ตอนที่แล้วเล่ม 2 ตอนที่ 8 : กิรัน สมรภูมิการค้า (1) [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 2 ตอนที่ 8 : กิรัน สมรภูมิการค้า (3) [อ่านฟรี]

เล่ม 2 ตอนที่ 8 : กิรัน สมรภูมิการค้า (2) [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

==========

เล่ม 2 ตอนที่ 8 : กิรัน สมรภูมิการค้า (2)

กิรันเป็นเมืองที่ใหญ่ยิ่งกว่าทุกเมืองที่เขาเคยไปมา

ทั้งเมืองถูกป้องกันเอาไว้ด้วยกำแพงหนาและใหญ่ กิรันถูกแบ่งตรงกลางด้วยคลอง อีกทั้งยังมีหลายเขตภายในเมือง ทั้งเขตการค้า การผลิต และเวทมนตร์ แต่ละพื้นที่ต่างก็ใหญ่เสียยิ่งกว่าปราสาทแจ๊คสัน

ไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงกิรัน ซิดเร่งร้อนมุ่งไปยังสถานที่สำหรับทำการค้า

“อา โชคดีจังที่ราคาผ้าไหมยังไม่ตก”

หลังผ่านไปนาน ซิดจึงค่อยออกมาด้วยสีหน้าเบิกบาน “ด้วยการขายผ้าไหม สิ่งของของอาร์คนิม แล้วก็ไข่มุก ทั้งหมดทำให้เลเวลผมเพิ่มขึ้นอีกตั้ง 5 ระดับแน่ะครับ ทักษะการซื้อขายเครื่องประดับกับสิ่งทอทั้งสองก็ได้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีก 40 อีกทั้งยังได้ส่วนแบ่งการตลาดของผ้าไหมมาอีก 2% ทั้งหมดทั้งมวลแล้วการค้าครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเลยครับ”

“ยินดีด้วย” การกล่าวชมนับเป็นบริการฟรี อาร์คที่พอนึกถึงจำนวนเงินที่จะได้จากซิดแล้วจึงค่อยรู้สึกดีขึ้นเยอะ “งั้นก็ถึงเวลาแบ่งเงินกันแล้วสินะ?”

“ครับ ใช่ แน่นอนครับ” ซิดยิ้มขื่นขณะพยักหน้า

สำหรับสิ่งของในกระเป๋าของอาร์คและที่ฝากซิดเก็บเอาไว้รวมแล้วทั้งสิ้น 50 เหรียญทอง ตามมาด้วยไข่มุกทั้งสิ้น 800 เม็ดที่มีราคาสูงกว่าที่คาดเอาไว้อีก 15% ทั้งหมดรวมแล้วได้ 418 เหรียญทอง! จำนวนเท่านี้มันเยอะเสียยิ่งกว่าการที่ซิดต้องวิ่งเต้นไปทั่วทั้งอาณาจักรราวคนบ้าเพื่อทำการค้าเสียอีก นอกจากนี้ อาร์คยังได้รับมาโดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไร ทำให้กว่า 90% ล้วนแล้วเป็นกำไร

เงินที่เขาได้รับมามากกว่าครึ่งของกระเป๋าเงินนั่น ทว่าอาร์คยังคงมองกระเป๋าเงินของซิดด้วยดวงตาโลภ เขาเงียบเป็นการกดดันว่าให้จ่ายค่าคุ้มครองที่สัญญาเอาไว้และรางวัลมาเสียโดยดี

“นี่ครับ 25 เหรียญทองที่ผมสัญญาเอาไว้ตามหนังสือสัญญาของพวกลีโอ และนี่อีก 15 เหรียญทองเป็นโบนัสครับ” ซิดส่งมอบเงินเหล่านั้นออกมาราวกับจะร้องไห้เสียให้ได้

อาร์คเร่งร้อนรับเอาไว้และเก็บมันไป จากนั้นจึงค่อยหัวเราะออก “ขอบใจมาก งั้นไว้เจอกันครั้งหน้านะ”

“ครับ ผมคงอยู่ที่กิรันอีกสักพักหนึ่ง ถ้าต้องการพบเจอก็สามารถติดต่อมาได้ครับ”

อาร์คก็คิดอยากอยู่กับซิดต่อ ทว่าเขายังคงมีสิ่งอื่นที่ต้องทำในกิรัน กระทั่งว่าขายของส่วนใหญ่ไปแล้ว มันยังมีไอเทมเหลือภายในท้องของเจ้างูน้อยอยู่อีกสามหรือสี่อย่าง พวกมันเป็นไอเทมที่เขาไม่อาจขายที่ร้านได้ เพราะพวกมันยังไม่ได้ผ่านการวินิจฉัย

‘หึหึหึ เมื่อกี้เขาบอกว่าจะอยู่ในกิรันอีกสักพักสินะ? งั้นเราก็ไปตรวจสอบไอเทมพวกนี้แล้วให้ซิดช่วยขายให้ก็แล้วกัน จะอย่างไรแล้วซิดก็ย่อมได้ค่าประสบการณ์จากการขาย นี่เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่เข้าทางทั้งสองฝ่าย พอรู้จักพ่อค้าแล้วหลายอย่างก็ดูราบลื่นไปหมดเลย’

ไม่ว่าเขาจะชอบมันหรือไม่ แต่ในเมื่อรู้จักซิดแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องใช้งานให้เต็มที่!

ภายในกระเป๋าของเขา เหรียญทองทั้ง 650 เหรียญกำลังสั่นกรุ๊งกริ๊ง ต้องขอบคุณเรื่องนี้จึงทำให้อาร์คที่กำลังมุ่งหน้าไปยังร้านประเมินราคา ทุกก้าวเดินของเขาจึงเปรียบดั่งการเดินอยู่ในอากาศก็ไม่ปาน

* * *

 

“เมื่อกี้บอกว่าเท่าไหร่นะครับ?”

“ทั้งหมด หนึ่งแสนแปดหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยวอน” พนักงานพูดออกด้วยน้ำเสียงที่แทบถ่มน้ำลายเข้าใส่ เป็นเสียงที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

เขาต้องถอนหายใจออก ซื้อข้าวสารสี่กิโลกรัม ผักอีกนิดหน่อย แปรงสีฟัน กับยาสีฟัน ทั้งหมดแล้วมันราคากว่าหนึ่งแสนแปดหมื่นวอน

ดูเหมือนราคาของจะขึ้นอีกแล้ว ในช่วงหนึ่งปีมานี้ค่าจ้างแรงงานแทบโดนแช่แข็ง ทำให้เศรษฐกิจของผู้คนต่างเริ่มย่ำแย่ลง ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าแก๊สก็เพิ่มขึ้น

ตอนนี้ก็ผ่านมาสิบปีแล้วตั้งแต่ที่มีการปฏิรูปสาธารณูปโภค พูดว่าจะเพิ่มคุณภาพขึ้นก็จริง แต่สุดท้ายแล้วค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ผลที่ออกมา กระทั่งว่าเขามีหลอดไฟเพียงดวงเดียวภายในห้องที่แคบของตนและเปิดเฉพาะตอนมืด ฮยอนอูยังต้องมือสั่นเทิ้มขณะที่ถือบิลค่าสาธารณูปโภคมูลค่าถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นวอนในแทบทุกเดือน

อีกทั้งแม่ของเขายังต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้ต้องจ่ายบิลค่ารักษาพยาบาลมากถึงสามล้านวอนทุกเดือน แน่นอนว่ามันเป็นอีกผลกระทบจากการปฏิรูปประกันสุขภาพที่เกิดขึ้น

ในเมื่อแค่ใช้ชีวิตทั่วไปฮยอนอูก็วุ่นวายแทบแย่แล้ว เขาจึงไม่สนใจเรื่องการทำงานของทางรัฐบาล เมื่อมีกฎเกณฑ์ใหม่ถูกตั้งขึ้น ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนที่ยอมยกมือยอมรับราวกับฝูงผึ้งถูกสั่งงาน ทว่า หลังจากที่โดนผลกระทบเข้ากับตัวเองเขาจึงเริ่มเปลี่ยนความคิด

‘แย่จริง นี่สินะที่พวกผู้ใหญ่ถึงชอบพูดเรื่องนโยบายเวลารวมกลุ่มกัน’

อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจใช้ชีวิตโดยไม่กินไม่ดื่มได้เพียงเพราะว่าเงินหายาก

‘อิจฉาอาร์คชะมัดที่มีทักษะทำอาหารเพื่ออยู่รอด’

ทว่า กระทั่งว่าฮยอนอูใช้ทักษะทำอาหารเพื่ออยู่รอดได้ มันคงไม่ต่างอะไรกันมากนัก ในเมืองไม่อาจหาหญ้าหรือวัตถุดิบที่จะใช้งานได้

ท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะรักมันยิ่งชีพ เขาก็ต้องยอมส่งมอบธนบัตรที่มีให้กับพนักงานคิดเงิน

ระหว่างที่เดินกลับบ้านพร้อมถุงใส่ของมาเต็ม ภายในใจของฮยอนอูกลับกำลังวุ่นเรื่องคิดเงิน

การฟื้นฟูสมมรถภาพของแม่เขาก็จะเริ่มเดือนนี้เช่นกัน มันต้องใช้จ่ายเงินมากถึงสี่ล้านห้าแสนวอน ยิ่งไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายจิปาถะยังมีอีกถึงสี่แสนห้าหมื่นวอน ทั้งค่าเช่าห้องและค่าอาหารรวมแล้วก็ตกห้าแสนวอน ค่ากู้หนี้ยืมสินที่ต้องจ่ายอีกหนึ่งล้านวอน พอรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วมันก็เป็นเงินมากถึงหกล้านห้าแสนวอนต่อเดือนเลยทีเดียว

ด้วยเงินเจ็ดล้านวอนที่เขาได้มาจากการขายไอเทมเมื่อครั้งก่อน รวมถึงอีกสามล้านวอนจากทางโกลบอลเอ็กซอร์ทสองเดือน เขาจึงพออดทนฟันฝ่ามันไปได้อีกสองเดือน ทว่า ตอนนี้พอคิดแล้วมันกลับเหลือเพียงแค่หนึ่งเดือนครึ่ง นับได้ว่าเป็นเรื่องอันตรายเลยทีเดียวหากเขาไม่ตัดสินใจเข้าไปเล่นเกม

‘ยังพอไหว ค่ารักษาพยาบาลของแม่เราไม่อาจตระหนี่ได้’

หลังจากชีวิตกลับกลายเป็นยากลำบาก สิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฮยอนอูตระหนักได้ถึงคือชีวิตไม่ง่าย ทุกสิ่งอย่างก่อนหน้านี้เป็นฮยอนอูใช้ชีวิตได้โดยสะดวกสบายจนกระทั่งถึงช่วงอายุสิบเจ็ดปี ผลลัพธ์จากการที่บิดาของเขาอาบเหงื่อต่างน้ำรวมถึงที่มารดาเก็บออมซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาจึงทำให้ฮยอนอูใช้จ่ายราวกับทุกสิ่งในโลกล้วนได้มาฟรี เรื่องนี้เขาต้องขอบคุณอย่างแท้จริง

ทว่าหลังจากนั้น ในตอนนี้กระเป๋าของเขาแทบจะว่างเปล่าแล้ว

ตั้งแต่ที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น มันก็จำเป็นต้องใช้จำนวนเงินที่มากขึ้นโดยทันที เขาต้องจ่ายหนี้ที่ยืมมาช่วงใกล้วันครบกำหนดมาโดยตลอด พอมาคิดดูแล้ว ฮยอนอูจึงต้องส่ายศีรษะ

‘ยังไม่ต้องกังวล เรายังมีเหลืออีกสองล้านวอน และถ้ายังไม่มีทางอื่นอีกล่ะก็...’

ฮยอนอูยังคงมีเงินก้อนสุดท้าย มันคือเหรียญทอง 650 เหรียญที่เขาเก็บเอาไว้ในกระเป๋ายิ่งชีพ!

มันคือสิ่งพึ่งพายามฉุกเฉินที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเงินให้เขาได้ถึงหกล้านห้าแสนวอนเมื่อใดก็ได้ ขณะที่เงินตราจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เหรียญทองก็จำเป็นสำหรับในเกมเฉกเช่นเดียวกัน อย่างน้อยที่สุดเผื่อกรณีไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ เขาไม่คิดแตะต้องเงินก้อนนี้

‘เรายังพอมีเวลา อุปกรณ์สวมใส่ของเราก็แทบจะลงตัวแล้ว เราก็แค่ลงไอเทมอะไรที่ดูคุ้มค่าในตลาดประมูล ในเมื่อเลเวลของเราเพิ่มขึ้น มันก็มีโอกาสอีกมากที่จะทำเงินได้มากขึ้น’

เมื่อฮยอนอูกลับถึงบ้านจึงทำความสะอาดก่อน จากนั้นจึงเข้าไปยังเว็บไซต์ประมูลสินค้า

 

=====

การประมูลเสร็จสิ้น เคียวยมทูต : 600,000 วอน

การประมูลเสร็จสิ้น ดาบคมประกาย : 350,000 วอน

การประมูลเสร็จสิ้น ค้อนทำลายล้างอันเหี้ยมโหด : 800,000 วอน

การประมูลเสร็จสิ้น แยกวิญญาณ : 700,000 วอน

=====

 

‘ตอนนี้ก็ได้มาอีกสองล้านสี่แสนวอนแล้ว’

อุปกรณ์สวมใส่ของลีโอกับฮาร์เก้นขายได้ค่อนข้างราคาดีเกินคาด ในเมื่อเขาสามารถได้รับเงินจำนวนนี้มาจากสิ่งที่ฉกฉวยเอามา เขาจึงเริ่มเข้าใจแล้วว่า เหตุใดผู้เล่นถึงเลือกเส้นทางการลงมือสังหารผู้เล่นด้วยกันทั้งที่มีบทลงโทษอันหนักหนา

‘แต่เงินจากการลงมือสังหารผู้เล่นก็ยังมีจำกัด และถ้าหากไปสร้างศัตรูขึ้นมา บางทีอาจทำให้ถึงขั้นไม่สามารถเล่นเกมได้อีก สำหรับแผนระยะยาวแล้วไม่นับว่าดี เราต้องทำเงินต่อไปด้วยวิธีการของตัวเอง’

ฮยอนอูเข้าไปในเครื่องเล่นและเชื่อมต่อกับนิวเวิร์ลด์อีกครั้ง

* * *

 

“เมื่อกี้ว่าราคาเท่าไหร่นะครับ?” อาร์คทวนประโยคดังเช่นที่ฮยอนอูเพิ่งเคยพูดไป

“ยกเลิกการป้องกันระดับต่ำเป็นเงิน 5 เหรียญทอง ระดับกลาง 10 เหรียญทอง และระดับสูง 15 เหรียญทอง และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพิสูจน์ไอเทมที่มีการป้องกันสุดยอด ดังนั้นแล้วโปรดใช้บริการร้านประเมินราคาไอเทมที่อาณาจักรบริสทาเนีย เมืองแห่งเวทมนตร์ฮาชุ่ย”

หลังแยกจากซิดแล้ว อาร์คจึงมุ่งตรงมายังร้านประเมินราคาโดยทันที เป็นเพราะในบรรดาไอเทมที่เขาได้รับมาจากใต้ทะเล มีจำนวนหนึ่งในพวกมันที่ยังไม่อาจยืนยันพิสูจน์สภาพอะไรได้ ในเมื่อเขาไม่อาจขายมันทั้งที่เป็นเช่นนี้ เขาจึงต้องยืนยันสถานะของพวกมันเสียก่อน แต่พอได้ยินราคาแล้วมันก็แทบทำเอากรามของเขาค้างเติ่ง

“ทะ-ทำไมถึงแพงขนาดนี้กัน?”

“พวกเราเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามประกาศแจ้งของสมาคมเวทมนตร์ หากเจ้าพบว่าไม่เหมาะสมอย่างไรแล้วสามารถออกไปได้” เอ็นพีซีผู้ประเมินราคานาม โดลโทรัน เผยสีหน้าไม่ยินดีนักขณะกล่าวน้ำเสียงโผงผาง

อาร์คถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ทักษะการวินิจฉัยไอเทมนั้นจะมีขึ้นก็ต่อเมื่อพิจารณาไอเทมอย่างใกล้ชิดหลายครั้ง หรือก็เป็นนักเวทไม่ก็ผู้ผลิต ดังนั้นแล้วจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับมันมา

ทว่ากิรันที่เป็นเมืองแห่งการค้า มันมีทั้งผู้เล่นที่เป็นพ่อค้าและผู้ผลิตจำนวนมากมารวมตัวกัน มันก็เป็นไปได้ว่าในหมู่คนพวกนี้จะมีทักษะวินิจฉัย ถ้าหากเขาสามารถพบและร้องขอได้ เขาก็สมควรที่จะให้พวกเขาวินิจฉัยได้ในราคาที่ถูกกว่า 1-2 เหรียญทอง

ทว่า เขาไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น เพราะเขาไม่ต้องการไปข้องเกี่ยวกับผู้เล่นอื่น อีกทั้งถ้าหากไอเทมเหล่านี้เป็นของดีขึ้นมา เขาคงไม่อาจยืนยันความปลอดภัยของตนเองได้ กระทั่งว่าถ้าหากโชคดีจนได้ไอเทมหายากออกมา ข้อมูลนี้อาจรั่วไหลไปถึงหูผู้เล่นฆาตกรได้

‘แม้ว่าการจับพวกมันนำไปขึ้นเงินรางวัลหรือไอเทมจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็เถอะ...’

มันก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถชนะเพราะโชคช่วยได้ตลอด อีกทั้ง กิรันยังเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าผู้เล่นเลเวลสูงจากทั่วสารทิศและหลากหลายอาชีพ

หากต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นสองหรือสามคนปิดล้อมด้วยเลเวลทัดเทียมกับลีโอหรือฮาร์เก้น เขาคงไม่อาจรับมือได้ไหว ตอนนี้เขายังได้รู้อีกว่ามันมีม้วนคัมภีร์ ‘ปล้น’ คงอยู่ เขาจึงต้องระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น

‘เราคงไม่ไปขอให้ผู้เล่นวินิจฉัยให้โดยที่ต้องแบกรับอันตรายเพราะประหยัดเงินแค่ 1-2 เหรียญทอง’ ด้วยความเชื่อใจที่มีมากกว่า การเข้าหาเอ็นพีซีเจ้าของร้านประเมินราคาย่อมดีกว่าแน่นอน ‘ช่วยไม่ได้นี่นะ’

“งั้นอันแรกเอาเป็นอันนี้ครับ”

อาร์คน้ำตาร่วงขณะส่งมอบค่าธรรมเนียมออกไปเพื่อขอให้วินิจฉัยไอเทมระดับต่ำ ในบรรดาอาวุธที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย เจ้าสิ่งนี้นับได้ว่าดูค่างวดต่ำที่สุดแล้ว

“รอสักครู่”

โดลโทรันตรวจสอบไอเทมด้วยการพิจารณา ไม่ช้าการวินิจฉัยก็สำเร็จ

 

=====

กริชเขี้ยวมนุษย์ฉลาม

ประเภท : กริช

พลังโจมตี : 4~6

ความทนทาน : 10

น้ำหนัก : 5

ข้อจำกัดใช้งาน : ไม่มี

กริชที่สร้างขึ้นจากเขี้ยวอันแหลมคมของมนุษย์ฉลาม ชาวเงือกมักใช้มันเพื่อรวบรวมไข่มุก น้ำทะเลไม่อาจทำให้มันขึ้นสนิม ทว่ามันง่ายที่จะแตกหักและไม่อาจซ่อมแซมได้

มูลค่า : 15-20 เหรียญเงิน

=====

 

การประเมินมูลค่าเป็นบริการเสริมในร้านประเมินราคาไอเทม ต้องขอบคุณระบบที่ให้บริการนี้จึงทำเอาอาร์คตกตะลึงไปโดยทันที

“20 เหรียญเงิน? บะ-บ้าอะไรกัน? นี่ยังไม่ได้คืนค่าธรรมเนียมวินิจฉัยเลยด้วยซ้ำ”

“ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ การประเมินราคาไอเทมไม่อาจยืนยันได้อยู่แล้วว่าจะได้รับสิ่งดีหรือแย่”

“นี่มันไร้ความรับผิดชอบ...!”

“ข้าเพียงแค่ทำตามสิ่งที่ได้รับการว่าจ้างและวินิจฉัยมัน ผลลัพธ์ย่อมไม่ใช่ความรับผิดชอบของข้า หรือไม่จริง?” โดลโทรันตอบกลับอย่างไม่แยแสสิ่งใด

ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ต่างอะไรไปกับการโยนเหรียญทอง 4 เหรียญ กับเหรียญเงินอีก 80 เหรียญทิ้งไปบนถนนเลยทีเดียว

นี่นับเป็นข้อเสียงอันยิ่งใหญ่ของไอเทมที่ยังไม่ผ่านการวินิจฉัย มันสามารถทำกำไรได้มหาศาลถ้าหากไอเทมที่ออกมาเป็นสิ่งของชั้นยอด แต่นี่กลับได้ขยะออกมา นั่นก็หมายถึงเสียค่าวินิจฉัยไปโดยเปล่าประโยชน์

‘เราต้องเป็นบ้าแน่ จะทำยังไงดี?’

ตอนที่ได้รับพวกมันมาจิตใจของเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง แต่แล้วตอนนี้หลังผ่านขั้นตอนการวินิจฉัยไป เขาจึงเริ่มเกิดความระมัดระวังตัวขึ้นมา กับไอเทมที่เหลืออยู่ สองชิ้นมีการป้องกันระดับต่ำ และอีกชิ้นเป็นระดับกลาง รวมแล้วเป็น 20 เหรียญทอง! ถ้าหากพวกมันทั้งหมดกลับกลายเป็นขยะ งั้น 20 เหรียญทองก็สลายกลายเป็นควันแล้ว

กระนั้น เขาก็ไม่อาจขว้างโยนพวกมันทิ้งไปได้ ไอเทมที่ยังไม่ผ่านการวินิจฉัยมีอัตราการดร็อปต่ำเทียบเท่าไอเทมวิเศษ มันหมายความว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นไอเทมชั้นดีทัดเทียบกับระดับวิเศษ

หากจะโยนมันทิ้งก็เสียเปล่า แต่การจะวินิจฉัยมันยิ่งทำเอาเขาหวาดกลัวยิ่งกว่า

‘เป็นสถานการณ์ยากตัดสินใจจริง’

อาร์คกำลังกังวลว่าควรใช้จ่าย 20 เหรียญทองทั้งที่มีอยู่ 650 เหรียญทองดีหรือไม่ ขณะที่อาร์คคิดสับสนไปมาอยู่นั้น โดลโทรันจึงพึมพำออกมาด้วยความโมโห “ไปครุ่นคิดข้างนอกได้หรือไม่? นี่เจ้าขวางทางลูกค้าคนอื่นอยู่นะ”

“อา ไม่ เรื่องนี้...”

“โธ่! แค่ไปขายในการประมูลก็จบแล้ว!”

“ประมูล? แต่นี่เป็นของยังไม่ได้วินิจฉัย มันไม่อาจนำเข้าประมูลได้”

เมื่อได้ยินสิ่งที่อาร์คตอบกลับ โดลโทรันจึงจ้องมองมาด้วยดวงตาแทงทะลุ “นี่เจ้าจะทำข้าเป็นบ้า ข้ายุ่งแทบตายอยู่แล้ว ดูโน่น ลูกค้า! ที่กิรันนี่ไม่ได้มีการประมูลแค่ที่เดียว ยังมีงานประมูลอื่นอีก มีหลายสิ่งอย่างที่สามารถทำได้ หนึ่งในนั้นยังมีสถานที่ที่เรียกว่าประมูลมืดบอด ชื่อมันเป็นแบบนี้ก็เพราะไม่รู้ว่าไอเทมที่พวกเขาประมูลมาจะเป็นอะไร เพราะงั้นข้าจึงบอกให้เจ้าเอามันไปเข้างานประมูลไอเทมที่ยังผ่านการวินิจฉัย”

“ไอเทมที่ยังไม่วินิจฉัย?”

“มันเป็นสถานที่สำหรับคนอย่างเจ้า ที่ไม่อาจจ่ายค่าธรรมเนียมหรือตระหนี่ถี่เหนียวกับไอเทมที่ยังไม่วินิจฉัย ในเมื่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อไม่รู้ว่ามันคืออะไร งั้นพวกเขาก็ต้องลองเสี่ยงเดิมพันไปกับโชค ข้าคิดว่ามันก็เท่าเทียมดี ถ้าหากเจ้าชอบก็ลองไปดู เอ้า ลูกค้าคนต่อไป!” โดลโทรันตะโกนขณะผลักดันอาร์คออกมา

อาร์คเปิดกระเป๋าของตนขณะจ้องมองไอเทมที่ยังไม่ผ่านการวินิจฉัย พวกมันเป็นไอเทมที่รูปร่างคล้ายหอย อีกทั้งยังเป็นไอเทมที่มีกลิ่นคาวแรงจนไม่น่าจะมีค่างวดอะไรถ้าหากเขาจ่ายค่าวินิจฉัยพวกมันไป

‘อืม จะโยนมันทิ้งก็ไม่ดี งั้นลองไปดูงานประมูลมืดบอดแล้วกัน หวังว่าจะได้สักหลายเหรียญเงินแหละนะ’

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด