ตอนที่แล้วTWO Chapter 229 การยึดครอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 231 การกวาดล้างสันเขาเอ้อซี ตอนที่ 1

TWO Chapter 230 พายุ


TWO Chapter 230 พายุ

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 9 วันที่ 15 กองพันทหารเรือที่ 1 แห่งเป่ยไห่ ได้ล่องเรือมาถึงทะเลสาบสีหลา

ณ เมืองเทียนเฟิง, ห้องโถงประชุม

โอหยางโชวได้เรียกประชุมบรรดาข้าราชการพลเรือนและนายทหาร แล้วแต่งตั้งให้เจ้าเต๋อหวังเป็นผู้ปกครองเมือง เขายังได้แต่งตั้งเจ้ากรมกิจการภายใน, เจ้ากรมการเงิน และเจ้ากรมคลังวัสดุด้วย

กองพันทหารเรือที่ 1 ถูกแยกออกจากต้นสังกัดเดิม แล้วกลายเป็นกองพันทหารเรือสีหลา ภายใต้การควบคุมของเมืองเทียนเฟิง สำหรับตำแหน่งนายพัน โจวเฟิงยังคงได้ครองตำแหน่งเดิมในกองพันของเขา

จากการแนะนำของเจ้ากรมกิจการทหาร ผูจีเตา มีค่ายโจรสลัดอยู่ภายในทะเลสาบสีหลา

ดังนั้น ภารกิจแรกของพวกเขาก็คือ การกวาดล้างค่ายโจรสลัดทั้งหมดออกจากทะเลสาบ ทะเลสาบสีหลากว้างใหญ่มาก และเหล่าโจรสลัดก็คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะจัดการพวกเขา

งานแรกของเจ้าเต๋อหวัง หลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองเมืองเทียนเฟิงก็คือ การสร้างท่าเรือทหารเรือ และอู่ต่อเรือ นอกจากนี้ ยังมีงานหลักในการสร้างถนนจากเมืองเทียนเฟิงไปยังเมืองซานไห่อีกด้วย โอหยางโชวยังได้ตั้งชื่อถนนเส้นนี้ว่า ‘ถนนเทียนไห่’ อีกด้วย

ถนนเทียนไห่ที่จะถูกสร้างขึ้นนี้ จะมีความยาวถึง 300 กิโลเมตร มันเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ใช่เงินทุกจำนวนมหาศาล และจะใช้เวลามากที่สุดในบรรดาโครงการทั้งหมดที่เมืองซานไห่ทำจนถึงตอนนี้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการก่อสร้าง ทั้ง 2 เมืองจะเริ่มก่อสร้างพร้อมๆกัน จากนั้น พวกเขาก็จะมาบรรจบกันที่กลางทาง

ถนนส่วนใหญ่จะอยู่ด้านนอกเขตแดน ซึ่งเป็นเขตทุรกันดาร ที่มีทั้งสัตว์ร้ายและพวกโจร ดังนั้น กองกำลังจะต้องปกป้องคนงานตลอดโครงการก่อสร้างนี้

ปฏิบัติการการกวาดล้างค่ายโจรของกองพันป้องกันเมืองเทียนเฟิงยังช่วยให้การสร้างถนนเทียนไห่สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

การสร้างถนนสายนี้มีความหมายทางยุทธศาสตร์ ขณะที่พวกเขาสร้างสถานีรีเลย์ และติดตั้งธงของลอร์ดแห่งเมืองซานไห่ตามถนนไปพร้อมกัน มันจะช่วยพวกเขาเสริมพลังอำนาจและเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับเมืองซานไห่ ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแอ่งเหลียนโจวนี้

เมืองเทียนเฟิง, เมืองหยงเย่ และเมืองกวงซุ่ยตั้งเป็นรู้สามเหลี่ยม เมื่อพวกเขาเชื่อมต่อกับถนนเทียนไห่ มันก็คงจะเพียงพอที่เขาจะควบคุมพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกทั้งหมดแล้ว แม้ว่าดินแดนอื่นๆจะขอกำลังเสริมจากภายนอก เมืองซานไห่ก็มีเวลามากพอที่จะตอบโต้ และส่งกองกำลังไปปกป้องเมืองหรือแม้แต่ทำลายศัตรู

หลังจากที่พวกเขายึดครองดินแดนที่สำคัญที่สุดทั้ง 3 แห่ง ของพื้นที่ฝั่งตะวันตกได้แล้ว โอหยางโชวก็เริ่มอ่อนโยนกับดินแดนอื่นๆ สำหรับนโยบายที่แน่ชัด เขาจะกลับไปที่เมืองซานไห่ก่อน แล้วค่อยกำหนดพวกมัน

หลังจากที่โอหยางโชวพูดคุยกับเจ้าเต๋อหวังแล้ว เขาก็เดินทางกลับเมืองซานไห่ในช่วงบ่าย ระหว่างทาง เขายังได้นำกองพันทหารองครักษ์ไปที่เมืองหยงเย่และเมืองกวงซุ่ย เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ในปัจจุบันของเมืองเหล่านั้น

เมืองซานไห่ได้ส่งข้าราชการไปดูแล และเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของเมืองหยงเย่และเมืองกวงซุ่ย ที่เป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 แล้ว พวกเขายังได้สร้างกองพันป้องกันเมือง เปิดสาขาของธนาคาร 4 สมุทร และกำหนดนโยบายต่างๆให้กับพวกเขา

ด้านหลังของเมืองหยงเย่ติดกับป่าหยงเย่ โอหยางโชวจึงเรียกมันว่าเมืองแห่งป่าไม้ ส่วนเมืองกวงซุ่ยและเมืองยี่ซุ่ยอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะเตรียมพื้นที่เพราะปลูกที่อุดมสมบูรณ์ พวกเขาจึงถูกมองว่าเป็นเมืองเกษตรกรรม ด้านหลังของเมืองกู่ซานเป็นภูเขา โอหยางโชวจึงคิดจะใช้ที่นั่นตั้งเป็นนิคมคนเถื่อนภูเขาแห่งที่ 2

…………………………………………………………………………..

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 9 วันที่ 18 ในช่วงบ่าย

โอหยางโชวนำกองพันทหารองครักษ์ของเขากลับมาถึงเมืองซานไห่

เมื่อเขากลับมาถึง เขาก็รีบตรงไปที่ตลาดเพื่อตรวจสอบราคาของธัญพืชในทันที

ในตลาด ราคาธัญพืชได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ตอนนี้มันมีราคาถึง 20 เหรียญทองแดง/หน่วย ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าจากราคาปกติ เนื่องจากราคาธัญพืชยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นลอร์ดบางคนจึงรีบใช้เงินทั้งหมดของพวกเขาซื้อธัญพืช บางคนมองการไกล พวกเขาได้ขายไม้และทรัพยากรอื่นๆ เพื่อรวบรวมเงินในการซื้อธัญพืชให้ได้มากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีธัญพืชอย่างเพียงพอจนถึงฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนที่ 11

การสู้รบที่เกิดขึ้นยิ่งเร่งให้ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้ ราคาธัญพืชได้สูงทะลุฟ้าแล้ว

ผู้ขายธัญพืชหลักๆแล้วก็คือ หอการค้าต่างๆที่อยู่ในเมืองหลวงของระบบ พวกเขาได้รับซื้อธัญพืชจากเกษตรกรอบๆชานเมืองของเมืองหลวง แต่ก็ใช่ว่าจำนวนของธัญพืชนั้นจะไม่มีขีดจำกัด

เมืองหลวงแต่ละแห่งมีผู้เล่นนับล้านอาศัยอยู่ และการปรากฎตัวของพวกเขา ยังทำให้เกิดความตึงตัวที่สำคัญต่ออุปทานของธัญพืช พ่อข้าทุกคนฉลาด เมื่อราคาเริ่มเพิ่มสูงขึ้น พวกเขาก็เริ่มที่จะสะสมธัญพืช เพื่อขายทำกำไรในภายหลัง

ดังนั้น สถานการณ์จึงค่อยๆเลวร้ายลงเรื่อยๆ ทุกคนเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้

ในพายุนี้ เมืองซานไห่ยังคงรู้สึกได้ถึงผลค้างเคียง สาขาต่างๆของธนาคาร 4 สมุทรมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น และเงินทุนสำรองของพวกเขาก็เริ่มลดลง

โอหยางโชวตัดสินใจเก็บเกี่ยวผลกำไรทั้งหมดของครึ่งเดือนที่ 9 เพื่อแจกจ่ายพวกมันให้ธนาคาร 4 สมุทธสาขาต่างๆ โดยสาขาเมืองมู่หลาน, เมืองสิงโตทมิฬ และเมืองเทียนซวง จะได้รับสาขาละ 2,000 เหรียญทอง ขณะที่สาขาเมืองซุ่นหลงและเมืองหงส์สาบสูญจะได้รับสาขาละ 3,000 เหรียญทอง

เงินจำนวนเท่านี้ เพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้กับดินแดนเหล่านั้นได้ชั่วคราวเท่านั้น ลอร์ดจะต้องรับความเสี่ยง และเริ่มออกไปกวาดล้างค่ายโจร เพื่อหารายได้เข้าสู่ดินแดน

อย่างไรก็ตาม การกวาดล้างค่ายโจรก็มีขีดจำกัด ซึ่งมันทำให้พวกเขาเกิดปัญหาขึ้น พวกเขาแตกต่างจากเมืองซานไห่ ที่ได้กวาดล้างค่ายโจรทันทีที่ดินแดนถูกอัพเกรด

ขณะที่โอหยางโชวไม่อยู่ ค่ายทิศตะวันออกได้รับเงินจากปฏิบัติการการกวาดล้างค่ายโจรถึง 4,200 เหรียญทอง หลังจากหยุดปฏิบัติการชั่วคราว เนื่องจากการโจมตีของกองกำลังพันธมิตรในก่อนหน้านี้ จากปฏิบัติการกวาดทั้งทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก รวมกับการกวาดล้างดินแดนอื่นๆด้วยแล้ว มีเชลยมากถึง 15,200 คน ที่ถูกส่งมายังเมืองซานไห่

ในระหว่างนั้น ผู้เล่นอาชีพสายการทำงานก็ถูกส่งเข้ามาในเมืองซานไห่ กิลด์ลั้วเยว่มีสมาชิกถึง 1,000 คน ซึ่งเป็นขีดจำกัดของมันแล้ว น่าเสียดายที่พวกเขายังคงอยู่ห่างไกลจากการอัพเกรด

นอกจากนี้ ผู้อาวุโสซุนยังได้ติดต่อกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ และเชิญพวกเขามาอยู่อาศัยที่เมืองซานไห่ จนถึงตอนนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้ขยายมาถึง 45 คนแล้ว และยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบสงคราม-หิมะ ได้ขายอุปกรณ์ที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดที่โอหยางโชวได้มอบให้กับพวกเขา ด้วยเหตุนี้ กลุ่มทหารรับจ้างจึงเริ่มตั้งสำนักงานของเมืองซานไห่ในเมืองหลวงต่างๆของระบบได้

เมื่อพวกเขาเริ่มต้นทำงาน พวกเขาจะเห็นได้ว่ามีผู้คนมากเพียงใด ที่ต้องการจะมาอยู่อาศัยในเมืองซานไห่ของพวกเขา

พวกเขายังได้เริ่มต้นการฟื้นฟูกรมหทารที่ 1 โดยเลือกทหารใหม่ของกองพันที่ 3, 4 และ 5 จากเชลย สำหรับกองพันที่ 1 และ 2 พวกเขายังคงต้องใช้นักรบคนเถื่อนภูเขาชั้นสูง การรับสมัครขนาดใหญ่ 2 ครั้ง เกือบทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเผ่าคนเถื่อนภูเขาแทบจะไม่เหลือ

จากแผนการ เขาได้ผลักดันสัญญาของเมืองซานไห่ ที่ว่าจะทำลายฐานที่มั่นของโจรภูเขา ซึ่งมันได้ผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว

เพื่อให้เผ่าคนเถื่อนภูเขาไว้ใจและเข้าใจพวกเขา เจ้ากรมกิจการภายใน เทียนเหวินจิง ได้เพิ่มความช่วยเหลือทางธัญพืชให้กับเผ่าเหล่านั้นอีกครั้ง

เมื่อโอหยางโชวกลับมา เขาก็เตรียมที่จะปฏิบัติการจัดการกับฐานที่มั่นของโจรภูเขาทันที เขาตั้งชื่อให้มันว่า ปฏิบัติการบ๊อบแคท

เนื่องจากมันเป็นสงครามในป่า นอกเหนือจากกองพันทหารองครักษ์และกองพันเครื่องกลพระเจ้าแล้ว ยังมีอีก 8 กองพัน  ที่จะเข้าร่วมการสู้รบนี้ ซึ่งทั้ง 8 กองพันนี้ จะมาจากกรมทหารที่ 1 และ 2

รองหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองเล้งเฉียน ได้นำกลุ่มสายลับไปตรวจสอบสถานการณ์ต่างๆรอบๆฐานที่มั่น ซึ่งพวกเขาพบว่า มันยากที่จะโจมตี มากกว่าที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้เสียอีก

ฐานที่มั่นตั้งอยู่ที่สันเขาเอ้อซี ซึ่งเป็นจุดที่ง่ายต่อการป้องกันและยากที่จะโจมตี ในฐานที่มั่นมีประชากรมากถึง 14,000 คน และเป็นโจรภูเขาถึง 8,000 คน ในหมู่พวกเขา ยังมีโจรภูเขาชั้นสูงอีกจำนวนมาก

มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่ตรงเข้าไปสู่ฐานที่มั่น มันถูกสร้างขึ้นโดยพวกโจรภูเขา การโจมตีผ่านทางนี้จึงมีความยากเทียบได้กับการปีนขึ้นไปบนสวรรค์

“ไม่มีวิธีอื่นๆแล้วจริงหรือ?” โอหยางโชวถามอย่างไม่เต็มใจ

เล้งเฉียนส่ายหัว แล้วกล่าวว่า “ด้านหลังของฐานที่มั่นเป็นหน้าผา การโจมตีจากทางด้านหลังจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่ว่า...”

“เว้นแต่ว่าอะไร?”

“หน้าผาสูงจากพื้นดิน 1,000 เมตร และมียอดเขาสูงอยู่ใกล้ๆ ซึ่งมันค่อนข้างง่ายต่อการปีนขึ้นไป ปัญหาก็คือ หลังจากปีนขึ้นไปถึงระยะ 1,000 เมตรได้แล้ว แม้ว่าเราจะใช้เชือกโรยตัว มันก็ยากที่เราจะยึดเกาะหน้าผาได้” เล้งเฉียนมองในแง่ร้าย

มีไอเดียหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัวของโอหยางโชวทันที และเขาก็กล่าวออกไปว่า “ข้ามีวิธีแก้ปัญหานี้แล้ว” โอหยางโชวคิดถึงเซว่เอ๋อ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงอัจฉริยะ แม้ว่าเธอจะเพียงสัตว์เลี้ยงเครื่องประดับในเกมส์ แต่เธอก็ยังแข็งแรงและสามารถบินได้ ดังนั้น เธอจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการนำเชือกไปผูกที่อีกดานหนึ่งของเหว

“อ๊า?” แม้ว่าเขาจะรู้ว่าโอหยางจะไม่โกหก แต่คำกล่าวของลอร์ดของเขาก็ทำให้เล้งเฉียนตกใจ

โอหยางโชวโบกมือให้เขาออกไป แล้วกล่าวว่า “ฝ่ายข่าวกรองรีบไปสำรวจภูเขา และหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด กองกำลังของเราจะเริ่มเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้”

“ขอรับท่านลอร์ด!”

หลังจากเล้งเฉียนออกไป โอหยางโชวก็สั่งให้เจ้ากรมกิจการทหาร เก่อหงเหลียง ไปบอกให้ฝ่ายโลจีสติกส์ทางทหาร เตรียมเชือกโรยตัว, น้ำมัน และทรัพยากรเบ็ดเตล็ดอื่นไว้ให้เพียงพอ เพื่อให้มั่นใจว่า ปฏิบัติการบ๊อบแคทจะราบรื่น

ในขณะเดียวกัน เพื่อป้องกันความสูญเสียและการบาดเจ็บล้มตาย โอหยางโชวได้สั่งให้ตั้งกองพันทหารโล่กระบี่ 2 กองพัน และกองพันทหารธนูอีก 1 กองพัน จากทหารสำรอง เพื่อเข้าร่วมในการโจมตีครั้งนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงมีทหารทั้งสิ้น 6,500 นาย ที่เข้าร่วมการโจมตีสันเขาเอ้อซี มันกลายเป็นปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดของดินแดนจนถึงตอนนี้

กว่าพวกเขาจะพูดคุยรายละเอียดกันเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 17.30 น. แล้ว เขาเพิ่งได้กลับมาถึงคฤหาสน์ของลอร์ด และตอนนี้ เขายังจะออกไปหลังจากที่ได้รับแสงแรกของวันรุ่งขึ้นอีก เนื่องจากปฏิบัติการบ๊อบแคทจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและไม่สงบในช่วงนี้

ขณะที่เขากำลังทานอาหารค่ำ โอหยางโชวก็มองไปที่เซว่เอ๋อ ที่นั่งอยู่บนไหล่ของปิงเอ๋อ แล้วกล่าวว่า “เซว่เอ๋อ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่น ตกลงหรือไม่?”

ดวงตาของเธอเปล่งประกาย และเธอบินมารอบๆโอหยางโชว แล้วกล่าวว่า “ออกไปเดินเล่น ออกไปเดินเล่น ลาล๊าลาลา...”

ดวงตาของปิงเอ๋อเปล่งประกาย “พี่ชาย ปิงเอ๋อสามารถไปด้วยได้หรือไม่?”

โอหยางโชวส่ายหัว “ไม่ พรุ่งนี้เจ้าต้องไปโรงเรียน”

ปิงเอ๋อคอตก เธอโกรธ และใช้ตะเกียบของตัวเองคนข้าวในชามของเธอ ขณะที่เธอบ่นออกมา “พี่ชายนิสัยไม่ดี พี่ชายนิสัยไม่ดี ลำเอียง...”

โอหยางโชวหัวเราะ เขารู้ว่าเขาต้องอธิบาย “พรุ่งนี้พี่ชายต้องไปทำบางอย่างที่สำคัญ ดังนั้น มันไม่ใช่การเล่น”

“จริงหรือ?” ปิงเอ๋อไม่เชื่อ

โอหยางโชวจ้องเธอ “ตั้งแต่ตอนไหนกันที่ข้าเคยโกหกเจ้า!”

“โอเค ปิงเอ๋อจะให้อภัยพี่ชาย” อารมณ์ของเด็กน้อยคนนี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด