ตอนที่แล้วHK ตอนที่ : 38
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHK ตอนที่ : 40

HK ตอนที่ : 39


[จากนี้จากจักวรรดิจะใช้เป็นประเทศแทนนะครับ]

ผู้กำกับสถานีตำรวจเขตชวนฮู เรียกว่า เหล่ยเหลียงหลิน

ในฐานะผู้กำกับของสถานีตำรวจ ตอนนี้ชีวิตของเหล่ยเหลียงหลินไม่มีความสุขอย่างมาก!

ความสุขของเขาไม่ได้หายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยเคจิถูกแฮกโดยแฮกเกอร์ ทำให้ทางมหาวิทยาลัยเสียหายไปกว่า 5 ล้านหยวน คดีนี้เป็นคดีใหญ่ในรอบ 10 ปีจะมีสักครั้ง

หลังจากที่มหาวิทยาลัยเคจิแจ้งความมาทางสถานีตำรวจเขตชวนฮูแต่ทางตำรวจก็ไม่มีวิธีแก้ปัญหาเลยสำหรับกรณีความปลอดภัยในโลกไซเบอร์

ดังนั้นเหล่ยเหลียงหลินจึงแจ้งคดีของมหาวิทยาลัยเคจิถูกแฮกไปที่ทางสำนักงานเมืองชวนกิ่ง

แม้ว่าสถานีตำรวจเขตชวนฮูจะไม่สามารถติดตามจับกุมแฮกเกอร์ได้

ตามความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเหล่ยเหลียงหลินและไม่ได้สำคัญอะไร

อย่างไรก็ตามมันจะทำให้ผู้ว่าการเมืองชวนกิ่งมองภาพลักษณ์ของเหล่ยเหลียงหลินออกมาไม่ดีเท่าไหร่

อาจพูดได้ว่าโชคร้ายมักจะมาก่อนโชคดีเสมอ

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา สถานีตำรวจเขตชวนฮู แผนกเฝ้าระวังดูแลด้านความปลอดภัยของสังคม เฝ้าระวังผ่านกล้องสาธารณะและได้ตรวจจับบุคคลคนหนึ่งได้ และภาพๆนี้ที่วิดีโอตรวจจับได้นี้ทำให้ทั้งสน.ตื่นตัวขึ้นมาทันที

ภาพที่ตรวจจับได้ก็คือ ผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าตกรรมหมู่ของสถานีตำรวจเฮย์เจียง ซึ่งเป็นที่กำลังสงสัยอยู่ว่าคนร้ายได้หลับหนีจากเมืองเฮย์เจียง มาที่เขตชวนฮูของเมืองชวนกิ่ง!

ในฐานะที่เป็นเมืองที่มีแต่มหาวิทยาลัยสำคัญๆ งานหลักก็คือการปกป้องความปลอดภัยของนักศึกษา ผู้ต้องสงสัยใดๆ ที่อาจคุกคามกับความปลอดภัยของนักศึกษาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมืองที่มีแต่มหาวิทยาลัยเด็ดขาด

หลังจากยืนยันการตรวจสอบภาพหน้าจอวิดีโอแล้ว เหล่ยเหลียงหลินก็ออกคำสั่งด้วยตัวเองว่าในเขตชวนฮูจะต้องตรวจสอบบุคคลที่น่าสงสัยทุกรายและตรวจสอบอย่างรอบ เมื่อมีการ่ตรวจเจออะไรที่น่าสงสัยแล้ว ต้องรายงานไปยังเบื้องบนที่สำนักงานใหญ่ทันที

หลังจากที่สำนักงานเมืองชวนกิ่ง ทราบสถานการณ์ในตอนนี้แล้วก็ได้ออกคำสั่งให้เหล่ยเหลียงหลิน สั่งตำรวจทุกนายจับตายอาชญากรระดับ A เย่เฟิงทันที

ตอนนี้มีคดีแฮกเกอร์ และยังจะมีอาชญากรระดับ A ที่ตำรวจกำลังต้องการตัวอีก เรื่องทั้งหมดนี้แทบทำให้เหล่ยเหลียงหลินจะตายอยู่แล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายของเขตชวนฮูถูกระงับการหยุดพักผ่อนชั่วคราวจนกว่าพวกเขาจะจับกุมตัวอาชญากรระดับ A เย่เฟิงได้!

อย่างไรก็ตาม เย่เฟิงเป็นทหารจากหน่วยรบพิเศษและได้รับเหรียญกล้าหาญ มีความสามารถในหลบหนีจากการติดตามได้หรือความสามารถที่แฝงอยู่ ตำรวจทั่วไปไม่สามารถเทียบได้

นอกจากนี้ทางกองทัพได้ให้ข้อมูลกับทางกรมตำรวจว่า เย่เฟิงมีอาวุธที่ทันสมัยและเป็นอันตรายอย่างมาก ขอแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจธรรมดาห้ามเผชิญหน้ากับเย่เฟิงตามลังพัง!

ความหายนะที่เย่เฟิงและไอ้แฮกเกอร์บ้านั่น มาทำลายความสงบในเขตชวนฮู ทำให้เหล่ยเหลียงหลินหัวเสียงอย่างมาก

ในตอนเที่ยงวันที่ 11 ตุลาคม สถานีตำรวจเขตชวนฮู แผนกรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ได้จับแจ้งเหตุอีกฝ่ายอ้างว่ามีคดีที่สำคัญและจำเป็นต้องแจ้งหัวหน้าตำรวจด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ในเวลาเดียวกันว่าจะให้เหล่ยเหลียงหลินรับโทรศัพท์หรือไม่ ถ้าเขาต้องการติดต่อไปยังออฟฟิศของผู้กำกับ แต่ยศของเขาต่ำเกินไป

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายถกเถียงกันไปมา จนในที่สุดอีกฝ่ายก็บอกมาออกมาว่าจะแจ้งอะไร!

มีระเบิดไนตริกซ์และกลีเซอรีนถูกวางไว้ในที่อยู่อาศัยบางแห่งในเขตชวนฮู ตั้งเวลาไว้ 30 นาทีและทางตำรวจควรรีบไปกู้ทันที!

เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุของสถานีตำรวจชวนฮูคิดว่าอีกฝ่ายกำลังล้อเล่น เพราะไม่ได้เป็นประเทศในแถบร้อนอย่างประเทศอิรักที่มีขีปนาวุธเต็มไปหมดหรือประเทศอัฟกานิสถาน การห้ามใช้อาวุธปืนในประเทศเซี่ย เป็นกฏหมายที่เคร่งครัดอย่างมากทำให้การครอบคองปืนพกธรรมดายิ่งไม่ต้องพูดถึงไหนจะเรื่องระเบิดซึ่งเป็นอาวุธที่อันตรายมากใครจะไปเชื่อ

เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุกำลังแสดงความสงสัยและอีกฝ่ายออกมา ฝ่ายตรงข้ามจึงบอกว่าตนเป็นคนที่ตำรวจกำลังต้องการตัวเขาคืออาชญากรระดับหน่วย B ที่กำลังหลบหนี เจิ้งซานเปา เขามาที่เขตชวนฮูเพราะว่าเย่เฟิงเรียกเขามา

คำพูดของเจิ้งซานเปาเกือบจะทำให้เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเป็นลม!

เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุรีบรายงานเหล่ยเหลียงหลินทันที หลังจากที่เหล่ยเหลียงหลินได้รับรายงานเขาก็โกรธจนตัวสั่นที่ถูกข่มขู่ อาชญากรระดับ A ที่ตำรวจกำลังต้องการตัวมาพร้อมกับอาชญากรระดับ B ซึ่งทั้งสองคนเป็นทหารหัวกะทิของหน่วยรบพิเศษ ถ้าพวกเขาก่ออาชญากรรมในเขตชวนฮูแล้วละก็ นั่นจะทำให้เขตชวนฮูเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นและเหล่ยเหลียงหลินต้องจบเห่แน่นอน!

เหล่ยเหลียงหลินนำทีมด้วยตัวเองเพื่อยืนยันการวางระเบิดของเจิ้งซานเปา เหล่ยเหลียงหลินได้ออกคำสั่งทันทีว่าให้อพยพประชาชนในเขตที่อยู่อาศัยอย่างจริงจัง ในทางกลับกันเขาก็พยายามกู้ระเบิดให้ทันเวลา ถ้าระเบิดเกิดระเบิดขึ้นมาในเขตที่อยู่อาศัยและถ้าเย่เฟิงก่อวินาศกรรมในเขตชวนฮู เหล่ยเหลียงหลินคงไม่สามารถรักษาตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจเขตชวนฮูเอาไว้ได้!

เหล่ยเหลียงหลินกำลังทนต่อการถูกเผาไหม้อยู่ข้างในที่กำลังสั่งการในการกู้ระเบิดให้ทันเวลาอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ที่สถานีตำรวจชวนฮูก็ได้รับข่าวร้ายมาอีกข่าวหนึ่ง ที่เกือบจะทำให้เหล่ยเหลียงหลินหน้ามือทันที

ธนาคาร ICBC เขตชวนฮูกำลังถูกปล้นด้วยผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ

สามีของเธอได้ไปที่ธนาคาร ICBC เพื่อโอนเงินให้กับลูกชายของเธอและเธอรออยู่ที่บ้านเพื่อรอสามีของเธอกลับมา หลังจากที่เธอรอแล้วรอเล่า แต่สามีเธอก็ยังไม่กลับมา เธอจึงโทรไปหาสามีของเธอ สามีที่สุภาพอ่อนของเธอกลายเป็นคนที่ดุร้ายขึ้นมาทันที เรื่องนี้ทำให้เธอสงสัยจึงเดินไปที่ธนาคาร ICBC เพื่อตรวจดูด้วยตัวเอง

เธอไม่ได้เดินเข้าไปในธนาคาร ICBC แต่มองเอาจากไกลๆแทน แล้วก็พบว่าในธนาคารมีคนร้ายสองคนติดอาวุธยืนคุมตัวประกันหลายคนอยู่ที่ล็อบบี้ ดังนั้นเธอจึงแจ้งตำรวจทันที!

เหล่ยเหลียงหลินหน้าซีดเหมือนคนตายแล้วและเขาสาปแช่งเย่เฟิงและเจิ้งซานเปาในใจ เขาไม่รู้ว่าหม่าเหลียงก็มาด้วย ถ้าเขารู้บางทีอาจจะทำให้เขาสิ้นหวังมากกว่าเดิน

พลังอำนาจของหน่วยรบพิเศษสามคน สามารถทำให้เกิดความหวาดกลัวและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แก่เขตชวนฮูได้เลย

เหล่ยเหลียงหลินมองไปที่รองผู้กำกับเซี่ยงหยังชุนก่อนและเปิดปากพูดว่า "หยังชุนนายช่วยดูแลที่นี่ให้ผมชั่วคราว ผมต้องรีบไปที่ธนาคาร ICBC ก่อน!"

เซี่ยงหยังชุนเป็นคนที่สนิทของหัวหน้าเหล่ยเหลียงหลิน เขายังเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นอีกด้วยจึงถามออกมาว่า "หัวหน้าเหล่ยไปที่ธนาคาร ICBC ทำไมครับ?"

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ไม่เท่ากับตรงนี้ที่สำคัญกว่าถูกไหมครับ?"

"หัวหน้าเหล่ยครับ ถ้าหัวหน้าละทิ้งหน้าที่ตรงนี้โดยพลการ อาจจะถูกพวกสำนักงานเมืองชวนกิ่งแทงข้างหลังเอานะครับ มันจะส่งผลให้ตำแหน่งของหัวหน้าสันคลอนนะครับ!"

เหล่ยเหลียงหลินเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ก็หยุดเดินยืนนิ่งหันกลับไปมองเซี่ยงหยังชุนแล้วตะคอกเสียงดังออกมา

"ตอนนี้มีผู้ก่อการร้ายติดอาวุธสองคนกำลังปล้นธนาคาร ICBC  คนแจ้งเหตุอธิบายว่ามีตัวประกันอย่างน้อยห้าคนถูกจับไว้ แกจะพูดว่านี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด?"

มุมปากของเซี่ยงหยังชุนกระตุกขึ้นมาทันที "ผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ? พวกมันเป็นเพียงพวกนอกกฎหมาย! วันนี้เราต้องเอาศักดิ์ศรีของสถานีตำรวจชวนฮูกลับคืนมาให้ได้ครับผม!"

เหล่ยเหลียงหลินได้ตบลงไปที่ไล่ของเซี่ยงหยังชุนแล้วพูดว่า "หยังชุน กองกำลังตำรวจที่อยู่ที่นี่ผมจะมอบหมายให้คุณดูแล คุณต้องจัดการอย่างรอบคอบละ!"

หลังจากพูดเสร็จ เหล่ยเหลียงหลินก็ตะโกนเรียกถานเหวินเปาที่อยู่ไม่ไกลมาก "เหวินเปา คุณไปธนาคาร ICBC ด้วยกันกับผม!"

จากนั้นไม่นานรถตำรวจมากกว่าโหลก็มาล้อมด้านนอกธนาคาร ICBC ไว้หมดแล้ว

จากนั้นเหล่ยเหลียงหลินที่อยู่ด้านหน้า ก็โทรศัพท์เรียกกำลังเสริมกองกำลังติดอาวุธมาช่วย

เพียงแค่สถานีตำรวจชวนฮูเพียงที่เดียวไม่สามารถแก้สถานการณ์ในปัจจุบันตอนนี้ได้พวกเขาต้องพึ่งกองกำลังตำรวจที่ติดอาวุธเต็มรูปแบบมาช่วย!

"คนที่อยู่ข้างในจงฟัง......."

ก่อนที่เหล่ยเหลียงหลินจะพูดจบก็ถูกขัดจังหวะจากเสียงปืน!

ในล็อบบี้ธนาคาร

เย่เฟิงยิงปืนขึ้นที่เพดานหนึ่งนัด มีควันจางๆ แผ่กระจายออกมาจากปากกระบอกปืน

"อ๊าก~"

"กริ้ดๆ~~~"

ตัวประกันที่หมอบอยู่บนพื้นก็กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว

เย่เฟ่งพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า "หุบปากให้หมด!"

"พวกเราแค่มาปล้นไม่ได้มาทำร้ายพวกคุณ แต่ถ้าพวกคุณไม่ให้ความร่วมมือ บางทีครั้งต่อไปพวกคุณอาจได้เป็นเป้ายิงแทนก็ได้"

"ซานเปา ไปจับตาดูข้างนอกไว้อาจมีสไนเปอร์ซ่อนอยู่!"

เจิ้งซานเปาพยักหน้า พาตัวประกันสองคนไปบังอยู่ที่ประตูทางเข้าไว้

เจิ้งซานเปาซ่อนตัวอยู่หลังตัวประกันทั้งสองคนไม่ไกลออกไป และเอาปืนไรเฟิลที่สะพายหลังลงมาวางไว้บนโต๊ะ

เย่เฟิงคว้าตัวประกันมาบังตัวเองไว้แล้วเดินไปที่ประตูเพื่อมองดูสถนการณ์ด้านนอก สายตาของเขาเผยให้เห็นการแสดงออกถึงความรังเกียจ

"พวกตำรวจก็เป็นแบบนี้เสมอ!"

หลังจากพูดเสร็จ เย่เฟิงก็ตะโกนเสียงดังพูดคุยกับพวกตำรวจที่อยู่ด้านนอก "ตำรวจที่กำลังล้อมที่นี่อยู่ข้างนอกจงฟัง!"

"เอาละตอนนี้ฟังคำสั่งฉัน พวกแกทั้งหมดต้องวางอาวุธลงทันทีและถอยห่างออกไป 200 เมตร มิฉะนั้นเราจะไม่รับประกันความปลอดภัยของตัวประกัน!"

ชิเล่ยที่อยู่ในมุมเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ

'ไอ้เจ้าเย่เฟิงคนนี้นี่มัน ไม่คิดเลยว่าจะมีอารมณ์ขันมากขนาดนี้! ไม่รู้เลยว่าตอนนี้พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป!'

ด้านนอกธนาคาร กองกำลังตำรวจจำนวนมากที่กำลังทำอยู่ตอนนี้คือ คุณมองมาที่ฉัน ฉันมองไปที่คุณ ในสายตาพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังตกใจในสิ่งที่ได้ยิน

เหล่ยเหลียงหลินที่กำลังถือโทรโข่งอยู่ในมือของเขาและปากของเขาที่กำลังกระตุก สำหรับเวลานี้เขาไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่ยเหลียงหลินจะสั่งให้ลูกน้องของเขาวางอาวุธและถอยห่างออกไปราว 200 เมตร ตามคำสั่งเย่เฟิง แม้แต่จะทำตัวเหิมเกริมขึ้นมาเขาก็ไม่กล้า ถ้าเกิดว่าเขาทำให้เย่เฟิงโกรธขึ้นมาละและทำให้ตัวประกันเป็นอันตรายขึ้นมา?

ความปลอดภัยของตัวประกันต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ใครจะไปกล้าสั่งโจมตีไม่เช่นนั้นเขาจะถูกตั้งข้อหาว่าละทิ้งตัวประกันได้

ถ้าทางเบื้องบนตรวจสอบพบความเป็นจริงว่าได้ละทิ้งตัวประกัน คุณต้องโดนไล่ออกจากตำแหน่งในปัจจุบันและอาจถูกส่งเข้าคุก!

"เหวินเปา ตอนนี้คุณคิดว่าเราควรจะทำยังไงกันดี?" เหล่ยเหลียงหลินหันหัวกลับไปถามรองหัวหน้าถานเหวินเปาเพื่อขอความคิดเห็น

ถานเหวินเปาขมวดคิ้ว "หัวหน้าเหล่ย คนที่ตะโกนออกมาคือเย่เฟิงใช่ไหมครับ?"

"ผมมั่นใจได้เลยว่าพวกมันต้องมีมากกว่าสองคน!"

เหล่ยเหลียงหลินถามอย่างแปลกใจ "คุณรู้ได้ไง?"

ถานเหวินเปาให้เหล่ยเหลียงหลินส่องกล้องส่องทางไกลแล้วมองไปตามนิ้วที่เขากำลังชี้ "หัวหน้าเหล่ย หัวหน้ามองไปที่ประตูทางเข้าครับ"

"ต่อมาที่ในล็อบบี้มือสไนเปอร์ต้องเป็นเจิ้งซานเปา"

"แน่นอนว่าพวกเขาต้องไม่ออกมาเผชิญหน้ากับตำรวจและโชว์ให้พวกเราเห็น ดังนั้นเป็นไปได้ว่าต้องมีอีกคนที่กำลังปล้นเงินอยู่!"

จากนั้นเหล่ยเหลียงหลินก็จัดระเบียบความคิดของเขาและหายใจลึกๆแล้วพูดว่า "งั้นอีกคนก็ต้องเป็นอาชญากรระดับ B หม่าเหลียง!"

"พวกเขาอยู่หน่วยรบพิเศษด้วยกัน ในครั้งแรกทั้งสามคนนี้ก่อคดีร้ายแรงขึ้นที่เมืองเฮย์เจียง ถ้าทั้งสามคนอยู่ด้วยกัน พวกเราจบเห่แน่!"

ถานเหวินเปาก็พยักหน้าให้เห็นว่าเขาก็คิดแบบเดียวกัน "หัวหน้าเหล่ย ตอนนี้เราต้องเจรจาและทำตามข้อเรียกร้องของพวกมันไปก่อน"

"แล้วหลังจากที่พวกมันปล้นเสร็จ เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่แต่ในธนาคารอย่างแน่นอน พวกมันต้องหาวิธีหนี"

"ตอนนี้ในมือพวกมันมีตัวประกันอยู่ เราจึงไม่สามารถเข้าถึงพวกมันได้ แต่ถ้าเมื่อพวกมันหนีเมื่อไหร่ ในเวลานั้นก็จะเป็นโอกาสของเรา!"

"ตกลงตามนี้!" เหล่ยเหลียงหลินพูดต่อว่า "ตอนนี้เราจะดูท่าทีไปก่อนและรอให้กำลังเสริมกองกำลังติดอาวุธมาถึง จากนั้นเราจะกางตาข่ายที่มองไม่เห็น ดูซิว่าพวกมันจะหนีไปได้อย่างไร!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด