ตอนที่แล้วตอนที่13 โค้ชระดับ3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่15 พวกอ้วนทำคะแนน

ตอนที่14 คะแนนเต็ม


ไต้หลี่เปิดกล่องของขวัญ เเล้วเห็นอะไรบางอย่างเป็นสีทองประกายออกมา เขาเอามันออกมาอย่างระวังเเล้วก็เห็นว่ามันคือวงเเหวน

 

ยินดีด้วย เเกได้รับอุปกรณ์มา ระบบพูด

 

"นี้มันคืออะไรเนี่ย รูเเหวนทองคำเหรอ หรือฉันควรเอามันใส่หัวเเล้วทำตัวเหมือนเทวดาไหม"ไต้หลี่ถามตลกๆ

 

"เออใช่ เอาจริง มันต้องเอาวงเเหวนนั้นใส่หัวจริงเเหล่ะ เเต่นายควรเรียกมันว่าวงเเหวนมากกว่า รูอะไรนั้นนะ มันมีป้ายชื่ออยู่"ระบบบอก

 

ไต้หลี่พึ่งสังเกตุว่ามีป้ายเล็กๆเเปะอยู่ตรงวงเเหวน มันเขียนว่า"วงเเหวนระเบิดพลัง"

 

ใช่ เเกสามารถเพิ่มเเรงระเบิดพลังเวิ่อร์ๆขึ้น10%เมื่อใส่มันบนหัว  ทุกคนที่อยู่ในรายการฝึกของเเกจะได้รับผลนี้ด้วย" ระบบพูด "อุปกรณ์อย่างวงเเหวนเนี่ยไม่ได้ช่วยให้พวกคนที่ฝึกพัฒนามากนัก เเต่ประเด็นคือทุกคนสามารถได้รับผลของมันไปพร้อมกัน ก็บอกได้ว่ามันอยู่ในระดับเเรงค์Aสำหรับอุปกรณ์เสริมพลังทั้งหลาย"

 

"เพิ่มเเรงระเบิดพลังขึ้น10%เหรอ ถ้าคิดถึงตอนจะใช้มันห็ถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ใน3กิจกรรมที่ต้องทำตอนสอบพละเข้าม.ปลาย การวิ่ง1000เมตรจะวัดความอึดของเด็ก การดึงข้อจะวัดความเเข็งเเกร่งของร่างกายช่วงบน เเละการจะได้คะเเนนเต็มก็จำเป็นที่จะต้องทำให้ได้ถึง10ครั้ง อีกอย่างการกระโดดไกลก็ต้องใช้เเรงระเบิดพลังเหมือนกัน ถ้าได้วงเเหวนระเบิดพลังมาช่วยก็จะทำให้เด็กพวกนี้ประหยัดเวลากับประหยัดเเรงไปได้อีก" ไต้หลี่คิดกับตัวเอง

 

ถ้ามีวงเเหวนระเบิดพลัง ที่จะช่วยให้นักเรียนกระโดดไกลได้ดีขึ้น ไต้หลี่จึงลดเวลาซ้อมกระโดดไกลลงเเล้วเพิ่มเวลาของกิจกรรมที่เหลือ

 

...

 

ระหว่างที่การสนธนาดำเนินไป เวลาไม่เคยคอยใคร การสอบสมรรถนะเข้าโรงเรียนม.ปลายกำลังใกล้เข้ามา

 

เมืองโหยวฮาวที่ไต้หลี่อยู่นั้นเป็นพื้นที่ๆมีคนชุกชุม เมื่อเทียบกับเมืองๆรวมถึงโรงเรียนมัธยมต้นจากทั้งในชานเมืองเเละในเมือง เมืองโหยวฮาวมีผู้สมัครสอบเข้าโรงเรียนม.ปลายมากกว่า1ล้านคนในปีนี้ ตัวเลขนี้เกือบจะเทียบเท่ากับโรงเรียนในเมืองใหญ่ๆเลย

 

เเต่ถึงอย่างงั้นเมืองโหยวฮาวก็ยังมีทรัพยากรศึกษาที่ต่ำกว่ามากถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ๆ ด้วยจำนวนผู้สมัครมากกว่า1ล้านคนเเต่สามารถรับได้เพียงเเค่5000คนสำหรับโรงเรียนม.ปลาย เเละอีก3000คนสำหรับโรงเรียนทางเลือกเพาะช่าง นั้นหมายความว่ามีนักเรียนที่เรียนจบม.ต้นเเล้วไม่ไม่ไปสมัคร2000คน

 

นี้ทำให้การเเข่งนั้นเป็นเหมือนสมรภูมิ ที่มีหมาป่าจำนวนมาก เเต่มีเนื้อให้ไม่พอ การเเข่งขันเข้าม.ปลายจึงดุเดือดมากในเมืองโหยวฮาว อีกทั้งยังดึงดูดความสนใจมากอีกเช่นกัน เพราะไม่ใช่เเค่ระบบการศึกษาเทศบาลที่ทำให้มันดูเลอค่ามากกว่าเก่า เเต่ทั้งระบบการศึกษาของเขตก็ด้วยที่ทำให้มันดูดึงดูด ลองเอาการสอบพละเป็นตัวอย่างก็ได้ เพื่อที่จะให้นักศึกษาไม่มีการโกงข้อสอบ พวกกรรมการคุมสอบจะมาจากเมืองอื่น ไม่ใช่คนของในโรงเรียน เอาจริงมันเข้มงวดกว่าการสอบเข้ามหาลัยอีก

 

โรงเรียนม.ต้นที่9มีโอกาศสอบผ่านมากที่สุดเทียบกับโรงเรียนอื่น ผู้เข้าสอบทุกคนมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะเข้าโรงเรียนม.ปลายชื่อดัง ผลงการสอบของผู้เข้าสอบจากโรงเรียนที่9ถูกยอมรับว่าเป็นมาตรฐานของโรงเรียนอื่นๆ

 

ข้างๆบาร์โหนภายนอกโรงเรียนม.ต้นที่9 มีผู้คุมสอบ2คนกำลังยืนคุยกันเเละหัวเราะกันอยู่ใต้ต้นไม้

 

"อาจารย์ฉาง ได้ยินมาว่าโรงเรียนม.ต้นที่9เเห่งนี้เป็นที่หนึ่งในเมืองโหยวฮาว เเละมีจำนวนผู้เข้าสอบเยอะที่สุดด้วย มีตั้งมากกว่า1000คนเเหน่ะ"คนนึงในนั้นพูด

 

อาจารย์ฉางตอบรับ "บอกผมหน่อยซิอาจารย์หวาง นักเรียน1000คนเนี่ย มันเยอะไปหน่อยสำหรับเรานะ ผมได้ยินมาว่า มันอาจจะเสร็จก่อนเที่ยงหรือไม่ก็ไม่เกินบ่าย3โมงเย็นถ้าโรงเรียนมีเด็กน้อย เเต่ที่นี้เราอาจจะได้กลับกันดึกเลยนะ!"

 

เราควรจะกินข้าวเที่ยงเยอะๆเพราะผมไม่รู้ว่าเราจะได้กินข้าวเย็นหรือเปล่า"

 

"ก็โทษใครไม่ได้นั้นละ อีกอย่าง ดวงเราซวยเองเเหล่ะที่ดันมาอยู่ในห้องสอบที่มีเด็กเข้าสอบเยอะที่สุด อีกอย่าง การดึงข้อมันเป็นอะไรที่กินเวลาสุดๆ"อาจารย์หวางบ่น อาจารย์ฉางเห็นด้วยเเล้วพูด

 

"เมื่อไม่กี่ปีก่อนการสอบมันกำหนดเวลาไว้1นาที ทำให้ได้มากที่สุดใน1นาที เเค่นั้น เเต่ประเด็นคือมันยากเกินไป เด็กส่วนมากสอบไม่ผ่าน ส่วนมากที่ว่านี้คือ2/3เลยนะ การสอบมันเลยนานขึ้นเดี๋ยวนี้เพราะเอาลิมิตเวลาออก"

 

หลายๆคนคิดว่าการวิ่ง1000เมตรจะเสียเวลามากที่สุด เเต่ความเป็นจริงเเล้ว ดึงข้อตั่งหากที่กินเวลามากที่สุด เด็กม.ต้นต้องใช้เวลา4-5นาทีโดยเฉลี่ย เพราะว่าผู้เข้าสอบสามารถวิ่ง1000เมตรด้วยกันหลายคนได้ เราอาจจะให้เด็ก12คนวิ่งพร้อมกันก็ได้ถ้ามัน10คนมันช้า หรือบางทีให้วิ่ง14-15คนในรอบเดียวกันเลยก็ได้

 

ทั้งกระโดดไกลกับดึงข้อจำเป็นต้องให้นักเรียนสอบทีละคน การกระโดดไกลมันใช้เเค่ไม่กี่วิต่อคน เเต่ถึงอย่างงั้นดึงข้อใช้เวลาเยอะกว่ามาก ถึงขั้นที่ว่าถึงผู้สอบจะดึงข้อต่อไม่ไหวเเล้ว เขาก็ยังสามารถโหนอยู่บนบาร์โหนได้ต่อ เเล้วโคตรเสียเวลาเลย อาจารย์ฉางบ่นต่อ "คุณภาพชีวิตมันจะมีเเต่ดีขึ้นเรื่อยๆ เเต่สุขภาพร่างกายของเด็กพวกนี้กลับเเย่ลง เราเคยวิ่ง5000เมตรตอนอยู่สมัยนั้น เเล้วดูตอนนี้ซิ เเค่1000เมตรก็เเทบตายเเล้ว! เเถมการดึงข้อเอาผ่านเเค่6เอง เเต่ดันยังมีนักเรียนที่ไม่ผ่านการสอบอีกเยอะ ดูพวกอ้วนนั้นซิ ฉันเดาได้เลยว่าทำได้ไม่เกิน3หรือ4"

 

อาจารย์ฉางชี้ไปที่ผู้เข้าสอบคนนึง นั้นคือเสี่ยวหมิงฮวง

 

เขายื่นบัตรสอบให้ผู้คุมสอบ เเล้วเดินตรงเข้ามาที่บาร์โหน

 

"ไอ้อ้วนอีกเเล้ว ฉันเดาได้เลยว่าทำได้ไม่เท่าไรหรอก ผู้เข้าสอบบางคนอ้วนพอๆกับเขายังทำได้เเค่2ครั้งเองใช่ไหมละ มันก็ดีสำหรับเรานะ เราจะได้ประหยัดเวลาไปเยอะเลย ยิ่งเด็กอ้วนๆเเบบนี้มีเยอะเท่าไร เราก็ยิ่งไปกินข้าวเย็นไวเท่านั้น"อาจารย์หวางคิดในใจเเล้วหัวเราะเบาๆ

 

เสี่ยวหมิงฮวงโดดขึ้นบาร์โหนในระหว่างที่คนอื่นกำลังคุยกันอยู่ ผู้คุมสอบเริ่มนับ

 

"หนึ่ง สอง สาม สี่ ..ห้า ..หก"

 

อาจารย์ฉางนับด้วยเสียงเบา

 

"เขาผ่านเหรอ เดี๋ยวนะ ฉันนับผิดรึเปล่า เด็กอ้วนอย่างเขาผ่านสอบมาได้ไง?" อาจารย์หวางตกใจมาก

 

"เจ็ด! เเปด!! เก้า!!! สิบ!!!!! นี้ฉันตาฝาดรึเปล่าวะเนี่ย ผู้เข้าสอบที่ผอมกว่าเขายังทำได้ไม่เกิน10เลยนะ!"

 

เสี่ยวหมิงฮวงลดจังหว่ะความเร็วลงเล็กน้อย เเต่มันยังไม่จบ! เขายังไม่หยุด

 

"สิบเอ็ด สิบสอง นี้เขาจะเอาคะเเนนเต็มรึไงเนี่ย?" สายตาผู้เข้าสอบทุกคนจับจ้องมาที่เขา พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าเด็กอ้วนเเบบเขาจะดึงข้อได้มากกว่า12ครั้งติดต่อกัน

 

เทคนิคของเสี่ยวหมิงฮวงเริ่มไม่เข้าที่ในการดึงครั้งที่13 เขาไม่หายใจเเล้วกัดฟันซัดข้อขึ้นในครั้งที่14เเต่ถึงอย่างงั้น มันก็เห็นชัดๆว่าเขาดึงครั้งนี้เขาทำด้วยความรีบ ทำให้การเคลื่อนไหวยังห่างไกลกว่าคำว่ามีฝีมือ ถามเขายังใช้ขาเขาช่วยดันอีกด้วย เเต่ถึงอย่างงั้น เขาดึงข้อ ครั้ง ที่ สิบ สี่สำเร็จ!

 

"สิบสี่!!! พระเจ้า เขาได้คะเเนนเต็ม!" อาจารย์หวางตะโกนอย่างลืมตัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด