ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (3) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 4 : อัศวินศักดิ์สิทธิ์ อลัน (1) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (4) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

ARK ลงทุกวัน เวลา 10.50-11.00 น.

วันจันทร์-ศุกร์ : ลงวันละ 1 ตอน

วันเสาร์-อาทิตย์ : ลงวันละ 1 ตอนขึ้นไป

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (4)

จัสติสแมนและโรโค่พบกันในหมู่บ้านฮารัน หลังจากที่จัสติสแมนช่วยเหลือโรโค่เอาไว้หลายครั้ง พวกเขาก็เริ่มที่จะออกไปไหนมาไหนด้วยกันยามที่ล็อคอินเข้าเกมมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรโค่จึงสามารถเลเวลเพิ่มขึ้นเป็น 25 ได้ ทั้งที่ไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้

จากนั้น พวกเขาก็ได้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างรู้จักอาร์ค และด้วยสายสัมพันธ์นี้ พวกเขาจึงจบลงด้วยการมายังปราสาทแจ๊คสันด้วยกัน ไม่ช้าหลังพวกเขามาถึง ภารกิจอีเวนท์ก็เริ่มต้นขึ้น จนพวกเขาได้เข้าร่วมกองกำลังสำรองอย่างไม่รู้เรื่องราวอะไร

“งั้นคุณเปลี่ยนเป็นอาชีพอะไรกันครับ?”

“ฉันยังไม่ได้เลือกเลยน่ะ ก็ลองมองหาอยู่นะ แต่ก็ไม่พบอะไรที่จะเข้ากันได้เลย”

“นี่คุณไม่ได้เปลี่ยนอาชีพเลยทั้งที่เลเวล 40 แล้วเหรอครับ?”

“ไม่มีอาชีพก็ไม่เห็นเป็นไรนี่? อีกทั้ง ที่ปราสาทแห่งนี้ยังเกิดเรื่องขึ้นอีก ถึงอยากก็เปลี่ยนไม่ได้อยู่ดี” จัสติสแมนตอบกลับด้วยสีหน้าไม่ค่อยใส่ใจมากนัก

อาร์คจ้องมองทั้งจัสติสแมนและโรโค่ เขาอยากที่จะช่วยอะไรทั้งจัสติสแมนและโรโค่บ้าง เพราะทั้งสองยังเป็นมือใหม่ในนิวเวิลด์ เช่นกัน หนึ่งในนั้นยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเขาเสมอมา อีกคนก็ยังเป็นคนที่เขามองเป็นน้องสาวคนหนึ่ง

พวกเขาเป็นคนที่เขาคิดอยากช่วยจากใจจริง

กระทั่งว่ามีอดีตนักโทษอยู่กับพวกเขาด้วย เลเวลของพวกเขาก็ยังคงน้อยกว่า 20 อีกทั้ง ตอนที่ภารกิจอีเวนท์เริ่มต้น มีแปดคนได้ตายไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่หมายเลข 1401 กับ 1405 กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น

‘ถ้าเราไปร่วมกับจัสติสแมนและโรโค่ พวกเราคงได้รับการปฏิบัติด้วยความเย็นชา... ถ้าแบบนั้น...’

หลังครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง อาร์คจึงตัดสินใจพาพวกเขาไปหากองทหารองครักษ์ มันไม่ง่ายเลย แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เพราะค่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกองทหารองครักษ์รวมถึงท่านลอร์ดค่อนข้างดีทีเดียว

“คุณจีวอนครับ อยากเพิ่มแต้มสะสมร่วมกับโรโค่และผมไหมครับ? ในเมื่อนี่เป็นภารกิจอีเวนท์ ถ้าหากเพิ่มแต้มสะสมขึ้นมาได้ระหว่างที่เข้าร่วมกองกำลังสำรอง คุณก็จะได้รับรางวัลที่ดีเอาเรื่องเลยนะครับ”

“ก็ฟังดูไม่เลว อยู่ร่วมกับกองกำลังสำรองก็น่าเบื่อเหมือนกัน โรโค่เองก็เริ่มเล่นเกมเพราะเธอด้วย คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะพวกเรามีสมาชิกคนอื่นด้วย”

จัสติสแมนพึมพำขณะเกาหัว

“สมาชิกคนอื่น? หมายเลข 1401 กับ 1405 เหรอ?”

“ไม่ ที่จริงแล้ว จัสติสแมนในตอนนี้เป็นหัวหน้ากองกำลังสำรอง ผู้คนที่เขาช่วยเอาไว้ในฮารันต่างแนะนำเขาขึ้นไป ในตอนแรกก็มีกว่าสองร้อยคนที่รับภารกิจกองกำลังสำรอง แต่ส่วนใหญ่ก็ตายไปตั้งแต่วันแรก ที่รอดมาได้ก็มีราวยี่สิบคน ตอนนี้มีคนติดตามจัสติสแมนอยู่ห้าสิบคนได้”

“ห้าสิบ?” อาร์คตอบสนองด้วยสีหน้าประหลาดใจ มันน่าเหลือเชื่อเอาเรื่องที่จะมีคนมากมายติดตามจัสติสแมนได้ขนาดนี้ ทั้งที่เขาเพิ่งเล่นเกมมาได้แค่ยี่สิบวันเท่านั้นเอง แน่นอนว่าจัสติสแมนมีเสน่ห์ดึงดูดผู้เล่นเข้าหาตัว แต่นั่นมันในโลกความเป็นจริง แล้วในเกมที่เขาเป็นมือใหม่เช่นนี้กลับรวบรวมคนจำนวนมากมาได้ยังไง? เพราะไม่เคยเห็นวิถีการเล่นของจัสติสแมน อาร์คเลยจินตนาการภาพไม่ออก

‘แต่กองกำลังสำรองยี่สิบคนนี่มัน... ออกจะยากไปบ้าง แต่เราคงต้องลองถามดูแหละนะ’

เขาไม่ชอบการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น แต่ผู้คนเหล่านี้ต่างติดตามจัสติสแมนมา ถ้าหากเป็นใครอื่น อาร์คคงคิดปฏิเสธไปแล้วแม้ว่าจะเสนอเงินให้เขาก็ตามที แต่นี่มันต่างออกไปเพราะผู้คนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับจัสติสแมนและโรโค่

ไม่ว่าจะในความเป็นจริงหรือในเกม พวกเขาต่างก็เป็นสองคนที่อาร์คไม่เคยคิดหาประโยชน์อะไรด้วยแม้สักนิด ยิ่งด้วยมีเพียงแค่สองคนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

* * *

 

“ท่านขอให้ข้ารวมกองกำลังสำรองกับกองทหารองครักษ์หรือ?” ด้วยคำขอร้องของอาร์ค ท่านลอร์ดถึงกับตอบรับด้วยสีหน้างงงัน “ย่อมได้ ที่จริงตอนนี้ก็ไม่มีหน้าที่อะไรให้กองกำลังสำรองไปทำมากนัก... แต่มันทำข้ารู้สึกผิดถ้าหากส่งกองกำลังสำรองไปอีกครั้งจนต้องเกิดผู้เสียสละอีก ที่จริงแล้ว ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้เยอะแค่ไหน”

“ผมขอรับผิดชอบพวกเขาเองครับ เช่นกัน พวกเขาย่อมต้องเป็นประโยชน์อย่างแน่นอนครับ”

“อืม...”

ขณะที่ท่านลอร์ดหนุ่มครุ่นคิดอยู่ ครอส ที่มีค่าความสัมพันธ์กับอาร์คสูงเอาการจึงช่วยเอ่ยสนับสนุน “อาร์คสมควรมีแผนการเป็นของตนเอง พอได้เห็นเขาเอ่ยปากร้องขอเช่นนี้แล้ว กระทั่งว่าพวกเขาไม่อาจช่วยการศึกได้มากนัก พวกเราก็ยังสามารถเชื่อใจฝากฝังด้านหลังของกองทหารองครักษ์เอาไว้กับพวกเขาได้ กองกำลังสำรองเหล่านี้ต่างก็เป็นผู้ขันอาสาออกมาช่วยปกป้องแจ๊คสัน มันจะไม่ผิดหรือหากจะให้พวกเขาเอาแต่หลบอยู่ด้านหลังเพราะพวกเขาอ่อนแอน่ะขอรับ?”

“ที่พูดนั่นก็จริง ดีล่ะ ข้าขอฝากเรื่องนี้ไว้กับท่าน แต่โปรดจดจำเอาไว้ ทั้งประชากรและผู้สัญจร ชีวิตของพวกเขาล้วนมีค่ายิ่ง นอกจากนี้ จงปกป้องพวกเขาและลดอัตราการสูญเสีย นี่คือหน้าที่ของพวกเรา ถ้าหากเห็นท่าอันตราย ต้องรีบนำพวกเขากลับเข้าปราสาทโดยทันที”

“ขอรับ”

ด้วยเหตุนั้น กองกำลังสำรองกว่ายี่สิบคนที่ไม่มีใครเห็นค่าจึงได้เข้าร่วมกับกองทหารองครักษ์แจ๊คสัน หนึ่งในคนที่สุขสันต์ที่สุดกับการตัดสินใจครั้งนี้ย่อมเป็นอดีตฝ่ายสืบสวนอย่างจัสติสแมน

“ในที่สุดพวกเราก็มีงานที่เหมาะสมทำเสียที นึกว่าต้องเอาแต่ทำภารกิจขนย้ายเสียแล้ว”

“อย่าผลักดันตัวเองจนเกินไปนะครับ แม้ว่าคุณจะเข้าร่วมแค่เล็กน้อย แต่แต้มสะสมก็จะเพิ่มขึ้นเหมือนกัน” อาร์คเป็นกังวลอย่างยิ่งถึงแรงปณิธานของจัสติสแมน

แต่จัสติสแมนเพียงแค่แค่นเสียง “ไม่ได้หรอก กระทั่งว่าฉันต้องตาย การตายลงในกองเพลิงย่อมเป็นสิ่งที่นายตำรวจแห่งเกาหลีใต้สมควรกระทำ”

หลังจากนั้น อาร์คจึงได้ตระหนักว่าความกลัวของตนมันไร้สาระสิ้นดี ‘อะ-อะไรกันนั่น?’

อาร์คคาดเดาว่าจัสติสแมนและกองกำลังของเขาสมควรมีเลเวลต่ำจนไม่น่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก พอคิดว่าพวกเขาไม่อาจสู้กับมอนสเตอร์หลายตัวได้ดังที่พวกองครักษ์กระทำ แต่ทักษะการประสานงานร่วมกันจัดการมอนสเตอร์ของพวกเขากลับเข้าขากันดีเสียยิ่งกว่ากองทหารองครักษ์เสียอีก

ผู้เล่นยี่สิบคนกำลังลากมอนสเตอร์ออกมา ปิดล้อมพวกมันเอาไว้ และร่วมแรงร่วมใจกันสังหารมันทิ้ง

จัสติสแมนที่เริ่มเล่นเกมหลังจากอาร์ค กระทั่งเขายังมีทักษะที่มีประสิทธิภาพช่วยเสริมคอมโบเข้าไป ต้องขอบคุณสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ผู้เล่นที่มีเลเวลเฉลี่ย 35 ถึงกับสามารถล่ามอนสเตอร์เลเวล 85 ได้ ความเป็นจริงที่พวกเขาสามารถรอดจากศึกมาได้จนกระทั่งได้เป็นกองกำลังสำรองนั้นไม่ได้อาศัยเพียงแต่โชคอย่างเดียว

‘พอมาคิดดูแล้ว...’

อาร์คจำได้ว่าจัสติสแมนไม่ใช่เพียงแค่พนักงานราชการทั่วไป เขาเป็นคนที่เคยไปถึงอเมริกาใต้เพื่อเข้าร่วมนำกองกำลังพิเศษในฐานะสารวัตรตำรวจ

กล่าวก็คือ การต่อสู้เป็นกองกำลังคือความถนัดทางอาชีพของเขา!

มีเพียงเท่านั้นหรือ? อาร์คที่มัวแต่สนใจแต่ในเกมถึงกับลืมเลือนความจริงไปเรื่องหนึ่ง ไม่สิ ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างก็น่าจะลืมเช่นเดียวกัน

ในความเป็นจริง กว่า 80% ของผู้ชายในประเทศเกาหลีใต้ต่างเคยได้รับการฝึกโดยกองทัพอาชีพมาแล้ว! กองทัพที่ฝึกชายกว่า 80% ของประเทศย่อมไม่ใช่อะไรที่ธรรมดา

ประสิทธิภาพของพวกเขาไม่อาจจินตนาการได้ถึงเลยทีเดียว

ผู้คนมักพูดกล่าวกันว่า ถ้าเข้าร่วมกองทัพไปก็มีแต่จะเน่าตายอยู่ในนั้น แต่พวกเขาพูดออกมาแบบนั้นเพราะไม่ทราบถึงศักยภาพการฝึกฝนของทางกองทัพ มันเคยมีเรื่องราวเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเมื่อนานมาแล้ว นักเรียนสัญชาติเกาหลีในญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงในท้องถิ่นอย่างพวกยากูซ่า พวกเขาจึงประกาศสงครามกันขึ้น ทว่า อีกฝ่ายเป็นถึงนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่ฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา เมื่อนักเรียนต่างชาติหาเรื่อง แน่นอนว่าพวกยากูซ่าเพียงแค่แค่นเสียงใส่

และก็เป็นดังคาด คราแรกเป็นนักเรียนต่างชาติที่โดนผลักดันกลับ แต่สิ่งที่เปลี่ยนสถานการณ์ไปก็คือ มันมีรวมตัวกันของเหล่านักเรียนต่างชาติที่เคยรับราชการทหารมาก่อน เมื่อห่วงโซ่เช่นนี้กระจายออกไปเรื่อย สถานการณ์จึงพลิกกลับ ถึงกับเกิดการผลักดันในรูปแบบคล้ายทางการทหารจนต้องออกภารกิจกวาดล้าง สุดท้ายเรื่องจึงจบลงที่ยากูซ่าเหล่านั้นต้องร้องขออภัย

ภาพฉากเบื้องหน้าของอาร์คในตอนนี้มันไม่ต่างอะไรไปจากสถานการณ์ในตอนนั้น พวกเขาต่างเลเวลกันเพียงแค่ 35 หากเพียงลำพังพวกเขาย่อมไม่มีเรี่ยวแรงกระทำอันใด แต่ถ้าหากพวกเขานำเอาเทคนิคออกมาใช้ภายใต้คำสั่งผู้บัญชาการ เหล่าผู้เล่นที่เคยผ่านการฝึกพื้นฐานทางทหารมาย่อมมีประสิทธิภาพในการร่วมมืออันน่าเหลือเชื่อ

การทำงานร่วมกันของเหล่าเกมเมอร์จากประเทศเกาหลีที่เกิดขึ้นในเกมออนไลน์ตอนนี้ เป็นเพราะพวกเขาเคยผ่านการฝึกทางทหารในยุคปี 1990 กันมาก่อน

‘เล่นเกมแบบนี้ก็ได้ด้วย!’

อาร์คที่คิดจะสอนจัสติสแมนถึงกับเก็บเกี่ยวความรู้นี้กลับไปแทน แต่ก็มีอีกคนหนึ่งที่แตกตื่นกับกลยุทธ์ของจัสติสแมน

“โห คนต่างถิ่นเหล่านี้ทำได้ไม่เลวเลย ใครกันในบรรดาพวกเขาที่เป็นผู้นำกองกำลังสำรองนี้น่ะ?”

เป็นผู้บัญชาการของเหล่าองครักษ์ ครอส นั่นเอง

จัสติสแมนนั้นไม่ได้อยากที่จะเป็นผู้นำกองกำลังสำรอง แต่เมื่อเขาได้รับความไว้ใจในภารกิจนี้ เขาจึงต้องทำมันแม้ว่าฟ้าจะพังทลายลงมาก็ตามที ในเมื่อเขาเป็นผู้นำกองกำลังสำรอง จึงเป็นเขาที่นำกลยุทธ์ต่าง ๆ ออกมาใช้งานจนครอสต้องอึ้งทึ่ง

“ไม่ต้องสงสัยเลย ชายคนนี้จะต้องเป็นนายพลจากต่างแดนเป็นแน่ สวรรค์โปรด พอมาคิดว่าคนที่เหนือล้ำเช่นนี้กลับโดนขังเอาไว้ในปราการ... ข้าพอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าถึงอยากให้เขานำกองกำลังสำรองเหล่านี้เข้าร่วมกับกองทหารองครักษ์”

“ครับ ใช่... เป็นเช่นนั้นครับ” อาร์คยิ้มด้วยสีหน้าแปลกประหลาดขณะพยายามปั้นสีหน้า

“ต้องขอบคุณเจ้า ในที่สุดข้าก็ได้เปิดหูเปิดตา ได้ตระหนักเสียทีว่ากลยุทธ์แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่!”

ครอสมุ่งไปหาจัสติสแมนพร้อมกล่าวเสียงให้กำลังใจ หลังจากนั้นเขาถึงกับขอให้จัสติสแมนสอนสั่งถึงกลยุทธ์เหล่านั้นตั้งแต่เริ่มแรก จัสติสแมนที่มักสนุกกับการได้ช่วยเหลือผู้อื่นจึงตกลงรับคำด้วยความยินดี

“ย่อมได้ แต่การฝึกของฉันโหดเอาเรื่องเลยนะ!”

“ข้าจะพยายาม!”

จัสติสแมนได้ออกคำสั่งต่อกองทหารองครักษ์โดยทันที ต้องขอบคุณเรื่องนี้ จึงสามารถทำให้เหล่าทหารสามารถสู้กับมอนสเตอร์ไปพลางและได้ฝึกฝนพิเศษไปพลาง

“อยู่คนเดียวเราไม่อาจนับเป็นอะไร มีแต่พวกเราอยู่ร่วมกันจึงจะอยู่รอด!”

“การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปลี่ยนเป็นการฝึกฝนแล้ว ไม่ว่าสถานการณ์จะโดนกดดันขนาดไหน อย่าเสียขบวน!”

“หย่อนยาน! เฮ้ย นายน่ะ! ถอยมาแล้ววิดพื้นหนึ่งร้อยครั้ง!”

เอ็นพีซีถูกลากออกมาระหว่างการต่อสู้กำลังดุเดือดเพื่อรับบทลงโทษ นี่ไม่ใช่สถานการณ์น่าตลกเลยสักนิด

“เฮ้ยนายน่ะ ทำไม่ได้หรือไงกัน?”

แน่นอน ว่าคนที่ลากอีกฝ่ายออกมาลงโทษคือหมายเลข 1401 กับ 1405 จะอย่างไรก็ตาม องครักษ์เหล่านี้ที่ยังขาดซึ่งทักษะก็ได้จัสติสแมนช่วยทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อัตราการล่ามอนสเตอร์ของพวกเขาก็เริ่มรวดเร็วมากขึ้น

โรโค่เองก็เหนือล้ำกว่าคนทั่วไป แม้ว่าโรโค่จะเลือกเล่นอาชีพนักร้องที่เป็นที่รังเกียจของผู้คนทั้งหลาย เธอกลับสามารถแสดงบทบาทได้ดีในการต่อสู้เป็นกลุ่ม แม้ว่าเลเวลของเธอจะแค่ 25 ก็ตาม เมื่อใกล้ตกอยู่ในอันตราย เสียงฮาร์ปของโรโค่จะบรรเลงออกมาให้ได้ยิน

“กลิ่นหอมที่สายลมโชยพัดมา จะช่วยขจัดความเมื่อยล้าให้สิ้นและขับไล่ความมืดมิดไป”

 

=====

บทเพลงแห่งพลัง ระยะเวลาส่งผล 5 นาที ความเหนื่อยล้าจะลดลง และการมองเห็นในความมืดจะเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์นี้มีผลต่อทุกคนที่ได้รับฟังเสียงเพลง

=====

 

ทักษะสนับสนุนของนักร้องจะส่งผลเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ ส่วนใหญ่แล้วผลลัพธ์ยังคงอยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควร

‘บทเพลงต่อสู้’ จะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กองกำลังพันธมิตร ขณะที่ ‘บทเพลงสิ้นหวัง’ จะลดขวัญและกำลังใจของศัตรู เช่นเดียวกัน ถ้าหากเธอเล่น ‘บทเพลงฟื้นฟู’ พลังชีวิต 200 หน่วยจะถูกฟื้นฟูในระยะเวลาสามนาที แม้ว่ามันจะไม่ได้มากมายอะไรเท่าเวทมนตร์ฟื้นฟูของนักบวช แต่มันส่งผลเป็นวงกว้าง! อีกทั้ง มันยังเป็นทักษะที่แทบไม่สิ้นเปลืองพลังมานา

แต่จุดเด่นอย่าง ‘บทเพลงแห่งพลัง’ มันกลับช่วยลดความเหนื่อยล้า! ต้องขอบคุณบทเพลงนี้ องครักษ์ทั้งหลายจึงไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจนทำให้สามารถรับการฝึกอันโหดเหี้ยมของจัสติสแมนได้นานยิ่งขึ้น

‘เอ็นพีซีทำงานร่วมกับผู้เล่น วิเศษไปเลย!’

อาร์คไม่เคยแม้กระทั่งจะจินตนาการถึงผลลัพธ์เช่นนี้

กองกำลังสำรองเลเวลน้อยนิดเหล่านี้ต่างเลเวลเพิ่มขึ้นอย่างกระฉูด แน่นอน อาร์คเองก็ได้ทั้งค่าประสบการณ์และแต้มสะสมด้วยเช่นเดียวกัน

“หน้าต่างข้อมูลภารกิจที่เกี่ยวข้อง!”

 

=====

อาร์ค แต้มสะสมปัจจุบัน 9,400 หน่วย ท่านอยู่ลำดับที่ 68

=====

 

ในตอนที่อาร์คเข้าร่วมกับองครักษ์ อันดับของเขาคือหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด ในเมื่อมีผู้เล่นกว่าหนึ่งร้อยหกสิบคนในปราสาทแจ๊คสัน รวมถึงกองกำลังสำรองเหล่านี้กว่ายี่สิบคนที่เข้าร่วมภารกิจ อันดับของเขาจึงถูกจัดได้ว่ากลาง ๆ

‘แต่ยังอีกไกลที่จะไล่ทันอลัน’

ผู้มีอันดับสูงสุดสิบคนแรกจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกแปดชั่วโมงที่กระดานข้อความในจัตุรัส สิบอันดับแรกในตอนนี้ทั้งหมดล้วนอยู่ในกองกำลังที่หนึ่ง ที่นำทัพโดยอลัน และแต้มสะสมของอลันในตอนนี้มันก็เกินกว่าสามหมื่นหกพันแต้มไปแล้ว ทำให้เขาได้รับอันดับหนึ่งไปโดยปริยาย

เขาใช้ตำแหน่งที่ตนได้รับมาฉวยโอกาสกลืนกินแต้มที่สมควรเป็นของกองกำลังที่สองและสามเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงต่อต้าน เป็นเพราะอีกฝ่ายคือผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุดของกองกำลัง

อลันที่ได้รับอันดับหนึ่งนั้นไม่ใช่เพียงแค่ในหมู่เอ็นพีซี แต่รวมถึงผู้เล่นด้วยกันอีกต่างหาก

‘เราจะก้าวไปให้สูงกว่าอลันได้ไหมนะ?’

ทุกสิ่งมันไปได้ด้วยดีเกินกว่าที่อาร์คคาดคิด อย่างไรก็ตาม กำแพงแห่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์อย่างอลัน ที่มีเหล่าผู้เล่นคอยให้การสนับสนุน มันเป็นสิ่งที่สูงเกินจะก้าวข้ามขึ้นไป

อีกทั้ง ไม่เหมือนกับกองกำลังอาสาอื่น อาร์คและกองกำลังสำรองของเขาไม่อาจทำศึกต่อเนื่องได้โดยปราศจากกองทหารองครักษ์ ดังนั้นแล้ว มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะไปเปรียบเทียบได้กับกองกำลังอาสาที่ใฝ่หาการต่อสู้อย่างไม่คิดหยุดพัก

‘หรือเราควรพอใจเพียงแค่นี้?’

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด