ตอนที่แล้วเล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (2) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (4) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (3) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 3 : ศึกที่แจ๊คสัน (3)

เมื่ออาร์คหันไปมอง เขาจึงได้เห็นเด็กสาวที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาวกำลังเหม่อมองมาทางนี้ อาร์คเผยสีหน้าแปลกประหลาด ทอมจึงชี้ไปยังเธอขณะอธิบายออกมา “อา เธอคอยช่วยอยู่ที่นี่น่ะครับ ชื่อว่า โรโค่...”

“นึกออกแล้ว เธอบอกสินะว่าเริ่มเล่นเกมแล้วเหมือนกันใช่ไหม? นี่ออกจะช้าเกินไปจนพี่แทบลืมแล้วนะเนี่ย”

“ฮี่ฮี่ นี่ฉันเลเวล 25 แล้วนะ” จุงฮเยซอน หรือโรโค่ ได้กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ

เธอเพิ่งมาถึงปราสาทแจ๊คสันไม่นานหลังออกจากหมู่บ้านฮารัน จากนั้น พอเธอมาถึงปราสาทแจ๊คสัน สิ่งแรกที่เธอเรียนคือการเปลี่ยนอาชีพ อาชีพที่เธอเลือกคือนักร้อง มันเป็นอาชีพที่ผสานระหว่างการฟื้นฟูและทักษะสนับสนุน

“เธอนี่นะ...” อาร์คเดาะลิ้นออกมา

เขาเคยพบเจอผู้เล่นหลายคน แต่ไม่เคยพบเจอนักร้องมาก่อน แม้ว่านักร้องจะมีความสามารถในการฟื้นฟูและสนับสนุน แต่พวกเขาก็ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่าอาชีพสายนักบวช นอกจากนี้ นักบวชยังพอมีความสามารถต่อสู้ด้วยตัวเองอยู่บ้าง แม้ว่าการฉายเดี่ยวจะยากไปบ้างก็ตาม แต่ความสามารถต่อสู้ของนักร้องมันต่ำเสียยิ่งกว่าพ่อค้าเสียอีก

จุดแข็งของนักร้องที่เหนือล้ำกว่านักบวชก็จะมีตอนร้องเพลง ทักษะส่วนใหญ่จะส่งผลเป็นวงกว้าง ทว่า มันเป็นอาชีพที่ไม่อาจเล่นแบบฉายเดี่ยวได้โดยง่ายเพราะข้อจำกัดอันใหญ่หลวง ดังนั้นแล้วจึงเป็นอาชีพที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่คิดจะเลือกเล่นกัน นอกจากนี้ มันก็มีหลายกรณีที่ผู้เล่นเลือกเปลี่ยนอาชีพผิดพลาด พวกเขาจะรีบร้อนถอนตัวอย่างรวดเร็วและเลือกเส้นทางอาชีพอื่น การยกเลิกอาชีพจะทำได้ก็ต่อเมื่อเพิ่งเริ่มอาชีพนั้นไป อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมถึง 200 เหรียญทองให้เอ็นพีซีประจำอาชีพ นั่นหมายความว่า การที่ผู้คนต้องการจะยกเลิกอาชีพที่เลือกไปมันต้องจ่ายซึ่งเงินจำนวนมหาศาล

ทว่าโรโค่กลับส่ายศีรษะ “หนูชอบอาชีพนี้นะคะ แล้วหนูก็สนใจเรื่องเพลงมากด้วย อย่างที่พี่เห็น หนูสามารถได้ลองในสิ่งที่ไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสเพราะราคาแพงมาก เหมือนอย่างพวกฮาร์ป เปียโน และฟลูต มันเป็นสิ่งที่คาใจหนูมาตลอด เช่นกัน เพียงแค่ใช้ความพยายามเล็กน้อย หนูก็สามารถเรียนรู้วิธีการเล่นพวกมันในที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง...”

เธอเริ่มเล่นนิวเวิลด์ไม่ใช่เพราะคิดอยากเล่นฉายเดี่ยว ในเมื่อเกมนี้เธอมาเล่นเพราะคาดหวังที่จะได้พบเจอกับอาร์คและคอยช่วยเหลือเขา เธอจึงเลือกการเป็นนักร้องอย่างไม่ลังเล ทว่า เธอไม่อาจพูดถึงสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าอาร์คที่ซึ่งเป็นฮยอนอูในชีวิตจริงได้

“พี่ไม่รู้นะว่าเธอสนใจเพลงขนาดนี้น่ะ”

“เป็นเพราะพวกเราไม่เคยไปคาราโอเกะด้วยกันมาก่อนไงคะ”

“อา นั่นสินะ แต่ก็โล่งอกไปทีนะที่เธอเจออาชีพที่ชอบแล้ว”

“ค่ะ คิดถูกจริง ๆ ที่มาเล่นนิวเวิลด์”

ขณะที่โรโค่กำลังหัวเราะเคอะเขินอยู่นั้น เดดริคจ้องมองเธอด้วยความสงสัย “เจ้านาย ใครกันขอรับ? แฟนของเจ้านาย? หรือว่า?”

“อยากตายอีกรึไง?”

ขณะที่อาร์คกระซิบกระซาบอยู่นั้น โรโค่จึงเผยดวงตาเป็นประกายถามออกมา “โห? ค้างคาวนี่ไม่ใช่เครื่องประดับเหรอคะ? พูดได้ด้วย?”

“ข้าไม่ใช่ค้างคาว ข้าคือชนชั้นสูงแห่งโลกใต้พิภพ เดดริค!”

“หวา พูดว่าเป็นชนชั้นสูงด้วย น่ารักจังเลย!”

เดดริคแทบสำลักเพราะขณะที่ยืดอกอยู่โดนโรโค่คว้าหมับเข้าใส่ เธอพบเห็นเจ้ากะโหลกเช่นเดียวกัน มันกำลังกลิ้งอยู่ด้านข้างของเธอจึงหยิบขึ้นมา

เธอไม่ใช่โรโค่คนที่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเพียงเพราะเห็นหนูอีกต่อไปแล้ว ชีวิตเสมือนจริงในเกมเช่นนี้ทำให้เธอเปลี่ยนไปมาก

“อั่ก ปล่อยได้หรือไม่? นี่เจ้ากล้า...”

เพราะไม่อาจทนแรงของโรโค่ที่คว้าเอาไว้พร้อมเขย่าตัวได้ เดดริคจึงเปลี่ยนร่างเป็นคนพร้อมเผยสีหน้าฉุนเฉียว ทว่ามันกลับเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิงแห่งความสนใจของโรโค่เข้า ขณะที่เขาเปลี่ยนร่างเป็นเด็กน้อยน่ารัก โรโค่จึงกอดเอาไว้แน่นขณะยิ้มร่าออกมา

“โห เปลี่ยนร่างได้ด้วย ดวงตากลมโตนี้เหมือนกับน้องชายฉันตอนยังเด็กเลยนะ นี่มันเยี่ยมไปเลยนะพี่อาร์ค พี่ถึงกับมีเจ้าพวกนี้ติดสอยห้อยตามไปด้วย”

“อะไร? จะ-เจ้าพวกนี้?”

“หวา น่ารักจังเลย นี่ อายุเท่าไหร่กันจ้ะ?”

“...สามร้อยปี”

“อ๋า กระทั่งตอนตอบยังน่ารักเลย มานี่เร็วเดี๋ยวพี่สาวเอาขนมปังให้นะ”

“อยากตายหรือไง?”

“ไม่เอาน่า อย่าทำตัวแบบนี้แล้วมาเล่นกับพี่สาวเร็ว กะโหลกน้อยก็มาด้วยกันนะ”

“จะ-เจ้านาย ทำอะไรกับแม่นี่ก็ได้เร็วเข้า!”

ขณะที่โรโค่ถูแก้มอยู่นั้น เดดริคจึงร้องขอความช่วยเหลือด้วยสีหน้าซีดเผือด ทว่า ในเมื่ออาร์คไม่พอใจกับท่าทีของเดดริคตั้งแต่วันนั้น เขาจึงทำเป็นเมินเฉยและหันไปถามโรโค่แทน “ดูเหมือนเธอก็ยังจัดการอะไรได้ดีอยู่นะ ไม่ง่ายเลยที่จะอดทนอยู่ที่นี่ได้...”

“อา ใช่แล้วค่ะ!” โรโค่ลุกขึ้นราวกับนึกอะไรบางสิ่งขึ้นมาได้ “นึกได้แล้ว หนูอยากแนะนำคนคนหนึ่งให้พี่รู้จักค่ะ”

“แนะนำ?”

“ใช่ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือหนูตั้งแต่อยู่หมู่บ้านฮารัน เขาออกไปทำธุระนิดหน่อย อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้วค่ะ พี่ต้องดีใจที่พบเขาแน่นอน”

โรโค่คว้ามือของอาร์คเอาไว้ขณะดึงออกไป

นับตั้งแต่เริ่มภารกิจอีเวนท์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นจะล็อคเอาท์ออกไปจากพื้นที่แจ๊คสัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะตายหรือไม่ พวกเขาจะไม่อาจหนีไปได้จนกว่าภารกิจจะสิ้นสุดลง ดังนั้นแล้ว ถ้าหากผู้เล่นออกจากเครื่องเล่น ตัวละครในเกมจะอยู่ในสถานะหลับใหล บุคคลที่โรโค่ต้องการแนะนำให้กับเขายังไม่กลับมาเข้าเครื่องเล่น จึงยังคงอยู่ในสภาพที่หลับขณะพิงผนังอาคารอยู่

“จำเขาได้ไหมคะ?”

“อืม... พี่ไม่ค่อยรู้จักคนในนิวเวิลด์มากนัก...” อาร์คเริ่มสำรวจตัวละครด้วยดวงตาเฉยชา

อีกฝ่ายเป็นตัวละครชายร่างใหญ่ ด้วยร่างกายที่ไร้ซึ่งเกราะป้องกันมันเผยออกมาซึ่งกล้ามเนื้อ สำหรับอาวุธก็พอประมาณ เขาสวมใส่ถุงมือต่อสู้คล้ายกับที่สามารถพบเห็นได้ในเกมต่อสู้ทั่วไป ข้อมือ ข้อศอก รวมถึงไหล่ของเขาถูกหุ้มเอาไว้ด้วยสายรัดหนัง

โดยรวมแล้ว จากสภาพที่เห็นมันทำให้เขารู้สึกถึงพวกนักมวยปล้ำชาวอเมริกัน

‘รู้จักเราเหรอ? แต่เราไม่เคยพบเจอเขาในนิวเวิลด์มาก่อนเลยนี่นา?’

“หือ? หา?” ขณะที่จ้องมองใบหน้าของอีกฝ่าย เสียงร้องพลันดังขึ้นจากปากของอาร์ค ใบหน้าคล้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากับมีเครา นี่เป็นใบหน้าที่อยู่ในความทรงจำเขาอย่างแน่นอน มันไม่ใช่ในเกม แต่เป็นโลกความเป็นจริง!

ขณะนั้นเอง ตัวละครได้สั่นไหวขณะเงยศีรษะขึ้น เขามองมาทางอาร์คที่ยืนอยู่กับโรโค่สักครู่หนึ่ง คล้ายกับตระหนักถึงสถานการณ์อะไรได้ เขายกยิ้มขณะลุกขึ้นยืน

“ฮยอนอูนี่นา! ได้พบเจอเธอในเกมจริงด้วย เป็นยังไงบ้าง?”

“นะ-นักสืบจีวอน?”

“ทำไมดูตกใจขนาดนั้นล่ะ? ไม่ใช่เธอบอกเหรอว่าให้ฉันลองเล่นเกมนี้ดู พอได้ลองเล่นดูก็ติดใจมันพอสมควรเลย เพราะงั้นหลายวันมานี้ก็เลยง่วนอยู่กับการเล่นเกมจนไม่ได้หลับได้นอน แต่ก็นะ ฉันก็ยังไปที่โรงพยาบาลอยู่ การอยู่ตลอดคืนได้ก็เป็นประสบการณ์จากสมัยยังเป็นฝ่ายสืบสวนน่ะ อึก ไหล่เจ็บอีกแล้ว”

จีวอนฮวารัง ไม่สิ จัสติสแมนพึมพำขณะหมุนไหล่ของตน

น่าประหลาดใจยิ่ง จัสติสแมนเลเวล 40 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“อา มันเป็นเดือนที่มีอะไรเกิดขึ้นหลายสิ่งอย่างมากจริง ๆ” จัสติสแมนพึมพำขณะที่เหม่อมองออกไปยังภูเขาที่อยู่ห่างไกล

* * *

 

ที่จริงแล้ว จีวอนฮวารังไม่ได้เลเวลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มเล่นเกมแต่อย่างใด

ในเมื่อเขาไม่สนใจต่อสิ่งใดจนเอาชนะหมาป่าได้ตั้งแต่เริ่มเล่น ดังนั้นแล้วเขาจึงได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมาก แต่ขณะที่ช่วยผู้เล่นอื่น เขาไม่เคยได้รับค่าประสบการณ์เต็มที่ 100% เพราะบางครั้งเขาก็เป็นฝ่ายตายเสียเอง การเพิ่มเลเวลจึงกลับกลายเป็นช้าลง ช้าลง อีกทั้ง จีวอนฮวารังนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่รู้อะไร เขาจึงสามารถนับได้ว่าเป็นมือใหม่เล่นเกม

แน่นอน ในเมื่อเขามีฝีมือที่โหดเหี้ยม การรับมือกับสุนัขป่าหรือหมาป่าจึงไม่มีปัญหาอะไรนัก แต่แล้วเมื่อเขาเลเวล 20 พวกหมาป่าและสุนัขป่าไม่อาจให้ค่าประสบการณ์ใด ๆ อีก ดังนั้นแล้วเขาจึงออกไปไกลอีกนิดนึง ปัญหาอยู่ที่เขาเดินไปอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้

หมู่บ้านเริ่มต้นก็สมเป็นหมู่บ้านเริ่มต้นอย่างแท้จริง มันเป็นสถานที่สำหรับให้คนที่ไม่มีภูมิความรู้เรื่องเกมไว้ใช้อาศัย แต่แล้วเมื่อเขาออกมาจากหมู่บ้านเริ่มต้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างพลิกกลับ

สิ่งที่รบกวนจีวอนฮวารังมากที่สุดคือเหล่ามอนสเตอร์ที่สร้างสถานะผิดปกติให้ เป็นเพราะมันเป็นพื้นที่เลเวลต่ำ จึงไม่มีมอนสเตอร์อะไรที่สร้างสถานะผิดปกติร้ายแรงได้ แต่จีวอนฮวารังที่ไม่รู้ว่าควรทำอะไรดีจึงทำได้เพียงแค่เข้าไปพัวพันกับมันจนได้รับสถานะ ‘เลือดไหล’ หรือไม่ก็ ‘อ่อนแรง’

ภูมิต้านทานสถานะผิดปกติจะขึ้นอยู่กับความคล่องตัว ความฉลาด และโชค ทว่า ด้วยความไม่รู้ว่าสมควรลงค่าสถานะเช่นไร เขาจึงหน้ามืดตามัวลงค่าสถานะทั้งหมดไปกับพละกำลังและความอดทน ภูมิต้านทานต่อสถานะผิดปกติจึงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ดังนั้นเมื่อโดนการโจมตีเข้า เขาจึงแทบจะโดนสถานะผิดปกติอย่างแน่นอนเข้าให้

ผู้เล่นปกติมักจะมีมาตรการรับมือกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่จีวอนฮวารังกลับไม่มีอะไรอื่น นอกเสียจากจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันยิ่งทำให้แรงปณิธานของเขาเริ่มเผาไหม้ เขาจึงตายครั้งแล้วครั้งเล่า ผลลัพธ์คือค่าสถานะถูกลดทอนไป กระทั่งอุปกรณ์สวมใส่สภาพย่ำแย่ของเขายังดร็อปออกไป ดังนั้นมันจึงยิ่งทำให้การต่อสู้เป็นไปได้ยากมากขึ้น

ยังไม่ใช่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่เขาอายุถึงสี่สิบปีแล้ว เขาจึงไม่คิดอ่านเรื่องวางแผนการใช้เงิน ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่มีเงินไปจ่ายค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ ดังนั้นพวกมันจึงพัง กระทั่งว่าจะซื้อหาขนมปังมากินเขายังไม่อาจทำได้ โชคยังดีที่ผู้เล่นที่เขาเคยช่วยเหลือได้เข้ามาดูแล แต่นิวเวิลด์ก็ไม่ใช่สถานที่ง่ายดายที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้

“บ้าจริง ทำไมเกมนี้ถึงซับซ้อนขนาดนี้กัน?”

การโดนมอนสเตอร์ที่ดูท่าทางอ่อนแอจัดการจนตายไม่อาจทำใจเชื่อได้เลย จีวอนฮวารังถึงกับถึงกับทึ้งศีรษะตนเองพร้อมกับสูบบุหรี่เข้าไปเป็นซอง ด้วยสถานการณ์ที่พบเจอ เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า ตนไม่อาจดำเนินเกมต่อไปด้วยการใช้ตัวละครเพียงแค่วิ่งเข้าไปโจมตีอย่างโง่งมได้อีก

จีวอนฮวารังจึงวางมวนบุหรี่ลง พร้อมกับจ้องมองไปยังคู่มือสำหรับนิวเวิลด์ที่มาพร้อมกับตอนที่เขาซื้อเครื่องเล่น พอคิดว่าต้องมาอ่านมันแล้ว เขาถึงกับส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอ่านหนังสือเป็นครั้งสุดท้ายตอนไหน โดยเฉพาะกับหนังสือที่เป็นคู่มือเกม ที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ของเกมที่มีภาษาอ่านแปลกประหลาด พอมองหนังสือคู่มือที่หนาเตอะด้วยความหวาดกลัว เขาไม่คิดเลยว่าตนจะหยิบมันขึ้นมาอ่านได้

“เรื่องนี้จะทำเอาเราเป็นบ้า พอเกมเริ่มจะดีขึ้นมาหน่อย แต่นี่มันอะไรกัน? เราคงไปรบกวนฮยอนอูที่กำลังยุ่งอยู่เพื่อขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้...”

จากนั้น บางสิ่งได้วาบผ่านขึ้นมาในความคิดของจีวอนฮวารัง “เดี๋ยวนะ พอมาคิดแล้ว ไม่ใช่ว่ามีพวกคลั่งเกมอยู่จำนวนหนึ่งหรือไร? ถ้าเราลากพวกมันมาได้ล่ะก็...”

จีวอนฮวารังจึงลุกขึ้นโดยทันที พร้อมต่อสายจากที่นี่ไปยังอีกที่หนึ่ง

ผ่านไปไม่นาน ชายสิบคนได้มารวมตัวกันที่บ้านเขา พวกเขาเป็นชายมีประวัติการเฉิดฉายเป็นนักล้วงกระเป๋า ลักลอบขนของเถื่อน ฉ้อฉล ใช้ความรุนแรง และอื่น ๆ อีกมากมาย จีวอนฮวารังเป็นผู้คุมความประพฤติในทัณฑสถาน เขาเคยรับมือกับพวกอาชญากรที่ไม่มีดีเหล่านี้

จีวอนฮวารังเรียกพวกเขามาขณะยกยิ้มขึ้นกล่าวถาม “เอาล่ะ พวกนายมีใครบ้างที่มั่นใจด้านการเล่นเกม ยกมือขึ้น”

คนทั้งสิบต่างยกมือขึ้น

“ดี งั้นคงไม่มีปัญหา นับจากนี้พวกนายจะต้องเป็นผู้ฝึกสอนให้ฉัน”

“ว่าอะไร? ผู้ฝึกสอน?”

“ใช่ นับจากนี้ พวกนายทุกคนต้องผลัดเปลี่ยนกันมาที่บ้านและฝึกสอนฉัน”

“จะเล่นเกมอะไรกัน?”

“นิวเวิลด์”

“แต่พวกเราไม่เคยมีโอกาสได้เล่นนิวเวิลด์มาก่อนเลยนะ...”

อดีตนักโทษต่างเกาศีรษะด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

ทว่าพอได้ยินคำถามของจีวอนฮวารัง สีหน้าของพวกเขาจึงกลับกลายเป็นเหลือเชื่อขึ้นมา จีวอนฮวารังเป็นคนที่ไม่เคยเล่น MMORPG มาก่อน ไม่สิ ไม่มีพื้นฐานอะไรเกี่ยวกับเกมเลยต่างหาก

*MMORPG คือเกมออนไลน์สวมบทบาทที่เล่นพร้อมกับผู้เล่นหลายคน*

ถ้าหากสู้ เลเวลก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าหากเลเวลเพิ่มขึ้น มันก็หมายถึงแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นก็จะสามารถสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้นได้ นั่นคือทั้งหมดที่จีวอนฮวารังรู้เกี่ยวกับนิวเวิลด์

“อะไรคือทักษะเรียกใช้? นี่คุณนับเป็นคำถามจริงเหรอเนี่ย?”

“โพชั่นคืออะไรคุณก็ยังไม่รู้?”

“ทำไมคุณถึงเดินไปทั่วทั้งที่ไม่มีชุดเกราะสวมใส่?”

“เอาออกเพราะน่ารำคาญ? งั้นแล้วทำไมคุณไม่คิดว่า เพราะอะไรคนอื่นในเกมถึงยอมสวมใส่ชุดเกราะเพลทที่หนักอึ้งกัน?”

“แล้วทำไมคุณถึงเอาแต่วิ่งเข้าไปตาย? หา? รู้จักการถอยไหม? นี่คุณล้อผมเล่นอยู่ใช่ไหมเนี่ย?”

“นี่คุณเพิ่มเลเวลตัวเองจนถึง 20 ได้ยังไงกัน?”

“อ๋า บ้าไปแล้ว ทนไม่ได้แล้ว นี่มันบ้าบอชัด ๆ เฮ้ย แกน่ะ ไปสั่งเครื่องเล่นมา!”

ท้ายที่สุด คนเหล่านี้ถึงกับแทบทึ้งผมตัวเองออกเพราะความทนไม่ไหว พวกเขาต่างซื้อเครื่องเล่นมา จนท้ายที่สุดจึงเล่นเกมด้วยกัน และแล้ว อดีตนักสืบ รวมถึงอดีตสิบนักโทษจึงร่วมเล่นเกมไปด้วยกัน

ชื่อตัวละครของพวกเขาคือเลข 1401 ถึง 1410 มันคือเลขสำหรับการคุมประพฤติ

ด้วยความช่วยเหลือของคนเหล่านี้ที่มีความรู้เรื่องเกม จีวอนฮวารังจึงสามารถได้เรียนรู้เรื่องราวพื้นฐานทั่วไปในนิวเวิลด์ แต่เขาก็ยังคงหลงใหลในการเป็นนักสืบ พื้นฐานการเล่นของจีวอนฮวารังจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

“ทางนั้น! มีคนร้องขอให้ช่วย! ไปกัน!”

“เอ่อ? อีกแล้ว? พวกเราไปช่วยเหลือแล้วจะได้รับอะไรกัน?”

“ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม นี่คือหนึ่งในบทเรียนเพิ่มการเข้าสังคม แทนที่จะปล่อยเวลาว่างให้สูญเปล่า มาพยายามฝึกความยุติธรรมในเกมนี้แล้วรับรู้ถึงความพอใจที่ได้ช่วยดู เข้าใจไหม?”

“เอ่อ พวกเราไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นไร”

“เงียบนะ! อยากเจ็บตัวก่อนถึงจะไปได้หรือไงกัน?”

จีวอนฮวารังลากพาพวกเขาเดินไปทั่ว พวกเขาจึงตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าผู้เล่นในฮารันจนโดนกล่าวถึง

“ดูนั่นสิ มาโซแมนมีลูกน้องด้วยแหละ!”

ด้วยเหตุนี้ ปาร์ตี้ที่สร้างขึ้นโดยนักสืบและอดีตนักโทษจึงกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในหมู่บ้านเริ่มต้น นี่คือสาเหตุที่จีวอนฮวารัง ผู้ซึ่งไม่มีความรู้ใดในเรื่องเกมเลย ถึงกับสามารถเพิ่มเลเวลจนขึ้นมาถึง 40 ได้ภายในหนึ่งเดือน

ก็แหม มีผู้เล่นอีกตั้งสิบคนคอยช่วยเหลือ เลเวลจะไม่เพิ่มเร็วขึ้นได้ยังไงกัน

* * *

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด