ตอนที่แล้วบทที่ 35: กอบโกยสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 37: หวนคืนสู่นิกาย

บทที่ 36: คืนสู่เหย้า


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

====================

บทที่ 36: คืนสู่เหย้า

“ข้าไม่รู้!” เจ้าอ้วนไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร จึงได้แต่ตอบกลับด้วยความหงุดหงิด “เมื่อก่อนข้าเพียงแค่อวบมิได้อ่อนแอ และมันก็ไม่ค่อยพอดีกับเสื้อผ้าเหล่านี้ ในตอนนี้ข้าได้ฝึกตนแล้วขนาดร่างกายของข้าก็ยังคงใหญ่ขึ้น ในเวลาสามปีที่ผ่านข้ามิได้เติบโตขึ้นเพียงแค่ครึ่งฟุต เอวของข้ามันเพิ่มขึ้นถึงสองนิ้ว อีกทั้งร่างกายของข้ายังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง!”

เมื่อเขากล่าวจบ เขายกกำปั้นขึ้นมาทุบพื้นดินทำให้เกิดหลุมฝังศพลึกหนึ่งฟุตปรากฏขึ้น ก่อนอื่นเลยนี่คือหินภูเขา! เขาทำลายมันด้วยการทุบแบบธรรมดานั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้าอ้วนแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

“ว้าว วิธีฝึกฝนของเจ้าไม่เหมือนผู้ใดเลย เจ้ามีเวทมนตร์สายฟ้าพร้อมกับร่างกายที่แข็งแรงทิศทางช่างขัดแข้งกับกฏแห่งสวรรค์โดยแท้!” หานหลิงเฟิงกล่าวด้วยความตกใจ

“ข้านึกว่าวิชาที่แข็งแกร่งจะมีเพียงแต่ในสำนักเสวียนเทียน?” เจ้าลิงกล่าวอย่างอิจฉา

“แต่เจ้าสิ่งนี้มันอาจจะทำให้ร่างกายของข้าขยายใหญ่ขึ้น และยิ่งเมื่อสวมใส่ชุดลัทธิเต๋าทำให้ข้ากลายเป็นก้อนไขมันขนาดใหญ่เดินได้ เจ้าสิ่งนี้ทำให้ข้าหงุดหงิดใจเสมอ!” เจ้าอ้วนตอบอย่างขุ่นเคืองใจ

“อย่าแสดงสิ่งนี้ออกไปให้ผู้อื่นได้รับรู้ว่าเจ้ามีของดีถึงเพียงนี้!” หานหลิงเฟิงกรอกตาไปมาขณะมองที่เจ้าอ้วน พร้อมกล่าวต่อ “ทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไรแล้วกัน ให้ดูเพียงว่าเจ้าอ้วนขึ้นเล็กน้อย”

“อา มีผู้คนจำนวนมากต้องการ แต่พวกเขาไม่อาจได้พลังอำนาจเช่นนี้!” เจ้าลิงกล่าวเสริม

“ได้ เลิกพูดถึงเรื่องนี้เถิด!” เจ้าอ้วนรีบเปลี่ยนประเด็นทันทีก่อนที่ทั้งสองคนจะพ่นไฟออกมามากกว่านี้ “ดูนี่สิ น้ำในบ่อสมบัติที่สามารถฟื้นฟูปราณจิตวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเจ้านี่เราจะสามารถกลับออกไปได้อย่างง่ายดาย!”

“ก่อนอื่นเราควรออกค้นหาโดยรอบก่อนไหมว่าเราพลาดสมบัติใดหรือไม่?” หานหลิงเฟิงถาม

“ลองค้นหาเพิ่มเติม เราไม่ได้รีบร้อนมากนัก อีกทั้งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาพบเจอสถานที่เช่นนี้ ในอนาคตเราอาจจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกครั้ง!” เจ้าอ้วนกล่าว

“เห็นควรด้วย!” ทั้งสองคนพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็เริ่มการสำรวจอีกครั้ง ขณะนี้หานหลิงเฟิงรู้สึกแปลกราวกับนางกำลังพลาดบางสิ่งบางอย่างไป ในตอนนั้นที่นางถามว่าเหตุใดเจ้าอ้วนจึงหายตัวไปในคราแรก แล้วนางก็ลืมเรื่องนั้นไปเมื่อเจ้าอ้วนเข้ามาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เห็นได้ชัดว่าเจ้าอ้วนจงใจให้เป็นเช่นนั้นแล้วนางก็หลงกลเขาจนได้

เมื่อคิดเช่นนั้นนางไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ นางคิดเสมอว่าเจ้าอ้วนนั้นเป็นคนโชคดีและโง่งมเหลือเกิน แต่วิธีการที่เขาทำกลับกลายเป็นนางต่างหากที่โง่งม เขาทำให้เกิดความคลุมเครือขึ้นภายในใจของนาง และนั่นไม่ใช่วิธีการของคนโง่ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังทำตัวเป็นหมูกินเสือ!

แม้ว่าหานหลิงเฟิงจะนึกขึ้นมาได้ แต่การกระทำของเจ้าอ้วนทำให้นางเห็นว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยความลับนี้ของตน ดังนั้นการถามต่อไปคงไม่เป็นการดีกับตัวนางเอง เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เพียงแค่คิดว่าทุกคนต้องมีความลับเป็นของตนเอง ซึ่งความลับเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการฝึกตนหรือสมบัติต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับคู่ฝึกฝน นี่คือสิ่งที่ผู้ฝึกตนทุกคนทราบดี ขณะที่หานหลิงเฟิงก็มีไม้ตายของตนเองเช่นกันและเจ้าอ้วนก็ไม่รู้จักมัน ดังนั้นนางจึงเข้าอกเข้าใจเจ้าอ้วนเป็นอย่างดีและไม่คิดจะนำให้เรื่องเช่นนี้มาทำให้บาดหมางกัน

เจ็ดวันต่อมา ทั้งสามสำรวจถ้ำทุกซอกทุกมุม นอกเหนือจากที่เป็นเหมืองหินจิตวิญญาณขนาดใหญ่ พวกเขาไม่พบดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้าอีก แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะไม่พบเจอสมบัติอย่างง่ายดาย มันคงไม่ใช่ว่ามีอยู่ดาษดื่นทั่วไปหรอกหรือไม่ใช่? หากเป็นเช่นนั้นมันคงไม่มีค่าและผู้ฝึกตนทั้งหลายคงไม่สนใจมัน หลังจากไม่ได้รับสิ่งใดเพิ่มเติม พวกเขาทั้งหมดก็วางแผนกันเพื่อกลับไปยังนิกาย

แต่ก่อนที่พวกเขาจะกลับ เจ้าอ้วนพูดกับทั้งสองคนว่า “พวกเจ้าคิดว่าเราควรจะทำเช่นไรกับเหมืองหินจิตวิญญาณทั้งห้านี้?”

“เจ้ายังจะถามอีกหรือ? แน่นอนว่าเราจะเก็บมันไว้เอง! เมื่อเราต้องการหินจิตวิญญาณเราสามารถมาขุดมันได้เสมอ!” เจ้าลิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“อา ถูกของเจ้า ข้าว่าพวกเราควรเก็บความลับนี้ไว้เพื่อตัวเราเอง!” หานหลิงเฟิงกล่าวเสริมอย่างเห็นด้วย

“เจ้าทั้งสองคิดเห็นเช่นนั้นหรือ?” เจ้าอ้วนลูบหัวของตนเองพร้อมกับหัวเราะอย่างขื่นขม “พวกเราทั้งหมดต่างรังเกียจเจ้าอีกาบนเทือกเขาโลหิต ช่างบังเอิญที่รอบนี้เราสามารถหนีได้แต่พวกเจ้ายังคิดที่จะกลับมาขุดหินจิตวิญญาณอีกงั้นหรือ? หรือพวกเจ้าคิดว่าเจ้าอีกานั่นจะปล่อยพวกเราไปโดยง่าย?”

“อา” หลังจากได้ยินที่เจ้าอ้วนกล่าวทั้งหานหลิงเฟิงและเจ้าลิงรู้สึกน้ำตาไหลขึ้นมา พวกเขานึกได้ทันทีว่ากำลังยืนอยู่ในเขตแดนต้องห้าม

แต่ถึงอย่างนั้นหานหลิงเฟิงก็กล่าวออกมาทันที “ในเมื่อเจ้าสามารถพาเราออกไปได้ เหตุใดจึงพาเรากลับมาไม่ได้?”

“อา ใช่ ต้องถูก ตราบใดที่พี่น้องอ้วนช่วยเหลือ ทุกอย่างก็จะราบลื่น!” เจ้าลิงกล่าวอย่างรวดเร็ว

“เพื่อที่จะพาพวกเจ้าออกไป ข้าต้องใช้น้ำบริสุทธิ์จากบ่อนั้นมากมาย พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าองค์ประกอบของธาตุทั้งห้านั้นสำคัญแค่ไหน? มันคือส่วนประกอบในการปรับแต่งยาอายุวัฒนะระดับสูง และปริมาณของมันไม่เพียงพอต่อการใช้งาน โดยปกตินิกายใหญ่จะใช้หินจิตวิญญาณจำนวนมหาศาลและอุปกรณ์วิญญาณที่ล้ำค่าเพื่อปรับแต่งน้ำบริสุทธิ์นี้ จริงอยู่ที่องค์ประกอบธาตุทั้งห้าไม่ได้เป็นสิ่งของระดับสูง แต่ว่ามันกลับมีราคาแพงมาก ทุกหยดของมันต้องจ่ายด้วยหินจิตวิญญาณนับพันก้อน ในครานี้ที่เรากำลังจะหนีไปข้าก็ต้องดื่มมัน มูลค่าของมันคือหินจิตวิญญาณหนึ่งแสนก้อน!” เจ้าอ้วนหัวเราะอย่างขมขื่นพร้อมกล่าวต่อ “พวกเจ้าจะใช้จ่ายหินจิตวิญญาณนับแสนก้อนเพื่อมาขุดหินจิตวิญญาณเพียงหมื่น?”

“เรื่องนั้น” หานหลิงเฟิงและเจ้าลิงไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ

“ข้ากำลังจะบอกว่า เจ้าเหมืองนี้มันไม่ค่อยมีประโยชน์กับเรานัก!” เจ้าอ้วนกล่าวเสริม “บ่อน้ำของเราที่ประกอบไปด้วยธาตุทั้งห้านั้นเป็นของพวกเราทั้งสามคน และสิ่งของที่พวกเจ้าเก็บไปนั่นนับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย ถ้าเจ้าเอามันออกไปขายคงจะมีเงินใช้ไปอีกสองถึงสามทศวรรษ เหตุใดจึงต้องมาที่แห่งนี้เพื่อขุดมันอีกเล่า? อย่าบอกข้านะว่าพวกเจ้าหลงรักการขุดเหมืองนี่เสียแล้ว?”

“ผู้ใดจะชื่นชอบการขุดเหมืองกัน?” หานหลิงเฟิงตอบอย่างรวดเร็ว “ถ้าหากเราไม่ขุดมัน เราจะโยนเหมืองใหญ่เช่นนี้ทิ้งไปงั้นหรือ? ถ้าหากเราขุดมันทั้งหมดมันอาจจะมีมูลค่านับล้านก็ได้!”

“อา ลาภก้อนใหญ่เราจะโยนมันทิ้งไปจริง?” เจ้าลิงกล่าวอย่างตระหนี่

“แน่นอนว่าไม่ดีหากจะโยนมันทิ้งไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่เราจะขุดมันออกไป อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเปิดกว้างให้กับทุกคนและกว้างใหญ่ยิ่งนัก อาจจะมีบางครั้งที่มีผู้คนผ่านมายังที่แห่งนี้ แล้วเราจะสามารถรักษามันไว้ได้งั้นหรือ? เหมืองแห่งนี้ขนาดใหญ่มาก เพียงแค่เราสามคนไม่มีสำนักไหนมาสนับสนุน เราก็ไม่สามารถขุดมันได้มีแต่จะตายตกไปเพราะความเหนื่อยล้า!” เจ้าอ้วนกล่าว

“แล้วเจ้าคิดว่าเราควรทำเช่นไร?” หานหลิงเฟิงถาม

“ถ้าหากจะพูดเรื่องนี้ก็คงคล้ายกับมอบเมล็ดพันธุ์นี้ให้แก่นิกาย!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างร่าเริง “ถึงแม้ว่าศิษย์ชั้นล่างของนิกายจะไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่ว่าศิษย์ระดับสูงนั้นจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตน เพราะทุกอย่างจะกระทำอย่างชอบธรรม! ด้วยการบริจาคครั้งยิ่งใหญ่นี้พวกเราทั้งหมดจะได้เข้าเป็นศิษย์ใน สำหรับพวกเจ้าทั้งสองจะต้องได้รับความสนใจอย่างแน่นอน! และเมื่อเราเข้าสู่การเป็นศิษย์ในก็ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องกลัวผู้อื่นมาข่มเหงอีกต่อไป!”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด