ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 9 : งานชุมนุมผู้กล้า (3) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 3 ตอนที่ 1 : ซิลเวอร์แอร์โรว์ (2) [อ่านฟรี]

เล่ม 3 ตอนที่ 1 : ซิลเวอร์แอร์โรว์ (1) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 3 ตอนที่ 1 : ซิลเวอร์แอร์โรว์ (1)

คนกว่าร้อยกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ลานกว้างขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุดของหอคอยเวทมนตร์ ผู้คนเหล่านี้คือผู้เล่นที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่ามีเลเวลมากกว่า 60 โดยสมาคมเวทมนตร์

ดังที่คาดเอาไว้สำหรับเกมในยุคหน้า นิวเวิร์ลด์ได้เสนอความผันแปรอย่างไร้ที่สิ้นสุดเอาไว้ภายในระบบ ความอิสระที่มีให้นั้นมากมายเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าในเมื่อมีตัวแปรมากมายที่จะใช้พัฒนาตัวละคร เพียงแค่การออกล่าเก็บเลเวลไม่ใช่ทุกสิ่งอย่าง กล่าวก็คือ สูตรสำเร็จพื้นฐานที่เคยมีสำหรับทุกเกมก็ยังคงมีอยู่ในนิวเวิร์ลด์

ยิ่งใช้เวลามากก็ยิ่งได้รับเลเวลมากขึ้น ถ้าหากต้องการเลเวลสูงล้ำกว่าคนอื่น เช่นนั้นแล้วก็หมายความว่าต้องลงทุนด้านเวลามากกว่าผู้อื่น!

นิวเวิร์ลด์เพิ่งถูกวางตลาดมาได้ในช่วงเวลาเพียงแค่สี่เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ มันยังเก็บเลเวลได้ยากยิ่งกว่าเกมอื่นถึงสามหรือสี่เท่า นี่หมายความว่าผู้เล่นที่สามารถเก็บเลเวลในเกมอื่นได้ถึง 180~240 ของเกมอื่นในช่วงเวลาสี่เดือน ก็คือเหล่าผู้เล่นนับร้อยคนที่มารวมตัวกันอยู่ ณ กิรันในเวลานี้ นี่คือผลลัพธ์จากการเสพติดนิวเวิร์ลด์ ซึ่งนับได้ว่าเหนือกว่าที่ผู้ใดจะคาดคิดได้

แน่นอนว่าทุกคนในที่นี้ต่างก็มีความสามารถส่วนตน มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงได้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจขณะที่รับภารกิจนี้มา ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าศัตรูจะปรากฏออกมาในรูปแบบใด

ทว่า สิ่งที่อาร์คสนใจไม่ใช่ความมั่นใจของผู้คนเหล่านี้ ที่เขาสนใจอย่างแท้จริงคืออุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขา

‘ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย พวกเขาเหล่านี้ไปหาไอเทมพวกนั้นมาจากไหนกัน?’

อาร์คคิดว่าตนนั้นโชคดีพอสมควรแล้วที่ได้รับไอเทมมาด้วยวิธีการของตัวเอง ทว่า หลังจากที่ได้มารวมตัวกับเหล่าผู้เล่นอื่นที่ถือครองอุปกรณ์สวมใส่ ความมั่นใจของเขาก็เริ่มจางหาย

‘ชิ้นนั้น อย่างน้อยก็สมควรเป็นระดับหายาก’

ประกายแสงที่ส่องสว่างจากหมวกเขาของชาวไวกิ้ง ถุงมือที่มีส่วนแหลมคมยื่นออกมาจากด้านหลังมือราวกับหน้าไม้ รองเท้าที่ทำขึ้นจากกระดูกสีแดงที่ย้อมไปด้วยโลหิต ดาบสองมือที่บางเฉียบและคมกริบ พวกมันเหล่านี้ล้วนไม่ใช่อุปกรณ์สวมใส่ทั่วไป

นอกจากนี้ แม้ว่าจะมีผู้เล่นนับร้อยมารวมตัวกัน เขายังไม่พบอุปกรณ์สวมใส่ที่ซ้ำกันเลยสักชิ้น ราวกับว่าเขาเข้ามางานนิทรรศการจัดแสดงไอเทมชั้นสูงก็ไม่ปาน

เขาถึงกับต้องกลืนน้ำลายลง ‘ถ้าหากเอาไอเทมพวกนี้ทั้งหมดไปเปลี่ยนเป็นเงิน มันจะได้เท่าไหร่กันนะ?’

ดวงตาของอาร์คเริ่มเป็นประกายคล้ายตอนที่อยู่ในงานประมูลมืดบอด หลังคำนวณออกมาโดยคร่าว ๆ แล้ว อุปกรณ์สวมใส่ที่แต่ละคนถือครองอยู่สมควรมีมูลค่านับ 400~500 เหรียญทองได้

‘มีผู้เล่นหนึ่งร้อยคนที่นี่ งั้นอย่างน้อยก็ราว 40,000 เหรียญทอง ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินวอน งั้นมันก็มากถึงสี่ร้อยล้านวอน!’ แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่เพียงแค่นี้

อาร์คเป็นคนทั่วไปที่ได้รับบิลค่าสาธารณูปโภครายเดือนยังต้องถอนหายใจออกมา แม้จะไม่อาจพูดอะไรได้เพราะค่าเงินที่ทะยานสูงขึ้น ราคาของสิ่งอื่นก็จึงเริ่มเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว พอได้ยินคำว่า “ล้าน” มันก็มากพอที่จะทำให้พวกเขาร้องออกมาได้ ตัวอักษร “ล้าน” ที่มีสีทองแทบจะแหวกว่ายอยู่ต่อหน้าดวงตาของเขาได้เลยทีเดียว

ข่าวที่เขาเพิ่งได้รับฟังมาเมื่อไม่นานจึงผุดขึ้นมาในใจ งานประมูลที่จัดขึ้นในนิวเวิร์ลด์ รวมแล้วมันสมควรมีเงินสะพัดเทียบเท่าเงินจริงถึงหมื่นล้านวอนเลยทีเดียว ในตอนนั้นเขาแค่คิดว่า “แล้วยังไง” แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวเลยสักนิด

‘อึก ถ้าคนพวกนี้ทั้งหมดเป็นมอนสเตอร์ล่ะก็...’

“โปรดให้ความสนใจทางด้านนี้ชั่วครู่ครับ” ขณะนี้ เอ็นพีซีจากสมาคมเวทมนตร์ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ชั้นบนสุดหลังทำการตรวจสอบผู้เล่นจนได้ครบแล้ว “ข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับทราบมา สมาคมเวทมนตร์ไม่ใช่เพียงผู้เดียวที่คิดว่าสถานการณ์นี้ร้ายแรง ทางด้านกิลด์พ่อค้าที่ตั้งอยู่ทางเขตการค้าส่วนใต้ของกิรัน ‘ไมดัส’ ได้ส่งเรือเดินสมุทรหุ้มเกราะพร้อมทั้งผู้ได้รับการคัดเลือกแล้วไปยังพื้นที่แจ๊คสันเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ทางด้านกิลด์นักรบที่มีชื่อเสียงในเขตเหนือซึ่งไม่ไกลจากที่นี่ ‘ซอร์ดครอส’ เองก็ส่งกองกำลังของพวกเขาไปยังพื้นที่แจ๊คสันด้วยเช่นเดียวกัน”

“กิลด์พ่อค้ากับกิลด์นักรบ?”

“ถ้ารวมสมาคมเวทมนตร์เข้าไปด้วย นี่ไม่ใช่หมายความว่ากิลด์ใหญ่ทั้งสามต่างก็เคลื่อนไหวหรอกหรือ?”

“อย่างที่คิดไว้ นี่ไม่ใช่ภารกิจธรรมดา” เหล่าผู้เล่นเริ่มพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาดใจ

อาร์คเองก็ได้เห็นข่าวเรื่องสามกิลด์ใหญ่บนกระดานข้อความของแต่ละหมู่บ้าน ในนิวเวิร์ลด์ กิลด์ชั้นนำจะถูกบริหารงานโดยเอ็นพีซี ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์หรืออาณาจักรที่ผู้เล่นเลือกที่จะเริ่มเล่น พวกเขาต้องได้รับอนุญาตจากหนึ่งในกิลด์ชั้นนำเหล่านี้เสียก่อนเพื่อที่จะเริ่มสร้างกิลด์ กล่าวก็คือ กิลด์ที่เริ่มต้นโดยผู้เล่นต้องเป็นพันธมิตรกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากพวกเขาคิดข้องเกี่ยวกับกิลด์ชั้นนำใดก็ให้ยื่นใบสมัครเข้าไป อีกทั้งยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกับกิลด์ชั้นนำถ้าหากต้องการจะสร้างกิลด์เอง แต่พวกเขาก็จะได้รับการสนับสนุนกับภารกิจเฉพาะของกิลด์เป็นการตอบแทนด้วยเช่นเดียวกัน

ด้วยอำนาจของเหล่ากิลด์ชั้นนำ พวกเขาไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียง กิลด์ชั้นนำเหล่านี้ต่างมีส่วนแบ่งทางการตลาดเหมือนกับพวกพ่อค้า ดังนั้นแล้ว ยิ่งผู้เล่นเลือกพวกเขามากขึ้น กิลด์ชั้นนำเหล่านี้ก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น

ในปัจจุบัน อาชีพทั้งสามที่โด่งดังในหมู่ผู้เล่นของนิวเวิร์ลด์ได้แบ่งประเภทใหญ่ออกเป็นสาม นักรบ นักเวท และพ่อค้า สามกิลมหาอำนาจของนิวเวิร์ลในตอนนี้จึงถูกตัดสินด้วยเหตุผลนี้

กิลด์ชั้นนำของเหล่านักรบคือซอร์ดครอส ทางด้านพ่อค้าคือไมดัส และนักเวทก็คือสมาคมเวทมนตร์

แน่นอนว่าเมื่อผู้เล่นจัดตั้งกิลด์ขึ้น มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกให้กิลด์มีความข้องเกี่ยวกับอาชีพของพวกเขา แต่ถ้าหากพวกเขาเลือกก็ย่อมได้รับพลังอำนาจมา มีหลายกรณีที่จะได้รับการสนับสนุนเรื่องภารกิจและรางวัลจากกิลด์ชั้นนำอันมีค่าและข้องเกี่ยวกับอาชีพ ดังนั้นแล้วกิลด์จึงมักเลือกโดยความเหมาะสมทางอาชีพ ต้องขอบคุณสิ่งนี้จึงทำให้ทั้งสามกิลด์มีอำนาจเป็นรองเพียงแค่ราชวงศ์และมหาวิหาร

นักเวทคนนั้นเริ่มพูดต่อ “คงไม่จำเป็นต้องให้กล่าวทวนนะครับ อย่างไรเสียการช่วยเหลือปราสาทแจ๊คสันย่อมเป็นความสำคัญอันดับแรกเหนือสิ่งอื่นใด และอีกครั้ง นี่คือศึกระหว่างสามกิลด์ใหญ่ที่เดิมพันด้วยชื่อเสียงและความภาคภูมิ แน่นอนว่าสถานะของสมาคมนักเวทจะเปลี่ยนไปเพื่อให้สอดคล้องกับการศึกในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกท่านจะได้รับรางวัลตามที่พวกท่านได้ลงแรง ดังนั้นแล้วทางเราหวังว่าพวกท่านจะกระทำอย่างสุดความสามารถนะครับ”

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งสามกิลด์ใหญ่จึงจัดส่งกองกำลังของตัวเองออกไป ปราสาทแจ๊คสันเป็นสถานที่แรกสำหรับผู้เล่นที่เลือกเริ่มต้นในอาณาจักรชอร์เดนเบิร์ก มันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนอาชีพจนกลายเป็นความสนใจต่อกิลด์ ถ้าหากพวกเขาสามารถยกสถานะตัวตนขึ้นที่นั่นได้ ดังนั้นแล้วผลลัพธ์ย่อมต้องเป็นการเกิดขึ้นของกิลด์ใหม่เป็นสิ่งที่จะตามมา

ผู้เล่นต่างก็มีการแข่งกันซึ่งกันและกัน เอ็นพีซีก็มีการแข่งขันระหว่างเอ็นพีซีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน นี่แหละคือนิวเวิร์ลด์

ทว่า ผู้เล่นหลายคนก็ไม่ได้สนใจเรื่องการแข่งขันกันระหว่างกิลด์ชั้นนำ พวกเขาเพียงแค่ต้องการประสบการณ์และรางวัล!

ด้วยการกล่าวถึงสามกิลด์มหาอำนาจ พวกผู้เล่นจึงเริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นคึกคัก

“ถ้าหากสามกิลด์มหาอำนาจร่วมด้วย งั้นรางวัลที่ได้รับก็สมควรมหาศาลเอาการ”

“อาจกระทั่งได้รับอาวุธวิเศษก็เป็นได้”

“น่ายินดีนัก เลเวลของข้าได้พุ่งกระฉูดในช่วงหลายวันนี้แน่”

“นี่เพิ่งหมดตัวที่กิรันไป แต่กลับได้รับภารกิจพวกนี้เข้ามา! ส้มหล่นชัด ๆ!”

ยิ่งภารกิจมีความยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ รางวัลก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นตาม

แต่อาร์คกลับแทนที่ด้วยความกังวล ‘นี่ไม่ใช่อะไรที่จะน่ายินดีหรือดีใจได้ นี่หมายความว่ามันมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นน่ะสิ’

กระทั่งว่าเป็นภารกิจอีเวนท์ที่ได้รับมาจากต่างกิลด์ แต่พื้นฐานของภารกิจก็ย่อมต้องเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้ว ค่าประสบการณ์ ความดีความชอบ ทั้งหมดที่สมควรถูกแบ่งให้ผู้เล่นหนึ่งร้อยคน แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับฟังมานี้ทำให้ส่วนแบ่งของเขาต้องโดนหั่นลงไปอีก ดังนั้นแล้วรางวัลจึงต้องเหลือเพียงแค่น้อยนิด แต่ก็มีเรื่องดีตรงภารกิจนี้จะสำเร็จได้ง่ายขึ้นเพราะจำนวนคนที่มากขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่สมควรจะต้องดีใจเลยสักนิด

“เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่เรือเหาะจะออกตัว มันอาจเล็กน้อย แต่ทางสมาคมเวทมนตร์ได้จัดเตรียมเสบียงให้สำหรับผู้ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังแล้วครับ โปรดเข้ามารับพวกมันไปตามระเบียบนะครับ พวกเราเตรียมการมาได้ไม่เต็มที่เพราะด้วยเวลากระชั้นชิด แต่ก็เชื่อว่าพวกมันจะมีประโยชน์แน่นอนครับ”

นักเวทได้ส่งมอบกล่องเสบียงขนาดเล็กออกมาทีละกล่อง เมื่อเปิดขึ้น มันมีไอเทมจำนวนหนึ่งถูกจัดวางเอาไว้ภายในกล่องดังกล่าว

 

=====

โพชั่นฟื้นฟูระดับกลาง จำนวน 3 ขวด

มันถูกผสมผสานด้วยสมุนไพรนับสิบชนิดด้วยกระบวนการพิเศษ และถูกหลอมขึ้นเป็นโพชั่นวิเศษระดับสูง จุดประสงค์หลักของมันมีเอาไว้เพื่อให้นักรบแนวหน้าได้ใช้ฟื้นฟูพลังจากการสู้รบได้โดยทันที

เมื่อใช้งาน พลังชีวิต 300 หน่วยจะได้รับการฟื้นฟูโดยทันที แต่มันจะไม่มีผลต่อโรคหรือพิษที่เป็นอยู่

=====

คุกกี้โภชนาการสูง จำนวน 10 ชิ้น

อาหารฉุกเฉินคุณภาพสูง มันถูกทำขึ้นจากวัตถุดิบมากโภชนาการที่หลากหลาย รสชาติอาจไม่ดีเท่าไหร่ มันมันมีประโยชน์และคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งว่ากินไปชิ้นเดียวก็สามารถทำให้ความอิ่มเติมเต็มได้

เพิ่มค่าความอิ่มและอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต 50% เป็นเวลา 1 นาที หากทานร่วมกับเครื่องดื่ม อัตราการฟื้นฟูพลังมานาจะเพิ่มขึ้นอีก 50% ทว่า ค่าความอิ่มและอัตราการฟื้นฟูในเงื่อนไขจะไม่สามารถใช้ในการต่อสู้ได้

=====

ลูกแก้วจดหมายเคลื่อนย้าย (ไอเทมอีเวนท์)

มันคือการขนส่งรูปแบบใหม่ที่ทางสมาคมเวทมนตร์สร้างความตื่นตะลึงและภาคภูมิ เมื่อใช้งานที่หอคอยส่งสารของสมาคมเวทมนตร์ ร่างกายจะแปรเปลี่ยนเป็นจดหมายและถูกส่งโดยการเคลื่อนย้ายมวลสารไปยังตัวรับที่หอคอยแห่งอื่น

ทว่า ในเมื่อมันยังเป็นศาสตร์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มันจึงมีข้อจำกัดมากมายและอาจสร้างภาระทางร่างกายให้กับผู้เล่นได้ โปรดศึกษาให้ดีก่อนใช้งาน

จุดพิกัดปัจจุบัน : แจ๊คสัน - กิรัน

จำนวนการใช้งาน : 1

=====

 

นักเวทคนเดิมได้กล่าวอธิบายเพิ่ม “หอคอยเวทมนตร์ที่แจ๊คสันยังไม่รองรับระบบนี้อย่างเต็มที่ ดังนั้นแล้วนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงต้องขึ้นเรือเหาะ ถ้าหากแจ๊คสันได้รับการปกป้องเอาไว้ และเมื่อหอคอยเวทมนตร์ได้รับการพัฒนาจนเต็มที่ ท่านจะสามารถใช้ลูกแก้วนี้เพื่อเคลื่อนที่เร็วกลับมายังกิรันได้”

ท้ายที่สุด นี่หมายความว่าถ้าหากภารกิจนี้เสร็จสิ้น พวกเขาก็ยังรับหน้าที่ในการส่งกลับมายังกิรันด้วย เพราะว่า ถ้าหากผู้เล่นเลเวลสูงนับร้อยคนไปเตร่ในพื้นที่เลเวลต่ำมันอาจสร้างปัญหาเรื่องความสมดุลของตัวเกมได้

“เรือเหาะกำลังจะมาถึงแล้ว!”

หลังจากที่อาร์คเก็บของเหล่านี้ เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นจากสุดปลายของลานกว้าง

ดวงตาของอาร์คเบิกกว้างขณะที่หันกลับไปมอง

ในพื้นที่เปิดกว้างอย่างท้องฟ้าสีคราม เรือเหาะที่สาดส่องประกายสีเงินได้ปรากฏขึ้น

“นั่นคือเรือเหาะที่ถูกสร้างขึ้นจากช่างฝีมือทั้งหลายของสมาคมเวทมนตร์ ซิลเวอร์แอร์โรว์ ด้วยความยาวถึงสองร้อยเมตร มันสามารถบินได้เร็วถึงสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ่งนี้ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ทั้งสี่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทมนตร์ มันเป็นเรือที่สามารถประจัญบานได้ทุกสภาพอากาศด้วยปืนใหญ่ด้านหน้าที่ชื่อว่า ‘หอกแห่งธอร์’ ซิลเวอร์แอร์โรว์นี้จะนำพาพวกท่านไปยังปราสาทแจ๊คสัน”

ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิ นักเวทคนนี้กำลังโอ้อวดความลับทางกองทัพของตนออกมา แต่ว่าชื่อที่นักเวทพล่ามออกมามันไปกระตุ้นให้อาร์คนึกถึงอีกอย่างเข้า

‘ฮินเดนเบิร์ก!’

ฮินเดนเบิร์กเป็นเรือเหาะขนาดใหญ่ยักษ์ของเยอรมันที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1900 แต่โชคร้ายที่มันหายไปเพราะการระเบิดระหว่างทดสอบการบิน นับได้ว่ามันคือเรือเหาะแห่งตำนานที่สามารถพบได้เห็นเพียงแค่ผ่านทางรูปถ่ายเก่าแก่ภายในอินเตอร์เน็ต

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากมาย... ไม่ว่ายังไงเรือเหาะลำนี้ก็มีพื้นฐานที่คล้ายคลึงกับฮินเดนเบิร์ก ด้วยรูปร่างที่มันใหญ่กว่าถึงสามหรือสี่เท่า ตัวบอลลูนที่อยู่เหนือขึ้นไปได้ถูกควบคุมโดยเครื่องยนต์ทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่าง

ทว่า มันก็แค่คล้ายกันเท่านั้น ความงดงามของซิลเวอร์แอร์โรว์นี้สวยงามกว่ามากนัก มันไม่อาจเทียบกับสิ่งที่หยาบกระด้างอย่างฮินเดนเบิร์กได้ ลวดลายที่สลักเอาไว้กับตัวซิลเวอร์แอร์โรว์ค่อนข้างซับซ้อน ลวดลายดังกล่าวเป็นสีทอง และรอบตัวของมันยังเต็มไปด้วยอาคมอันซับซ้อนที่มีท่อโลหะพาดไปมาจนน่าสงสัยว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร มันเหมือนกับงานศิลปะโลหะที่แปลกประหลาด แต่มันก็ช่วยขับความงดงามให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อเรือเหาะเทียบท่าที่ระเบียงด้านหนึ่ง พวกผู้เล่นก็เริ่มเดินขึ้นไป

“ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการศึกในครั้งนี้!” นักเวทส่งเสียงตะโกนออกมาดังก้อง

“เหล่าทหารอาสาสมัครทุกคนขึ้นมาหมดแล้วใช่หรือไม่?”

“ครับกัปตัน!”

“ดีล่ะ หันซิลเวอร์แอร์โรว์ไปสามสิบองศา จุดหมายปลายทางคือปราสาทแจ๊คสัน!” กัปตันที่มีหนวดสีขาวได้ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

ขณะเดียวกัน อากาศทั้งสองด้านของเรือเหาะก็เริ่มเคลื่อนตัวพร้อมกับตัวเรือเหาะที่กำลังเปลี่ยนทิศทาง จมูกของมันชี้ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปราสาทแจ๊คสัน!

“เร็วเข้า! กิลด์พ่อค้ากับนักรบส่งกองกำลังออกไปนานแล้ว ถ้าพวกเราไปถึงช้า ซิลเวอร์แอร์โรว์ลำนี้ได้กลายเป็นเรื่องชวนหัวเราะแน่ มุ่งไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง!”

ฮึม.... ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้นจากเครื่องยนต์เวทมนตร์ทั้งสี่ สมดังชื่อของมัน ตัวเรือเหาะเคลื่อนออกไปราวกับลูกศรที่หลุดจากคันธนู

“เหวอ!”

“นึกว่าจะตกลงไปแล้ว”

พวกผู้เล่นที่อยู่บนดาดฟ้าเรือเทไปกองกันอยู่ด้านหนึ่ง ถ้าหากอาร์คไม่ได้จับราวเอาไว้ บางทีเขาอาจหล่นลงไปกองดังเช่นพวกเขาที่เหลือก็เป็นได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า จับไว้ให้แน่นเจ้าพวกหน้าใหม่ ถ้าตกลงไปข้าไม่รับผิดชอบด้วยนะ” กัปตันส่งเสียงหัวเราะดังออกมาจากห้องเดินเรือ

* * *

 

‘นี่มันไม่แย่ไปหน่อยหรือไง?’

สายลมเย็นเยือกกำลังพัดผ่านเส้นผมของเขาไป

เรือเหาะลำนี้เดินเครื่องเต็มกำลังเพื่อข้ามผ่านทวีปอันกว้างใหญ่ด้วยความเร็วที่เหนือล้ำ ในตอนแรก เขาแทบตัวโยนกลับไปด้านหลังเพราะความเร็วที่มากถึงสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง!

มันก็ไม่ใช่ความเร็วที่มากมายจนต้องประทับใจอะไร แต่เรือเหาะมันไม่เหมือนกับการเดินทางด้วยเครื่องบินสมัยใหม่ที่สะดวกสบาย บางครั้งก็จะมีหินบ้าง กระแสลมบ้างที่พัดผ่านมาจนทำให้ดาดฟ้าเรือไม่อาจอยู่ได้อย่างสงบสุข

แต่มันก็มีอย่างหนึ่งที่เป็นจุดแข็งของมัน ด้วยสภาพที่สามารถมองจากด้านบนจากที่สูงทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอิสระอันกว้างใหญ่ได้

‘ผ่านภูเขาอากัสมาแล้ว’

เขาจ้องมองลงไป ภูเขาและพื้นที่ที่ผ่านไปแล้วมันราวกับเป็นภาพเร่งความเร็ววิดีโอราวสี่เท่า เพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบนาที มันก็บินข้ามผ่านภูเขาอากัสที่เขาต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานหลายวันไปได้

ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่เหนือท้องทุ่งที่กว้างใหญ่ ปราสาทแจ๊คสันปรากฏขึ้นที่สุดสายตา ขณะที่อาร์คกำลังครุ่นคิดอยู่ สภาพโดยรอบกลับเริ่มมืดลง

‘หือ? อะไรกัน? นี่ยังอีกนานเลยนี่กว่าจะมืดน่ะ?’

ในตอนแรก มันแค่เริ่มมืด ราวกับเป็นหมอก แต่แล้วสภาพรอบด้านกลับถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด เมื่อพวกเขามั่นใจแล้วว่ามันคือหมอกสีดำ ฉับพลันความรู้สึกที่หนักอึ้งจึงผุดขึ้น ราวกับว่าแรงโน้มถ่วงมันเพิ่มขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะสิ่งนี้จึงทำให้เรือเหาะที่มุ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดเริ่มสั่น

ขณะเดียวกัน ผู้เล่นทุกคนต่างก็ได้รับข้อความเช่นเดียวกัน

 

=====

เรือเหาะได้เข้าสู่พื้นที่ผันแปรที่เต็มไปด้วยหมอกแห่งความมืด มันถูกสร้างขึ้นด้วยพลังเวทมนตร์ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก!

ทุกผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะโดนจำกัดการมองเห็น และค่าสถานะจะลดลง 10% ทว่า ผู้เล่นที่มีธาตุความมืดจะได้ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

=====

 

“นี่มันอะไรกัน?”

“หมอกความมืด? บ้าจริง ค่าสถานะลดลง 10% เลยเหรอ?”

ผู้คนที่เร่งร้อนตรวจสอบค่าสถานะของตนถึงกับพ่นคำสาปแช่งออกมา

อาร์คก็ตรวจสอบค่าสถานะของตน ต้องขอบคุณที่ผลกระทบเหล่านี้ไม่มีผลอะไรกับเขา เป็นเพราะเขาสังกัดธาตุความมืด อีกทั้งค่าสถานะยังจะเพิ่มขึ้นจากโบนัสที่ได้รับเพราะอยู่ในความมืดอีกด้วย

ด้วยค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น 20% จากอาชีพ รวมทั้งอีก 10% จากของขวัญแห่งความมืดที่ได้เรียนมาจากกิรัน รวมเข้ากับพวกผู้เล่นที่โดนลดค่าสถานะไปถึง 10% ทำให้ค่าสถานะของอาร์คในตอนนี้เหนือล้ำกว่าพวกเขาถึง 40%!

‘แค่เริ่มก็ดูดีแล้ว หมอกความมืดนี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสมาคมเวทมนตร์ถึงเรียกพวกมันว่ากองทัพแห่งความมืดสินะ? ถ้าเป็นงั้น นี่ก็หมายความว่าระหว่างภารกิจนี้เราสามารถได้รับโบนัสตลอดเวลาเลย? เหอะเหอะเหอะ เหมือนคิดถูกนะเนี่ยที่ตัดสินใจเลือกเล่นอาชีพผู้เดินทางแห่งความมืดเนี่ย’

อาร์คกำลังปลื้มอกปลื้มใจอยู่กับความเหนือกว่า แต่แล้วขณะที่อาร์คยกยิ้มอยู่นั้น สภาพรอบด้านกลับกลายเป็นเคร่งเครียด ขณะที่หมอกมืดยังคงปกคลุมอยู่ พวกลูกเรือต่างก็วุ่นวายแทบตาย

“กัปตันครับ พวกเรากำลังสูญเสียกำลังเดินเครื่องไป!”

“อย่าแตกตื่น น่าจะเป็นกำลังเสริมของศัตรูที่เข้ามาชะลอพวกเรา เหอะ น่าขันนักที่คิดจะหยุดซิลเวอร์แอร์โรว์ลำนี้ด้วยหมอกระดับนี้ ทุกคนเตรียมประจำสถานีรบ!”

“ครับ เตรียมซิลเวอร์แอร์โรว์เข้าสู่สภาพพร้อมรบ เตรียมใช้งานหอกแห่งธอร์”

ด้วยเสียงโลหะกระทบกันที่ดังก้อง ตำแหน่งกระบอกปืนทั่วทั้งเรือเหาะได้เปิดออก กระบอกปืนหลายสิบได้โผล่ขึ้นจากทั้งสองฟาก แต่สิ่งที่ต้องตาอาร์คมากที่สุดย่อมเป็นกระบอกปืนขนาดยักษ์ที่ออกมาจากส่วนหน้าของลำเรือ

มันถูกสร้างขึ้นจากโลหะสีเงิน รูปร่างของปืนมันคล้ายกับตรีศูล!

นี่คงเป็นสิ่งที่เอ็นพีซีของสมาคมเวทมนตร์กล่าวถึงอย่างภาคภูมิ อาวุธหลักของซิลเวอร์แอร์โรว์ หอกแห่งธอร์

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด