ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่2 การฝึกสำหรับสอบสมรรถนะ

ตอนที่1 ไต้หลี่


ไต้หลี่ ออกจากห้องสอบ ก่อนที่จะเดินผ่านฝูงชน แล้วมองผู้คนรอบตัวเขา พวกนั้นเต็มไปด้วยความสุขในความสำเร็จ บางคนพูดคุยอย่างสนุกสนาน ทำให้ไต้หลี่ หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม

 

“โธ่เอ้ย! ทำข้อสอบไม่ได้เลยวะ! แล้วอย่างงี้ไม่มีทางไปรอดถึงรอบสัมภาษณ์แน่ๆ” เขาคิด แล้วนวดขมับ รู้สึกเหมือนหัวหนักขึ้น

 

“ทำไมมันมึนๆวะ? หรือว่าเป็นหวัด รู้งี้ไม่น่าไปดูฝนดาวตกเมื่อคืนเลย” ไต้หลี่ คิดกับตัวเอง

 

ไต้หลี่ เป็นนักศึกษาปริญญาตรีปี4ธรรมดาๆ เนื่องจากใกล้จบแล้ว เขาเลือกที่จะไม่ไปสอบเขาปริญญาโท เพราะครอบครัวของเขาเป็นคนทั่วไปที่ไม่ได้มีอำนาจหรือการตัดสินใจอะไรเท่าไร ฐานะทางครอบครัวก็อยู่ในระดับที่มาตรฐานมากๆ มันก็ยากพอสำหรับพวกเขาอยู่แล้วที่จะเลี้ยงส่งเด็กมหาลัย ไต้หลี่ เป็นลูกที่ดี แล้วเขาก็ไม่ได้อยากที่จะเป็นภาระของครอบครัวอีกต่อไป. นี้คือเหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะเข้า“กองทัพ”คนหางานร่วมกับเด็กจบใหม่จำนวนมาก

 

ปัญหาอยู่ที่วิชาหลักของเขา “วิชาการฝึกกีฬา”ค่อนข้างดูห่วยแตก คนเราชอบมองจากวิชาหลักที่จบมา แล้วก็สรุปเอาเองว่าทำอะไรได้บ้างหลังจบมา แนวโน้มการจ้างงานของวิชานี้ไม่ดีเท่าไร ตัวอย่างการจบจากวิชาพวกปรัญชาหรือไม่ก็อักษรถึงแม้ว่าจะมีช่วงหางานยาก แต่อย่างน้อยก็เล็งได้ว่าจะไปทำงานทั่วไปอย่างตำแหน่งเลขา หรือไม่ก็คนเขียนโฆษณา แต่ประเด็นคือตำแหน่งทั่วไปพวกนั้น ดันไม่ต้อนรับคนจากทางสายกีฬาเท่าไร

 

ปีนี้การหางานมันก็ยากพอสำหรับพวกคนจบใหม่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่มันก็ยิ่งโครตยากสำหรับไต้หลี่ หนุ่มที่มาจากครอบครัวธรรมดาที่ไม่มีเงินทองหรือเส้นสาย หนำซ้ำเขายังไม่ได้จบมาจากมหาลัยดัง ปัจจัยพวกนี้ควบไปกับความเป็นจริงที่ว่าเขาอยู่ในคณะเฉพาะทาง มันทำให้การหางานเหมือนกับนรกสำหรับคนอย่างเขา

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เขามุ่งเป้าไปที่การสอบจัดหางานสำหรับโรงเรียนรัฐบาล ตัวอย่างเช่นโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจ้างครูพละทุกปี หรือไม่ก็พวกโรงเรียนสอนกีฬาหรือทีมกีฬาพวกนั้นก็มองหาโค้ชด้วย อย่างน้อยการเป็นครู หรือเป็นโค้ชก็เป็นสิ่งที่มีแน่นอนในโรงเรียนรัฐบาล เพื่อเตรียมตัวสอบครั้งนี้ ไต้หลี่ เริ่มทบทวนบทเรียนตั้งแต่ภาคเรียนแรกของปี4 อีกทั้งยังไปลงเรียนครุศาสตร์กับจิตวิทยาที่จัดสอนโดยสำนักการศึกษา แถมยังสอบผ่านแล้วได้ประกาศนียบัตรการเรียนการสอนมาด้วย

 

แล้ววันนี้ที่เป็นวันสอบเข้าแท้ๆ แต่เขาดันรู้สึกเวียนหัวมาตั้งแต่เช้า ได้แต่ฝืนตัวเองแล้วเข้าห้องสอบ ทั้งๆที่ป่วยจนแยกไม่ออกว่าอันไหนซ้ายขวาด้วยซ้ำ เพราะว่าแบบนี้จึงทำให้การสอบคล้ายๆกับการปรับโหมดในเกมเป็น“ยากนรกแตก”พร้อมกับโบนัสที่ว่า จุดจบเดียวของเกมนี้คือ “พ่ายแพ้” GAME OVER

 

เขายังคงนั่งปวดขมับแล้วคิดกับตัวเอง “นึกว่าจะได้ไปชิวๆไม่ใช่แค่2วันต่อสัปดาห์ในวันหยุดโรงเรียนถ้าได้เป็นครูพละ แต่ทั้งปิดหน้าร้อนแล้วก็หน้าหนาว แหม แต่เหมือนจะไม่เป็นอย่างงั้นละวะตอนนี้ เหมือนกูจะได้ไปนั่งจุ้มปุ้กเขียนนิยายออนไลน์ น่าจะเขียนเกี่ยวกับนักกีฬา แถมยังคิดชื่อเรื่องออกด้วยนะ ชื่อเรื่องAll-around Athlete”

 

“เดาได้เลยว่าไม่มีใครอ่านนิยายชื่อห่วยๆอย่างงั้นแน่ ต้องเป็นไอ้ขี้กากขนาดไหนถึงเขียนนิยายที่ห่วยแตกแบบนั้นออกมาได้” จู่ๆก็มีเสียงในหัวก็กระแทกเข้ามา

“อะไร! ใครพูดวะ?” ไต้หลี่ มองรอบตัวตามหาต้นตอของเสียงที่พูดแต่ก็ไม่เจอ

“อย่ามัวแต่หาเลย ข้าอยู่ในหัวแก” เสียงเดิมพูดกับไต้หลี่ อีกครั้ง

ไต้หลี่ ขนลุกไปทั่วตัว เขากลัวเสียงดังกล่าว เอาจริงๆมันก็เป็นเรื่องปรกติที่ควรจะกลัวเมื่อรู้ว่าใคร หรืออะไรบางอย่างกำลังพูดกับเราอยู่ในหัว

“อย่ากลัวหน่า ไม่ทำให้เจ็บตัวหรอก” เสียงกล่าว

“แม่งเป็นใครวะ แล้วเกิดอะไรขึ้น” ไต้หลี่ คิดในใจ

“อย่าเรียกว่าแม่งซิเฮ้ย” รอบนี้มันทำเสียงสะท้อนในหัวไต้หลี่

“มันรู้ที่เราคิดด้วยเว้ยเฮ้ย” ไต้หลี่ คิดแล้วตกใจ

“เออแน่ซิ ก็แกคุยกับฉันผ่านทางความคิดนี้” เสียงตอบ

“แล้วแกเป็นใครวะ” ไต้หลี่ คิดเบาๆ เขายังไม่ชินกับการคุยแบบนี้เท่าไร

“ข้าคือผู้นำทาง แล้วก็เป็นส่วนนึงในระบบโค้ช  ภารกิจของข้าคือช่วยให้แกชินกับระบบโค้ช แล้วใช้งานมันได้อย่างเต็มที่” เสียงนั้นตอบ

 

จู่ๆไต้หลี่ คิดถึงสิ่งที่เรียกว่า “ระบบ” ในนิยายออนไลน์ มันคล้ายๆกับการโกง คือถ้ามีไอ้สิ่งที่เรียกว่าระบบเนี่ย โลกนี้ก็จะเหมือนหอยนางรมที่รอแค่ซดเข้าปาก จากที่เป็นไอ้ขี้กาก วินาทีต่อมาเราจะกลายเป็นจุดยอดของดวงดาว ทุกคนบนโลกก็จะประเคนตัวเองให้กับเรา ไต้หลี่ ไม่เคยคิดเคยฝันว่าอะไรแบบนั้นมันจะเกิดกับเขา

 

“ระบบโค้ชเหรอ มันเหมือนพวกโค้ชส่วนตัวอะไรทำนองนั้นไหม แบบให้คนอื่นจากภายนอกเกมช่วยโดยที่ไม่มีการบอกให้ผู้เล่นคนอื่นรู้... มันคล้ายๆการโกงปะ”ไต้หลี่ ถาม

 

“ก็ถูก มันก็สามารถเป็นการโกงชีวิตได้” เสียงนั้นอ่านใจไดลี้อีกรอบ ก่อนบอกว่า “ระบบโค้ชไม่ใช่แค่ทำให้แกกลายเป็นโค้ช ไม่ซิ สุดยอดโค้ช โครตของโครตโค้ช แต่ยังนำทางชีวิตแกไปสู่จุดสูงสุด ระบบนี้คือก๊อดโมด การที่แกได้รับระบบโค้ชมาทำให้แกกลายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก”

 

“สุดยอดระบบโค้ชงั้นเหรอ? งั้นโอนเงินเข้าบัญชีฉันมา1ล้านหยวน แล้วถึงจะเชื่อ” ไต้หลี่ ท้าทาย

“ข้าทำแบบนั้นไม่ได้” เสียงตอบ “แต่แกสามารถหาเงินได้1ล้าน ไม่ซิ 10ล้าน แม้แต่100ล้านหยวนก็ทำได้ง่ายๆด้วยความช่วยเหลือของระบบโค้ช”

“ฉันไม่คิดว่าฉันต้องการแกอยู่ในหัวนะ” ไต้หลี่ ปฏิเสธระบบโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับสิ่งที่จู่ๆก็เข้ามาในหัว

“ไม่มีทาง” เสียงนั้นดึงดัน “ข้าไล่ตามดาวหางมาเนินนาน กว่าจะเจอที่ๆลงตัวได้ ไหนจะใช้เวลาทั้งเช้านี้ที่จะจูนกับหัวแก แกปฏิเสธไม่ทันแล้ว”

 

“เดียวนะ ทั้งเช้านี้เหรอ? แกเองเหรอที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้มึนหัวตึ๊บตั้งแต่เช้าเนี่ย” ไต้หลี่ บ่นกับตัวเอง

“ก็ข้าต้องปรับตัวให้เข้ากับสมองแกเพื่อสื่อสารกันได้ มันอาจจะทำให้แกมึนหัวนิดหน่อย” เสียงนั้นยอมรับตรงไปตรงมา

“มึน หัว นิด หน่อย เหรอ?!? แกทำลายการสอบฉัน แล้วแกก็เป็นเหตุผลที่ฉันไม่ได้งานทำ รู้ไหมวะ ว่างานอะมันหายากแค่ไหน รู้ไหมว่าฉันต้องเตรียมตัวนานแค่ไหน”ไต้หลี่ โกรธจัดเมื่อรู้ต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น

 

เสียงนั้นบอกลวกๆว่า “สิ่งที่แกจะได้เป็นถ้าสอบผ่านก็เป็นแค่ครูพละในโรงเรียนมัธยม แต่ถ้ามีข้า แกสามารถเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก นำแกไปสู่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ ครูพละในโรงเรียนมัธยมมันเทียบไม่ได้กับโค้ชระดับเวิล์ดคลาสหรอกนะ”

 

“โค้ชระดับโลก” ไต้หลี่ พูดซ้ำ “ไม่อะ ทั้งหมดที่ฉันต้องการแค่หารายได้เกิน10000หยวนต่อเดือน เพียงพอที่จะให้ซื้อบ้านกับแต่งานได้ แค่นั้นก็พอใจละ”

 

“แค่หมื่นหยวนต่อเดือนเหรอ โถ่ เอ้ยย ถ้าข้าช่วย แกจะกลายเป็นโค้ชที่ดีที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าแกจะโง่ซักแค่ไหน” เสียงตามมาติดๆ

 

“งั้นแกก็เป็นพวกอาจารย์สำหรับมือใหม่เหรอ” ไต้หลี่ ถาม

“ทำนองนั้น ถ้ามีอะไรที่แกไม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบโค้ช ถามมาได้เลย ฉันจะตอบให้หมดเปลือก” ระบบพูด

“โอเค งั้นอย่างแรก ต้องทำยังไง” ไต้หลี่ ถาม

“อย่างแรกแกต้องเข้าไปในระบบโค้ชก่อน” ระบบตอบ

“ยังไง” ไต้หลี่ ถามซ้ำ

“ตั้งสมาธิสิ”

“ตั้งสมาธิยังไง”

“ตั้งสมาธิของแกไงไอ้โง่”หลังจากที่ระบบตอบคำถาม ไต้หลี่ รีบตั้งสมาธิ แล้วเขาก็พบว่า ตัวเองอยู่บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดารานับพันล้อมรอบตัวเขา

 

“นี้ฉันอยู่ในระบบเหรอ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในอวกาศเลย?”

จู่ก็มีอะไรบางอย่างสีทอง ปรากฏในสายตาของไต้หลี่ เขามองดูดีๆมันคล้ายๆกับหัวคน แต่เบลอมาก เห็นแค่โครงหน้าบางๆทำให้ยากกับการบอกรูปร่างชัดเจน

“จารย์สอนมือใหม่” ไต้หลี่ ค่อยๆถาม

“ผู้นำทางโว้ย ผู้นำทางมือใหม่” หัวสีทองให้ความกระจ่าง

ไต้หลี่ หายใจลึก ก่อนจะถาม “แล้วไงต่อ”

“แกยังเป็นแค่มือใหม่ แต่ดีอย่าง คือแกสามารถได้รับโบนัสเริ่มต้นได้ เป็นของขวัญต้อนรับหน่ะ” หัวทองบอก

กล่องสีทองปรากฏอยู่ตรงหน้าไต้หลี่ ในไม่กี่วิต่อมา หัวสีทองพูดว่า “นี้เป็นของขวัญต้อนรับมือใหม่ เปิดดูซิ”

ไต้หลี่ เปิดกล่องอย่างไม่ลังเล เขาเห็น2อย่างในกล่อง มีการ์ดสีทองทางซ้ายแล้วก็อะไรบางอย่างที่คล้ายๆเรดาร์ทางขวา

 

ไต้หลี่ หยิบการ์ดขึ้นมา “บัตรทดลองใช้ โค้ดระดับสูง(14วัน)? นี้คืออะไร”

“ถ้าแกเอาการ์ดมาแปะตัว แกจะได้รับประสบการ์ณของการเป็นโค้ชระดับท๊อป14วัน ตามที่บอกไว้”หัวทองคำเอ่ย

ไต้หลี่ ผงกหัวแล้วพยายามจะแปะการ์ดที่ตัว แต่หัวทองคำห้ามไว้แล้วพูดว่า “อย่าใช้ตอนนี้ดิ มันเป็นบัตรใช้แล้วทิ้ง ถ้าใช้ตอนนี้ ไม่มีครั้งหน้าให้ใช้นะ”

 

แล้วควรจะใช้ตอนไหนละ” ไต้หลี่ ถาม

“ก็ตอนที่แกมีใครให้ฝึกแล้วไงละ ตอนนี้แกยังไม่มีเป้าหมายให้ฝึกเลย ใช้ไปก็เปลืองของ” หัวทองกล่าว

“เครื่องตรวจความเก่ง ใช้มันเพื่อตรวจสอบความสามารถของแต่ละบุคคล ระยะในการตรวจสอบคือ10เมตร เอาไปลองใช้กับใครก็ได้ในชีวิตจริง” หัวทองคำอธิบาย

 

ไดลี้กลับมาที่โลกความจริง แล้วเห็นหญิงชราเดินเข้ามาพร้อมหมาของเธอ

“ตรวจสอบ!!” เขาใช้สมาธิ แล้วเขาก็เห็นตัวเลขสถิติจากระบบในไม่กี่วิต่อมา

เป้าหมายที่ตรวจ :คนธรรมดา ; ความสามารถทางกีฬา : 46

“46? นี้มันสูงหรือต่ำหว่า ควรลองกับอีกซักคนนึงแล้วเปรียบเทียบ” เขามองรอบๆแล้วเห็นชายสูงโดยประมาณเดินผ่านมา

 

“ตรวจสอบ!!” เขาใช้สมาธิ แล้วเขาก็เห็นตัวเลขสถิติจากระบบ

เป้าหมายที่ตรวจ :คนธรรมดา ; ความสามารถทางกีฬา : 68

“68เหรอ เยอะกว่าผู้หญิงที่จูงหมาตั้งเยอะ แล้วของฉันละเท่าไร” ไต้หลี่ ชี้ไปที่ตัวเอง แล้วมองดู ผลออกมาเป็น80

“โห ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีความสามารถทางกีฬาตั้ง80” เขาพอใจกับตัวเลขที่ออกมา

เสียงระบบดังขึ้นในหัวอีกครั้ง “ลิมิตของคนทั่วไปจะอยู่ที่99 ของแกอยู่ที่80 นั้นหมายความว่าแกออกกำลังกายเสมอ”

“ก็ใช่ซิ ฉันเอกฝึกกีฬานะ หลังจากคลาสเรียนก็มีให้ฝึกเพิ่มตั้งเยอะ”ไต้หลี่ พูด

หัวทองพูดต่อ “สิ่งที่แกต้องรู้ต่อไปคือเรื่องข้อมูลความสามารถของตัวเอง”

จอใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าไต้หลี่ ในจอนั้นมีรูปไต้หลี่ และรายละเอียด

 

ชื่อ ไต้หลี่ ระดับโค้ช มือใหม่ (0/100) อื่นๆ ไม่มี   รายการฝึก ไม่มี

 

“ในส่วนของ0/100มันเหมือนค่าตัวเลขที่บอกว่าเราสามารถอัพเกรดได้ เหมือนสามารถอัพเวลได้ถ้าเต็ม100/100” ไต้หลี่ พูดกับตัวเอง

 

“อย่างนั้นเลย มันคือค่าประสบการณ์ จะได้รับเวลาไปฝึกให้คนอื่น หมายความว่าอย่างแรกที่แกต้องทำคือ หาเป้าหมายที่จะฝึกให้เจอ” หัวทองคำบอก

 

“มีข้อกำหนดพิเศษอะไรสำหรับที่จะเป็นเป้าหมาย หรือแค่ใครก็ได้” ไต้หลี่ ถามทันที

 

หัวทองตอบทันที “ไม่มีข้อกำหนดอะไร เป้าหมายอาจจะเป็นนักกีฬา คนทั่วไป คนพิการ หรือแม้กระทั้งคนที่อยู่ในอาการโคม่าก็ยังได้ ของแค่แกมีบัตร14วันทดลองใช้โค้ชตัวท๊อป มันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่จะอัพเกรด แค่หาใครก็ได้แล้วฝึกซัก2-3วัน แค่นั้นก็ได้ละ”

 

“เดียวนะ คนที่อยู่ในอาการโคม่ามันขยับตัวได้เหรอวะ แล้วฉันจะทำยังไงกับมัน” ไต้หลี่ ออกจากระบบโค้ช แล้วเริ่มรู้สึกว่าระบบโค้ชนี้มันเชื่อไม่ค่อยได้เข้าไปทุกที

 

“หาใครก็ได้งั้นเหรอ มันก็พูดง่ายหรอกนะ ถ้าฉันผ่านการสอบแล้วกลายเป็นครูพละ ฉันหาเด็กเป็น100มาฝึกก็ยังได้ แต่ตอนนี้ฉันจะไปหาใครจากไหนมาดี หรือฉันควรเริ่มจากการเขียนนิยายออนไลน์” ระหว่างที่ไดลี้คิดอยู่นั้น คำโตของโปสเตอร์ก็กระแทกความสนใจของเขา “Talent Education กำลังมองหาครูพละด่วน พร้อมเงินและผลประโยชน์เพียบ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด