไดลูกศรที่ถูกยิงออกมาจากเครื่องยิงหน้าไม้ 3 คันศร พร้อมกับทหารโล่กระบี่ทั้ง 2 กองพัน ของเมืองมู่หลาน บุกขึ้นไปกำราบศัตรูบนกำแพง

ด้านหลังกองพันทหารโล่กระบี่ เป็นกองพันทหารธนู 2 กองพัน ที่รับผิดชอบในการยิงฝนลูกศร ที่ด้านหลังพวกเขาเป็นกองพันทหารราบเกราะหนัก พวกเขามีหน้าที่ในการใช้รถไม้กระทุ้งขนาดใหญ่ ไปกระทุ้งประตู เพื่อทะลวงเข้าไป

รถไม้กระทุ้งมีล้ออยู่ที่ด้านล่าง เพื่อช่วยในการผลักดันไปข้างหน้าได้สะดวกยิ่งขึ้น รถไม้กระทุ้งถูกคลุมด้วยชั้นโลหะถึง 2 ชั้น และที่ปลายไม้ก็มีเดือยแหลม เพื่อช่วยเพิ่งพลังการทำลาย

ที่ด้านท้ายสุดของกองกำลัง คือ กองพันทหารม้าจากกรมทหารป้องกันเมืองมู่หลาน พวกเขาทำหน้าที่เป็นเพียงกองทหารสำรอง

กองกำลังขนาดใหญ่ของพวกเขาไม่ได้กังวลกับพวกโจรภูเขาที่ด้านเจิ้นหนาน พวกเขาค่อยๆเตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาที่ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจได้รับรายงาน เขาก็นำกลุ่มคนของเขาขึ้นไปบนกำแพง หลังจากที่เขาเห็นกองกำลังขนาดใหญ่ เขาก็ถามออกมาว่า “ใครสามารถบอกข้าได้บ้าง ว่ากองกำลังขนาดใหญ่เช่นนี้มาจากที่ใด?”

พวกโจรที่อยู่รอบข้างเขามองกันไปมา แต่กลับไม่มีใครกล่าวอะไรออกมา

“ท่านผู้นำ พวก...พวก...พวกเขาจะเกี่ยวของกับอดีตผู้นำของฐานที่นั่นหรือไม่?” โจรคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก แม้ว่าหลี่อ้านไป๋จะถูกขังอยู่ เขาก็ยังคงมีศักดิ์ศรีสูงในฐานที่มั่น และยังคงได้รับความเคารพว่าเป็นผู้นำของฐานที่มั่น

ผู้นำโจรภูเขาตัวแข็ง และกล่าวตำหนิออกมาว่า “มีโอกาสถึง 80% ที่มันจะเกี่ยวข้องกับตาแก่นั่น มันจะตายอยู่แล้ว แต่ก็ยังคิดที่จะต่อต้านข้าหรือ ข้าจะไปฆ่ามันในตอนนี้เลย”

โจรภูเขาที่อยู่รอบข้างรีบหยุดเขา และเกลี้ยกล่อมเขาในทันที “ท่านผู้นำ สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการหยุดความคืบหน้าของพวกเขา สำหรับตาแก่นั่น เราสามารถจัดการเขาได้ทุกเวลาอยู่แล้ว”

สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจเช่นเขา แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าการฆ่าหลี่อ้านไป๋ ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยให้สถานการ์ณ์ดีขึ้น แต่มันยังจะทำให้คนที่ชื่นชมเขา ลุกขึ้นมาต่อต้านอีกด้วย

เหตุผลที่ทำให้เขามีอารมณ์ เพราะมันเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ และเขายังไม่ทันจะได้เพลิดเพลินกับมันนานเท่าไหร่เลย ก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น มันทำให้เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็เริ่มออกคำสั่ง เพื่อจัดเตรียมการป้องกัน เขาสั่งให้กลุ่มโจรภูเขาขึ้นไปบนกำแพง เพื่อป้องกันการบุกโจมตีของศัตรู

ด่านเจิ้นหนานเป็นด่านโบราณ ไม่เพียงแต่มันตะมีกำแพงที่สูงใหญ่ แต่ทรัพยากรสำหรับการป้องกันก็มีอยู่อย่างเพียงพอ พวกเขามีไม้กลิ้งและหินยักษ์จำนวนมาก ซึ่งมันทำให้พวกโจรภูเขามีความเชื่อมั่นอย่างมาก

หลังจากที่พวกโจรภูเขาออกไปเตรียมตัว ผู้นำโจรภูเขาก็เรียกคนสนิทของเขามาพบ เขาสั่งว่า “เตาปา รีบลงไปและรวบรวมพี่น้องที่ไว้ใจได้ 20 คน เตรียมม้าและเสบียงไว้ให้พร้อม แล้วก็อย่าลืมนำของมีค่าในห้องเก็บของไปด้วย จากนั้น ก็ไปรอข้าที่ประตูหลัง รอคำสั่งจากข้าอยู่ที่นั่น หากมีอะไรผิดพลาด เราจะออไปในทันที”

เตาปาตกใจ แล้วถามว่า “พี่ใหญ่ ท่านจะบอกข้าว่า เราจะไม่สามารถปกป้องด่านไว้ได้หรือ?”

ผู้นำโจรภูเขามองเขา และกล่าวด้วยอารมณ์ว่า “เจ้าจะไปรู้อะไร! ข้าได้ดูและเห็นว่า พวกเขามีทั้งบันไดกำแพงและเครื่องยิงหน้าไม้ พวกเขาได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี พวกเราจะปกป้องมันได้หรือไม่นั้น ยากที่จะบอกได้ ดังนั้น ตอนนี้ พวกเราจึงต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการหลบหนีไว้ก่อน”

“ข้าเข้าใจแล้วพี่ใหญ่!”

“รีบไปเร็วเข้า!” ผู้นำโจรภูเขาโบกมือให้เขาออกไป

หลังจากเตาปาออกไป ผู้นำโจรภูเขาก็กลับคืนสู่ความสงบ และยืนอย่างมั่นคงอยู่บนกำแพง

ในขณะที่เขาวางแผนสำรองของพวกเขาไว้ เสียงความวุ่นวายจากด้านนอกก็ดังไปถึงอาคารที่หลี่อ้านไป๋และลูกสาวของเขาถูกคุมขังไว้

โจรภูเขาหนุ่มคนหนึ่งกำลังถือกล่องอาหารและรีบวิ่งมาที่อาคารนั้น

โจรภูเขา 2 คน ที่ผู้นำโจรภูเขาไว้ใจ ได้เฝ้าอยู่ที่ด้านหน้าของอาคาร เมื่อพวกเขาเห็นโจรภูเขาหนุ่มวิ่งเขามา พวกเขาจึงเตือนเขาว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่? เจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้าม?”

โจรภูเขาหนุ่มมองไปรอบๆ และเมื่อเขาเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เขาก็เดินเข้าไปใกล้ๆกับพวกยาม แล้วกระซิบว่า “พี่ชาย ท่านได้ยินมาบ้างแล้วหรือไม่? อดีตผู้นำฐานที่มั่นได้ติดต่อกับกองกำลังอื่นๆมากบุกโจมตีด่าน”

ยามที่ใจร้อนถามขึ้นว่า “ใครจะไปรู้? พูดความจริงมา เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

โจรภูเขาหนุ่มไม่ได้รังเกียจ และกล่าวต่อว่า “เฮ้ พี่ชาย ไม่รู้หรือว่าท่านผู้นำโกรธมาก และเขาต้องการที่จะฆ่าอดีตผู้นำด้วย แต่น่าเสียดาย ที่พี่น้องบางคนได้หยุดเขาไว้ เขาไม่ต้องการจะมีปัญหากับคนอื่นๆ เขาจึงทำเป็นปล่อยอดีตผู้นำไปก่อน แต่ในความเป็นจริง เขายังคงโกรธอยู่ ดังนั้น เขาจึงแอบใช้ข้ามาที่นี่ เพื่อส่งพวกเขาไปตามทางของพวกเขา”

โจรภูเขาหนุ่มชี้ไปที่กล่องอาหารที่เขาถือ และไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขาทำสัญญาณที่แสดงถึงเจตนาฆ่า

ยามประหลาดใจ ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อผู้นำของพวกเขา นี่ย่อมเป็นสิ่งที่เขาจะต้องทำอย่างแน่นอน พวกเขาเชื่อทันทีและพยักหน้า “เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะเป็นคนลงมือเอง”

“ไม่ ท่านจะทำเช่นนั้นไม่ได้” โจรภูเขาหนุ่มรีบส่ายหัว และกล่าวต่อว่า “คิดเกี่ยวกับมันดูซิ นี่เป็นความลับ จะให้คนอื่นๆรู้เห็นได้อย่างไร จะดีกว่าที่พวกท่านทั้ง 2 จะคอยปกป้องด้านนอก เพื่อไม่ให้คนอื่นๆสงสัย เพราะหากมันถูกเปิดเผย และท่านผู้ทำโทษเรา เราทุกคนได้มีปัญหาใหญ่แน่”

เมื่อคิดถึงว่าผู้นำของพวกเขาจะจัดการพวกเขาเช่นไร ยามทั้ง 2 ก็หนาวไปถึงข้างใน และพวกเขากล่าวอย่างขอบคุณว่า “น้องชายช่างรอบคอบนัก รับไปจัดการเถอะ!”

ภายใต้สายตาของคุณของพวกยาม โจรภูเขาหนุ่มได้เดินเข้าไปในอาคาร

อาคารนี้เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของหลี่เฟยเซว่ และตอนนี้ มันเป็นสถานที่ที่พ่อและลูกสาวถูกคุมขังไว้ หลี่อ้านไป๋ที่เจ็บป่วย นอนอยู่บนเตียง

“ใคร?” การมาถึงของโจรภูเขาหนุ่มถูกพบเห็นโดยหลี่เฟยเซว่

ปฏิกิริยาของเธอรวดเร็วมาก เธอรีบคว้ากระบี่ที่อยู่ด้านข้าง และพุ่งออกไป

เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้อง และเห็นสถานการณ์ดังกล่าว เขาก็รีบยิ้มออกมา แล้วกล่าวว่า “แม่นางอย่าได้กังวลเลย ข้าเป็นสายลับจากเมืองมู่หลาน และข้าก็มีข่าวสำคัญจะมาแจ้งให้พวกท่านทราบ”

หลี่เฟยเซว่ประหลาดใจ พ่อของเธอได้บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจึงรู้ว่ามันสายลับของเมืองมู่หลานอยู่ในด่านเจิ้นหนาน เพียงแค่เธอไม่รู้ว่าคนที่อยู่ด้านหน้าของเธอนี้ จะเป็นสายลับคนนั้นหรือไม่

เมื่อโจรภูเขาหนุ่มเห็นความสงสัยบนใบหน้าของเธอ เขาก็หยิบเหรียญออกมาและส่งให้เธอ “นั่นคือเหรียญประจำตัวของข้า เจ้าสามารถตรวจสอบมันได้”

เมื่อได้รับเหรียญมา มันดูเหมือนจะเป็นเพียงเหรียญธรรมดาทั่วไป แต่ในมุมหนึ่งของเหรียญ มีเส้นโค้งอยู่ 3 เส้น

หลี่เฟยเซว่สงบลง และถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรู้แล้วว่า เขาเป็นสายลับจากเมืองมู่หลาน

“มีการเปลี่ยนแปลงที่ด้านนอกหรือไม่?” หลี่เฟยเซว่คิดถึงเหตุผลที่เขามาพบพวกเขา

เขาไม่กล้าเสียเวลา และกล่าวออกไปตรงๆว่า “ถูกต้อง ท่านลอร์ดของข้าและท่านลอร์ดแห่งเหลียนโจว ได้นำกองกำลังของพวกเขา เข้าโจมตีด่านแล้ว”

หลี่เฟยเซว่รู้สึกยินดี และพึมพำออกมาว่า “ช่างดีนัก พ่อของข้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป”

โจรภูเขาหนุ่มส่ายหัว เขาไม่ได้ไร้เดียงสาเช่นเธอ เขากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “แม่นางคงจะยังไม่ทราบว่า ท่านอดีตผู้นำฐานที่มั่นเพิ่งจะเอาชีวิตรอดมาได้ ผู้นำต้องการจะฆ่าเขา แต่คนของเขาได้หยุดเขาเอาไว้ก่อน ข้าเกรงว่า หากสถานการณ์เกินจะรับมือ เขาคงจะใช้พวกท่านทั้ง 2 เป็นตัวประกันแน่”

“แล้วเราควรจะทำเช่นไร?” หลี่เฟยเซว่เป็นเพียงหญิงสาวที่ไร้เดียงสา เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไร

“แค่ก แค่ก” ในขณะนั้นเอง หลี่อ้านไป๋ก็ตื่นขึ้นมา

“ท่านพ่อ ท่านตื่นแล้ว!” หลี่เฟยเซว่รู้สึกยินดี และรีบกระโจนไปที่เตียง เธอเกือบจะร้องไห้ออกมา

อดีตผู้นำเปิดตาที่ขุ่นมัวของเขา และมองไปที่ลูกสาวด้วยความสงสาร เขาต้องการจะเอื้อมมือออกไป แต่เขาไม่สามารถทำได้ เขาพยายามมองไปที่โจรภูเขาหนุ่ม และพยายามที่จะลุกขึ้น “ข้าได้ยินที่เจ้ากล่าวแล้ว ข้ารู้สึกอับอายนักที่ข้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำสัญญาของข้าได้ ลอร์ดของเจ้าช่างเป็นคนที่ชอบธรรมยิ่งนัก เขาถึงกับส่งคนมาช่วยลูกสาวและตัวข้า ข้าขอบคุณเขาจริงๆ”

“คำกล่าวของท่านจริงจังนัก สำหรับวิธีหลบหนี ท่านมีความคิดดีๆหรือไม่?” โจรภูเขาหนุ่มรู้สึกกังวลมาก เขากังวลว่า ผู้นำจะใช้พวกเขาเป็นตัวประกัน ในฐานะสายลับ เขาจึงต้องเสี่ยงมาพบกับพวกเขา เพื่อพยายามแก้ปัญหานี้

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด