ตอนที่แล้วบทที่ 8 ผู้กล้ากับเจ้าหญิง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 ผู้กล้ากับอันธพาล

บทที่ 9 ผู้กล้ากับเจ้าหญิง (2)


 

บทที่ 9 ผู้กล้ากับเจ้าหญิง (2)

 

จากก้นบึ้งของหัวใจ ผมรู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริง ผมถอนหายใจแรงๆตั้งหลายครั้ง

 

แต่ก่อนนั้น ผมเป็นคนไร้เดียงสา และถูกหลอกง่าย มันช่างน่าเศร้าและหดหู่มาก

 

ผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอย่างนั้นเลย แต่ถ้าให้ผมมานั่งคุกเข่าร้องไห้ อ้อนวอนขอเธอให้เมตตา ให้อภัยผม เจ้าหญิงนี่ก็คงช่วยอะไรผมไม่ได้หร๊อก เธอก็แค่อยากยืนยันว่าเธอนั้นเหนือกว่าผม เธออยากเห็นผมในสภาพที่น่าอดสูและเวทนา หลังจากที่เธอใช้ผมจนสมใจอยาก ผมมองเธอออกทันที ภายในตัวเธอเต็มไปด้วยจิตสังหาร ท้ายที่สุด เธอก็จะทรมานผมด้วยสารพัดวิธี

 

ให้เล่นบทเป็นผู้กล้าเหมือนตัวผมก่อนหน้านี้น่ะเหรอ ผู้ที่มีพลังสุดยอดเหนือมนุษย์ แล้วดันมาถูกยัยเจ้าหญิงนี่หลอกในภายหลัง

 

ความเจ็บปวดเพียงแค่นี้ มิอาจดับกระหายความอยากในการแก้แค้นของผมได้

 

แม้เธอคิดที่จะใช้ผม ต่อให้ผมลงมือฆ่าเธอในตอนสุดท้าย ผมก็คงไม่พอใจอะไรแบบนี้ง่ายๆ ในกรณีนั้น มันไม่ได้ดีเลยสักนิดเดียว

 

เธอยังคงมีค่าพอให้ใช้ทำอะไรได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าผมไม่ฆ่าไอ้คนพวกนี้ หลังจากที่พวกมันดูถูกเหยียดหยามผม และก็ยังมีไอ้พวกที่ต้องการคอยเหยียบย่ำผมด้วย ความปรารถนาของผมในการแก้แค้นคงไม่มีวันพอใจเป็นแน่ ดังนั้นแล้วผมจะจัดการพวกมันด้วยมือของผมเอง

 

ยังมีศัตรูอีกเป็นจำนวนมากที่ผมต้องล้างแค้น เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายด้วยความอิ่มเอมใจไปกับการแก้แค้น มันคงต้องใช้ทั้งแรงกายและเวลาของคนๆนึงอีกมากเลยทีเดียว

 

(หืม มันก็ไม่เลวนะ ผมสามารถสนุกไปกับการแก้แค้นในครั้งนี้ตราบนานเท่านาน!!)

 

เมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้น มุมปากของผมถึงกับกระตุกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

「อะ- ปฏิกิริยานั่นมันอะไร! ถ้าแกคิดว่าฉันโกหกเรื่องอัศวิน…」

 

「เหอ เหอ ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องโกหกหรอก การอัญเชิญผู้กล้าเป็นความลับ มันต้องถูกเก็บเอาไว้ ห้ามมีการแพร่งพรายออกไป มันเลยจำเป็นต้องมีการติดตั้งบาเรียเก็บเสียง บาเรียเวทย์มนต์ และก็บาเรียกายภาพ จนกว่าการอัญเชิญผู้กล้าจะสำเร็จ จะไม่มีอัศวินหน้าไหนเข้ามาที่นี่หรอกนะ」

 

「ทำไมแกถึงได้รู้เรื่องนี้?!」

 

「มันเป็นเพราะฉันเคยได้ยินมันมาก่อนน่ะ~…………」

 

ในขณะที่ยัยเจ้าหญิงทำหน้าโง่ จ้องมองด้วยอาการตกใจ ผมก็นึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องราวที่ผมได้ยินในการอัญเชิญครั้งแรก

 

「อือหื้อ โอ้ช่าย ฉันจะไปแล้วนะ」

 

เชิงเทียนที่อยู่ตรงเสาในพิธีอัญเชิญ ผมโยกมันลงมา

 

จากนั้น ทางเดินหินก็ค่อยๆขยับและเปิดออก ซึ่งปรากฏให้เห็นบันไดที่นำไปสู่เส้นทางใต้ดิน

 

「มะ-ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับทางลับใต้ดินยกเว้นผู้ที่สืบเชื้อสายโดยตรงของราชวงศ์ และทำไม!!?」

 

「ก็บอกแล้วไง ว่าฉันเคยได้ยินมาก่อน ไม่สิ ฉันจำได้น่ะว่ามีคนบอกฉัน~.」

 

เพื่อที่จะหลอกผม เจ้าหญิงอะลีเซียได้เตรียมเวทย์มนต์เคลื่อนย้ายข้างใต้แท่นอัญเชิญ ซึ่งมันถูกใช้กักขังผม เจ้าหญิงอะลีเซียเป็นคนบอกผมเองเกี่ยวกับทางลับนี้

 

「โอ้ะ อันตราย อันตราย ฉันเกือบลืมไปแน่ะ ว่าสถานที่แห่งนี้ มันอันตราย」

 

บางที อาจจะเป็นเพราะว่าผมค่อนข้างพอใจนิดหน่อยกับการโหมโรงแห่งความแค้นของผม จนผมเกือบลืมเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้

 

เมื่อผมกำลังจะเดินเข้าไป อัศวินที่อยู่แถวนั้น ก็ร้องโอดโอยขึ้นมา พร้อมกับกลิ้งมายังทางนี้ เหมือนก้อนวัตถุอะไรสักอย่างบนพื้น

 

「ตอนแรกฉันกะจะขยี้พวกแกด้วยมือเปล่า  พอมาคิดดูอีกที มีบางคนสอนฉันเกี่ยวกับวิธีการอันมีค่าในการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม ด้วยการกะซวกคอที่มุมนี้ สงสัยจังว่าฉันจะทำได้มั้ย? ถึงแม้ว่าการใช้มานาของฉันยังไม่ค่อยโอเคนัก ถ้ามันเป็นแค่การใช้ 【ดาบขาแมงมุมเพลิง】… ฉันก็น่าจะทำได้นะ~」

 

พูดไปแล้วก็ ลงมือเลยดีกว่า ผมสร้างบอลเพลิงขนาดเท่าลูกปิงปองเอาไว้ที่ปลายดาบ จากนั้นก็ยัดมันเข้าไปในปากของอัศวินและทำให้มันระเบิดออก

 

「¢£%#&□△◆■!?」

 

เพราะว่าไม่มีความจำเป็นที่จะปล่อยให้เขาตาย พลังก็เลยถูกจำกัดเอาไว้ในวงแคบ แต่ไม่มีเสียงกรีดร้องออกมาจากอัศวินคนนั้น ในเมื่อปากและลำคอของเขาถูกเผาโดยตรงด้วยเปลวเพลิง

 

「โอ๊ะโอ มันสวยมาก~」

 

แล้วผมก็ค่อยใช้วิธีนี้กับอัศวินคนอื่นๆ วิธีการเหมือนกันเด๊ะ ค่อยๆทำทีละคน ทีละคน จนพวกมันไม่สามารถร้องโอดครวญได้อีก

 

「สุดท้าย เธอ อะลีเซีย ในเมื่อมันคงใช้เวลาอีกสักพักจนกว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง เธอมีอะไรอยากจะพูดมั้ย?」

 

「………….., ชื่อของแก บอกชื่อของแกมาซะ」

 

「ม่าย~อ่ะ หลังจากนี้ มันไม่มีเหตุผลที่ต้องปิดบังชื่อของฉัน ในเมื่อชื่อของฉันมันเขียน…. อยู่ในจดหมาย」

 

ตู้ม~ บอลเพลิงถูกยัดเข้าไปในปากของเจ้าหญิง

 

「เรียกฉันว่า ศัตรูคู่อาฆาตที่ฟื้นมาจากความตาย」

 

「มู๊ หู้ อื้ม~~~~!!」

 

ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดสักเท่าไหร่ เจ้าหญิงอะลีเซียก็ไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็นเลย เธออดทนต่อความเจ็บปวดรวดร้าว จนเธอแทบคลั่ง โดยที่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้เลยสักแอะ

 

นิ้วมือทั้งหมดถูกตัดทิ้งและไม่สามารถใช้การได้ ส่วนคอคงจะไม่สามารถฟื้นฟูได้อีกสักพัก และมันน่าจะพอช่วยซื้อเวลาได้บ้าง

 

「อ้า~ และต่อจากนี้ ฉันจะรับไอ้นี่ไปละกัน จะได้เอาไปใช้เป็นทุนในการแก้แค้นของฉัน」

 

ผมกระชากสร้อยคอที่แขวนอยู่บนคอของเจ้าหญิง ถ้าผมจำไม่ผิด เจ้าสิ่งนี้เชื่อมต่อกับราชวงศ์ที่เด่นที่สุด ผมคงไม่สร้างปัญหาด้วยการเอาเจ้านี่ไปแลกเป็นเงินแน่นอน

 

เจ้าหญิงอะลีเซียยังคงเขม็งตามาทางนี้ การทรมานเหยื่อเป็นที่น่าพอใจ

 

สุดท้าย รอยยิ้มอันแสนหวานของผมก็ค่อยปรากฏบนใบหน้า ผมเดินลงไปตามเส้นทางใต้ดินคนเดียว โดยที่ยังชำเลืองมองกลับไปบ้าง ฮ้า ความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้ มันช่างยอดเยี่ยมที่สุด

 

ในขณะที่ผมย่างเท้าเข้าไปในเส้นทางใต้ดิน ผมเพิ่มนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ และหัวของผมก็เริ่มรู้สึกเย็นในทันใด

ผลลัพธ์ที่ได้ มันทำให้ผมรู้สึกคันๆ ตงิดๆ ที่แผลเก่า ซึ่งมันได้ถูกเปิดออกแล้ว

 

ผมเผลอถอนหายใจ แล้วหลุดออกมาเป็นคำพูด

 

「ฉันน่าจะคิดชื่อที่มันดีกว่านี้ ไม่น่าเร้ย….. คึ- อ้า เชี้ยอะไรเนี่ย ศัตรูคู่อาฆาตที่ฟื้นมาจากความตาย !! ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่ในแบบที่ฉันต้องการ!!」

 

ผมดันไปรื้อฟื้นแผลเก่าด้วยชื่อที่เห่ยมาก และผมก็มาถึงทางออก ผมต้องอดทนต่อการตอบสนองของร่างกายที่อยากจะลบล้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานนี้ ให้มันหายไปซะที

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด